จดหมายเหตุพระเกจิ

ครั้งเมื่อ กรมหลวงชุมพรฯ อยากดูของแปลก จึงแหวกป่าตามหา หลวงพ่อเงิน ตามคำที่หลวงพ่อศุขบอก กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มักจะเสด็จไปยังวัดปากคลองมะขามเฒ่า เมืองชัยนาท อยู่เสมอๆ ด้วยความศรัทธามั่นต่อหลวงพ่อศุข เกจิอาจารย์ ผู้ปราดเปรื่องเรื่องเวทมนตร์คาถาอาคมนั้น พระองค์ได้พบกับความมหัศจรรย์ทางพุทธเวทย์เป็นที่ประจักษ์แก่สายตานับครั้งไม่ถ้วน จึงยกให้หลวงพ่อศุข เป็นอาจารย์ของพระองค์ ได้รับการถ่ายทอดวิชานานัปการอันประมาณมิได้จากหลวงพ่อเป็นถ้วนทั่ว ฝึกฝนจนเกิดความชำนาญ มีปรีชาสามารถ ปรากฏตามเรื่องราวของพระองค์กับ

หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ จ.นครปฐม เจ้าของตำหรับวิชาเสือ อันลือลั่น ในสมัยที่หลวงพ่อเปิ่นท่านยังไม่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร หลวงพ่อเปิ่นท่านจะลงมือสักให้กับลูกศิษย์ทุกคนด้วยมือของท่านเอง แต่ต่อมาในภายหลังหลวงพ่อได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการสักให้แก่พระลูกศิษย์เป็นผู้สักแทน ส่วนหลวงพ่อเปิ่นท่านจะทำพิธีครอบให้เท่านั้นเนื่องจากภาระหน้าที่ของท่านมีมากมายจนล้นมือ และทางจังหวัดก็ได้ขอร้องท่านไว้ด้วย ท่านจึงตั้งสัจจะวางเข็มสักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ที่มีแววทางด้านนี้ได้ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่สืบต่อจากท่าน ส่วนเรื่องการสักของหลวงพ่อเปิ่นนั้น ท่านจะกล่าวเพียงว่าท่านชอบเสือด้วยเหตุผลที่บอกเพียงสั้นๆ กับบรรดาลูกศิษย์ว่า เสือเป็นสัตว์มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือที่ดังกึกก้องสัตว์ทั้งหลายเมื่อได้ยินก็จะเงียบสนิท กลิ่นสาบเสือนั้นเสือสัตว์ทั้งหลายได้สัมผัสจะยอมทันที หลีกทันก็ต้องหลีกจัดอยู่ในทางมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างามเต็มไปด้วยบารมีจึงจัดอยู่ในมหานิยม

สรีระหลวงปู่นาม ไม่เน่าเปื่อย ปัจจุบันสรีระของหลวงปู่นาม อยู่ที่มณฑป วัดน้อยชมภู่ อยู่ในโลงแก้วที่หลวงปู่สั่งให้ช่างเตรียมไว้ก่อนที่หลวงปู่จะมรณะภาพ เหมือนอย่างหลวงพ่อรู้กาลข้างหน้า ว่าสรีระท่านจะไม่เน่าเปื่อยตอนนี้สรีระของปู่ท่านสมบูรณ์มากๆเหมือนท่านนอนหลับเฉยๆ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ที่ผ่านมานี้ครบรอบ ๑ ปี มรณะกาลของหลวงปู่ท่านครับ ท่านใดผ่านมาสุพรรณบุรีหรือมาทำบุญวัดน้อยชมภู่ อ.ศรีประจันต์ มากราบขอพรสรีระหลวงปู่นามได้ทุกวัน วัดหลวงปู่สงบร่มเย็นขอพรพระพุทธปางเปิดโลก พระพุทธรูปศักดิ์ประจำวัด

อภินิหาร หลวงพ่อแดง รตฺโต พระครูญาณวิลาศ (แดง รตฺโต) เป็นพระเกจิอาจารย์มหาเถระในจังหวัดเพชรบุรีที่มีชื่อเสียงมากของประเทศไทย ในระหว่าง พ.ศ. ๒๔๗๗ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลานั้นเกิดโรคระบาดสัตว์ วัวควายเป็น โรครินเดรอ์เปรส ซึ่งเป็นโรคปากเท้าเปื่อยที่ติดต่อร้ายแรง พากันล้มตายเป็นเบือ สัตว์แพทย์ก็ไม่มีต้องขอให้ทางการมาช่วยฉีดยา ราษฎรจึงพากันไปหาหลวงพ่อให้ช่วยปัดเป่าป้องกันโรคระบาดสัตว์ให้ด้วย

ภาพถ่ายหาชมยากระดับตำนานปรมาจารย์แห่ง มณฑลนครชัยศรี มณฑลนครชัยศรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2438 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่ เมืองนครชัยศรี เมืองสุพรรณบุรี และเมืองสมุทรสาคร คณะสงฆ์สมัยนั้นในอดีตเท่าที่แอดรู้นะครับ องค์หลังซ้ายสุดในภาพพระพุทธวิถีนายก (บุญ ขนฺธโชติ) วัดกลางบางแก้วเจ้าตำหรับผงยาจินดามณี ตำนานเบี้ยแก้ เครืองรางสุดวิเศษ และ เจ้าของเหรียญเจ้าสัวซุ้มกระจังที่ขลังและมีราคาแพงที่สุดในแผ่นดิน องค์ขวามือสุดตรงมุมล่าง

หลวงพ่อเปิ่นได้เคยกล่าวไว้ว่า…. “ข้าเก่งสู้หลวงพี่พรหมไม่ได้หรอก ศิษย์ข้าสักไปแล้วเวลาของขึ้นจะไม่มีสติ แต่ศิษย์หลวงพี่พรหม เวลาของขึ้นแล้วมีสติครบถ้วนสมบูรณ์” หลวงพ่อเปิ่นยังบอกอีกว่าหลวงพี่พรหมกับข้าสององค์เสกของก็พอแล้วขณะเดียวกันหลวงพ่อพรหมเคยกล่าวว่าเรื่องเสือต้องหลวงพ่อเปิ่น และยังยืนยันว่าหลวงพ่อเปิ่นเก่งวิชาการสักยันต์จริงๆ หลวงพ่อเปิ่นแห่งวัดบางพระเกจิผู้โด่งดัง เป็นพระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่ชอบพอกับหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือมาก ถึงกับเคยร่วมกันอปุถัมถ์สร้างวัดแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อเปิ่นจะเรียกหลวงพ่อพรหมว่าหลวงพี่ ทั้งยังบอกกับลูกศิษย์ลูกหาว่าหลวงพ่อพรหมนี้ของจริงเก่งมาก เป็นอาจารย์สักแบบโบราณเก่าแก่มีวิชาแก่กล้ามาก ควรไปฝากตัวเป็นศิษย์ให้ได้เมื่อสมัยนั้นครับ ที่มา​ จดหมายเหตุพระเกจิ

อมตะคำสอนพระอริยสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา“ ขยัน​ ซื่อสัตย์​ ประหยัด อดทน ชีวิตทุกคนก็เป็นสุข” หลวงปู่หลิว​ ปณฺณโก วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม หลวงปู่หลิว นับเป็นผู้ทรงอภิญญา และมีพุทธาคมสูงส่ง ท่านเป็นผู้มีเมตตา พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากท่านพร้อมจะสร้าง พร้อมจะเสียสละ ให้กับบวรพุทธศาสนา ท่านไปอยู่ยังที่แห่งใด ภาพนี้คือภาพหาชมยากของหลวงปู่เมื่อตอนหลวงปู่ละสังขารครับ ที่มา​

๑ ใน ๓ สุดยอดพระเกจิสาย เหนียว ฝั่งธนบุรี หลวงปู่เม่ง วัดบางสะแกใน ยอดพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง ที่ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมมาจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อครั้งสมัยยุคต้นๆปี พ.ศ.2500 ชาวตลาดพลูมักจะกล่าวกันว่า ถ้าจะหาพระด้านเมตตา ค้าขาย ต้องแขวนพระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี แต่ถ้าจะหาพระที่เหนียว สุดๆเอาแบบเชื่อถือได้

หลวงปู่สรวง ท่านได้หลับตามา 10 กว่าปี เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2558 ท่านได้ลืมตาอีกครั้งเปรียบเสมือนหลวงปู่ยังมองดูลูกศิษย์ลูกหลานของท่านและคอยช่วยเหลือผู้เคารพศรัทธาท่านมิมีเสื่อมคลาย หลวงปู่สรวง_เทวดาเล่นดิน อริสงฆ์ผู้อยู่เหนือกาลเวลา ที่มา​ จดหมายเหตุพระเกจิ แอพเกจิ