3638. อภินิหารปลัดขิกหลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
หลวงพ่ออี๋วัดสัตหีบเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุค 80 หรือที่เรียกกันว่ายุคสงครามโลกครั้งที่ 2 พ.ศ. 2484 ไพฑูรย์ยังอยู่ในระหว่างหลบหนีการตามล่าของตำรวจทั้งสันติบาลและภูธร ขณะนั้นได้หลบซ่อนอยู่ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้เห็นการปะทะกันระหว่างนาวิกโยธินญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาวทางผู้ว่าราชการจังหวัดระดมกำลังตำรวจและทหารมาตั้งแนวต้านทานการยกพลขึ้นบกยกแรกญี่ปุ่นตายเกลื่อนหาด ทางเรือรบญี่ปุ่นยิงปืนเรือเข้ามาตกในแนวรับทำให้ตำรวจและทหารต้องถอยออกมาจากจุดที่กระสุนตกสร้างแนวรับใหม่ ขณะนั้นญี่ปุ่นได้ส่งเรือลำเลียงขนส่งนาวิกโยธินเข้ายึดชายหาดใช้ปืนครกยิงถล่มแนวรับของไทยทหารและตำรวจพลีชีพไปหลายนายต้องเกณฑ์ยุวชนทหารมาทดแทน พอรุ่งเช้าทางฝ่ายตั้งรับตกเป็นรองจึงขอกำลังช่วยเหลือจากส่วนกลางและใกล้เคียงแต่ใครก็ช่วยไม่ได้เพราะญี่ปุ่นมิได้ยกพลขึ้นบกที่อ่าวมะนาวจุดเดียวแต่ไปขึ้นที่นครศรีธรรมราชด้วย อนุสาวรีย์จ่าดำเกิดขึ้นที่นครศรีธรรมราชก็เพราะจ่าดำเข้าประจัญบานกับข้าศึกด้วยดาบปลายปืนแทงข้าศึกตายไปหลายศพ ก่อนที่จะถูกแทงสวนเข้าที่หน้าอกและจ่าดำก็แทงสวนเข้าไปเหมือนกัน ยืนตายอยู่ด้วยกันที่ชายหาด สงครามสงบแล้วจึงมีการสร้างอนุสาวรีย์จ่าดำในชุดสนามถือปืนติดดาบปลายปืน ในท่าพร้อมรบให้เป็นที่สักการะของลูกหลานเยี่ยงวีรชนผู้พลีชีพเพื่อชาติกลับมาพูดถึงการรบที่อ่าวมะนาวตำรวจทหารและยุวทหารถอยร่นขึ้นไปบนเขาเตรียมสู้ตาย แม่ทัพใหญ่กองทัพงิ ภาคเอเชียบูรพาเข้าพบกับจอมพลป. พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเพื่อให้ตกลงให้ญี่ปุ่นใช้ไทยเป็นที่ตั้งฐานทัพเพื่อผ่านไปตีอังกฤษพม่ามลายูและอินเดียญี่ปุ่นจะเคารพบูรณภาพของประเทศไทยจะอยู่ภายใต้กฎหมายไทยและอยู่ด้วยกันฉันมิตร จอมพลป.
Read more