3756. อภินิหารอันพิศดารของหลวงพ่อปาน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อภินิหารอันพิศดารของหลวงพ่อปาน เมืองหลวงของไทยสมัยหนึ่งซึ่งมีอายุยืนนานสี่ร้อยสิบเจ็ดปี มีพระมหากษัตริย์ ๓๓ พระองค์ พระบรมรูป พระปฐมกษัตริย์อันถูกยกย่องว่า เป็นพระเชษฐมิตร ได้ประดิษฐานอยู่กลางเมืองสมกับความปรารถนา และความภาคภูมิใจของชาวกรุงศรีอยุธยากราบไหว้เพื่อบูชาแล้วยังเป็นการสร้างอาถรรพ์ป้องกันอริราช ที่จะมาบุกตีกรุงศรีอยุทธยา อยุธยาธานินทร์ไม่สิ้นคนดี คนมีวิชาชั้นบรมครูมาเกิดเป็นผู้ปราบอริราชทุกยุคทุกสมัยเป็นเมืองที่สมบูรณ์ด้วยทหารที่แกล้วกล้า สมบูรณ์ด้วยพระคาถาและเครื่องรางของขลัง มีพระอาจารย์มาเกิดช่วยเหลือทหารชาวไทยอยู่ทุกยุคทุกสมัย สมัยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ มีพระอาจารย์ที่ขมังพระเวทย์จัดสร้างเครื่องรางของขลังแจกจ่ายกับคนทุกชั้น ตำบลบ้านแพน

Read more

3755. อิทธิฤทธิ์อีเป๋อ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อิทธิฤทธิ์อีเป๋อ ตอนนี้ขอมอบพระคาถาคงกระพันชาตรีป้องกันมีดไม้หอกดาบแหลนหลาวง้าวโตมรที่เคยใช้ได้ผลมาตลอดเป็นคงกระพันชาตรีดีนัก ◎คาถามหาคงกระพันชาตรี◎ ตั้งนโม 3จบ อิติปิโส พันเกษา ภะคะวา พันสรรพอาวุธ พุทโธอุด ธัมโมอุด สังโฆอุด พระพุทธังห้ามสรรพอาวุธ หยุดด้วยพระพุทโธ นะโมพุทธายะ *ก่อนออกจากบ้านให้ร่ายพระเวทนี้ 3จบแล้วเป่าลมใส่ฝ่ามือลูบไปทั่วตัวจากศีรษะถึงปลายเท้าจะเป็นเกราะเพรชเกล็ดนิลป้องกันตัว นนทบุรีเป็นเมืองแห่งทุเรียนพันธ์ดี กบ ชะนี

Read more

3754. อภินิหารพ่อครูพระพิราพ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อภินิหารพ่อครูพระพิราพ สมัยเมื่อเมืองไทยยังไม่มีโรงหนัง มหรสพนับว่าขึ้นหน้าขึ้นตาที่สุดคือ ลิเก ละครชาตรี โขน โขนสด ตกค่ำเสียงตะโพนดัง เสียงเพลงโหมโรงดังกระหื่มลอยมาตามลม มีมนต์ขลังให้ผู้คนที่ได้ยินทนอยู่บ้านไม่ได้ต้องเดินตามเสียงโหมโรง เชื่อกันว่าเป็นเช่นนั้นเพราะพลังอำนาจเเห่ง ”พระประโคนธรรพ์” คนธรรพ์เจ้าแห่งการบรรเลงดนตรี คนธรรพ์ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่เป็นมานพกึ่งเทพ มีถิ่นที่อยู่ในป่าหิมพานต์ สำเริงสำราญอยู่ด้วยเสียงคนตรีและการเสพสุขทางกาม ไม่สำรวมในกาม ชอบลักลอบเป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น หรือพอใจก็ใช้มนตราเป่าให้ฝ่ายหญิงเคลิ้ม

Read more

3753. ว่านพญาพิชัยดาบหัก (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ว่านพญาพิชัยดาบหัก ประวัติเดิมของว่านพระยาพิชัยดาบหัก ว่านทุกชนิดที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเกิดมาเพื่ออนุกูลช่วยเหลือแห่งนักรบไทยไปสู่จุดมุ่งหมายแห่งความมีชัย เป็นเครื่องป้องกันนำหลักชัยมาสู่ประเทศมาตุภูมิแผ่นดินแหลมทองตั้งแต่ครั้งโบราณกาลทั้งนี้เพราะตามบรรดาหลวงปู่ หลวงพ่อและเกจิอาจารย์ต่างๆสำนัก นำพวกพญาว่านต่างๆนำมาทำพิธีปลุกเสก นำมาสร้างเป็นพระเครื่องรางชนิดผงมีชื่อต่างๆกันมาตลอดจนกระทั่งพระกริ่งก็มีว่านที่ผสมแล้วอย่างดี เหล่าปรมาจารย์ผสมเอาไว้ข้างในมีอิทธิฤทธิ์อภินิหารเป็นเครื่องรางของขลังที่เชิดหน้าชูตาเป็นเพชรแท้นำเข้าพิธีปลุกเสก ว่านทุกชนิดใช่ว่าจะพึ่งเกิดเเต่เกิดมานานแล้วชาวบ้านและข้าราชการทั้งหลายตลอดจนทหารพลตำรวจได้เสาะแสวงหากำแพงแก้วกำแพงเพชรป้องกันตัว ทั้งแม่ทัพนายกองมีประจำตัวทุกคน ก่อนจะเข้าศึกสงคราม ทหารเอก โท ตรี ทั้งหลายบ้างก็กินว่าน บ้างก็อาบว่าน บ้างก็มีเครื่องรางของขลัง เข้าสู่สงครามเป็นนับเป็นสิบๆปีจนเกียรติยศกระเดื่องดังไปทั่วทุกประเทศ อาทิเช่น เขมรพม่า

Read more

3752. อิทธิฤทธิ์ว่านดอกบานเย็นขาว (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อิทธิฤทธิ์ว่านดอกบานเย็นขาว มีผู้อ่านหลายท่านเขียนชื่อยาวเป็นหางว่าวมาถึงข้าพเจ้าเพื่อขอสิ่งของเครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันตัว โดยพวกท่านบอกว่ากำลังจะเดินทางไปต่อสู้กับอริราชในไม่ช้านี้ หัวหน้านำในจดหมายมี พ.ต.สาโรช เก่งระดมยิง ร.ต.เสกสรร สุทธิวงศ์ ส.อ.เพี้ยน คงคารัตน์ ส.อ.ประสงค์ ชัยนาม พลทหารหิรัญ แสงอาทิตย์ พลทหารบุญเกิด มงคลสิน ล้วนแต่เป็นทหารของชาติ อยากจะรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ของว่านดอกบานเย็นขาว โดยท่านที่กล่าวนามมาได้เห็นทหารอยู่ในกรมเดียวกันกับท่านใช้อยู่ประจำ ท่านไปถามก็ไม่ได้รับความรู้เพราะเขาหวงวิชา

Read more

3751. อภินิหารญาณ 16 (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อภินิหารญาณ 16 ผู้สำเร็จวิชาไสยศาสตร์ ผู้สำเร็จจากวิชาจะเป็นทางคุณพระโดยใช้ภาษามคธนำเป็นคำธรรมของพระบรมศาสดา ใช้ภาษามคธทางอาคมฤาษี ดาบส ใช้อาคมขลัง ใช้มนต์ตรามาทางพราหมณ์ แต่การถือศิลพราหมณ์ก็ใช้แบบพระบรมศาสดา จะเข้าอย่านั่งญาณบุคคลผู้นั้นอย่างถือต่ำต้องถือศีล 5 บางคนก็ถือศีล 8 บางคนก็ถือศีล 10 ที่นี้วิชาที่พร่ำศึกษาไม่ว่าใครทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ ฤาษีบางรูปก็เรียนทางต่ำ บางรูปเรียนชั้นสูง แต่ถ้าทางคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นวิชาที่มีศิริมงคล ศึกษาสำเร็จแล้วสามารถคุ้มครองรักษาให้มีความสุขเจริญและซ้ำ

Read more

3750. อภินิหารว่านกระชายดำหลวงพ่อเดิม (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อภินิหารว่านกระชายดำหลวงพ่อเดิม ในวงการเกจิอาจารย์ นักขายพระ ซื้อพระ นักลองพระพิมพ์มาขายมากมาย มีพวกมีเงินมาแสวงหาของดี หลวงพ่อวัดไหนดี หรือใครมีพระสมเด็จมาขายก็จะนำมาตรวจแล้วก็จะนำไปพิสูจน์ด้วยมีการยิงทดลอง ถ้ายิงสามครั้ง ของดีดังกล่าวมีคุณภาพอยู่ยงคงกระพันชาตรี ผู้ซื้อก็จะซื้อโดยให้ราคาเช่าเท่าที่ท้องตลาดดีราคากันไว้ พวกหนึ่งในพวกนี้เป็นคนมีเงินเป็นล้านๆกว้านซื้อของดีๆแต่มีวิธีการที่เขาจะซื้อจะเป็นเครื่องรางของขลังพระเครื่องทุกชนิดมีมาแล้ว เจ้าคุณศุภเดช ตั้งที่เปิดรับสมัครที่คนจะเอามาประกวดมีข้อแม้ว่าถ้าหากทดลองยิง 3 ครั้งของดีที่คนเอามาทดสอบยิงกระสุน แตกกระจายหรือทำลายไปจะต้องเสียให้ผู้ยิง 1000 บาทถ้ายิงไม่ออก 3

Read more

3749. บารมีเทพเจ้าเเห่งเมืองสี่แคว (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

◎บารมีเทพเจ้าเเห่งเมืองสี่แคว◎ (ตอนใหม่) ไพฑูรย์เป็นบุคคลสองลักษณะที่ทางซิกมุนต์ ฟลอยด์เรียกว่า’’บุคลิกซ้อน’’หมายถึงการที่คนๆเดียวมีสองชีวิตอยู่ในตัวเอง จนมีผู้นำไปเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ฆาตกรรมเรื่อง ’’ดร.เจนกินส์กับมร.ไฮด์’’ เป็นเรื่องของนักชีวเคมีที่คิดค้นยาเพิ่มพลัง เกิดผิดพลาดกินเข้าไปแล้วกลายเป็นมร.ไฮด์ ที่เป็นปีศาจฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อยาหมดฤทธิ์จึงกลายเป็นดร.เจนกินส์ผู้มีเมตตาธรรม ไพฑูรย์เป็นดร.เจนกินส์เมื่อยังไม่มีใครไปทำให้เกิดความโกรธถึงขีดสุดไพฑูรย์เรียกว่าเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีหรือมีเจตนาจะสังหารไพฑูรย์ ไพฑูรย์มีเมตตาช่วยทำฎีกาและช่วยเหลือนักโทษที่ถูกรังแกแต่เมื่อโทสะจริตเข้าครอบงำเค้าจะกลายเป็นมร.ไฮด์ฆาตกรอำมหิตที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมแต่เมื่อโทสะจริตคลายลงแล้วจึงได้สำนึกแต่ทุกอย่างสายไปแล้วไพฑูรย์ยุติการฆ่าคนและเป็นผู้มีบุคลิกซ้อนเมื่อได้รับพระราชทานอภัยโทษเมื่อปีครึ่งพุทธกาลพ.ศ. 2500 โดยยุติการฆ่าคนนับแต่บัดนั้นมีแต่อาการของความโกรธความโมโหบ้าง เมื่อมีผู้มาพูดกวนอารมณ์เป็นทำนองว่าเรื่องราวที่เขียนลงในนิตยสารมหัศจรรย์ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องแหกตาซึ่งไพฑูรย์แสดงอาการไม่พอใจเป็นอย่างยิ่งถึงกับบอกว่า ‘’สิงโตหินไม่เคยขายความเท็จเพื่อนนักโทษที่เคยผจญภัยมาด้วยกันยังมีชีวิตอยู่เป็นพยานผมจะหาหลักฐานมาให้พวกคุณดู” เมื่อผู้เขียนพบกับไพฑูรย์ในฐานะบ.ก.บริหารนิตยสารพระเครื่องประยุกต์ไพฑูรย์หอบแฟ้มที่ได้ไปถ่ายเอกสารจากหนังสือพิมพ์รายวันระหว่างปีพ.ศ. 2480 ถึงพ.ศ. 2489

Read more

3748. มีดหมอหลวงพ่อเดิมปะทะหุ่นพยนต์หลวงพ่อขำแห่งวัดเนินกุ่ม (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

มีดหมอหลวงพ่อเดิมปะทะหุ่นพยนต์หลวงพ่อขำแห่งวัดเนินกุ่ม(ตอนใหม่) เมืองสองแควหรือเมืองพิษณุโลกเป็นอีกเมืองหนึ่งที่อาจารย์ไพฑูรย์ท่านมักจะหนีไปกบดานเพราะมีบรรดาญาติตระกูลพันธุ์เชื้องามอยู่หลายบ้านด้วยกันแต่ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าไปพัก พอมีข่าวว่าเสือไพฑูรย์แหกคุกออกมาพวกกองปราบก็ได้ส่งกำลังไปคอยจับตามองตามบ้านญาติของไพฑูรย์จนเหล่าญาติของอาจารย์แทบอยู่กันไม่เป็นสุข หากอาจารย์ไพฑูรย์เข้าไปแวะพักนั้นก็เท่ากับอาจารย์นำความเดือดร้อนไปให้เหล่าญาติพี่น้องจึงไปซ่อนตัวอยู่กับนายทหารพระธรรมนูญที่เป็นสหายกันอยู่ที่ท่าวัดเนินกุ่ม ที่วัดเนินกุ่มนี้เมื่อถึงหน้าน้ำหลากนั้นน้ำจะหลากเหมือนกับติดเกาะแต่น่าแปลกที่แม้น้ำจะท่วมสูงโดยรอบๆวัดแต่รอบโบสถ์กลับแห้งสิ้นไม่มีน้ำเข้าถึงทั้งนี้ก็เพราะหลวงพ่อขำท่านได้ใช้วิชาที่ท่านเชี่ยวชาญวิชานี้มีชื่อเรียกว่าวิชา’’กุมภกัณฑ์ทดน้ำ’’และวิชานี้แหละที่ได้สกัดน้ำเอาไว้แต่น่าเสียดายที่ท่านไม่ได้ถ่ายทอดวิชาให้ใครภายที่ท่านมรณภาพแล้วน้ำก็ท่วมสูงเหมือนเดิมตอนที่อาจารย์ไพฑูรย์หนีไปกบดานตอนนั้นเป็นช่วงที่ภาคเหนือน้ำไหลหลาก ปีนั้นน้ำไหลหลากมากโดยเฉพาะน้ำที่ไหลมาจะมีสีแดงชาวบ้านเรียกกันว่า’’น้ำแดง’’ปริมาณน้ำจะมากเป็นพิเศษได้ไหลเชี่ยวทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอาจารย์ไพฑูรย์ท่านได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนเกลอโดยได้นำท่านไปไว้ซ่อนที่ป่าอันเป็นที่ดอนกลางน้ำ ป่านี้หน้าแล้งจะกลายเป็นป่าทึบพวกชาวบ้านนิยมไปล่าสัตว์และหาของป่ากันแต่เมื่อถึงหน้าน้ำหลากพวกสัตว์ป่าจะพากันมาอยู่รวมกันแออัดอยู่ที่ดอนแห่งนี้ เหล่าบรรดาพรานล่าสัตว์จะไม่มีใครที่กล้าเข้าไปล่าเพราะหลวงพ่อขำท่านได้เสกหุ่นพยนต์เอาไว้ให้ปกป้องบรรดาเหล่าสัตว์ที่หนีตายจากภัยน้ำหลาก หุ่นพยนต์คือหุ่นที่ทำจากฟางนำมามัดให้เป็นรูปร่างเหมือนคนหลวงพ่อขำท่านใช้ผงถ่านเขียนหน้าตาให้เป็นยักษ์เอาผ้าแดงมาทำเป็นเสื้อผ้าแล้วปลุกเสกแล้วเอาไปฝังไว้ที่สี่ทิศของป่าอันเป็นที่ดอนที่เหล่าสัตว์ป่ามักหนีภัยหน้าน้ำหลากมาอาศัยอยู่ คนที่นำให้อาจารย์ไพฑูรย์ไปซ่อนตัวอยู่ที่นั้นก็ไม่ได้บอกท่านเรื่องนี้เพียงแต่บอกว่าเวลากลางวันอย่าก่อกองไฟหรือทำให้เกิดควันจะเป็นการบอกตำแหน่งของตัวเองให้ชาวบ้านรู้หาพวกฟืนแห้งจริงๆมาเตรียมไว้สำหรับก่อไฟผิงตอนกลางคืนเพื่อป้องกันความหนาว ที่นั้นมีกระท่อมอยู่หนึ่งหลังพร้อมผ้าห่มหมอนมุ้งคบอาหารจะมีผู้นำมาส่งให้สามมื้อน้ำไม่ต้องเป็นห่วงเพราะมีตุ่มสำหรับเก็บน้ำฝนอยู่ด้วยมีน้ำฝนจืดสนิทให้ดื่มแก้กระหาย เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วให้วางจานไว้เมื่อมีผู้มาส่งอาหารในมื้อถัดไปจะมาเก็บไปล้าง อาจารย์เล่าว่าอยู่มาได้จนถึงคืนที่เจ็ดก็เจอดีเข้าให้ เวลาประมาณตีสามเกือบจะตีสี่ ก็สะดุ้งตื่นการสะดุ้งตื่นแบบนี้เป็นเพราะอาจารย์ท่านได้ใช้พระคาถาเสกหมอนเอาไว้ บทพระคาถาว่าดังนี้ ‘’ฆะเตสิก ฆะเตสิก กิงกะระนัง ฆะเตสิก

Read more
error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ