พ่อท่านคล้าย

“นายพลจอมขมังเวทย์กับยอดพระเกจิอาจารย์” พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตยอดนายตำรวจชื่อเสียงโด่งดังมีความเก่งกาจในการปราบปรามโจรผู้ร้ายในภาคต่างๆจนราบคาบ จนได้รับฉายาต่างๆมากมาย ท่านเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านพุทธาคมโดยเป็นศิษย์ร่ำเรียนวิชาอาคมแขนงต่างๆจากสำนักวัดเขาอ้อ จนมีความชำนาญและขึ้นชื่อว่าท่านหนังเหนียวเข้มขลังนัก และด้วยท่านมีชื่อเสียงมากประกอบกับในช่วงเวลานั้นเป็นยุคเดียวกันกับยอดพระเกจิแดนใต้หลายรูป และท่านยังมีโอกาสได้รับเชิญไปร่วมงานพิธีปลุกเสกต่างๆกับพระคณาจารย์ชื่อดังและท่านมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมากด้วยดั่งภาพท่านขุนพันธฯกับยอดพระเกจิ ภาพ๑ เป็นภาพท่านขุนพันธฯกำลังให้พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์หรือเทวดาเมืองคอน วัดสวนขันเสกลงกระหม่อมให้อย่างเข้มขลัง ภาพ๒​ ท่านขุนพันธฯกำลังร่วมพิธีกับพระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา จ.พัทลุง พระอริยสงฆ์แดนใต้ ภาพ๓.และท่านขุนพันธฯกับพ่อท่านคลิ้ง จันทสิริ

กราบไหว้สรีระสังขารของอมตะเถราจารย์แห่งยุค เทวดาแห่งเมืองคอน พ่อท่านคล้าย แห่งวัดสวนขันธ์ ผู้ที่มีวาจาสิทธิ์ หลวงพ่อท่านได้อธิฐานจิตทิ้งสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยไว้ให้ศิษย์ได้กราบไหว้กัน Cr.พระจันทร์​ทรง​กลด แอพเกจิ

ผีลองดี ครั้งหนึ่งหลวงปู่ดู่เดินทางไปเรียนวิชาทำธง ที่วัดตะเขง จังหวัดสระบุรี เพราะหลวงปู่แด่เป็นผู้สั่งให้ไปเรียน เมื่อไปถึงหลวงปู่ที่วัดท่านบอกว่าหลวงปู่ “ผมแก่แล้วตาไม่ค่อยดี นิมนต์กลับไปเรียนกับอาจารย์แด่ท่านเถิด เออ คุณผ่านมาตรงช่องเขามีใครเขาหยอกคุณหรือเปล่า” หลวงปู่ดู่ “มีครับแต่ไม่เป็นไร” หลวงปู่ “ขากลับไปเถอะ ไม่มีอะไร” หลวงปู่ดู่เล่าให้ฟังว่า “เดินไประหว่างช่องเขา มีคนปาก้อนหินลงมาก้อนเบ้อเร่อ ถูกข้าคงตาย แต่ข้าไม่กลัว

พระคาถากำแพงแก้ว ตั้ง นะโม 3 จบ ขอบารมีพ่อท่านคล้าย พุทธัง เป็นกำแพงแก้วธัมมัง เป็นกำแพงแก้วสังฆัง เป็นกำแพงแก้วนะโมพุทธายะ อ้อมล้อมตัวศัตรูคิดร้าย แพ้ภัยวินาศสันติอะสังวิสุ โลปุสะภุภะ กำหนดให้เห็นเป็นกำแพงล้อมรอบตัวเรา เดินจิตให้เห็นชัด วน 3 รอบ อธิษฐานขอกำแพงแก้วแห่งพระรัตนตรัยนี้จงป้องกัน คนร้าย

มีเรื่องเล่ากันมาว่า เมื่อครั้งพ่อท่านคล้ายจำพรรษาอยู่ที่วัดสามพัน จ.สุราษฎร์ธานี ท่านได้นำชาวบ้านไปช่วยกันสร้างสะพานข้ามคลองอิปัน ซึ่งได้ชื่อว่ามีจระเข้มากมาย และชอบอาละวาดจนชาวบ้านเกรงกลัว พ่อท่านคล้ายจึงลงแพลูกบวบต้นกล้วยไปบริกรรมคาถา พร้อมหว่านทรายเสกไปทั่วบริเวณ นับแต่นั้นมาจระเข้ก็หายไปจากคลองอิปันเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก พ่อท่านคล้าย จันทสุวัณโณวัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราชCr.Saran WiKi

ภาพเก่าหาชมยากครับ องค์ซ้ายมือนั่ง ท่านมีนามว่า พระครูพิศิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ) วัดสวนขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช “ เทวดาแห่งเมืองคอน ” ครับ ที่ทั่วทุกคนชาวนครศรีธรรมราชยกย่องนับถือเลื่อมใสท่านมากๆครับ องค์นั่งฝั่งขวาท่านมีนามว่า พระครูรังสรรค์อธิมุตต์ (หลวงพ่อแดง วัดหาดสูง )จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านเป็นพระอริยะเกจิที่เก่งอีกรูปหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราชครับท่านมีความสนิทสนมกับพ่อท่านคล้ายมากๆครับ

#เรื่องเล่า #พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ในตอนนั้นผมยังอายุไม่ถึง ๑๐ ขวบ คุณพ่อรับราชการอยู่ที่นครศรีธรรมราช ในช่วงนั้นร.ร.ปิดเทอมผมจึงได้ไปอยู่กับคุณพ่อที่นั่น มีอยู่มาวันหนึ่งคุณพ่อได้พาผมไปหาพ่อท่านคล้ายที่วัดจันดี เมื่อไปถึงที่วัดก็เห็นผู้คนมากมายมารอ พ่อท่านคล้ายกันอยู่เต็มศาลา ชั่วอึดใจใหญ่ก็มีคนแบกแคร่หามพาพ่อท่านคล้ายเข้ามาในศาลา คนที่ล้วนมารอสักการะท่าน ต่างลุกกันขึ้นมาและหมอบคลานเข้าไปหาพ่อท่านคล้ายกัน เป็นพัลวัน ในขณะนั้นเอง คุณลุงขุนพันธ์ก็ได้มาถึงที่วัดพอดี …[ คงจะเป็นคุณพ่อนัดหมายให้ท่านมา ] …

วันใดเบอร์ออกศูนย์สามตัว เมื่อนั้นฉันสิ้นบุญ!! “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์”บอกไว้ก่อนละสังขาร!! เป็นไปตามนั้นจริงๆ สาธุ ครั้นถึงวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๓ ตรงกับแรม ๙ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีจอ คุณศรัทธา นิ่มมาณพ หัวหน้าหน่วยสร้างสะพานรถไฟได้บันทึกว่า พ่อท่านคล้ายจะเดินทางไปจังหวัดสุรินทร์เนื่องในงานพุทธาภิเษกที่คณะพุทธบริษัทจังหวัดนั้นนิมนต์ไว้

ตำนานพ่อท่านคล้ายหยุดรถไฟ ไปตะ รถไฟมันรอ..เมื่อ “พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์”ลืมสังฆาฏิไว้ที่บ้านโยม ใช้ศิษย์กลับไปเอา..รถไฟออกไม่ได้ ต้องรอ วิ่งแล้วรถล้อฟรี อยู่กับที่ “พระอรหันต์เมืองใต้” พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ “มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ไป จังหวัดชุมพร ท่านต้องขึ้นรถไฟที่สถานีคลองจันดี สมัยนั้นยังเป็นรถไฟหัวจักรไอน้ำ ท่านลืมสังฆาฏิที่บ้านญาติโยมในตลาดจันดี พอดีรถไฟที่ท่านจะต้องขึ้นกำลังเปิดหวูดจะออก ท่านบอกให้เด็กวัดที่ไปกับท่านไปเอาสังฆาฏิ ที่บ้านญาติโยม ในตลาดจันดี