3699. กำนันรำหนังเหนียว (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

กำนันรำหนังเหนียว (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ผู้เขียนได้มีโอกาสเห็นมีดหมอที่เรียกว่ามีดหมอควาญช้างของไพฑูรย์ครั้งหนึ่งเป็นมีดที่ใบทำด้วยเหล็กกล้าด้ามทำด้วยงาช้างและฝักทำด้วยไม้สีดำมีปลอกเงินคาดปลายปลอกด้านบนหุ้มด้วยเงิน ใบมีดกร่อนด้วยสนิมแต่ไม่เสียรูปทรงมากนักปลายแหลมงอนขึ้นดังที่เซียนมีดหมอหลวงพ่อเดิมเรียกว่า’’หัวปลาหมอ’’

ไพฑูรย์บอกว่าก่อนจับให้พนมมือรําลึกถึงหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพเสียก่อนและต่อจากนั้นก่อนจะดึงมีดออกจากฝั่งให้ระลึกถึงวิญญาณที่ตายด้วยมีดอาถรรพ์นี้อีกครั้ง

ผู้เขียนก็ทำตามแต่ดึงมีดไม่ออกไพฑูรย์หัวเราะ หึๆ แล้วดึงมีดไปจากมือของผู้เขียนแล้วดันด้ามมีดขึ้นไปข้างบนจนเสียงดังกึก จึงส่งคืนให้ผู้เขียนอธิบายว่า

‘’ คนทำปลอกมีดของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพจะทำร่องไว้ที่ด้านล่างของฝักที่รองรับคมมีดเมื่อสอดมีดเข้าไปในฝักจนหมดใบมีดแล้วให้ดันด้ามมีดลงด้านล่างนิดนึงให้เกิดเสียงดังกึกเป็นการตึงใบมีดให้ติดกับฝักดึงอย่างไรก็ดึงไม่ออกเมื่อจะชักออกจึงดันด้ามมีดขึ้นด้านบนให้ดังกึกจึงจะดึงมีดออกจากฝักได้’’

เป็นอนุสติเตือนเจ้าของมีดให้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อเดิมที่ว่ามีดหมอใช้ได้ทั้งกันและแก้ก่อนจะใช้มีดจึงควรไตร่ตรองให้รอบคอบคนเราเมื่อเกิดโทสะจริตเข้าครอบงำแล้วส่วนมากจะลืมดันด้านมีดขึ้นข้างบนจึงชักมีดไม่ออกทำให้ได้สติว่ากำลังจะใช้มีดหมอในทางแก้มิใช่การป้องกัน อาจลดอำนาจโทสะลงได้ไม่มากก็น้อย

สำหรับไพฑูรย์นั้นบอกว่าจะดันด้ามมีดขึ้นข้างบนเพื่อดึงออกเฉพาะเพื่อป้องกันชีวิตเท่านั้นเหมือนครูดาบที่สอบวิชาดาบที่เมืองตากก่อนจะมาเป็นบุตรบุญธรรมของท่านผู้มีพระคุณสูงสุดในชีวิตที่ว่าจงเก็บดาบไว้ในฝักเสมออย่าชักเข้าชักออก

นักดาบจะชักดาบออกจากฝั่งเพื่อการป้องกันตัวและทุกครั้งที่ดาบออกจากฝักจะต้องได้เลือดเซ่นดาบทุกครั้งจะเป็นอุปทานหรือไม่นั้นผู้เขียนก็ไม่รู้แต่เมื่อมีดเปลือยออกจากฝักแล้วจมูกได้กลิ่นคาวเลือดฉุนกึกตามมาด้วยกลิ่นคล้ายกลิ่นอับอับของกำยานมากระทบจมูกอย่างเเรงรู้สึกขย้อน

ไพฑูรย์ดูเหมือนจับสังเกตได้รีบปลดมีดออกจากมือผู้เขียนยัดคืนเข้าฝักเก็บใส่กระเป๋าหิ้วตามเดิมแล้วพูดกับผู้เขียนว่า ไม่ว่าใครหรอกหากได้จับมีดหมอเล่มนี้แล้วก็เป็นต้องมีอาการเหมือน บ.กนี่แหละมันกลืนชีวิตคนมามากแล้วถ้าเป็นโบราณออกสึกครั้งหนึ่งพอกลับบ้านจะต้องทุบด้ามดาบให้แตกเป็นเคล็ดว่าได้ปล่อยวิญญาณศัตรูที่ตายใต้คมดาบออกไปให้พ้นจึงทำด้ามใหม่

ไพฑูรย์กล่าวเสมอว่ามีดหมอแบบควาญช้างนี้คุ้มชีวิตไพฑูรย์ได้ไว้โดยตลอดไม่ว่าจะในด้านใด จะเป็นมหาอุด คงกระพัน นะจังงังก็ได้ทั้งนั้น

มีดหมอด้ามครูของหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อเดิมเคยบอกกับไพฑูรย์ว่า

‘’เมื่อน้ำเหนือหลากจะล้นบึงบอระเพ็ดเจ้าเมืองนครสวรรค์จะมานิมนต์ให้หลวงพ่อไปลอยเรืออยู่ที่ปากบึงเพื่อใช้มีดหมอสะกดเหล่าจระเข้เหราทั้งปวงให้สงบอยู่แต่ภายในอาณาเขตบึงไม่ให้ออกไปก่อความเดือดร้อนแก่ผู้คนส่วนจระเข้นอกบึงที่มาจากทางเหนือจะไหลตามน้ำไปแต่ไม่ต้องห่วงเพราะหลวงพ่อศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่าท่านเสกหินไว้ตลอดท่าน้ำหน้าวัดจรเข้ไม่ว่าจะเป็นจระเข้อาคมหรือจระเข้ตามธรรมชาติจะลอยขึ้นเหนือน้ำกบดานไม่ได้อ้าปากไม่ขึ้นเล่นงานพระหรือชาวบ้านไม่ได้

ไพฑูรย์บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมนี้ฉมังนักใครมีไว้เหมือนมีอาวุธพิเศษไว้ติดตัว ‘’สัพเพเทวาปีศาเจวะ อันว่าเทวดาฝ่ายมิจฉาทิฐิและภูตผีปีศาจทั้งหลายทั้งปวง ปะรายันติจะพ่ายแพ้แก่อำนาจแห่งมีดอันเปรียบเสมือนประดุจอาวุทสำคัญ 5 ชนิดที่ถือว่ามีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในโลก

วิชามีดหมอนี้หลวงพ่อเดิมได้ถ่ายทอดให้ ศิษย์ 2 องค์คือหลวงพ่อกันวัดเขาแก้วกับหลวงพ่อน้อยวัดหนองโพ (ปัจจุบันมรณภาพไปแล้วทั้งสององค์) สำหรับหลวงพ่อน้อยวัดหนองโพองค์นี้เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองโพสืบต่อจากหลวงพ่อเดิมเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2487- 88

เป็นช่วงสำคัญของประเทศไทยเพราะเป็นระยะเวลาที่หน่วยเสรีไทยสายอเมริกาได้กระโดดร่มลงมาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติการร่วมกับเสรีไทยสายอังกฤษที่มุ่งหน้าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยที่สร้างความพินาศแก่กองทัพรูปพระอาทิตย์ที่มีชื่อว่า ‘’กองทัพงิ’’

เป็นช่วงที่ไพฑูรย์กับสามสหายออกมาร่วมงานกับเสรีไทยทำงานใต้ดินโดยตำรวจเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ถือว่าช่วยชาติ อธิบดีตำรวจ ณ เวลานั้นคือหลวงอดุลเดชจรัสที่มีรหัสเสรีไทยว่า ‘’พูเลา’’

เสรีไทยคนไหนถูกญี่ปุ่นจับแล้วส่งมาให้ฝ่ายไทยจะรอดหมดทุกคนตอนหลังจึงไม่ยอมส่งมาโดยอ้างกฎอัยการของกองทัพพระเจ้าจักรพรรดิที่ว่าหากเหตุเกิดในค่ายทหารหรือในกองบก. ญี่ปุ่นจะต้องถูกพิจารณาโทษตามกฎอัยการศึกของทหารเพราะสนธิสัญญาระหว่างไทยญี่ปุ่นไม่ได้มีกำหนดไว้เสรีไทยส่วนหนึ่งจึงต้องสังเวยชีวิตในค่ายทหารญี่ปุ่นอย่างน่าทุเรศเวทนา

เหมือนไพฑูรย์จะนึกขึ้นได้จึงหวนมาหาเรื่องของมีดหมอควาญช้างโดยเล่าว่าเมื่อตอนที่ไปมอบตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพนั้นได้ยินเรื่องราวของกำนันสมบัติหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่ากำนันรึ นั้นกำนันรึสมบัติเป็นกำนันอยู่บ้านหัวหวาย

เป็นกำนันหนุ่มฉกรรจ์ที่เป็นศิษย์หลวงพ่อเดิมได้มีดหมอควาญช้างไปจากหลวงพ่อเดิมชุดแรก 9 เล่มกำนันรำได้ไป 1 ใน9 เล่มเมื่อจะต้องเดินทางไปไล่ล่าเสือปล้นฆ่าชาวบ้านหรือพวกโจรขโมยควายที่ทางการได้ขอให้ไปช่วยกำนัน จะมีปืนพาราเบลลั่มพกติดเอวไปด้วย

สมัยก่อนโน้นใช้ขี่ม้าหรือไม่ก็นั่งเกวียนแต่บรรดาตำรวจที่ออกไปปราบโจรมักเอารถแวะมารับกำนันรำถึงบ้านพอรถออกก็ไม่มีอะไรแต่พอใกล้จะถึงจุดที่จะปะทะนายตำรวจสั่งเตรียมพร้อมกำนันสมบัติจะลุกขึ้นรำป้อลอยหน้าลอยตาเหมือนกับว่าการเข้าไปจับเสือร้ายที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันเหมือนกับกำลังจะขึ้นเวทีรำวงทั้งนี้เพราะกำนันรำนั้นเชื่อมั่นในอำนาจพระพุทธคุณมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่ติดตัวมาเพราะมีประสบการณ์มามากในการเผชิญหน้ากับเสือร้าย

ตามั่ง บ้านหัวหวายเล่าให้ไพฑูรย์ฟังว่าที่นับว่าเป็นเรื่องที่ทำกำนันรำมีชื่อเสียงก็คือการเข้าไปปราบเสือชุ่มที่ลักพาตัวนางสาวเกสรลูกสาวเศรษฐีแจ้ง ไปเรียกค่าไถ่ตำรวจออกติดตามข่าวจนพบว่าเสือชุ่มพานางสาวเกสรไปกักไว้ที่ท้ายเขาพนมรอกจึงวางแผนเข้าจับกุมกำนันรำไปร่วมด้วยช่วยกัน รำเฉิบๆ ไปกับตำรวจผู้หมวดที่เป็นหัวหน้าชุดร้องบอกกำนันสมบัติที่กำลังรำป้อว่า

‘’น้ากำนันเลิกรำได้แล้วล่ะใกล้ถึงจุดปะทะแล้วเดียวโจรมันสาดกระสุนใส่ถูกเข้าจะยุ่งกันใหญ่’’

จ่านิดต้องสะกิดผู้หมวดหนุ่มหน้าใหม่พึ่งจบมาหมาดๆให้หยุดพูดทันทีโดยพูดกับผู้หมวดหนุ่มว่า

‘’อย่าไปยุ่งกับกำนันสมบัติเลยครับแกมีฉายากำนันรำเพราะไม่ว่าแกจะไปปะทะกับวายร้ายที่ไหนแกก็จะรำอย่างนี้แหละแกชื่อในมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่แกพกติดตัวมาด้วยครับผู้กอง’’

พูดยังไม่ทันจบคำดีเสียงกำนันรำก็สวนควันทันที
‘’ขอบคุณมากครับผู้กองไม่ต้องห่วงผมหรอกครับว่าแต่ว่าเตรียมอาราธนาของขลังไว้หรือยังสำหรับผมแล้วมีดหมอควาญช้างของหลวงพ่อเดิมที่ผมพกมาคือเกราะเพชรป้องกันชีวิตผมไม่เชื่อเดี๋ยวคอยชมเอาเอง’’

ตามั่งบ้านหัวหวายเล่ามาถึงตรงนี้แล้วหยุดยืนแขนที่มีขนลุกซู่ให้ดูก่อนจะเล่าต่อ ตำรวจเข้าล้อมบ้านเป้าหมายสายสืบทำงานได้ดีผู้กองหนุ่มสั่งกระจายกำลังเข้าโอบล้อมบ้านเป้าหมายอย่างเงียบเชียบ

เมื่อทุกอย่างเข้าที่ผู้หมวดได้ยื่นคำขาดด้วยการตะโกนให้เสือชุ่มมอบตัวแต่คำตอบคือลูกปืนตำรวจหลบเข้าที่กำบังกันอุตลุดเสียงกำนันรำร้องตะโกนว่า

‘’บุกโว้ย เสียเวลาหมอบๆ หลบ ๆ’’

พูดจบกำนันรำวิ่งเข้าหาบ้านเป้าหมายมันน่าแปลกก็คือลูกปืนที่คนร้ายยิงมาแบบไม่เลี้ยงไม่มีนัดไหนแผ้วพานร่างของกำนันได้สักนัดเดียวผู้หมวดร้องสั่งด้วยเสียงอันดังกว่ายิงคุ้มกันกำนันรำแล้วบุกเข้าหาเป้าหมายเร็วเข้า บุกเข้าไป!

การต่อสู้อย่างหนักเปิดขึ้นกำนันรำวิ่งออกไปทางด้านหลังปล่อยให้ตำรวจบุกเข้าไปช่วยตัวประกันในบ้านและจัดการศพลูกน้องเสือชุ่ม

ผู้กองให้ตำรวจแม่นปืนตามหลังกำนันรำไปติดติดภาพที่ได้เห็นคือกำนันรำกับเสือชุ่มเดินถือปืนเข้าหากันสาดกระสุนใส่กันหูดับตับไหม้ แต่กำนันถือว่าเป็นกำไรชีวิตเสียงปืนขาดเสียง ร่างที่พรุนไปด้วยรูกระสุนของเสือชุ่มถูกส่งไปตายโรงพยาบาล กำนันรำถูกยิงเข้าที่สำคัญแต่ไม่เข้าซักนัดมีแต่รอยช้ำเป็นจ้ำๆด้วยแรงปะทะผลของกระสุนจากปืนเสือชุ่ม

ไพฑูรย์ปิดท้ายว่ามีดหมอควาญช้างเป็นมีดรุ่นแรกที่หลวงพ่อเดิมสร้าง ก่อนที่จะลดขนาดลงมาเป็นมีดปากกากะทัดรัดพกพาสะดวกจิ๋วแต่มีพลานุภาพเสมือนมีดหมอควาญช้างขนาดใหญ่ที่หลวงพ่อสร้างยุคแรกทุกประการ ไพฑูรย์สรุปท้ายว่า มีดหมอมีสร้างกันหลายสำนักแต่ไม่ดังคับฟ้าเหมือนมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่ยังคงความเป็นอมตะตลอดกาล

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณคลิปจาก : สองยาม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: