3747. สิงโตหินเเหกคุกตามล้างเเค้นผู้คุมไสวพรรคพวกขาใหญ่ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
สิงโตหินเเหกคุกตามล้างเเค้นผู้คุมไสวพรรคพวกขาใหญ่ (ตอนใหม่) อาจารย์ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องามหรือผู้มีฉายาว่าสิงโตหินเคยเล่าถึงสมัยที่ท่านได้เข้าไปอาศัยในคุกนรกบางขวางครั้งแรกนั้นท่านได้พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด แต่กลับถูกพวกนักโทษขาใหญ่หาทางจะเอาไปเป็นลูกน้อง (ในคุกในอดีตพวกขาใหญ่เเบ่งกันออกเป็น4ภาคโดยขาใหญ่เเต่ละภาคจะต้องการเพิ่มจำนวนลูกน้องให้มากขึ้นเพื่อจะได้มีอำนาจเหนือกว่าขาใหญ่ภาคอื่น)เมื่ออาจารย์ไพฑูรย์ของเราถูกทาบทามให้ไปเป็นลูกน้องท่านจึงไม่ยอมเอาด้วยจึงต้องป้องกันตัวเอง แต่กลับถูกพวกผู้คุมนักโทษที่เป็นสุนัขเลี้ยงพวกของนักโทษขาใหญ่นำไปซ้อมถึงสองสลบ เมื่ออาจารย์ตัดสินใจแหกคุกในครั้งแรกนั้นเมื่อหนีออกไปได้ท่านจึงหลบหนีไปกบดานเพื่อรอให้เรื่องเงียบประมาณสามเดือนจึงได้หวนกลับมาเอาคืนกับผู้คุมนักโทษที่ซ้อมท่านจนสลบไปถึงสองครั้ง ดังที่แอดมินได้กล่าวไว้ในตอนก่อนๆในหลักของซิกมุนด์ฟลอยด์เรื่องเกี่ยวกับสภาพจิตที่เรียกว่าบุคคลผู้มีสองบุคลิกพวกนักอาชญาวิทยาได้นำไปใช้ในการวิเคราะห์สภาพจิตของฆาตกรต่อเนื่องหรือพวกฆาตกรที่มีจิตวิตถารทั้งหลายโดยใช้คำจำกัดความว่า ‘’มันเป็นสิ่งที่ธรรมชาติได้สร้างไว้เพื่อให้มีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่าบุคคลสองบุคลิก อันได้แก่คนบางจำพวกที่มีทั้งจิตใจที่ดีและจิตใจที่โหดร้ายอาศัยอยู่รวมกันเป็นคนๆเดียวคล้ายกับรูปหยินหยางของพวกนักปราชญ์จีนที่มีความหมายคล้ายกันว่าคนๆเดียวมีจิตใจที่อ่อนโยนมีเมตตาชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ในตัวแต่ในขณะเดียวกันก็มีจิตใจที่โหดเหี้ยมซ้อนอยู่อีกครึ่งหนึ่งในขณะที่ดวงจิตที่มีความเมตตาไปถูกกระทบด้วยโทสะทำให้เกิดความไม่พอใจหากเผลอไปเปิดปุ่มดวงจิตที่สองเข้าก็จะทำให้กลายเป็นคนที่บุคลิกที่มีความเหี้ยมโหดลงมือฆ่าผู้อื่นได้อย่างไม่กระพริบตา’’ โดยจะขอยกตัวอย่างในประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ผู้นำเผด็จการที่รู้จักกันไปทั่วโลกฮิเลอร์เป็นผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ถือมังวิรัติซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีจิตที่มีความเมตตาต่อพวกสัตว์ที่ถูกนำเอามาทำเป็นอาหารแต่ในขณะเดียวกันก็กลับเป็นเผด็จการผู้สั่งสังหารหมู่ทำลายชีวิตชาวยิวไปกว่า 2,000,000 คนในค่ายอพยพ เพื่อประเทศชาติได้ ตอนสุดท้ายขณะที่กรุงเบอร์ลินใกล้แตกที่ปรึกษาได้เสนอให้ฮิตเลอร์ทิ้งกรุงเบอร์ลินไปต่อสู้ในสมรภูมิที่จะมีประชาชนตายน้อยที่สุดเพราะหากขืนต่อสู้เพื่อรักษากรุงเบอร์ลินที่ไร้ซึ่งความหวังนี้หากพวกสัมพันธมิตรได้มาทิ้งระเบิดโจมตีเมืองเเล้วจะสร้างความพินาศให้ชีวิตและทรัพย์สินของชาวเบอร์ลินมากมายเป็นเเน่ ฮิตเลอร์ได้ร้องตะโกนใส่บรรดาที่ปรึกษาว่า ‘’ช่างหัวพวกมันปะไรในเมื่อพวกมันเชื่อถือเคารพในตัวผมที่เป็นผู้นำก็เท่ากับว่าพวกมันยอมรับชะตากรรมของพวกมันเอง’’
Read more