3681. ฝ่าวงล้อมกำแพงดิน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม) (มีคลิปเสียง)

ฝ่าวงล้อมกำแพงดิน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์มักกล่าวถึงจอมโจรสองผัวเมียที่มีฉายาว่า 2 นักปล้นธนาคาร ‘’บอนนี่กับไคลปาร์กเกอร์’’ ที่แม้จะตายไปแล้วแต่ก็ยังมีช่อดอกไม้ไปวางเหนือหลุมศพจากคนที่มีความชื่นชอบในพฤติกรรมของโจรสองผัวเมียที่ปล้นธนาคารของทั้งรัฐและเอกชนที่ในระหว่างนั้นเป็นช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย

ในสหรัฐอเมริกายุคเศรษฐกิจตกต่ำ ยุคที่คนว่างงานมากมายทุกที่คนต้องไปยืนเข้าแถวรอรับชุบกับขนมปังเพื่อกินประทังชีวิตในยามยาก ยุคที่ขอทานเกลื่อนเมืองนิวยอร์ก

แต่พวกเศรษฐีในแฟชั่นแกตบี้ต่างพากันกินล้างกินผลาญเที่ยวหามรุ่งหามค่ำเงินที่เบียดบังมาจากการเอารัดเอาเปรียบคนในสังคมที่เป็นระดับรากหญ้ากลับมาพอกพูนในธนาคาร นายธนาคารรู้จักแต่พวกเศรษฐีไม่แม้แต่ชำเลืองตามาดูลูกค้าระดับย่อย
บอนนี่กับไคลด์จึงเกิดขึ้นในยุคหลังไอ้เสือปืนกลดิลลิงเยอร์แต่แสบกว่ามากเพราะสองผัวเมียคู่นี้ชำนาญอาวุธปืนทุกชนิดตั้งแต่ปืนพกสั้นแบบรีวอลเวอร์ ออโตเมติก ปืนลูกซอง ปืนกลสองผัวเมียหาเวลาฝึกใช้อาวุธทุกชนิดอย่างชำนาญ จน FBI ที่เคยเผชิญหน้ากับสองผัวเมียภรรยาคู่นี้มีคำเตือนแนบท้ายประกาศจับเป็นหรือตายว่า

‘’โปรดระมัดระวังในการเข้าจับกุมคนร้ายมีความชำนาญการใช้อาวุธปืนทุกชนิดในรถที่ทั้งสองคนเดินทางไม่ผิดอะไรกับคลังแสงเคลื่อนที่’’

บอนนี่กับไคลด์ปล้นธนาคารอย่างเดียวไม่เลือกว่าเป็นของเอกชนหรือรัฐแม้จะไม่แบ่งรายได้จากการปล้นไปแจกคนจน แต่คนระดับรากหญ้าและคนงานที่ถูกเอารัดเอาเปรียบต่างเอาใจช่วยให้สองคนรอดพ้นจากการถูกจับกุมล่าสุดก่อนที่จะพบจุดจบ FBI ระดมกันออกตามล่าแบบพลิกแผ่นดิน ทำให้บอนนี่กับไคลด์ต้องไปกบดานในบ้านไร่จนกระทั่งเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงออกเดินทาง

FBI ได้เบาะแสจากเจ้าของบ้านไร่ที่สองสามีภรรยาที่เป็นคู่บ่าวสาวมาฮันนีมูนจึงได้รูปพรรณรถตลอดจนเส้นทางการเดินทาง

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ไปดักรอบอนนี่กับไคลด์อยู่บนถนนชนบทที่เป็นทางลาดลงจากเนินเขาเป็นเวลา 1 วันกับ 1 คืน

คำสั่งของหน่วยเหนือคือ’’จับตายสถานเดียว’’เมื่อรถของบอนนี่กับไคลด์แล่นลงจากทางลาดมาใกล้ถึงที่ซุ่มโป่ง เจ้าหน้าที่ยิงใส่ทันที บอนนี่กับไคลด์สู้ใจขาดแต่ถูกระดมยิงอย่างแบบไม่เคยให้โอกาสมอมตัว(หากเป็นรถชาวบ้านที่ลักษณะใกล้เคียงกันคงตายฟรีไปแล้ว)

รายงานข่าวบอกว่าพบลูกกระสุนปืนหลายชนิดที่ศพสองผัวเมียรวมกันกว่า 50 นัด

รายงานข่าวยังระบุอีกว่าหากไม่มีการดักจับตายหรือเป็นการต่อสู้แบบจะจะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจะต้องกลายเป็นศพ ในรถของสองผัวเมียจอมโจรมีอาวุธปืนออโตเมติกขนาด 9 มม. ปืนลูกซอง 5 นัด ปืนกลมือ กับกระสุนปืนที่ใช้กับปืนแต่ละชนิดอีกมากมาย

เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับการจับเสือแมนมือปืนร้อยศพที่ทำให้ตำรวจยศพันตำรวจเอกได้รับฉายาว่า’’สิงห์ลูกซอง’’ ปืนลูกซอง 5 นัด ยี่ห้อเรมิงตันแบบขึ้นลำด้วยกันกระชากกระโจมมือที่ขายดีจนเกือบหมดไปจากร้านปืนหลังวังบูรพา

เรื่องมีอยู่ว่าเสือแมนมือปืนร้อยศพชาวนครสวรรค์ออกอาละวาดเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าและล้างแค้นสายตำรวจที่แจ้งเบาะแสย้อนกลับมากบดานในบ้านเช่าที่กรุงเทพฯ ตำรวจสายสืบติดตามจนพบ จึงมีการวางแผนเข้าจับกุมมีนายตำรวจยศพันตำรวจเอกเป็นหัวหน้าชุดโดยแอบเข้าไปซุ่มอยู่ในห้องเช่าที่มีหน้าต่างตรงกับหน้าต่างบ้านที่เสือแมนพัก

เสือแมนกลับเข้าบ้านตอนดึกแล้วนอนหลับโดยไม่รู้ว่าตำรวจยกกำลังมาซุ่มและล้อมไว้แล้วพอย่ำรุ่งตำรวจก็บุกขึ้นไปเสือแมนยิงสกัดตำรวจบาดเจ็บจากนั้นปีนหนีออกทางหน้าต่างที่ตำรวจยศพันตำรวจเอกคอยอยู่ใช้ปืนลูกซอง 5 นัดกระสุนแบบโอโอบัก (มีลูกกระสุนอยู่ภายใน 9 เม็ด)ในมือซัดตูมเสือแมนโดนเข้าเต็มเปาร่วงลงมาจากกันสาดถูกตำรวจรุมยิงจนปิดตำนานมือปืนร้อยศพ

ไพฑูรย์บอกว่าสำหรับตัวเองนั้นที่รอดมาได้เพราะทุกครั้งที่จับกุมเป็นการจับแต่ไม่มีการต่อสู้เพราะมีคนทรยศบอกตำรวจมาจับค่าหัว 2 หมื่นบาทตอนนั้นมันยั่วใจ

จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่ที่ไพฑูรย์หนีไปซ่อนตัวตอนนั้นเป็นปีพ.ศ. 2486 สงครามมหาเอเชียบูรพาระหว่างญี่ปุ่นกับจีนกำลังรบต่อเนื่องญี่ปุ่นยึดประเทศพม่าเป็นฐานไปตีอินเดียและจีนและส่งกำลังบำรุงไปยังกองทัพจีนที่บุกญี่ปุ่นอยู่อย่างหนัก

เวลาที่บ้านเมืองคับขันกลางคืนห้ามออกนอกเคหสถานต้องพรางไฟเป็นประโยชน์แก่บรรดามิจฉาชีพและบรรดาโจรปล้นฆ่ากับทำร้ายแหกคุกแบบไพฑูรย์ความเปล่าเปลี่ยวทำให้ไพฑูรย์นึกไปถึงกำแพงดิน กำแพงดินเป็นสถานที่รวมซ่องโสเภณีใหญ่ที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่ใครไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วไม่ได้ไปสัมผัสกำแพงดินท่านว่าไม่ได้ไปถึงเชียงใหม่

ไพฑูรย์ไปในคราบของนักธุรกิจจากบางกอกไปประมูลไม้จากปางไม้ส่งโรงเลื่อยแถบริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เช่าบ้านพักอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่พรางหน้าตาจนไม่มีใครจำได้เพราะไพฑูรย์รู้ดีว่าค่าหัว 2 หมื่นบาทคือสิ่งที่จะนำอันตรายมาให้อย่างคาดไม่ถึง ที่ซ่องนางโลมมีนางโลมชื่อโสมหล้า

โสมหล้าเป็นอดีตช่างฟ้อนที่ถูกคนบางกอกหลอกให้หนีตามไปอยู่กินกันฐานผัวเมียแต่ปรากฏว่าเมื่อไปแล้วกลับถูกนำไปขายซ่องโดยแมงดาที่อยู่ในคณะแหวนขาว (หากท่านผู้อ่านได้ติดตามอ่านเรื่องราวที่แอดมินลงคงจะจำได้ว่าเข้ามากินอาหารที่ภัตตาคารในย่านนางเลิ้งแล้วไม่พรางแหวนขาวจึงถูกไพฑูรย์สังหารในการปะทะกัน โดยคู่อริโดยตรงใช้ผ้ารัดคอจนตายเพราะหนังเหนียว

โสมหล้ากลับบ้านแล้วมาเป็นโสเภนีระดับดาวของประตูดินไม่รับแขกทั่วไปแต่เป็นแขก vip ที่มีเงินระดับพ่อเลี้ยงด้วยเหตุว่าโสมหล้ามีรูปร่างหน้าตาผิวพรรณสะอาดตรวจร่างกายรักษาสุขภาพจนห่างไกลจากกามโรคที่ตอนสงครามใครเป็นแล้วหายยากปัจจุบันรักษาไม่ได้เพราะสงครามโลกทำให้ยาปฏิชีวนะแพงต้องกินยาต้มติดต่อกันจนเหงื่อออกมาเป็นกลิ่นยา

การวางตัวของโสมหล้าทั่วไปดีมากเดินไปไหนมาไหนในสังคมทั่วไปไม่มีใครสังเกตออกเลยว่าเป็นโสเภณีจะทำงานเฉพาะตอนกลางคืนมีบ้านพิเศษสำหรับรับแขกที่นายอินสมพ่อเล้าใหญ่เป็นคนแนะนำมาเท่านั้นรับคืนละคนด้วยอัตราค่าตัว 300 บาท 300 บาท ตอนสงครามโลกเป็นเงินที่แพงมากแต่บ้านของโสมหล้าก็มีแขกมาพักทุกคืน

ไพฑูรย์ได้ยินกิตติศัพท์ของโสมหล้ามาจากบรรดาพ่อเลี้ยงที่ไพฑูรย์คบหาสมาคมแบบพรางตัวพ่อเลี้ยงคำผางเป็นพ่อเลี้ยงที่มีปางไม้อยู่ที่ลำปาง ฉายาพ่อเลี้ยง 100ล้าน โรงเลื่อยส่วนใหญ่ในบางกอกมาประมูลไม้ที่ปางของพ่อเลี้ยงคำผางเป็นประจำพ่อเลี้ยงเสียค่าภาคหลวงไม้ไม่เคยบิดเบี้ยวเป็นที่ชื่นชมของบรรดาราชการกรมสรรพากรเชียงใหม่และบรรดาผู้คนที่ไม่เคยผิดหวังกลับออกไปจากการมาบอกบุญกับพ่อเลี้ยง

‘’คุณปรีชาคุณก็คบกับผมมานานหลายเดือนแต่ไม่เห็นคุณจะพูดถึงเรื่องประมูลไม้สักกับผมเลยสักครั้งคุณทำอาชีพอะไรแน่’’

‘’พ่อเลี้ยงผมเป็นนักธุรกิจครับเรื่องการประมูลไม้เป็นธุรกิจใหม่ของผมที่ทำให้ผมต้องมาพบเลี้ยงเพื่อขอคำแนะนำและดูวิธีการประมูลภาษาจีนว่าอยากได้ลูกเสือหากไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือได้อย่างไร ผมจึงเดินทางมาพบกับพ่อเลี้ยงที่เป็นหนึ่งในห้าเสือปางไม้ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเบอร์ 1 ยังไงล่ะ’’

หากเป็นพวกแร่ทางใต้ล่ะก็ผมทำมาจนร่ำรวยมหาศาลจนทุกวันนี้ค่าภาคหลวงแร่มันแพงขึ้นทุกปีแต่ลูกค้ากลับไม่ค่อยจะยอมให้ขึ้นราคา แถมมีคู่แข่งที่ชอบตัดราคา แต่ผมไม่กลัวหรอก เพราะผมส่งมันไปตัดราคาในนรกแล้ว แต่ก็นั่นแหละครับตำรวจขึ้นบัญชีดำผมแม้จะหาหลักฐานไม่ได้ การทำงานของผมจึงลำบากเลยขึ้นมาที่นี่ หวังว่าพ่อเลี้ยงคงไม่หักหลังผม’’

‘’หัวอกเดียวกันแหละคุณปรีชาเอาอย่างนี้เพื่อเป็นการต้อนรับและแสดงน้ำใจคืนนี้คุณไปกำแพงดินผมจะให้คนไปบอกกับอินสมให้เปิดบ้านโสมหล้าให้คุณเสพสุข ประมาณ 3 ทุ่ม ผมจะให้คนรถมานำคุณไปที่บ้านโสมหล้า’’

ไพฑูรย์ขึ้นไปบนบ้านโสมหล้าไพฑูรย์จำได้จึงหลุดปากออกไปว่า’’หล้า’’ โสมหล้าสีหน้าประหลาด ไพฑูรย์จึงขอตัวเข้าห้องน้ำแล้วเอาเครื่องพรางหน้าออก โสมหล้าจึงอุทานออกมาว่า’’คุณไพฑูรย์เก้ายอด’’

หลังจากเสพสุขแล้วโสมหล้าถามว่าใครแนะนำมาพอรู้ว่าพ่อเลี้ยงคำผางเธอก็เอามือทาบ อก

‘’คุณไพฑูรย์รีบออกจากที่นี่เลย พ่อเลี้ยงคนนี้เป็นคนใกล้ชิดของผู้กำกับกองเมือง เสือร้ายหลายคนถูกยิงตายที่กำแพงดินนี้เพราะฝีมือของพ่อเลี้ยงคนนี้มาแล้ว ทุกคนก่อนพบจุดจบถูกส่งมาที่นี่’’

ไพฑูรย์กลับเข้าไปในห้องน้ำแปลงโฉมอีกครั้งจึงลาโสมหล้ากลับออกไปโดยโสมหล้าให้ยืมชุดที่เศรษฐีแพซุงนครสวรรค์มาทิ้งไว้นานแล้วให้ไพฑูรย์เปลี่ยนชุดจึงสามารถหลุดจากวงล้อมของตำรวจกองเมืองที่วางกำลังไว้

7 วันต่อมาหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นพาดหัวข่าวใหญ่

‘’ดับพ่อเลี้ยงคำผางคนดังคาบ้านพักกลางเมืองเชียงใหม่’’
เนื้อข่าวระบุว่าจากการสืบสวนของตำรวจพบว่าก่อนตายได้คบกับนักธุรกิจจากบางกอก จากรูปพรรณสัณฐานน่าจะเป็นเสือไพฑูรย์ที่หนีมากบดานก่อน ตายได้บอกให้ตำรวจไปล้อมกำแพงดินแต่เสือไพฑูรย์หลุดวงล้อมไปได้

ไพฑูรย์เล่าว่าการปลอมตัวเป็นพ่อค้าพลอยชาวพม่าขึ้นไปเสนอขายอัญมณีที่พ่อเลี้ยงนิยมโดยเฉพาะทับทิมหยกและบุษราคัม
พ่อเลี้ยงไม่คิดว่าจะถูกย้อนรอยคิดว่าไพฑูรย์ไปจากเชียงใหม่แล้วไพฑูรย์ใช้เหล็กแหลมต่อด้ามแทงเข้าไปที่คอหอยพรวดเดียวร้องไม่ออกแล้วกวาดทรัพย์สินที่มีค่าทั้งนอกและในเชฟก่อนอำลาได้เขียนจดหมายทิ้งไว้ความว่า

‘’ดาบนั้นคืนสนองทรยศเสือไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม’’

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณคลิปดีๆจาก : สองยาม
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: