3656. อวสานซ่องนรก (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

ชีวิตที่ต้องดิ้นรนแบบเสือลำบากต้องตะลอนไปทั่วถิ่นกินไม่อิ่มนอนไม่หลับเต็มตาต้องคอยหวาดระแวงว่าจะมีนักล่ามาตามล่าค่าหัวแม้อยากจะวางมือจากการฆ่าก็ไม่อาจทำได้เพราะการหนีย่อมมีทั้งบุญคุณและความแค้นแม้แต่เพื่อนรักและหญิงที่เข้ามาพัวพันหลายต่อหลายคนกลับเป็นศัตรู

เพราะเงินค่าหัวเสือไพฑูรย์สูงถึง 20000 บาททำให้เกิดความโลภจนยอมขายเพื่อนขายชายที่ตัวเองนอนด้วย

เรื่องจะมีเพื่อนตายแบบ บอนนีแอนด์ไคล์ จอมโจรสองผัวเมียที่ออกปล้นธนาคารเพื่อเอาเงินเศรษฐีที่รีดนาทาเร้นมาจากคนจนเอามาฝากธนาคารจนล้นเอฟบีไอออกไล่ล่าแต่แทนที่จะได้ตัวกลับมาลงโทษกลับต้องเอาชีวิตมาทิ้งเป็นศพเพราะ 2 จอมโจรผัวเมียสาดกระสุนปืนกลจนพรุนเอฟบีไอสั่งจับตายเพราะถึงอย่างไรก็คงจับเป็นไม่ได้

ไพฑูรย์กล่าวเรื่องนี้แล้วก็แสดงอาการฮึดฮัดกัดฟันก่อนจะเล่าต่อว่าเชื่อหรือไม่ว่าโจรปล้นธนาคารสองผัวเมียได้หลบไปกบดานในบ้านไร่ที่ห่างไกลความเจริญโดยบอกว่าเป็นคู่ผัวตัวเมียที่แต่งงานใหม่มาหาที่ฮันนีมูนทั้งนี้เพราะ เอฟบีไอ ออกควานหาตัวแบบปูพรมเจ้าหน้าที่มีเท่าใดก็ใช้ในการติดตามตัว บอนนีแอนด์ไคล์

ค่าหัวของ บอนนีแอนด์ไคล์สูงถึงหัวละ 20000 ดอลลาร์ทำให้ไม่ว่าใครก็อยากได้

บอนนีแอนด์ไคล์จึงเท่ากับว่าเดินทางไปพร้อมกับค่าหัวที่เป็นใบสั่งฆ่าตนเอง ในขณะที่เอฟบีไอ กำลังมึนกบาลเพราะอยู่ดีๆบอนนีแอนด์ไคล์ก็หายต๋อมไปไม่มีร่องรอยเหลือให้สืบสาวราวเรื่องได้อีกต่อไปแต่แล้วก็ยิ้มเพราะจู่ๆก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งเบาะแสจับ 2 ผัวเมีย

จากเจ้าของไร่ว่ามีสองผัวเมียลักษณะคล้าย บอนนีแอนด์ไคล์มาพักอยู่ด้วยพร้อมแจ้งลักษณะรถและทะเบียนอย่างละเอียดบอนนีแอนด์ไคล์เหมือนจะรู้ว่าตัวเองจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้วจึงมอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับ 2 ผัวเมียเจ้าของบ้านจากนั้นขับรถออกเดินทางไป

แต่ด้วยความฉลาดจึงเปลี่ยนเส้นทางแต่เอฟบีไอ ได้วางกำลังดักเส้นทางหลบหนีของ 2 ผัวเมียไว้เหมือนใยแมงมุม เอฟบีไอ ส่งข้อมูลเกี่ยวกับทะเบียนรถและลักษณะรถไปทั่วทุกรัฐและในที่สุดก็สามารถดักเส้นทางของ บอนนีแอนด์ไคล์ได้

แต่เนื่องจากสองผัวเมียฉลาดเป็นกรด เอฟบีไอ ตั้งจุดสกัดทุกจุดที่คาดว่าจะได้พบสองผัวเมียจอมโจร แต่ยังมีจุดอีกจุดหนึ่งที่ เอฟบีไอ คาดว่าจะเลือกผ่านมา จึงให้เจ้าหน้าที่สามนายจอดรถซุ่มอยู่โดยห้ามออกจากจุดซุ่มเป็นเด็ดขาดคำสั่งสุดท้ายคือ

”จับตายอย่าให้สองผัวเมียจอมโจรได้ต่อสู้เป็นเด็ดขาดเพราะคนร้ายมีประวัติอาชญากรโหดและสังหารเจ้าหน้าที่เอฟบีไออย่างโหดมาแล้วนับสิบศพ”

วันสุดท้ายของบอนนีแอนด์ไคล์ก็มาถึงเมื่อ เอฟบีไอ ยอมค้างคืนที่จุดซุ่มถึง 48 ชั่วโมง เกือบจะขออนุญาตถอนกำลังกลับก็มีรถยนต์แล่นลงมาจากเนินใช้กล้องส่องทางไกลเลขทะเบียนตรงกันเป๊ะ เจ้าหน้าที่ เอฟบีไอ รอจนรถดังกล่าวแล่นมาใกล้จนได้ระยะฉกรรจ์จึงตรูกันออกมายิงถล่มใส่ทันที

บอนนี่แอนด์ไคล์ถูกยิงแต่ยังกัดฟันลงจากรถ ยิงโต้แต่ไม่เกิดประโยชน์อันใดเพราะ เอฟบีไอยิงจนจมกองเลือดตายตาที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า

”บอนนี่แอนด์ไคล์ ถูกเอฟบีไอ ยิงตายในการดวล(ไพฑูรย์ว่าเป็นการสุ่มยิงแบบขี้ขลาดเพราะที่ไพฑูรย์ได้ศึกษามาบอนนี่แอนด์ไคล์ยิงเจ้าหน้าที่ เอฟบีไอในการต่อสู้แบบสมศักดิ์ศรีแต่ เอฟบีไอ ฝีมือสู้ไม่ได้เอง)หนังสือพิมพ์รายงานว่าร่างของจอมโจรสองผัวเมียมีรอยกระสุนของ เอฟบีไอ เฉลี่ยแล้วคนละไม่ต่ำกว่า 25 นัด ค้นในรถของ 2 จอมโจรผัวเมียพบปืนและเครื่องกระสุนที่สามารถยิงต่อสู้ได้เป็นหลายชั่วโมง”

ไพฑูรย์บอกว่าเพราะค่าหัวแท้ที่ทำให้บอนนี่แอนด์ไคล์พบจุดจบอย่างน่าอนาถสำหรับไพฑูรย์นั้น ซ่องนรก ในสวนทางฝั่งธนฯ ถูกทำลายแบบเดียวกับบอนนี่แอนด์ไคล์ไม่มีผิดไพฑูรย์เล่าว่า

ซ่องนรกเป็นบ้านไม้ทรงปั้นหยาแต่ที่พื้นดินด้านล่างนั้นทำเป็นห้องใต้ดินเชื่อมต่อกับท่าน้ำสำหรับลงเรือเร็วหลบหนีและได้วางถังน้ำเบนซินเอาไว้เพื่อเผาซ่องนรกกรณีที่ต้องออกจากซ่องนรกเรียกว่าทุกอย่างพร้อมสรรพทั้งทางหนีและทีไล่

ที่สวนอยู่ติดกันนั้นเป็นของนายทองอยู่เป็นชาวสวนที่มีรกรากที่นั่น ไพฑูรย์มาสร้างซ่องนรกโดยไม่ยอมให้ใครได้เข้ามาดูการก่อสร้างโดยเด็ดขาด

นายทองอยู่มักเมียงมองมาดูการก่อสร้างแต่ไพฑูรย์สั่งหัวหน้ายามว่าห้ามบุคคลภายนอกเข้าดูอย่างเด็ดขาดก่อความสงสัยให้นายทองอยู่เป็นอย่างยิ่ง

ครั้นเมื่อทางไพฑูรย์เปิดซ่องนรกนายทองอยู่จึงได้แต่สงสัย อีกอย่างหนึ่งทุกครั้งที่ไพฑูรย์มาตรวจงานก็มาเพียงเดียวด๋าวเพราะไม่ต้องการให้ตัวเองเปิดเผยมากนัก ไม่ได้เปลี่ยนแปลงโฉมคงมีแต่แว่นดำปิดดวงตาไว้เท่านั้นลุงทองอยู่จึงเป็นคนคนเดียวที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของไพฑูรย์และเป็นคนที่ไพฑูรย์ไว้เนื้อเชื่อใจให้เข้านอกออกในบ้านเพื่อดูแลเวลาไพฑูรย์ไม่ได้เข้ามาที่บ้าน

แต่ความจริงเข้ามาแต่อยู่ในห้องใต้ดินเพราะเข้ามาจากทางลับที่ติดต่อกับแม่น้ํา

ทุกอย่างเข้าที่ไพฑูรย์จึงเดินทางเข้าออกสลับกับการเข้าออกทางลับกองปราบออกหมายจับไพฑูรย์ผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้านและกำนันลุงทองอยู่กับกำนันทองใบเป็นพี่น้องคลานตามกันมา

วันหนึ่งจึงได้เห็นรูปไพฑูรย์ในประกาศจับแต่ไม่แน่ใจเพราะไพฑูรย์ใส่แว่น ตาดำปกปิดดวงตาอยู่เป็นประจำ กำนันทองใบจึงตัดกระดาษสีดำ 2 อันมาปิดหน้าไพฑูรย์ในประกาศจับ ลุงทองอยู่ตาลูกโพลงเมื่อเห็นจำนวนเงิน 20000 บาทตามประกาศจับ ดีดมือดังเป๊าะบอกว่าใช่เลยถ้าแจ้งตำรวจให้มาจับได้ค่าหัว 2 หมื่นบาทจะทำให้รวยไปได้อีกนานกำนันทองใบบอกว่าหาร 2 ได้คนละหมื่น

ลุงทองอยู่ก็ได้บอกกับไพฑูรย์ว่าจะฉลองลูกสำเร็จปริญญาที่บ้านสวนเพราะลูกของลุงทองอยู่รับปริญญาแล้วจะบินไปเมืองนอกเพื่อเรียนต่อไพฑูรย์จึงรับปากว่าจะมาแต่ไม่มาคนเดียวมีเจ้าอำไพ เจ้าหม่อมหลวงกำมะลอและเจ้าประจวบมาพร้อมกัน

หม่อมหลวงกำมะลอ เจ้าประจวบอยู่กับไพฑูรย์เจ้าอำไพอยู่ห้องใต้ดินเพื่อดูลาดเลาทางหนี

งานมีจริงโดยลุงทองอยู่ถือโอกาสทองที่นัดบรรดามือปราบจากท้องที่และกองปราบฯเป็นแขกมาในงานร่วมกับชาวบ้าน

ไพฑูรย์เข้ามาในงานสายตากวาดไปทั่วพบว่าแขกส่วนหนึ่งมีผ้าเช็ดหน้าสีแดงแลบออกจากกระเป๋าเสื้อแม้จะแยกกันนั่ง

ไพฑูรย์ด้วยสัญชาตญาณเสือได้กลิ่นพรานทันทีแต่ไม่แสดงกิริยาใดๆผิดปกติคงเดินเข้าไปในปากเสือโดยดีโดยหมายตาไว้ทุกจุด เจ้าประจวบกับหม่อมหลวงกำมะลอไม่ได้เข้ามาพร้อมกับไพฑูรย์แต่เข้ามาปะปนกับแขกโดยเฉพาะจุดที่มีแขกที่มีผ้าเช็ดหน้าสีแดงแลบไว้ที่ปากกระเป๋า

ทางเจ้าภาพเชิญไพฑูรย์ขึ้นกล่าวแสดงความยินดีบนเวทีขณะที่กำลังพูดชายฉกรรจ์ที่มีผ้าเช็ดหน้าสีแดงโผล่จากปากกระเป๋าสบตากันพากันลุกพรึบเจ้าประจวบกับหม่อมหลวงกำมะลอกระชากปืนออกมาเล็งยิงไปยังที่หลอดไฟบนเวที รัวยิงใส่ไฟดับทันทีเสียงใครคนหนึ่งร้องว่า

”ประชาชนที่ไม่เกี่ยวหมอบลงกับพื้นนี่ตำรวจกำลังล้อมจับคนร้าย”

ไพฑูรย์ลงจากเวทีแต่กำนันทองใบที่หมายตาไพฑูรย์มาแต่ต้นยิงใส่ไพฑูรย์ทันที ไพฑูรย์เล่าว่า ได้ภาวนาคาถามหาอุตพร้อมไว้แล้วได้ยินแต่เสียงดัง”แป๊ก แชะ” แสดงว่ามีปืนยิงใส่ 2 กระบอกไพฑูรย์แล้วว่า

”เมื่อมึงต้องการชีวิตกูมึงต้องเอาชีวิตมาแลกกัน”

ยิงสวนกลับไป 4 นัดซ้อนได้ยินเสียงร้องสุดท้ายว่ากูถูกยิงกูก็โดนเหมือนกัน จากนั้นห่ากระสุนก็ปลิวว่อนสามสหายเผ่นเข้าบ้านตำรวจตามติดเหมือนหมาล่าเนื้อไพฑูรย์ลงห้องใต้ดินเปิดซ่องลับทันที เจ้าประจวบตามมาติดติดหม่อมหลวงกำมะลอใช้เท้าถีบถังน้ำมันที่เตรียมไว้แล้วรอเวลาพอตำรวจตรูกันเข้ามาก็จุดไม้ขีดโยนใส่น้ำมันไฟลุกพรึบ เสียงคนตะโกนว่า

”ถอย พวกมันใช้ไฟคลอกโว้ยระวังด้วย”

ประตูห้องลับถูกปิดตายด้านบนไฟไหม้บ้านทรงปั้นหยาวายวอดสี่สหายพากันหลบหนีออกจากซ่องนรกมาได้อย่างปลอดภัยกำนันทองใบเจอเขาที่ลิ้นปี่สjวนลุงทองอยู่โดนเข้าที่ท้องน้อยใต้สะดือ ช็อคน้ำตายในเวลาต่อมาแน่นอนตำรวจทำสำนวนว่าถูกลูกปืนคนร้ายตายทั้งที่อาจเป็นกระสุนจากฝ่ายมือปราบทำให้ความผิดของไพฑูรย์เพิ่มขึ้นไปอีกนี่แหละไพฑูรย์ว่าคือความโลภที่ทำให้ลุงทองอยู่ตายกำนันทองใบบาดเจ็บสาหัส

ไพฑูรย์ย้ำว่ามันคือความโลภโดยแท้อยากได้ชีวิตคนอื่นก็ต้องเอาชีวิตมาแลกเพราะไม่มีใครที่จะยอมให้ชีวิตกับใครง่ายๆเงินรางวัลที่ทางการตั้งไว้ได้ยากเพราะกว่าจะได้ต้องผ่านตำรวจ ผ่านอัยการและไปขึ้นศาลจนถึงฎีกาจึงจะได้เงินรางวัลนำจับ ต้องแบ่งกันกับตำรวจเพราะเขาต้องเสี่ยงชีวิตเข้าจับกุมคนร้าย

ไพฑูรย์บอกว่าพลเมืองดีพึงสังวรว่าการทำหน้าที่พลเมืองดีนั้นต้องคำนึงถึงกาลเทศะบ้างให้นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลังว่าจะเป็นอย่างไรเงินรางวัลเหมือนกองไฟล่อแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

ตำรวจมีหน้าที่จับกุมคนร้ายมีทั้งชุดสืบสวนชุดปราบปรามชุดสอบสวนคอยเล่นงานมิจฉาชีพอยู่แล้ว ประชาชนคนธรรมดาไม่จำเป็นต้องไปช่วยให้เปลืองตัวเปล่าๆ

เพราะพลเมืองดีส่วนใหญ่ตายฟรีแบบดิบดี มีพวกหรีดมีเงินชดเชยค่าทำศพ มีแต่ประกาศนียบัตรชมเชยกับเรื่องราวที่ได้ออกอากาศไม่กี่วันทุกอย่างก็ถูกลืมไปหมด

เมืองนอกเขามีการปกป้องคุ้มครองพยานเป็นอย่างดีแต่ของไทยเราตัวใครตัวมันพยานหลายคนตายโหงก่อนขึ้นให้การต่อศาลก่อนจะเป็นพลเมืองดี พึงคิดดูให้รอบคอบท่านตายตำรวจได้ดีได้เลื่อนยศได้ความดีความชอบ แต่ท่านหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ไพฑูรย์เล่าเล่าแล้วส่ายหน้าด้วยความเหนื่อยหน่ายใจ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Woosenth
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: