595. ขุนพันธ์ ตอนเสือย่อม…โจรโฉดชัยนาท

คืนวันที่เสือย่อมเข้าปล้นบ้านกำนันเภา ผู้ใหญ่บ้านนางลือได้รีบเร่งรุดไปเเจ้งความกับ พ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่กว่าผู้กำกับจะยกกำลังมาช่วยเหลือก็เป็นตอนสายวันรุ่งขึ้น บ้านกำนันก็เหลือเเต่เถ้าถ่าน ขุนพันธ์จึงจัดการนำศพของกำนันเภาและนางสาวเปรยเอาไปฝังที่ป่าช้าวัดนางลือ และไม่ลืมจะจัดเซ่นวิญญาณผีตายโหงทั้งสอง ช่วยชักนำให้ตามไปพบไอ้เสือย่อม จากนั้นขุนพันธ์รอคอยการติดต่อกับ ”สาย” และนายเชื้อ ว่าไอ้เสือปล้นมันไปหลบที่ใด…

นายเชื้อกับคนของขุนพันธ์ก็ร่วมเข้าปล้นบ้านกำนันเภาแต่ไม่สามารถบอกข่าวเรื่องนี้ให้ท่านผู้กำกับทราบได้ ครั้นเมื่อตอนเข้าปล้นก็ยิงส่งเดชเพื่อตบตาเสือย่อม หลังจากการปล้น…เสือย่อมกับสมุนไปหลบอยู่ในป่าไผ่ขุยบ้านดอนกฐินสวรรคบุรี แต่ก็มีบางส่วนแบ่งทรัพย์สินที่ปล้นมาได้กลับบ้านของเเต่ละคนแสร้งทำเป็นคนดีมีสัมมาอาชีพเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

ในป่าไผ่ขุย…พวกโจรช่วยกันสร้างเพิงข้างๆ จอมปลวกใหญ่อันร่มรื่นให้เสือย่อมกับบรรดารองหัวหน้า 2 คน คือ เสือบับ เสือช่วย ใช้นอนสูบฝิ่นเป็นที่สำราญ ความเลวทรามของไอ้โจรก๊กนี้ เมื่อพวกมันเข้ามาอยู่ในป่าไผ่มันได้ออกปล้นสะดมแล้วฉุดคร่าหญิงสาวมาถึง 7 คน มาบังคับบำเรอกามแก่มัน

ที่กลางดงไผ่ เมื่อปัดกวาดใบไผ่แห้งออกไปก็พอใช้เป็นที่พักสบาย ๆ พวกสมุนโจรต่างเลือกมุมตามความพอใจ มีมุ้งถึง 7 มุ้งเพื่อใช้หลับนอนตอนกลางคืน และเป็นวิมานโลกีย์ ที่หลบซ่อนแห่งนี้ใช่ว่าเสือย่อมใช้เป็นที่หลับนอนอย่างถาวร มันเป็นที่ซ่อนตัวชั่วคราว เพราะเป็นทำเลแยบยลยากจะเข้าถึงตัวพวกมันได้ง่าย อีกอย่างหนึ่งกอไผ่อันสลับซับซ้อนแน่นขนัดเป็นกำบังอย่างดีในการปะทะยิงกับเจ้าหน้าที่บ้านเมือง

วันนั้น…เสือย่อม เสือบับ เสือช่วย นอนเอกเขนกสุบฝิ่นอย่างสำราญ ภายใต้เพิ่งพักข้างจอมปลวก นายเชื้อกับสายลับเห็นเป็นจังหวะดีรีบหลบออกจากดงไผ่ตรงดิ่งรายงานให้ขุนพันธ์ได้ทราบ
เพียงไม่กี่ชั่วโมง พ.ต.ต.ขุนพันธ์นำกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งตรงไปยังดงไผ่ นายเชื้อชี้ช่องทางและอธิบายว่าจะมุดรอดเข้าไปถึงตัวเสือปล้นได้อย่างไร

ขุนพันธ์ต้องการจับเป็นเสือย่อม จึงไม่ใช้ปืน หากใช้ดาบคู่มือแทนปืนสั้นรีวอลเวอร์ใส่ซองอยู่ข้างเอว มุดเข้าช่องทางนำตำรวจเข้าไป ช่องทางที่จะเข้าไปกลางดงไผ่นั้นรกรุงรังด้วยพงหนามหนาทึบ เสือย่อมไม่ยอมหักฟัน เพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตของคนอื่นและคนอื่นเข้าหาพวกมันก็ลำบากด้วย นับว่าไอ้เสือฉลาดรอบคอบไม่เบาทีเดียว ขุนพันธ์ต้องใช้วิธีเข้าไปแบบเดียวกับไอ้เสือ คือมุดเข้าดงไผ่และบางครั้งต้องคลานตามทางรกด้วยความระมัดระวัง

ผู้กำกับการฯ เมืองชัยนาททะลุออกเป็นคนแรก คลานเข้าไปหมอบอยู่ข้างๆ จอมปลวก มองเห็นพวกสามเสือนอนหลับอยู่บนเสื่อภายในเพิงห่างออกไปสามวากว่า เขากะจับไอ้เสือย่อมเป็นๆ ด้วยการใช้ดาบฟันที่น่องของมัน เพื่อไม่ให้มันหนีไปได้ จึงรอให้ลูกน้องคลานออกมาให้ครบบุกเข้าจับทีเดียว

พลฯ สุชาติ คลานตามออกมาและเข้าหาที่กำบังพร้อมยิง ร.ต.ท.บูรณะคลานตามมาติดๆ โดยลากปืนกลมือแบลคมันตามหลังมาด้วย บังเอิญสายสะพายปืนเกี่ยวติดกับเรียวหนามปลดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลุดหมวดบูรณะจึงกระชากเต็มเเรง พุมหนามไหวยวบ เกิดเสียงดังกราว! เสือย่อมประสาทไวเกินคาดทั้งๆ ที่สูบฝิ่นเข้าไป มันตะโกนดังลั่น…

”ตำรวจ!”

ไม่มีการเตือนเป็นครั้งที่สอง! ไอ้เสือที่อยู่บนเพิงกลิ้งตัวหลุนๆ เข้าหากอไผ่อย่างชำนาญ ผ้าขาวม้าที่นุ่งอยู่หลุดลุ่ยไปเหลือเเต่ตัวเปล่าโทงๆ ส่วนสมุนเสือย่อมที่แยกย้ายกันนั่งๆ นอนๆ บางคนขลุกกับผู้หญิงอยู่ในมุ้งผวาเข้าคว้าปืนยิงใส่ตำรวจสนั่นหวั่นไหว

ฝ่ายขุนพันธ์ก็ยิงโต้ตอบกลับไปทันควัน แต่ชัยภูมิของเหล่าโจรดีกว่า มีกอไผ่สลับซับซ้อนเป็นกำบังให้พวกโจร พวกมันยิงไปถอยไป ฝ่ายตำรวจยิงสุ่มๆ ตามหลังไป ยิงกันประมาณ 15 นาที โจรหนีหายไปหมด พร้อมกับฉุดเอาผู้หญิงของมันไปด้วย

พ.ต.ต.ขุนพันธ์เข้าตรวจที่เกิดเหตุโดยละเอียด พบรอยเลือดสาดติดใบไม้หลายแห่ง แสดงว่าพวกโจรต้องถูกยิงบาดเจ็บหลายคน จะติดตามก็ไม่ได้ เพราะป่าไผ่รกทึบมีอาณาเขตกว้างใหญ่ผลีผลามตามไปอาจพลาดท่าได้

จึงได้รวบรวมหลักฐาน ได้มุ้ง 7 หลัง ผ้าถุงผู้หญิง 9 ผืนชุดชั้นในผู้หญิง 3 ตัว เข็มขัดเงิน 7 สาย เข็มกลัดร้อยสตางค์แดงสายละบาทสองบาทหลายเส้น และทรัพสินอื่นๆ อีกมากที่พวกไอ้เสือปล้นมาจากกำนันเภา ของที่ยึดมาได้ถูกส่งคืนให้เมียกำนันเภาทั้งหมด! การตามล่าตามล้างไอ้เสือย่อมยังมีต่อเนื่อง อีกสามวันต่อมา ตำรวจได้รับเเจ้งว่า พบศพผู้ร้ายนอนตายอยู่ใกล้ๆบ้านนางลือ มีรอยถูกยิงอย่างฉกรรจ์ แต่ไม่รู้เป็นใคร เพราะถูกแร้งลงกินจนจำหน้าตาไม่ได้

”สาย” ของขุนพันธ์ได้รายงานให้ทราบ มีลูกน้องของเสือย่อม 3 คนหนีมากบดานที่บ้านนางลือ มี ไอ้จุน ไอ้แดง ไอ้วอน

เย็นของวันที่ 14 พฤศจิกายน ขุนพันธ์นำกำลังตำรวจเข้าจับกุมไว้ได้ทั้งสามคน และคุมกันนำส่งจังหวัดในวันนั้นเเต่…ขณะที่ผ่านป่าละเมาะทึบใกล้วัดมหาชัยตอนสามทุ่มพวกของเสือย่อมทราบข่าวได้มาดักซุ่มเพื่อชิงตัวผู้ต้องหา พวกมันเปิดฉากยิงเข้าใส่ตำรวจก่อน ขุนพันธ์และลูกน้องกระจายออกยิงสู้ ไอ้วอนถือโอกาสนั้นเผ่นหนีเข้าป่าด้านที่พรรคพวกเข้ามาช่วย ยิงปะทะเพียงชั่วครู่ ผู้ร้ายถอยหนีไป ขุนพันธ์นำเสือแดง เสือจุน เดินทางต่อไปถึงจังหวัด

วันรุ่งขึ้น… พ.ต.ท.ขุนพันธ์มาตรวจสถานที่เกิดเหตุที่คนร้ายพยายามแย่งชิงผู้ต้องหา พบเสือวอนนอนตายเป็นผีอยู่ป่าข้างทางไม่ทราบลูกปืนจากฝ่ายใด พรรคพวกคงเห็นว่าไปไม่รอดจึงปล่อยให้ตายอยู่ตรงนั้นเอง

”มือปราบหนังเหนียว” ไล่ล่าเสือย่อมจนกลายเป็นเสือเจ็บ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าเขตสุพรรณบุรี ในแดนอิทธิพลเสือฝ้าย
สถานการณ์ของโจรผู้ร้ายในเขตชัยนาทเริ่มลดลง เสือปล้นหัวหน้าโจรต่างๆ พากันหลบหัวซ่อนหางเงียบ เพราะมันรู้ดีว่า หากออกอาละวาดเมื่อไรเป็นต้องเจอกับมือปราบมหากาฬอย่าง ”ขุนพันธรักษ์ราชเดช” อย่างแน่นอน

เเต่เสือย่อมเป็นเสือ เมื่อยามหิว มันก็ต้องออกจับเนื้อมากินเป็นอาหาร!เฉกเช่นกับคนที่มีความชั่วเกาะกุมอยู่อย่างเหนียวแน่นในเบื้องลึกของจิตใจ ความชั่วนั้นเปรียบประหนึ่งดังสัตว์ร้ายที่ถูกขังกรงเอาไว้…มันย่อมโกรธเเค้นดิ้นรนที่จะออกมาจากกรงขังให้ได้ในวันหนึ่งวันใด!และวันใดที่กรงขังถูกเปิดออก…วันนั้นสัตว์ร้ายย่อมออกอาละวาดตามกมลสันดานดั้งเดิมของมัน!

วันที่ 13 เมษายน 2489 เป็นวันสงกรานต์
พ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้รับรายงานจาก ”สาย” ชื่อนายอองว่า เสือย่อมกับลูกน้องระดับรองหัวหน้ามี เสือเข้ม สีพวง เสือฉิ่ง เสือหรีด เสือเห้ย เสือขาว และลูกน้องชั้นปลายแถวอีก 30 คน นัดเลี้ยงฉลองงานสงกรานที่บ้านกำนันฟูอยู่บ้านดงดอน สรรคบุรี..ในงานนี้เสือย่อมบังคับชาวบ้านนำเงินมาลงขันให้มันด้วย!

ขุนพันธ์ฯ จัดกำลังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจสรรคบุรี ร่วมกับปลัดอำเภอนายอำเภอออกถล่มกับพวกเสือย่อม โดยเเบ่งกำลังเป็น 5 สาย สายเเรกผู้กำกับการฯ พร้อมตำรวจ 9 นายเป็นหน่วยจู่โจมเข้าบ้านกำนันฟูอีกสี่ทางให้ชุ่มดักทางหนี 4 ทิศ หากพวกโจรเตลิดหนีไปทางใดให้เเต่ละสายจับตายได้ทันที!

เวลา 11.00น. ขุนพันธ์นำกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบ 9 นาย เดินเข้าหมู่บ้านเเสร้งส่งเสียงไชโยโห่ร้องเอะอะเหมือนชาวบ้านทั่วไป และร่วมสาดน้ำสงกรานต์ด้วย

ขณะนั้น พลฯ ดี สุขเรียน ทำแผนแตกเสียก่อนด้วยการทำปืนลั่นขึ้นหนึ่งนัด

ขุนพันธ์เลยต้องสั่งให้ทุกคนเร่งรีบเดินทางไปบ้านกำนันฟูพอดีมีผู้หญิงวัยกลางคนเดินสวนมา ท่านขุนฯ จึงสอบถามว่า

”ที่บ้านกำนันฟูมีงานอะไร”

”กำนันทำบุญกระดูกพ่อแม่ในวันสงกรานต์” พูดเสร็จเธอรีบจ้ำอ้าวไป

เมื่อขุนพันธ์กับลูกน้องมาถึงลานด้านหน้าเรือนกำนัน เห็นบนเรือนเงียบเชียบไม่มีวี่แววของคนอยู่ เห็นท่าไม่ดี ผู้กำกับการฯสั่งกระจายกำลังออกไปอย่ารวมกลุ่มเป็นเป้าให้โจรส่องยิงเอาง่าย
มือปราบพระกาฬเดินเข้าใกล้เรือนกำนัน ฉับพลัน….

ปัง ปัง ปัง ๆๆๆ

เสียงปืนดังรัวสนั่นมาจากดงทึบข้างเรือน ขุนพันธ์ตะโกนสั่งให้ลูกน้องหมอบและยิงต้านเอาไว้ตำรวจทุกคนเผ่นลงนอนราบกับพื้น พร้อมกับสับไกเข้าไปในดงไม้เบื้องหน้าที่โจรใช้เป็นที่กำบัง กระสุนปืนของโจรถูกดินจนฝุ่นตลบไปหมด

ขุนพันธ์ยืนปักหลักยิงสู้กับโจรโดยใช้เสาเรือนเป็นที่กำบังเห็นโจรคนหนึ่งโผล่ขึ้นในดงไม้จึงยิงเข้าใส่ กระสุนทะลวงเข้าท่อนขามันถึงกับหัวทิ่ม แต่มันก็ทนทายาดทะลึ่งลุกขึ้นมาได้อีกแล้วเผ่นเข้าดงลึกหนีไป

เสียงปืนจากฝ่ายโจรในดงไม้เงียบหาย แต่ตำรวจไม่กล้าลุกขึ้นกลัวเป็นกลลวง เวลาผ่านไปสักครู่ใหญ่ ได้ยินเสียงปืนดังสนั่นทางด้านท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดตำรวจอีกสายหนึ่งซุ่มสกัดไว้
ขุนพันธ์กระโดดขึ้นเรือนกำนันฟู พบเเต่คนแก่คนหนึ่งฟุบหน้าบนพื้นห้อง ตอนเเรกคิดว่าถูกปืนตาย แต่ไม่เห็นรอยเลือดจึงดึงแขนให้ลุกขึ้น สอบถามได้ความว่า แกเป็นชาวบ้านไม่ใช่พวกโจร พร้อมกับเล่าต่อไป…

”เสือย่อมกับพวกได้ยินเสียงปืนลั่นขึ้นหนึ่งนัด จึงรีบลงจากเรือนไปหมด ตัวกำนันเองก็เผ่นหนีตามพวกโจรไปด้วย”

ครั้นพวกตำรวจเข้าค้นเรือนกำนันฟู พบขันใบใหญ่ใส่เงินหลายพันบาท และสมุดรายชื่อชาวบ้านที่จำใจนำเงินมาลงขันให้เเก่เสือย่อมอีกเล่มหนึ่ง ได้ยึดไว้และจะนำส่งชาวบ้านในภายหลัง

ขุนพันธ์เดินตรวจภายในหมู่บ้าน เห็นชาวบ้านยังหมอบคลานกันอยู่ พอไปถึงวัดดงดอนที่มีงานทำบุญกัน ไม่พบใครแม้เเต่พระเณรสักรูปเดียว เห็นสำหรับข้าวทิ้งเกลื่อนกลาดอยู่กระเด็นคนละทิศละทางทั้งพระและชาวบ้านแตกตื่นหนีกันกระเจิดกระเจิงเมื่อเกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น

ต่อมา…กำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่อำเภอทั้งสี่สายก็เคลื่อนมารวมกันในหมู่บ้าน มีรายงานไม่พบศพคนร้ายสักคนเดียว มีแต่รอยเลือดสาดเต็มไปหมด คาดว่าเพื่อนพาหนี
พักใหญ่ๆ พระเณรและชาวบ้านหญิงชายต่างโผล่หน้าออกมา พร้อมกับเล่าว่า พวกโจรหนีเข้ามาในวัดทะลุออกหลังวัดผ่านไปทางอำเภอ ชาวบ้านพระเณรกลัวโดนลูกหลงไปด้วยจึงเเตกหนีกระเจิงออกมา เพราะกลัวเกิดการยิงกันในวัด

ไอ้เสือย่อมหลุดมือขุนพันธ์ไปอีกจนได้!

ส่วนตอนจบของไอ้เสือย่อมจะเป็นเช่นไรติดตามต่อได้ในวันพรุ้งนี้ครับ

สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถาหัวใจโจร
กันหะเนหะ ฯ
พระคาถาหัวใจโจรนี้ใช้ได้สารพัดทางอยู่คง เสกเหล้ากินก็ได้ เสกว่านกินก็ได้ อยู่คงยิ่งนักแล ฯ

นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: