596. ขุนพันธ์ เสือย่อม…โจรโฉดชัยนาท (ตอนกำนันเภาหนังเหนียว)

คืนวันที่ 25 ตุลาคม 2488

ที่วัดงิ้ว บ้านวัดงิ้ว จังหวัดชัยนาท มีงานสมโภชกฐินของนายสวัสดิ์ คหบดีของหมู่บ้าน

งานสมโภชคืนนี้ เจ้าภาพจ้างลิเกมาแสดงและที่ศาลามีพระธรรมกถึกฝีปากดีมาเทศน์ให้อุบาสิกา และญาติโยมสดับรับฟังด้วย

ลองว่ามีงานวัดเช่นนี้ใครมีเครื่องประดับ สารสร้อย แหวน กำไร เข็มขัดนาก เข็ดขัดทองเท่าไหร่ ย่อมขนใส่โอ้อวดกันแพรวพราวทั่วทุกตัวคน

ลิเกกำลังโหมโรงเร้าใจสาวแก่เเม่ม่ายให้ระทึกระทวยว่าเมื่อไรหนอพระเอกรูปสวยจะออกมาส่วนบนศาลาหลวงพี่นักเทศน์ถือตาลปัตรกับคัมภีร์เพิ่งขึ้นธรรมาสน์ ยังไม่ทันจะกล่าวบูชารัตนตรัยเสียด้วยซ้ำ มองออกไปยังนอกศาลาตรงทางเข้าวัด…

หลวงพี่ต้องหายใจแวบ!

มีชายฉกรรจ์ไม่ต่ำกว่า 30 คนถือปืนยาวสลอน ตาหน้าเข้าวัดมาทั้งกลุ่ม

ถึงไม่ต้องประกาศว่าผู้มากับความมืดทั้งโขยงนั้นเป็นใครหลวงพี่ก็รู้ว่า พวกมันคือเสื้อปล้น และคราวนี้มันปล้นทั้งวัดแน่!

หลวงพี่เดาไม่ผิด เพราะชายฉกรรจ์เหล่านี้คือ ไอ้เสือปล้นจริงๆ โดยมีเสือย่อมเป็นหัวหน้า พร้อมบริวารโจมอีก 35 คน

เสียงปืนดังเปรี้ยงนัดหนึ่งเพื่อข่มขวัญ!

พร้อมประกาศนาม ”เสือย่อม”

หลวงพี่รีบคว้าตาลปัตรกับคัมภีร์โดดเเผล็วจากธรรมาสน์เผ่นหนีจีวรปลิวไปทางหลังวัด

พ่อเฒ่าแม่เฒ่าญาติโยมต่างพากันนั้งตะลึง และกว่าจะรู้ว่าถูกปล้นก็ถูกพวกเสือล้อมเอาไว้หมดเเล้ว

ไอ้โจรเดนคนกวาดเครื่ององค์กฐินและเงินทำบุญ พร้อมกับสมบัติที่ติดกายชาวบ้านที่มาร่วมงานบุญ จนไม่มีเหลือติดตัว

พวกเสือปล้นถอยกลับพร้อมถุงสมบัติที่แบกจนหลังแอ้ นายสวัสดิ์ เจ้าภาพพากันไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กว่าจะไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็ล่วงเข้าไปใกล้รุ่ง เพราะระยะห่างไกลไม่ใช่น้อย

พ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช รู้ว่าเสือย่อมมันยกพวกปล้นองค์กฐินจึงนำกำลังตำรวจมี ร.ต.ต.ศิริชัย กระจ่างวงศ์ จ.ส.ต.ถนอม นพรัตน์ ส.ต.ต.สุชาติ พลฯ ทัน พลฯดี เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที

เมื่อไปถึงวัดงิ้ว ชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายยังอกสั่นขวัญหายและสุดเสียดายทรัพย์สินออกันอยู่เต็มวัด จากการสอบสวนเจ้าทุกข์พอได้เค้าว่ามีผู้ใหญ่ขาวกับนายเชื้อ ท่าระบาด สมคบกับพวกเสือปล้นด้วยมือปราบพระกาฬนำกำลังบุกบ้านผู้ใหญ่ขาว ซึ่งมีบ้านอยู่ข้างวัดหลวงพ่อขาวนั่นเอง ค้นได้ของกลางมีย่าม บาตรตาลปัตร และเครื่องประดับอีกจำนวนหนึ่ง

จากนั้นก็ไปจับนายเชื้อ ท่าระบาด ที่บ้านค้นไปของกลางมีผ้าไตรจีวร และเครื่องอัฐบริขาร พร้อมกับทรัพย์สินของชาวบ้านจำนวนหนึ่งจึงคุมตัวคนทั้งสองไปคุมขังที่โรงพักและทำสำนวนฟ้องต่อศาล

แต่คดีเมื่อไปถึงศาล ปรากฏว่าพยานต่างเกรงกลัวอิทธิพลเสือย่อม ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือภิกษุสงฆ์ เปลี่ยนคำให้การไปช่วยคนร้าย ศาลจึงต้องตัดสินยกฟ้อง ปล่อยคนทั้งสองพ้นผิดไป เอาตัวคนร้ายมาลงโทษไม่ได้ แต่จะให้พวกโจรเดินลอยนวลเย้ยกฏหมาย คนอย่างขุนพันธรักษ์ราชเดช ทำไม่เป็น!

ขุนพันธ์ได้เสนอท่านข้าหลวงปลดผู้ใหญ่ขาวออกจากตำแหน่ง เเล้วไปตามจับนายเชื้ออีก ตั้งข้อหาลักควาย ครั้นจับเข้ามาจริงๆเเล้ว ผู้กำกับฯ มือปราบได้เกลี้ยกล่อมให้นาย ”เชื้อ” เป็นสายให้แก่ทางการ ซึ่งทุกอย่างนายเชื้อยอมตกลง

ผู้กำกับฯ มือปราบส่ง ”สายลับ ” ไปกินนอนอยู่บ้านนายเชื้อ โดยอ้างว่าเป็นญาติห่าง ๆ อยู่ต่างจังหวัด ได้ไปก่อคดีฆ่าคนตายจึงหนีตำรวจมาอาศัยอยู่ด้วย ต่อมานายเชื้อติดต่อเสือย่อมได้ฝากญาติของตนให้อยู่ร่วมชุมโจรด้วย

เสือย่อมเชื่อคำพูดของนายเชื้ออย่างสนิท และยอมรับเข้าเป็นพวกตัวสายลับเองก็ทำตัวสนิทสนมไม่มีใครจับพิรุธได้

วันที่ 12 พฤศจิกายน…

เสือย่อมกับลูกน้องอีก 15 คน ออกจากที่ซ่อนในป่า เพราะหิวฝิ่นเต็มทน พวกไอ้เสือยกทีมมาที่โรงฝิ่นคลองจันทร์ตำบลท่าโบสถ์ในตอนกลางวัน แล้วเข้าไปนอนสูบฝิ่นอย่างสุขสำราญ

ข่าวการมาของเสือย่อมเข้าหูกำนันเภา แห่งตำบลนางลือ เป็นกำนันที่ตงฉินและไม่หวาดหวั่นเสือปล้นโจรร้ายคนใดแกนำลูกน้องคู่ใจ 5 คน ข้ามตำบลนางลือเข้าเขตตำบลท่าโบสถ์ กะว่าจะลุยเข้าจับเสือย่อมในโรงยาฝิ่นกันซึ่งๆหน้า

กว่ากำนันเภาและพวกจะมาถึงก็ล่วงเข้าบ่ายเกือบเย็นพวกไอ้เสือพากันไปก่อนหน้านั้นแ้ลว ทำให้กำนันมือปราบผิดหวังไป

ข่าวกำนันเภาล่าเสือย่อมเข้าหูไอ้ย่อม มันโมโหเดือดดาลและถือว่ากำนันเภาคิดล้างเอาชีวิตมันก่อน เพราะฉะนั้นมันต้องแก้ลำกำนันให้เจ็บเเสบยิ่งกว่า

คืนนั้น…ประมาณตี 2 ชาวบ้านนาลือต่างหลับสนิทอย่างมีความสุข จึงไม่มีใครตื่นขึ้นมาเห็นชายฉกรรจ์มีปืนครบมือกลุ่มใหญ่ มุ่งหน้าตรงมายังเรือนของกำนันเภาชายฉกรรจ์กลุ่มนี้มีจำนวนเกือบ 40 คน มีเสือปล้นลือชื่อเสือย่อมเป็นหัวหน้าโจร

มันมีจุดประสงค์เข้าปล้นบ้านกำนันเภา! แล้วฆ่ากำนันมือปราบทิ้งเสีย!ขบวนเสือปล้นใกล้เข้าบ้านกำนันเภาทุกที หมาสามสี่ตัวใต้ถุนบ้านเรือนใหญ่ของกำนันเห่ากรรโชกระงม

คนในบ้านตื่นนอนฟังเสียง แต่กำนันมือปราบรู้ทันที ความไม่ชอบมาพากลบางอย่างปรากฏขึ้นแน่ รีบคว้าปืนลูกซองแฝดคู่ใจเตรียมพร้อมระวังตัว

ฉับพลัน…ทันใด…เสียงตะโกนลั่นจากนอกเรือนดังขึ้น…

”ไอ้เสือบุก…กูเสือย่อมมาเเล้ว! ถ้าไม่อยากตายอย่าต่อสู้!”
กำนันมือปราบพุ่งปราดไปยังข้างหน้าต่างหัวนอน แอบมองลงไปยังเบื้องล่าง เห็นเงาคนวูบวาบโอบล้อมหน้าบ้านสลอน กำนันเภาไม่รอช้าพาดลูกซองแฝดที่ขอบหน้าต่างแล้วสับไกออกไป

ตูม! ตูม!

คนร้ายสองสามคนร้องโอดโอยแตกฮือหาที่กำบังเป็นเเถว เสือย่อมสั่งยิงทันทีเหมือนกัน เสียงปืนจากฝ่ายโจรดังกัมปนาทลั่นทุ่งน้องชายกำนันเภาถือปืนเข้ามาช่วยพี่ชายยิงต้านโจรเอาไว้กำนันเภาสั่งการกับน้องชาย

”เอ็งไปปักหลักอีกฟากเรือน ต้านไม่ให้พวกมันขึ้นมาได้”

น้องชายรีบทำตามคำสั่งทันที ส่วนกำนันเภายังสาดลูกซองไปยังเป้าหมายที่พอเห็นได้อย่างคล่องเเคล่ว..ปากก็สั่งการให้นางปรุงเมียรักและนางสาวเปรยน้องเมียโดดเรือนหนีไปก่อน

นางปรุงคลานไปยังหลังเรือนเเล้วรีบโดดลงสู่พื้นล่างอันเป็นพุ่มไม้แล้วเล็ดลอดหนีไปได้

ส่วนนางสาวเปรยคิดหลบออกทางครัว อารามตกใจวิ่งพรวดพราดไปที่หน้าต่าง โผล่ขึ้นเต็มตัว เลยถูกพวกเสือปล้นส่องด้วยลูกซอง ถึงกับผงะหงายหลังล้มฟาดขาดใจตายอยู่ตรงครัวนั่นเอง

พวกโจรพยายามเข้ามาถึงเอาบันไดลงเพื่อปีนเข้าตัวเรือนแต่ถูกกำนันและน้องชายยิงต้านบาดเจ็บกันไปหลายคน ไม่สามารถบุกขึ้นมาได้

ลูกบ้านนางลือพากันตื่นกันหมดเพราะอำนาจเสียงปืนที่ยิงโต้กัน แต่หามีลูกบ้านคนใดมาช่วยกำนันมือปราบ เพราะโจรมีกำลังมาก และต่างพากันเก็บของมีค่าของตนเองซุกซ่อนโจรพร้อมกับพาลูกเมียหลบเข้าป่าเข้าพงหนีภัยโจรกัน

พูดง่ายๆ ลูกบ้านพากันหนีเอาตัวรอดกันหมด!

ทั้งโจรและกำนันดวลกันตั้งเเต่ตีสองยันรุ่งสางฟ้าสว่างน้องชายกำนันเภายิงโต้กับเหล่าร้ายจนกระสุนหมด ฝ่ายโจรเห็นด้านน้องชายไม่โต้กลับมาก็รู้เเน่ชัดว่าไม่มีกระสุน เลยโหมบุกเข้ามาพร้อมสาดกระสุนเข้ามาเป็นห่าฝน

น้องชายเห็นเหลือกำลังจึงตะโกนบอกผู้เป็นพี่

”พี่เภา…ไม่ไหวเเล้ว รีบหนีไปก่อนเถอะพี่”

เเต่กำนันเภาสวมหัวใจสิงห์ พร้อมจะสู้ตายตะโกนบอกน้องชาย

”เอ็งหนีไปก่อนเถอะวะ…กูไม่ยอมให้พวกมันขึ้นเรือนได้ง่ายๆหรอก!”

กำนันบอกน้องชายพลางกระหน่ำสวนลูกปืนออกไปจนลำกล้องร้อนฉ่า

ส่วนน้องชายเเม้จะห่วงพี่ชายแต่ตัวเองก็อยู่ไม่ได้ เพราะกระสุนหมดปืนมันก็เหมือนท่อนฟืนหาประโยชน์อันใดมิได้ จึงกระโดดออกทางหลังเรือนหนีรอดไปได้

คราวนี้เหลือกำนันเภาเดี่ยวๆ เขาไม่หวาดกลัวกับห่ากระสุนของโจร ร่างของกำนันมือปราบยืนตระหง่านกลางชานเรือน คุกเข่าประทับปืนคู่ใจแจกจ่ายกระสุนไปยังเหล่าโจร
ตัวของกำนันใจเด็ดเองก็ใช่ไม่โดนกระสุน

ลูกปืนของเหล่าร้ายถูกร่างของเขาจนหงายหลังไปหลายครั้ง แต่กระสุนเหล่านั้นหาได้ระคายผิวหนัง
เพราะกำนันเภาก็มีดี อยู่ยงคงกระพัน ในตัวพกปรอทกรอ 2 ลูก พระเครื่องเเละตระกรุดพวกใหญ่

ขนาดเหลือกำนันใจเพรชคนเดียว พวกโจรยังแหกขึ้นเรือนไม่ได้ ไอ้เสือย่อมมาคิด หากขึ้นเรือนไม่ได้ บังเอิญมีตำรวจสายตรวจผ่านมาได้ยินเสียงปืนลั่นสนั่นทุ่งคงเจอศึกขนาบสองข้าง อาจต้องเเย่เเน่ คิดได้เช่นนี้จึงเรียกลูกน้องเข้ามาสั่งการ

”พวกเอ็งอ้อมไปหลังเรือน แล้วเอาฟางมาสุมตรงท้ายครัว จุดไฟเผาเรือนมันเลยวะ!”

สมุนโหดทำตามคำสั่งทันที กำนันเภามัวแต่พะวงยิงกับโจร เลยไม่รู้ว่าพวกมันแอบเข้ามาเผาเรือนท้านครัว เพียงไม่กี่นาทีไฟโหมลุกขึ้นท้ายบ้าน

พอเปลวไฟลามเรือนไม้ให้เห็นเสือย่อมสั่งให้ลูกน้องของตนลุยขึ้นเรือนทันที กำนันต้องถอยพลางยิงพลางและดับไฟไปพลาง จนพวกไอ้โจรชักบันไดลงมาได้

พวกมันกรูขึ้นเรือนตรงเข้าหากำนันเภาทั้งยิงทั้งฟัน กำนันตั้งตัวไม่ติดเซถลาเข้าไปในกองไฟและพบกับความตายอย่างอนาถในที่สุด!

เสือย่อมกับพวกรีบขนเอาสมบัติของกำนันจนหมดก่อนจะถูกไฟผลาญไปเสียหมด
ทรัพย์สินสิ่งของของกำนัลสะสมเอาไว้มากพอดู จนเสือย่อมต้องต้อนชาวบ้านมาช่วยกันขนถึง 10 คน ไปส่งมันถึงชายป่าพวกเสือจึงปล่อยกลับเเล้วขนของกันต่อไป

คืนวันที่เสือย่อมเข้าปล้นบ้านกำนันเภา ผู้ใหญ่บ้านนางลือได้รีบเร่งรุดไปเเจ้งความกับ พ.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่กว่าผู้กำกับจะยกกำลังมาช่วยเหลือก็เป็นตอนสายวันรุ่งขึ้น บ้านกำนันก็เหลือเเต่เถ้าถ่าน

ขุนพันธ์จึงจัดการนำศพของกำนันเภาและนางสาวเปรยเอาไปฝังที่ป่าช้าวัดนางลือ และไม่ลืมจะจัดเซ่นวิญญาณผีตายโหงทั้งสอง ช่วยชักนำให้ตามไปพบไอ้เสือย่อม…

จุดจบเสือย่อมจะเป็นอย่างไรติดตามกันต่อไปพรุ่งนี้ครับท่าน

สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า◎
(ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง)

ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า

“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโส ตัง พุทธะปิติอิ”

พระคาถานี้มีคุณสมบัติอัศจรรย์ 108 ประการ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังท่านมอบให้รัชกาลที่5 ตอนเสด็จประภาสยุโรป ซึ่งท่านได้ใช้เสกหญ้าให้ม้าพยศกินจนชาวต่างชาติทึ่งและยอมรับมาแล้ว พระคาถานี้ ใช้ภาวนาก่อนนอน ก่อนเดินทาง ก่อนขับรถ คุ้มครองตัว เสกก่อนคล้องพระครอบหัว เสกภาวนาจนจิตนิ่งทำน้ำมนต์แก้เสนียดจัญไรคุณไสย เสกข้าวกินอยู่ยงคงกระพัน เสกภาวนาให้ตัวเองมีสง่าราศี เมตตามหานิยมแก่ผู้พบเห็น เสกแป้ง เสกเครื่องแต่งกายได้สารพัด ครูอาจารย์ใช้เสกพระ เสกเครื่องรางของขลังมีฤทธิเดชมากมายมหาศาล แล้วแต่จะกำหนดจิตและอธิษฐานในการใช้ เมื่อได้พบได้เจอแล้ว ถือว่ามีวาสนา ท่องจำให้ขึ้นใจ ภาวนาทุกเช้าค่ำเถิด พลานุภาพมากมายเหลือคณานับ.

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: