3736. อิทธิฤทธิ์ยาสั่ง (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อิทธิฤทธิ์ยาสั่ง (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

เมื่อพ.ศ. 2486 ประเทศไทย อยู่ในภาวะสงคราม บ้านเมืองอยู่ในภาวะคับขัน ผ้าจะนุ่งก็ไม่มีบางครอบครัวที่ยากจน อนาถาต้องเอามันมาต้มกับข้าวกินพออยู่รอด

ข้าหลวงประจำจังหวัด ขุนเนตรปราบอริพ่าย สั่งให้ปลัดวิสูตร ร่มธงศรี มีตำแหน่งเป็นปลัดอำเภอเอก คนที่สองชื่อครูใหญ่อำนวยเวศเป็นอาจารย์ใหญ่สอนโรงเรียนรัฐบาล คนที่ 3 ชื่อพลตำรวจอำนวยผ่องแผ้ว คนที่ 4 ชื่อโต๊ะจอมมีเดช คนที่ 5 ร้อยตรีเชาว์ กระดุมทอง ทั้ง 5 คนนี้ ข้าหลวงสั่งให้มีหน้าที่ตรวจดูแลสัญญาณไฟเวลาข้าศึกมาโจมตีและคอยตรวจให้ราษฎรระวังเรื่องแสงไฟและตรวจตามบ้านจะมีบ้านไหนเผลอจุดไฟ

มีเขตตรวจตลอดไปจนถึงชายแดนประเทศฝรั่งเศส ขอพูดถึงพ่อค้าช้าง ช้างเป็นสัตว์ที่แสนรู้ทุกบ้านมีไว้สำหรับ รับจ้างบริษัทมา ลากซุงขนซุง เขตจังหวัดอุตรดิตถ์ติดต่อกับประเทศฝรั่งเศสช้างประเทศฝรั่งเศสมีมากมายคนไทยไปซื้อได้ราคาถูกมาขายเมืองไทยก็ได้ราคาดี

นายสุนทร มาลัยทอง เป็นเผ่ามูเซอร์ มีลูกชายคนหนึ่งชื่อมะเอียดอยู่จังหวัดตาก เป็นครูสอนวิชาเพลงดาบ ให้กับชาวมูเซอร์นายสุนทร มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งชื่อมงคล แถมเงิน บ้านอยู่อำเภอเมืองเป็นพ่อค้าที่เคยไปซื้อช้างมาขาย วันนี้มาพบปลัดอำเภอกับพวก 4 คน ดังกล่าว นายมงคลกับเพื่อนมาบอกว่าขออาศัยเดินทางไปซื้อช้างกับปลัดอำเภอชุดนี้เพราะกลัวโจรผู้ร้าย ปลัดอำเภอจึงพูดว่าจะไปกี่คน

นายมงคลคนบอกว่าจะไป 2 คน ได้มีเงินติดตัวไปคนละ 3หมื่นบาท ซื้อช้างได้คนประมาณคนละ 2 เชือก ปลัดวิสูตรอนุญาตเมื่อถึงวันเดินทางทั้งหมดก็มารวมกันอยู่ที่อำเภอ ออกเดินทางตั้งแต่ 2 โมงเช้า

ปลัดอำเภอก็ตรวจไปตามตำบลต่างๆจนกระทั่งผ่านมาคืนที่ 3 จึงได้เกิดเหตุร้ายกล่าวคือปลัดอำเภอกับพวกที่กล่าวนามมาทั้ง 4 คนสมคบคิดฆ่าพ่อค้าช้าง ฆ่าตายแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน แล้วเอาศพพ่อค้าช้างทั้งสองคนไปทิ้งไว้ในเขตประเทศฝรั่งเศส เมื่อฆ่าสองคนแล้วก็ปกปิดเป็นความลับ เงินนั้นได้มาแบ่งกัน 5 คนเรียบร้อย

1 เดือนต่อมานางคำมี เมียนายสุนทรและนางทองสาเมียนายมงคลเห็นผัวไปซื้อช้างแล้วหายไปทุกวันนี้ก็ยังไม่กลับนางทองสากับนางคำมี ไปหาหมอให้ช่วยตรวจดูฤกษ์ยาม หมอก็บอกว่าสามีของนางทั้งสองเคราะห์ร้าย ได้สิ้นชีวิตไปเเล้ว นางทองสาและนางคำมี ต่างมีความเศร้าโศกเสียใจและได้บนบานศาลกล่าวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์

จนคืนหนึ่งนางทองสา เมียนายมงคลฝันว่านายมงคลมาเข้าฝันตามตัวมีบาดแผลและเลือดท่วมตัวบอกว่าถูกพวกปลัด 5 คนฆ่าตายเอาศพทิ้งไว้ในเขตฝรั่งเศสฝังเอาไว้ที่ใต้ต้นน้ำมันเขียวนางทองสาตื่นขึ้นมาเล่าให้นางคำมีฟังทั้งสองไปแจ้งความกับเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งเป็นพวกของปลัดอำเภอ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งนางทองสาและนางคำมีได้ไปร้องเรียนทางไปอำเภอทางนายอำเภอก็ไม่เชื่อถือ

ทั้งสองจึงไปหาข้าหลวงประจำจังหวัด ข้าหลวงจังหวัดเห็นทั้งสองคนร้องไห้มาเล่าเรื่องให้ฟัง ท่านข้าหลวงจึงตัดสินใจให้ผู้กำกับวิเชียร บุญนาค พร้อมด้วยลูกน้อง4-5คน พานางคำมีเเละนางทองสาไปยังเขตแดนฝรั่งเศส ได้ไปขุดศพอยู่ที่ใต้ต้นน้ำมันเขียวก็พบศพดังกล่าว

ข้าหลวงจึงนำศพให้เจ้าพนักงานชันสูตร พบบาดแผลที่หน้าอกรอยถูกแทงตรงหัวใจทั้งสองคน ถ้าหลวงก็ให้ตำรวจสืบจนได้ความจากผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ให้การระหว่างที่ปลัดวิสูตรกับพวกตรวจสถานที่หลายตำบลหลายอำเภอมีกำนันผู้ใหญ่บ้านออกมาต้อนรับ ขาไปเห็นไปกัน 7 คน ขากลับเห็น 5 คน แต่ผู้ใหญ่บ้านและกำนันไม่มีความสงสัย

ต่อมาเมื่อนางทองสาและนางคำมี เอาความฝันมาเล่าให้ฟังเเละข้าหลวงไปพบศพ ข้าหลวงจึงได้ตัดสินใจจับจำเลยทั้ง 5 คนจำเลยต่อสู้คดี มีพลตำรวจ 3 คนให้การรับสารภาพ และซักทอดไปถึงครูใหญ่และปลัดวิสูตร ครูใหญ่และปลัดวิสูตรต่อสู้คดี ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์พิพากษาลงโทษประหารชีวิตปลัดวิสูตรและครูใหญ่นอกนั้นจำคุกตลอดชีวิต

ปลัดวิสูตรและครูใหญ่ถูกตัดสินโทษแล้วถูกส่งตัวมายังเรือนจํากลางบางขวาง นายมะเอียดซึ่งเป็นลูกของพ่อค้าช้างมีความแค้นที่ปลัดวิสูตรและครูใหญ่ฆ่าพ่อของตัวจึงคิดแก้แค้น มะเอียดได้ส่งเนื้อผัดเผ็ดมาทางไปรษณีย์ ฝากให้ปลัด 1 กระป๋องครูใหญ่ 1 กระป๋อง ทั้ง 2 กระป๋องนี้ มะเอียดได้เอายาพิษชนิดยาสั่งเนื้อไปให้ปลัดวิสูตรและครูใหญ่

ในคุกอาหารการกินย่อมขาดแคลนอาหารดีๆ หากินยาก เมื่อปลัดวิสูตรและครูใหญ่ได้รับเนื้อผัดเผ็ดที่มะเอียดลูกควานช้างส่งมาให้ในนามของญาติพี่น้อง พอตกตอนเย็นทั้งปลัดวิสูตรและครูใหญ่ได้รับเนื้อผัดเผ็ดมากิน กินมื้อเย็นมื้อแรกไม่มีพิษมีภัยอะไรพอตกตอนกลางคืนทั้งครูใหญ่และปลัดวิสูตรอยากกินแกงเนื้ออีก

รุ่งขึ้นเช้าเป็นต้มจืด หมู่เวรของคุกแกงให้กิน พอตกตอนเย็นหลวงแกงเนื้อหน่อไม้มาให้กิน ปลัดวิสูตรและครูใหญ่กินข้าวในตอนเย็นกับแกงเนื้อ ยาพิ๋ษนั้นเป็นยาสั่งเนื้อ เมื่อทั้งสองกินเนื้อเข้าไปพิษยาสั่งก็กำเริบมีอาการชักกระตุก 3-4 นาทีก็ขาดใจตายเล็บมือเล็บเท้าเขียว

นายแพทย์ถนอม โกมลวัฒนะ เป็นนายแพทย์ใหญ่ ลงความเห็นว่าหัวใจสลายโดยฉับพลัน คนทั้งคุกก็รู้ว่าปลัดวิสูตรและครูใหญ่ถูกยาสั่งเนื้อตาย ผู้บังคับแดนเอาอาหารกระป๋องที่ญาติส่งมาให้แพทย์ตรวจพิสูจน์ส่งไปยังโรงพยาบาลใหญ่กรุงเทพฯ 7 วันทางนายแพทย์กรมสาธารณสุขตรวจ พบเนื้อยาฝิ่น 30% และมีเชื้อยางมะม่วงและผิวมะนาวเจือปนอยู่ด้วย เป็นยาพิษที่ร้ายแรง สรุปได้โดยมีเหตุผลและหลักฐานอันแน่นอนว่าปลัดวิสูตรและครูใหญ่ตายเพราะยาสั่ง

ซึ่งนายมะเอียดลูกพ่อค้าช้างเป็นผู้แก้แค้นมารู้ภายหลังว่าอาหารกระป๋องที่ญาติส่งมาให้ เมื่อสอบถามทางญาติไม่รู้เรื่องใครส่งอาหารประเภทเนื้อมาให้ แต่มีน้องชายปลัดวิสูตรมาให้ถ้อยคำกับท่านผู้บัญชาการว่า ปลัดวิสูตรจะต้องตายเพราะน้ำมือของมะเอียดลูกพ่อค้าช้างและมะเอียดนี้เป็นชาวเขามูเซอในจังหวัดอุตรดิตถ์ไม่เว้นแต่ละเดือนที่คนถูกยาสั่งตาย

ข้าพเจ้าตอนนั้นอยู่ในคุกชาย แดน 1 เป็นพี่เลี้ยงนักโทษประหารชีวิต ทั้งๆที่แต่ความตายมาเยือนก่อนที่ถูกยิงด้วยปืนกลนี้ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเวรกรรมที่เกิดจากการกระทำของปลัดวิสูตรกับพวกเป็นบาปร้ายที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ติดตามสนองผลมาตั้งแต่ตอนต้นดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวมาแล้วเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในคุกบางขวาง…จบตอน

สำหรับตอนนี้ขอมอบ◎พระคาถาขับไล่สิ่งชั่วร้าย◎

มะโทรัง อะตะระโร เวสะวะโน นะหากปิ ปิสาคะตาวาโหมิ
มหายักขะ เทพะอนุตะรัง เทพะดา เทพะเอรักขัง ยังยังอิติ เวสะวะนัน ภูตัง มหาลักชามะนง มะภูอารักขะ นะพุททิมะมัตตะนัง กาลปะติทิศา สัพเพยักขา ปะลายัตตะนิ

ใช้ท่องกับน้ำบริสุทธิ์แล้วนำมาประพรมให้ทั่วสถานที่นั้นๆ จะช่วยแก้อาถรรพ์ต่างๆ ณ ที่นั้นได้

ข้อขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณคลิปจาก : สองยาม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: