2402.หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ เจ้าของตำหรับวิชาเสือ อันลือลั่น

หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ จ.นครปฐม เจ้าของตำหรับวิชาเสือ อันลือลั่น

ในสมัยที่หลวงพ่อเปิ่นท่านยังไม่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร หลวงพ่อเปิ่นท่านจะลงมือสักให้กับลูกศิษย์ทุกคนด้วยมือของท่านเอง แต่ต่อมาในภายหลังหลวงพ่อได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการสักให้แก่พระลูกศิษย์เป็นผู้สักแทน ส่วนหลวงพ่อเปิ่นท่านจะทำพิธีครอบให้เท่านั้นเนื่องจากภาระหน้าที่ของท่านมีมากมายจนล้นมือ และทางจังหวัดก็ได้ขอร้องท่านไว้ด้วย ท่านจึงตั้งสัจจะวางเข็มสักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ที่มีแววทางด้านนี้ได้ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่สืบต่อจากท่าน

ส่วนเรื่องการสักของหลวงพ่อเปิ่นนั้น ท่านจะกล่าวเพียงว่าท่านชอบเสือด้วยเหตุผลที่บอกเพียงสั้นๆ กับบรรดาลูกศิษย์ว่า เสือเป็นสัตว์มีอำนาจ เพียงเสียงคำรามของเสือที่ดังกึกก้องสัตว์ทั้งหลายเมื่อได้ยินก็จะเงียบสนิท กลิ่นสาบเสือนั้นเสือสัตว์ทั้งหลายได้สัมผัสจะยอมทันที หลีกทันก็ต้องหลีกจัดอยู่ในทางมหาอำนาจ เสือรูปร่างสง่างามเต็มไปด้วยบารมีจึงจัดอยู่ในมหานิยม

ที่สำคัญก็คือหลวงพ่อเปิ่นท่านเคยได้ประจันหน้ากับเสือมาแล้วกลางป่าลึก ในระหว่างที่ท่านเดินธุดงค์แถวป่าใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี ท่านจึงเกิดความประทับใจในเสือโคร่งนับแต่นั้นเป็นต้นมา และท่านได้นำเอาลายยันต์เสือโคร่งมาประสิทธิให้กับลูกศิษย์ที่เดินทางมากราบฝากตัวกับท่านด้วยการสักจากมือท่านเอง จนเกิดเป็นตำนาน”พญาเสือมหาอำนาจ”อันลือลั่น

ในส่วนขั้นตอนการสักยันต์ของสำนักวัดบางพระนั้นมีดังนี้ เริ่มด้วยการหาดอกไม้ ธูป เทียน เงินค่าบูชาครู 25 บาท มาขึ้นครูกับพระอาจารย์ที่จะทำการสักให้จากนั้นก็ทำการคัดเลือกยันต์รูปลักษณ์ต่างๆ ที่ต้องการจะสัก เช่น ยันต์เก้ายอด ยันต์แปดทิศ ยันต์งบน้ำอ้อย ยันต์เสือเผ่น ยันต์หนุมาน เป็นต้น ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากพระอาจารย์ผู้ทำการสักให้ด้วยว่าสมควรหรือไม่ เพราะยันต์บางยันต์นั้นแรงมาก บารมีของผู้รับการสักเพียงพอที่จะรองรับได้หรือไม่ เช่น ยันต์แม่ทัพ เป็นต้น

เมื่อเลือกแบบได้แล้วพระอาจารย์ที่จะทำการสักให้ ก็จะจุดตะเกียงน้ำมันก๊าด แล้วนำเอาแม่พิมพ์ของยันต์นั้นมารมควัมให้เขม่าควันจับแบบแม่พิมพ์ จากนั้นกดพิมพ์บนผิวหนังบริเวณที่ต้องการสัก บางยันต์ก็ใช้วิธีเขียนโดยใช้ปากกา ตีเส้น หรือวาดรูปยันต์ลงไปบนผิวหนังของผู้ที่ต้องการสักก่อน แล้วจึงเริ่มลงมือสักให้ โดยอาจารย์ผู้สักจะบริกรรมพระคาถาอยู่ตลอดเวลาจนกว่าจะทำการสักยันต์เสร็จแต่ในปัจจุบันนี้มีแม่พิมพ์ที่เป็นยางสามารถประทับกับแป้นพิมพ์ได้เลย เมื่อการสักยันต์เสร็จสิ้นลงแล้วก็จะทำการประสิทธิ์ประสาทอาคมให้ โดยหลวงพ่อเปิ่นท่านจะเป็นผู้ประสิทธิ์เองทุกครั้ง

ข้อห้ามสำหรับผู้สักยันต์

1.ห้ามผิดลูกเมียเขา คือ เป็นชู้กับเมียชาวบ้านนั่นเองรวมทั้งลูกสาวที่พ่อแม่เขาไม่อนุญาตด้วย

2.ห้ามด่าบุพการี เช่น ด่าพ่อล่อแม่ชาวบ้าน

3.ห้ามกินน้ำเต้า มะเฟือง ฟัก แฟง

4.ห้ามลอดไม้เค้ากล้วย สะพานหัวเดียว และร่องถ่ายทุกข์หนักเบา

5.ห้ามผู้หญิงขึ้นคร่อมหรือเดินข้าม ห้ามหลับนอนกับผู้หญิงมีประจำเดือน

6.ต้องถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด ทำแต่กรรมดี ละเว้นการประกอบกรรมชั่วหากผู้ที่มารับการสักยันต์ไปแล้วมีความยึดมั่นในกฏระเบียบข้อห้ามอย่างเคร่งครัดแล้ว วิชาอาคมที่องค์หลวงพ่อเปิ่นท่านประสิทธิ์ให้ก็จะเข้มขลัง ติดตรึงอยู่กับร่างกายของศิษย์ผู้นั้นไปจนชั่วชีวิต และเกิดมหิทธิฤทธิ์ช่วยคุ้มภัยให้อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย

ที่มา จดหมายเหตุพระเกจิ

แอพเกจิ