3658. มีดหมอหลวงพ่อเดิมปะทะดาบล้างอาถรรพ์ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ไพฑูรย์เล่าว่าคราใดที่ถูกจองจำ ห้าสถาน อันประกอบด้วยข้อมือสองข้างโยงไปที่มือและข้อเท้าสองข้างถ่วงด้วยลูกตุ้มตรวนจะเดินเหินลำบากต้องลากขาสองข้างไปตามทาง เดินเสียงโซ่ลากพื้นดังแกรกๆ

ทั้งนี้เพราะไพฑูรย์เคยเอาปากกาขว้างใส่ผู้พิพากษาและอัยการถูกเพิ่มโทษ และทางเรือนจำได้ตัดสินใจจองจำห้าสถานระหว่างเดินทางจากเรือนจำไปศาลเพื่อมิให้ละเมิดศาลได้อีก

การกระทำดังกล่าวเป็นการย้อนยุคไปในยุคที่ยุคที่ทางกรมนครบาลใช้การสอบสวนผู้ต้องหาด้วยการทรมานที่เรียกกันว่า ‘’จารีตนครบาล’’

ถ้ามีเวลาไปพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับคุกมหันตโทษได้ที่เรือนจำบางขวางจะเห็นเครื่องทรมานผู้ต้องหาให้รับสารภาพ อาทิ การตอกเล็บ คือการเอาเข็มขนาดใหญ่ตอกเข้าไปในจมูกเล็บ เอาเครื่องบีบขมับมาบีบขมับผู้ต้องหา การใส่ตรวน กำกับการใช้ขื่อคาที่คอและข้อมือผู้ต้องหา การสักหน้า การแห่ประจานฯลฯ

ความเจ็บปวดทรมานทำให้ผู้ต้องหาทนไม่ไหวก็รับสารภาพ

แต่แล้วไพฑูรย์ ก็ต้องมาโดนจารีตนครบาลที่พระบาลสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงทางยกเลิกที่ทางเรือนจำบางขวางจนได้นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ตัดสินใจตั้งใจเป็นหนึ่งว่าจะแหกคุกทุกครั้งหากมีโอกาสทำได้ และก็ได้ทำสมใจอยาก หากหนีไปไม่รอดก็กลับมาพบกับการโบย การซ้อมสองสลบ สามสลบ

ทุกครั้งที่โดนอาญาเถื่อน ก็ทำให้ไพฑูรย์เพิ่มความแค้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ จนจิตใจเกิดความเหี้ยมโหดจนถึงที่สุด

อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อนเป็นดินแดนที่มีผู้กล้ามากมายสืบเชื้อสายกันมาจนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นคำพูดที่สืบกันมาว่า ‘’กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี’’

เริ่มจากพระบามสมเด็จพระศรีสุริโยทัยวีรสตรีที่สละพระชนม์ชีพเอาพระวรกายรับคมง้าวของพระเจ้าแปรจนขาดคอช้างเพื่อให้สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงรอดพระชนม์ชีพจากของ้าวของพระเจ้าแปร

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช(พระองค์ดำ)ทรงกอบกู้เอกราชแห่งกรุงศรีอยุธยาด้วยการทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชาที่ดอนเจดีย์

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชของประเทศไทย หลังจากกรุงศรีอยุธยาถูกเผาเป็นเถ้าถ่านสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีใหม่

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมราชาธิราชแห่งกรุงรัตนโกสินร์ ทรงทำให้ประเทศสยามพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและฝรั่งเศสด้วยวิเทโศบายด้านต่างประเทศ

ไพฑูรย์ว่าผู้ใดไม่น้อมรำลึกถึงมหาบารมีของพระมหากษัตริย์ทั้ง3พระองค์นี้ ในกมลสันดานแล้วเป็นคนไทยเพียงแต่ชื่อ แต่หัวใจและเลือดเนื้อหาใช่คนไทยไม่ เพราะทั้ง 3พระองค์ทรงพระคุณอันใหญ่หลวงต่อชาวไทยเป็นล้นพ้น

จากลานเทไปซ่อนตัวอยู่ที่ตำบลมหาราชกับกำนันสมาน ที่พี่เสงี่ยมได้เคยแนะนำให้ไปพึ่งเมื่อเดือดร้อนเพราะกำนันสมานเป็นญาติกับพี่เสงี่ยมการแนะนำตัวก็ไม่ยาก

พี่เสงี่ยมจะบอกรหัสติดต่อที่รู้กัน เมื่อไพฑูรย์พูดกับกำนันสมาน กำนันก็ร้องอ้อแล้วให้ไปพักในที่สำหรับรับแขกพิเศษที่มาขอพึ่งพาอาศัยในสวนกล้วยน้ำว้าที่ห่างไกลผู้คน

กำนันสมานคนนี้สืบเชื้อสายมาจาก ‘’เสืออ่วม อกโรย’’ ขุนโจรชื่อดังเมื่อต้นรัชสมัยพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมมหาราชาธิราชที่ท่านเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน

เสืออ่วม อกโรย ออกอาละวาดปล้นฆ่าจนเป็นที่ครั่นคร้ามของบรรดาชาวกรุงเก่าเลยไปบางเสด็จ,ป่าโมก ไปจนถึงวิเศษชัยชาญ กรมการเมืองกรุงเก่าถูกเรียกมาพบกับท่านเจ้าพระยาฯ ได้ซักไซ้ไล่เรียงจนได้ความแน่ชัดจึงสั่งให้กรมพระนครบาลนำกำลังออกไปปราบเสืออ่วมอกโรยทั้งทางน้ำและทางบก ท่านเจ้าพระยาฯ นำกำลังไปเสริมอีกหน่วยหนึ่ง

เสืออ่วมไม่คิดว่าทางการจะระดมกำลังปราบ จึงไม่ได้ระวังตัวเท่าที่ควร มัวเพลินกับลูกสาวชาวบ้านที่ปล้นฆ่าบิดาแล้วฉุดลูกสาวมาทำเมีย ถูกกำลังนครบาลที่ตั้งด่านสกัดรวบตัวได้ขณะกำลังเปลือยกายสาวร้องบอกให้ทางนครบาลรู้ว่าเป็นเสืออ่วม เสืออ่วมถูกขังไว้รอท่านเจ้าพระยาฯมาทำการพิจารณาคดี

ท่านเจ้าพระยาสั่งให้กรมการเมืองกรุงเก่านำพยานมายืนยันมั่นเหมาะ ศาลขณะนั้นมิได้พิจารณาคดีแบบปัจจุบัน ท่านเจ้าพระยาฯ ตัดสินให้ประหารชีวิตซึ่งตามปกติเป็นการตัดหัวให้มีคนมาดู เมื่อตระเวนน้ำตระเวนบกแล้วก็นำตัวไปประหาร

แต่การประหารคราวนี้เป็นการใช้ขวานผ่าอกแทนการตัดคอ บรรดาญาติพี่น้องของเสืออ่วมต่างพากันไม่ดำเนินรอยตาเสืออ่วม เป็นคนดีสืบเชื้อสายอกโรยที่เป็นถึงกำนัน

กำนันสมานกำชับไพฑูรย์ให้อยู่แต่ในที่พักห้ามออกไปเที่ยวเล่น เพราะหากถูกจับชื่อเสียงของแกจะพังหมด ไพฑูรย์รับปากเพราะเกรงใจทั้งกำนันสมานและพี่เสงี่ยม ได้แต่นั่งๆนอนๆ

จนเช้าวันหนึ่งมีคนมาตามให้ไปบ้านกำนันสมาน พอไปถึงก็พบกำนันสมานนอนบาดเจ็บถูกฟันเข้าที่ต้นแขน กำนันสมานบอกว่าเสือปลั่ง บ้านสามบัณฑิต ใช้ดาบอาคมฟันจนบาดเจ็บขณะบุกเข้าจับกุม

ไพฑูรย์เอามีดหมดหลวงพ่อเดิมออกมา เอาด้ามฝนกับฝาละมีหม้อดิน เอาน้ำล้างใบมีดหมอผสม นำไปทาแผลแก้อาถรรพ์ เพราะปากแผลเขียว แผลกำลังจะเป็นแผลกลาย สามวันแผลก็เป็นปกติ กำนันสมานออกปากว่าเคยได้ยินชื่อมีดหมอหลวงพ่อเดิม แต่ไม่เคยรู้มีสรรพคุณเพียงนี้

ไพฑูรย์ได้บอกเส้นทางไปรับมีดหมอหลวงพ่อเดิม แล้วกระซิบบอกกับกำนันสมานว่าจะตามล้างแค้นให้เอง

กำนันสมานห้ามเสียงหลงเพราะดาบอาคมของเสือปลั่งทำลายอาถรรพ์ ไม่ว่าจะเป็นรอยสักหรือเครื่องรางต่างๆมามากต่อมาก

แต่ไพฑูรย์บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมก็จะล้างอาถรรพ์เสือปลั่งเหมือนกัน

กำนันสมานให้ลูกชายไปหยิบดาบอรัญญิกที่ดีขึ้นจากเหล็กน้ำพี้ผสมทองแดงยอดนพศูล กับเหล็กอรัญญิกเดิม หลอมแล้วจึงตีขึ้นรูปตีแล้วจุ่มน้ำผสมน้ำพระจันทร์เพ็ญเดือน12 ตอนเที่ยงคืนเพื่อให้เนื้อเหล็กผ่านร้อนผ่านเย็นเป็นร้อยเป็นพันครั้งเกิดความเหนียวไม่เปราะง่ายเหมือนที่ตีจากเหล็กน้ำพี้บ่อพระแสงที่คมจริง แต่ใช้ต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆจะเกิดความร้อนและเปราะหักง่าย

ไพฑูรย์ถือโอกาสลากำนันสมานแล้วเดินทางไปกับลุงสนิท มือขวาของกำนันสมานเป็นคนแกะรอยเก่งเป็นสายสืบเก่า แต่ลาออกมาช่วยกำนันสมานเพราะเป็นคนที่มีเชื้อสายอกโรยเหมือนกัน

สืบจนได้ที่ว่าเสือปลั่งจะปลอมตัวมาเล่นพนันไก่ชนที่บ้านอรัญญิกทุกวันโกน บ่อนไก่เปิดจนปิดเสือปลั่งได้เงินพนันมากโขเอาใส่ย่ามไว้เดินมาที่ลานโพธิ์หลังบ่อน เป็นที่ๆลุงสนิทนัดให้เสือปลั่งมาประลองเพลงดาบ เสือปลั่งเห็นเสือไพฑูรย์ถือดาบเดี่ยว ก็โยนดาบเล่มหนึ่งให้ลูกน้องถือไว้

‘’ไอ้หน้าอ่อนแว่นตาดำ(ไพฑูรย์ใส่แว่นตาดำอำพรางใบหน้าตลอด) แน่ใจนะว่ารับมือไหว ให้เลือกว่าพอเอาเลือดตกยางออกหรือเอาถึงตายล่ะ’’

‘’ประลองแค่เลือดตกยางออกก็พอแล้ว’’

ไพฑูรย์ถอดแว่นตาดำส่งให้ลุงสนิท ดาบประดาบ ไพฑูรย์ใช้เชิงกระบี่กระบองที่เรียนมาจากบ้านเกิดจังหวัดตาก ผสมกับที่อาจารย์กี้สอนตอนที่เป็นนักเรียนประยุกต์เข้าด้วยกัน เสือปลั่งใช้เพลงดาบแบบรุกฆาต เป็นการใช้ดาบตะลุยฟันแบบม้วนเดียวจบหูได้ยินคำสอนของอาจารย์กี้ที่ว่า

‘’เจอดาบแบบรุกฆาตอย่าไปตกใจให้รับมือให้ดี ยั่วให้ฟันเหงื่อตกแล้วรุกคืนช้าๆมันโต้ตอบไม่ได้ถนัดหรอก เพราะดาบรุกฆาตนั้นหากไม่อาจทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้แล้วละก็จะตกเป็นรองทันที’’

ไพฑูรย์รับถอยหลอกล่อไปมา คมดามอาถรรพ์ของเสือปลั่งได้แต่เพียงเฉียดไปมาแบบขนลุกเพราะไพฑูรย์ระวัง ครู่ใหญ่แรงที่ฟันเข้ามาเริ่มอ่อนลง ไพฑูรย์รุกกลับด้วยการฟันสลับบนล่างและในที่สุดดาบลวงพรางก็สำแดงเดช

ดาบลวงพรางเป็นดาบที่เรียกกันว่าดาบครึ่งเพลง หมายถึงทำทีเป็นโถมฟันบนแล้วยั้งฟันตวัดขึ้นทำให้คู่ต่อสู้รับมือไม่ถนัดดาบลวงพรางสำแดงเดชผล

เมื่อไพฑูรย์ฟันแบบฝานบวบ คือฟันจากบ่าซ้ายตัดหน้าอกไปออกชายโครงขวาเสือปลั่งยกดาบขึ้นกันบนไพฑูรย์พลันยั้งมือแล้วฟันข้องอ้อยคือการฟันตรงแบบฟันลำอ้อย

เสือปลั่งลดดาบลงมากันไม่ทันไพฑูรย์ใช้ปลายดาบฟันชายโครงเสียงดังบึก เสือปลั่งเหนียวจริง แรงฟันทำให้เสือปลั่งเสียหลัก

ไพฑูรย์เข้าระยะประชิดมือซ้ายดึงมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่เอวออกมาสะบัดปลอกออก แทงให้เฉียดชายโครงเสือปลั่ง อำนาจมีดหมอทำลายอาคมเสือปลั่ง เสือปลั่งปล่อยดาบหลุดมือเอามือกุมเอวที่เลือดทะลักออกมา

‘’มึงใช้มีดอะไรวะไอ้แว่นดำ’’

‘’มีดหมอหลวงพ่อเดิมเอาแค่นี้พอแล้ว’’

ไพฑูรย์เอามีดหมอฝนกับหินลับมีด เอาน้ำประสะไปทาบาดแผลถอนอาถรรพ์มิให้แผลกลาย แล้วเดินทางหนีต่อไป ฝากดาบให้ลุงสนิทคืนให้กำนันสมานจากนั้นอีก 3 เดือนก็ได้ข่าวว่ากำนันสมานยิงเสือปลั่งตายขณะต่อสู้ เพราะนับแต่ถูกไพฑูรย์แทงเนื้อหนังที่เคยแกร่งเป็นหินของเสือปลั่งก็หมดสรรพคุณ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ภาพยนต์เรื่อง อันธพาล
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: