3558. สิงโตหินล้างแค้นเสือเข้มแห่งบางสะพาน (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

สิงโตหินล้างแค้นเสือเข้มแห่งบางสะพาน (เขียนโดยไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

เสียงปืนดังตามหลังมาติดๆ ไพฑูรย์เล่าว่าเสียงปืนเฉียดไปมาดังวิ้วๆ ปืนสองกระบอกที่พกมามีสภาพเหมือนไม้ตีพริก กระสุนไม่มีทั้งในโม่และรังเพลิง ด้านหน้าเป็นป่าทึบหากวิ่งไปให้ถึงจะรอดได้ แต่ตอนนี้เริ่มล้า เพราะพวกที่กวดตามหลังมาไม่ยอมลดละ พวกมันได้รับคำสั่งจากเสือเข้มว่าให้จับตายไอ้คนทรยศที่เข้ามาสังหารเสือนาม รองหัวหน้าโจรก๊กเสือเข้มอย่างอุกอาจไม่เกรงอาญาโจร รอดคุกรอดลูกปืนตำรวจมาได้จะมาจบเห่เพราะลูกปืนไอ้เสือคนนักปล้นฆ่า รู้ไปถึงไหนจะมีแต่คนถ่มน้ำลายทุดว่า “สิงโตหินถูกหมากัดตาย” หลวงพ่อช่วยให้ลูกมีกำลังด้วย “โอมหะ นุ มา นะ พระพายสวาหะ”

พระคาถานี้ไพฑูรย์บอกกับผู้เขียนว่าไม่ต้องไปเปิดตำราหาไม่เคยมีในตำราใด เป็นคาถาที่ไพฑูรย์คิดขึ้นมาเองเวลาจวนตัว โดยอาศัยคาถาหัวใจหนุมานตัวเดิมคือ “หะ นุ มา นะ คลุกคลี ตีมะอะ” ใช้ทางคงกระพัน และไม้สองคือเมื่อถูกตีล้มลงไป ศัตรูที่ไม่รู้ว่าใช้หัวใจหนุมานเป็นไม้สองก็จะตีซ้ำพอถูกตีซ้ำจะทะลึ่งลุกติดไม้ขึ้นมา คราวนี้ตีเท่าไหร่ก็ไม่ล้มแหลกกันไปข้าง

ไพฑูรย์บอกว่าเมื่อจะวิ่งให้เร็วได้ตัดคำว่าคลุกคลีตีมะอะออกไป แล้วใส่นามของพระพายที่ถือว่าเป็นพระบิดาของหนุมานและนางสวาหะที่ถือว่าเป็นมารดาของหนุมาน เพื่อให้วิ่งเรือดุจพายพัดและไม่เหนื่อยด้วยไม่ต้องไหว้ครูอยากใช้เอาไปใช้เลย แต่ขลังไม่ขลังสุดแล้วแต่ว่ามีพลังจิตกล้าแข็งหรือไม่เท่านั้น (อันนี้ต้องหมั่นฝึกฝนสมาธิจิตกันเองครับบางคนอยากเลี้ยงผีแต่กลัวผี อยากเรียนพระคาถาแต่ไม่อยากฝึกสมาธิจิตซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่งฤทธิ์ต่างๆ)

ไพฑูรย์บอกว่านึกถึงหลวงพ่อเดิมแล้วอุ่นใจเหมือนหลวงพ่อมาประทับอยู่บนศีรษะเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นด้วยกำลังหนุมานะวิ่งเร็วไม่เหนื่อยด้วยพระพายและนางสวาหะช่วย เข้าไปในป่าทึบได้ก็รอดตายเพราะเรื่องการเดินป่าการพรางตัวไพฑูรย์มีความช่ำชอง ปืนหมดลูกปืนกลายเป็นไม้ตีพริก แต่มีดหมอก็ยังอยู่ พอเข้าในป่าทึบได้คราวนี้ก็หยุดวิ่งทำตัวให้กลมกลืนกับป่า มีดหมอช่วยได้ยามคับขัน พระเวทกำบังตัวกันได้ไม่นานจึงต้องชักมีดหมอออกมาจากฝักหันหน้าไปทางที่ตั้งของวัดหนองโพก้มลงกราบขอให้ช่วยคุ้มครองชีวิต ใช้ปลายมีดหมอขีดพื้นดินวนขวาภาวนาคาถากำบังแก้ว 7 ชั้นว่า

พุทธัง สัตตะรัตนมหา ปะการัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ

ธัมมัง สัตตะรัตนมหา ปะการัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ

สังฆัง สัตตะรัตนมหา ปะการัง อัมหากัง สะระณังคัจฉามิ

สุสุ ละละ ธาธา โสโส นะโมพุทธายะ

พุทโธพระบัง ธัมโมพระบัง สังโฆพระบัง

นั่งขัดสมาธิกลางวงที่ขีดไว้หลับตาถวายชีวิตเป็นพุทธบูชาหากดาวโจรดับตกจากฟากฟ้าถึงคราวตายก็สุดแต่บุญทำกรรมแต่งตั้งแต่สังหารขุนตระเวนฯ แล้วก็สั่งสมเจ้ากรรมนายเวรไว้ในจำนวนไม่น้อย เจ้ากรรมนายเวรพวกนี้รอเวลาจะเอาคืนทดแทนคนที่ไพฑูรย์ได้สังหารแม้ว่าจะเป็นการป้องกันตัวเองหรือเป็นการต่อสู้ก็ตาม

เมื่อจิตสงบหูได้ยินการเคลื่อนไหวของศัตรูทั้งหมด เกิดความสงบสงัดเหมือนอยู่ในกำแพงแก้วจริงๆ ความกลัวความตื่นตกใจค่อยๆหายไป เหลือแต่ความกล้าบ้าบิ่น แม้หลายครั้งเสียงฝีเท้าและการเคลื่อนไหวใกล้เข้ามาจนได้ยินเสียงหอบหายใจ

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเสียงใครคนหนึ่งร้องตะโกนว่า “กลับกันได้แล้วโว้ย หากันจนพลิกป่าแล้ว ไอ้หมอนี่มันร้ายกาจนัก วิ่งมาเห็นหลังไวๆ พอตามเข้ามามันกลับหายไป กลับไปบอกพี่เข้มเถิดว่ามันหนีไปได้” เสียงพวกนักล่าหายเงียบไปแล้ว แต่ไพฑูรย์ยังคงนั่งอยู่ในวงล้อมของปลายมีดที่ขีดไว้จนค่ำจึงออกเดินทางออกจากป่าเข้าไปในเมืองแล้วหาทางส่งจดหมายไปยังเจ้าเพื่อนรักให้รู้ว่าอยู่ที่ไหนให้นำเงินและกระสุนปืนมาให้เพื่อหนีต่อไป

ไพฑูรย์บอกว่าจดหมายที่เขียนส่งไปเขียนแบบรหัสลับ คนที่คุ้นเคยเท่านั้นจะนำข้อความในจดหมายมาปะติดปะต่อให้เป็นข้อความสมบูรณ์ ระหว่างรอเงินและกระสุนเงินจำนวนสุดท้ายที่มีติดตัวพอที่จะเลี้ยงตัวไปได้จนกว่าจะได้รับความช่วยเหลือต่อไป คราวนี้หม่อมเจ้าหลวงกำมะลอมาเอง มาพบกับนายวันสารถีสามล้อที่ไพฑูรย์เลี้ยงไว้ให้เป็นสายข่าว เพราแกเป็นสามล้อที่มีลูกค้าขาประจำเยอะได้เงินได้ลูกปืนสิงโตหินก็เหมือนมีปีกบิน ก่อนจะหนีเตลิดต่อต้องหาทางเอาคืนจากเสือเข้มที่มุ่งเอาชีวิตเพราะไพฑูรย์บอกว่าใครหมายล้างชีวิตสิงโตหินต้องเอาชีวิตมาแลกไม่อย่างนั้นต่อไปคนมันจะไม่กลัวอยากฆ่าสิงโตหินก็ฆ่าได้ตามใจ

เล่าเรื่องเสือเข้มกับเสือนามให้หม่อมหลวงลออจะห้าม กลับบอกว่า ไอ้คนกะนี้ต้องให้มันรู้จักสี่สหายให้ดีกว่านี้ ให้มันรู้จักว่าหากมันมีเรื่องกับสี่สหายมันจะย่อยยับอย่างไร สมัยนั้นบางสะพานยังไม่เจริญ มีโรงยาฝิ่นและซ่องโสเภณีอย่างละหนึ่งแห่ง มีผู้มาใช้บริการกันไม่ขาด เสือเข้มมักดอดมาหาความสำราญอยู่เป็นประจำ เจ้าอำไพ เจ้าประจวบตามมาสมทบรวมเป็น 4สหายครบชุด เจ้าประจวบเอาเรือเร็วมาจอดไว้ที่สะพานปลา ยอมเสียค่าฝากป้องกันเรือหาย นอกจากถอดกุญแจออกแล้วยังถอดหัวนกกระจอกออกด้วยเพื่อความปลอดภัย หนูหน่อยอดีตดาราประจำซ่องที่เสือเข้มมานำออกไปอยู่ที่ชุมโจรที่ทับสะแก หลังจากเบื่อแล้วก็นำเอากลับมาขายลดราคาให้โกเต้าเจ้าของซ่อง ทำให้หนูหน่อยเคืองแค้นแต่ทำอะไรไม่ได้

ไพฑูรย์ไปขึ้นห้องกับหนูหน่อย หนูหน่อยเกิดติดใจเลยสนิทกัน(ร้ายกาจใช่ย่อยอาจารย์เรา๕๕) ไพฑูรย์ให้เงินพิเศษใช้ประจำ ที่ไพฑูรย์สามารถเข้าไปในชุมโจรของเสือเข้มได้เพราะหนูหน่อยดันเข้าไป ไพฑูรย์เข้าไปในชุมโจรเสือเข้มเพราะรับปากกับลุงสะมาแอ อดีตนักโทษในบางขวางที่ถูกยัดข้อหาเป็นแพะ ไพฑูรย์ทำฎีกาให้จนหลุดขั้นฎีกา

แกรีบกลับบางสะพานเพราะเป็นห่วงลูกชายว่าจะไปมีเรื่องกับพวกนักเลง เพราะลูกชายแกเป็นคนเลือดร้อน คบกับพวกตังเกเที่ยวเตร่กันอย่างลืมตาย กลับไปถึงก็ได้ข่าวว่าลูกชายแกเข้าไปอยู่ในกุโบเสียแล้ว เพื่อนตังเกของลูกชายแกบอกว่า ถูกเสือนามรองหัวหน้าโจรก๊กเสือเข้มยิงตายหลังมีเรื่องกันในร้านเหล้า เพราะเสือนามพูดจาล่วงเกินเรื่องศาสนา ลุงสะมาแอเขียนจดหมายมาหาไพฑูรย์โดยจ้างคนเขียนบอกว่า หากหลานไพฑูรย์ผ่านบางสะพานให้แวะมาหาลุงสะมาแอ ลูกชายถูกยิงตายขอให้ช่วยแก้แค้นให้ด้วย

เมื่อไพฑูรย์แหกคุกผ่านบางสะพานจึงแวะไปหาลุงสะมาแอ ออกสืบจนได้ความถึงความเหี้ยมโหดและอหังการของเสือนาม จึงรับปากลุงสะมาแอ อาศัยหนูหน่อยเป็นสะพานเข้าไปสังหารเสือนามในชุมโจรจนถูกตามล่า ไพฑูรย์ส่งหนูหน่อยออกจากบางสะพานไปอยู่กับญาติของเธอที่อำเภอกระบุรีเกรงว่าเสือเข้มจะมาเด็ดหัว จนรอดได้หวุดหวิด

เจ้าหม่อมหลวงลออทำหน้าที่หาข่าวความเคลื่อนไหวของเสือเข้ม ความรูปหล่อและปากหวานของหม่อมหลวงกำมะลอ ทำให้ได้รู้จักกับขาประจำเสือเข้มที่มักจะส่งสมุนมารับตัวเข้าไปเริงสำราญ โดยมะลิจะแจ้งให้ทราบทันทีที่สมุนเสือเข้มมารับ เมื่อทุกอย่างเข้าแผน ไพฑูรย์กับสหายทั้งสี่ จึงติดตามไปพบว่าเสือเข้มออกจากชุมโจรมาพักอยู่ในบ้านกลางป่าเพื่อเสพสุขกับมะลิ มีสมุนแวดล้อมเพียง 10 คน อาวุธครบมือ 4 ต่อ 10 ไพฑูรย์บอกว่าหายห่วง

จอดรถทิ้งระยะห่างแล้วเดินเข้าไปดูลาดเลาบ้านในป่าของเสือเข้ม โดยเจ้าประจวบใช้กล้องส่องดูความเคลื่อนไหวและกำหนดจุดที่จะเข้าไป สมุน 10 คนจะผลัดกันกะละ 3 คน คุมดูความเคลื่อนไหวสามด้านคือ ด้านหน้า ด้านข้างๆละคน ด้านหลังไม่มียามคนที่เหลือหนึ่งคนเฝ้าหน้าห้องเสือเข้มเป็นด่านสุดท้าย คนออกกะให้นอนพักผ่อนรอเข้ากะใหม่

เจ้าอำไพวางแผนเข้าตีตอนดึก เพราะตอนนั้นความง่วงจะทำลายยามและคนที่ออกกะก็จะถูกความง่วงทำให้หลับเป็นตาย ตอนนั้นเหมาะที่สุด ไพฑูรย์กับสหายนอนหลับแต่หัวค่ำยุงป่ากัดจนคันคะเยอไปหมด ตื่นประมาณเที่ยงคืนเพราะพระจันทร์คืนเพ็ญอยู่ตรงหัวพอดีแสดงว่าเป็นเวลาเที่ยงคืน

พวกที่เป็นยามประจำที่ ส่วนพวกที่ออกกะนอนอยู่ในเตนท์ห่างออกไปจากตัวบ้านประมาณ 10 เมตร ไพฑูรย์ย่องเข้าไปหายามด้านข้างกำลังหลับยาม เตะช้อนปลายคางงามๆนอนแผ่สังฆราช เสียงนกกลางคืนร้องดังมาจากด้านหลังและด้านหน้าและด้านข้างแสดงว่ายามเรียบร้อยไปแล้ว กำลังจะรวมพลบุก พวกที่ออกเวรเกิดปวดฉี่ออกจากเตนท์เจอกับพวกไพฑูรย์พอดี หมอนั่นตะโกนลั่น มีคนบุกเข้ามาโว้ยเอามันเลย ไม่ทันจะทำอะไรต่อมีดในมือของเจ้าอำไพซัดออกจากมือเสียบหน้าอกด้านซ้ายเข้าไปทั้งด้ามล้มตึง

เสียงปืนดังระงม ไพฑูรย์กับสามสหายต้องล่าถอยออกมาเพราะเมื่อแผนแตก 4 ต่อ 7 ได้แก่ เสือเข้มกับสมุน 6 คนรวมเป็น 7 กับไพฑูรย์กับสามสหายไม่ได้การแน่ เพราะเสือเข้มมีปืนกลมือติดตัวมาด้วย ไพฑูรย์บอกว่าคราวนี้เป็นคราวที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา คือความล้มเหลว ต้องถอยออกมาอย่างยับเยิน ไม่ใช่กลัวตาย ไพฑูรย์บอกว่าลูกผู้ชายที่แท้คือความไม่ประมาท 10 ปีแก้แค้นยังไม่สาย สี่สหายหนีออกจากการต่อสู้โดยพวกเสือเข้มไม่มีใครกล้าตามกลัวโดนสวนกลับ มะลิรอดตายเพราะเสือเข้มไม่ระแวง มารวมตัวกันที่บางสะพาน

ไพฑูรย์ขอแยกทางหนีเพราะตำรวจไล่ล่าไม่ลดละ โดยเฉพาะเมื่อหลบลงใต้ต้องระวังขุนพันธรักษ์ราชเดชเพราะเป็นมือปราบที่มีฝีมือดี ไพฑูรย์บอกว่าพยายามเลี่ยงตลอดเพราะไพฑูรย์ถือภาษิตว่า “อันนักเลงไม่ถือหาญรญนักเลง” ไพฑูรย์มีหน้าที่หนีก็หนีไป ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชท่านก็มีงานล้นมือเพราะเสือร้ายแดนทักษิณล้วนมีวิชาอาคมแก่กล้าไม่เป็นรองใครเหมือนกัน

หลายคนคงจะสงสัยหนังเหนียวทำไมถูกยุงกัดสัตว์กัด บอกเลยครับของดีที่ครูบาอาจารย์ประสิทธิ์ให้จะคุ้มครองเมื่อยามมีภัยจริงๆเท่านั้น เพราะไม่ใช่การกินว่าน ไม่ว่าจะเหนียวแค่ไหนหากดวงตกถึงฆาตด้วยแรงกรรมเเล้วย่อมต้องมีอันเป็นไปทุกคน เพราะของดีต่างๆจะคุ้มตัวหากไม่ถึงคาวตายเท่านั้น เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคนโบราณที่หนังเหนียวส่วนมากแม้จะเหนียวสักแค่ไหนก็ไม่มีใครประมาทวิ่งเข้าหาลูกปืนทั้งนั้น ไม่ว่าขุนพันธุ์ เสือดำ เสือมเหศวร เสือใบ ฯลฯ

*พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า ”ปมาโท มจฺจุโน ปทํ” ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย คงเป็นวาจาสิทธิ์ที่ทำให้คนที่มีของดีแล้วอวดตนประมาทและถึงแก่ความตายในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : อันธพาน ครองเมือง 2012
แอพเกจิ – AppGeji
——————————————————————————-

ติดตามเรื่องราวครูบาอาจารย์ได้เพิ่มเติมที่
แอพเกจิ Facebook: www.facebook.com/appgeji
Web Sit: www.appgeji.com
App Store (IOS): https://appsto.re/th/wlGScb.i

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: