2611.วิชากระสุนคต หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์

วิชากระสุนคต หลวงพ่อเคลือบ วาจาสิทธิ์
•ปะลองเปิงด๊าจ์ก : สำรับมอญบ้านป่าแดง•

ในขณะที่หลวงปู่เคลือบ ยังทรงธาตุขันธ์อยู่นั้น เมื่อท่านมารับเป็นสมภารปกครองอยู่วัดหนองกระดี่ เป็นเวลาที่เกียรติคุณของท่านได้ปรากฏขจรขจายแพร่หลายไปทั่วถึงความเรืองเวทย์วิทยาคมของท่าน ได้มีพระภิกษุสงฆ์ ตลอดจนฆราวาส และค่อนไปทางนักเลงบ้านต่างๆมาฝากตัวเป็นศิษย์กันหลายท่าน ยังมีกลุ่มมอญทางตำบลทุ่งพงกลุ่มหนึ่ง นำโดยมหาทองคำ และนางสำเนียง ภัททาจาระ สองสามีภรรยาเดิมอยู่บ้านป่าแดง ได้ชักชวนญาติมาฝากตัวเป็นศิษย์กับท่าน

เมื่อถึงเทศกาลตรุษสงกรานต์ มหาทองคำกับภรรยา จะชักชวนญาติพี่น้องพากันหาบสำรับเปิงด๊าจ์ก(ข้าวแช่) มีทั้งคาว-หลาน เดินลัดมาทางบ้านหนองสับปลาร้า ทัพทรายมาถวายหลวงปู่ที่วัด โดยถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนั้นทุกปี มหาทองคำ(ปัจจุบันถึงแก่กรรมแล้ว) เล่าว่า “ถึงวัดมักเป็นสำรับเพล เหยียบหัวกระไดกุฏิยังไม่ทันเห็นตัวท่านเรียกแล้ว”อ้ายคำรึ” หัวร่อฟันดำปี๋ คุณพ่อ(สรรพนามมหาทองคำเรียกหลวงปู่) จำแม่นไม่ว่าใครต่อใคร ลองได้เจอกันสักครั้งจะหายไปกี่ปีๆมาพบกันใหม่ท่านเรียกชื่อถูกหมด จำได้ทุกคน ท่านเป็นจีนชอบฉันข้าวต้มกับเกลือ ถั่วลิสง หรือเนื้อเค็ม ถ้าหวานชอบข้าวตอกน้ำกระทิ ข้าวแช่ไม่ค่อยชอบเท่าไร ยังเคยสัพยอกให้ว่า”คำเอ้ย จะต้มก็ไม่ต้มน้อ” หัวร่ออย่างเดียวแต่ก็ฉันได้ คราวต่อมาจึงต้มข้าวต้มใส่หาบไปด้วย เวลาท่านฉันทั้งหมาเอยแมวเอยล้อมหน้าล้อมหลัง ท่านไม่ไล่และห้ามไม่ให้ใครตีด้วยทั้งยังป้อนให้กินเสียอีกแมวกินคำหนึ่งท่านกินคำหนึ่ง

มหาทองคำเล่าถึงวิชาอาคมที่ได้ร่ำเรียนมาว่า ท่านไม่ได้ซี้ซั้วสอนให้ทุกคน ได้มากบ้างน้อยบ้างเป็นวาสนาต่างกันไป ตัวได้วิชาผูกพยนต์เฝ้าข้าว (สะอะนิโส,เรียก โสสะอะนิ,ปลุก นิโสสะอะ,ขับ อะนิโสสะ,ผูก) วิชาทำนาย และวิชาคงกระพัน ท่านกำชับเสมอว่า “จงใช้เพื่อคุ้มตัว อย่าได้ใช้ในทางผิดทางระยำ”

หลวงพ่อเคลือบ

พร้อมกับเล่าว่ามีอยู่ครั้ง เวลาบ่ายๆนั่งคุยกำลังสนุกๆกับท่านบนกุฏิ จู่ๆท่านนิ่งไปและเรียกหาอ้ายจงเด็กวัดให้หยิบคันกระสุนที่แขวนอยู่ข้างฝาในกุฏิมาให้ ท่านพูดว่า”หนอยแน่ อ้ายแมวโขมย” พูดพลางยิงลูกกระสุนออกไปทางหน้าต่างกุฏิ สักพักได้ยินเสียงคนร้องโอย มาทางสระท้ายวัด จึงพากันวิ่งไปดูเห็นหลังคนไวๆ ๒ คน ขึ้นจากสระทิ้งสุ่มทิ้งตะข้องใส่ปลาเอามือกุมหัวจึงรู้ว่า เป็นหัวโขมยลักปลาวัด สักพักก็พากันเข้ามาขอขมาท่าน สังเกตุดูโดนที่หัวปูดเป็นลูกมะนาวแต่ไม่แตก ก็เป็นของปะหลาดอยู่เหมือนกันว่าท่านยิงออกไปโดยไม่เห็นตัวคนแต่ยิงโดนได้อย่างแม่นยำ และยิงลูกเดียวแต่โดนทั้ง ๒ คน

กุลบุตรผู้ที่ได้รับการอบรมมา ครูบาอาจารย์มักจะอบรมสั่งสอนให้อย่างดี ปลูกฝังคุณงามความดี ปลูกฝังคุณธรรม เพราะเสียงสะท้อนจากการปฏิบัติตัวของศิษย์ ย่อมสะท้อนถึงครูบาอาจารย์ ดังคำกลอนที่ว่า
” วิสัยครูดูอย่างเหมือนช่างปั้น
ต้องคาดคั้นโขลกสับแทบจับไข้
ไม่สันทัดขัดแต่งรุนแรงไป
ก็บรรลัยแยกร้าวลงแหลกราญ
อันภูมิครูดูได้จากลูกศิษย์
เหมือนดูช่างชาญประดิษฐ์จากเชิงสาน
มีลูกศิษย์หัวรั้นอันธพาล
เขาประจานด่าครูไม่ดูแล “

อุปมาว่า เมื่อต้นคดแล้ว ก็ยากที่ปลายจะตรง ก็มีความหมายดุจเดียวกัน
Cr. Narawee Siri

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: