ถนนสีดำ ตอนที่ 1 ถนนชีวิต (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)
ถนนสีดำ ตอนที่ 1 ถนนชีวิต (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)
แก้วจ๊ะ
มิติใหม่ครานี้ พี่มีพร้อมในสิ่งที่คนอยากมีเขาฝันตั้งแต่ที่ซุกหัวนอนถาวรพร้อมครอบครัว เมียหนึ่ง ลูกหนึ่ง อยู่ในวัยปฐมกับโตโยต้าปิกอัพสีแดงคู่ใจอีกหนึ่ง ไว้สัมภาษณืผู้คนและเยี่ยมเยือนมิตรสหาย-เป็นรางวัลแก่ชีวิต
ล่วงเข้าเทศกาลสงกรานต์ เรา ๓ ชีวิตพร้อมใจกันไปพักผ่อนชนบท ก็นึกถึงสหายเซี้ยงเจ้าของบังกะโล ครัว “ริมแก่ง” อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จึงยกครอบครัวย่อยๆ ขึ้นรถสู่ดินแดนตาลโตนดชื่อกระฉ่อน
ตวามจริงแล้ว เพชรบุรีแต่อดีตก็ไม่ต่างบ้านอีกหลังนอกเมืองหลวง เพราะเคยอาศัยบารมี เล็ก นกใน นักเลงจริงนาพันสามพำนักแรมปี โดยมีลูกเพื่อนชาวเพชรฯ เป็นโซเฟอร์ตามความคุ้นเคยดังว่า
เข้าพื้นที่แก่งกระจาน บ้านสระยายนนท์ พี่บอกไอ้สอนวัยไล่ทหารโซเฟอร์
“แวะส่งอาที่บ้านจ่าดำแล้วค่อยไปบ้านเอ็ง ฝากลุกเมียด้วยโว้ย”
สิ้นคำ หนุ่มวัยไล่ทหารหยุดรถพลางชี้ยังเรือนไม้ชั้นเดียวปากแจง
“บ้านไม้หลังนั้นครับอา”
หันไปจับผมโก๊ะลูกชายเล่นก่อนผลักประตูรถเปิด รถเคลื่อนจากไปก็พบภาพครอบครัวจ่าดำเดียวกับกรณีศึกแดนเถื่อนบ้านบางกลอย จึงไม่ต้องแนะนำตัวก่อน จ่าชื่อละม้ายผิว ผมยาว หุ่นเตี้ยล่ำ หัวเราะร่า
เบียร์กับอาหาร จ่าดำสั่งเด็กจัดซื้อจัดทำ จ่าดำเป็นคนหนุ่มฉกรรจ์ทำงานด้วยใจที่แจ้งเพราะเคยตามเขากับเพื่อน ตชด.รุกไล่คนร้ายบนเทือกเขาตะนาวศรี ณ บ้านบางกลอย
ดังนั้น การที่ได้พาทีกับจ่าดำซึ่งทราบจากพรรคพวก สังกัด ป.ป.ส.อันเป็นเป้าหมายเพื่อเข้าไปให้ถึงแหล่งผลิตยาบ้าแท้ จึงรอจังหวะคุณจ่าพูดถึงบ้านบางกลอยที่ผ่านมาจะรุกบ้างเลยได้ช่อง
“อาอยากทำงานแบบบางกลอยอีก ยิ่งได้ตามพวกคุณไปยิ่งอยากทำ อาจะได้เอาไปสื่ออีกมุมหนึ่งของงานเสี่ยงตาย แต่ขายเบี้ยเลี้ยงเงินเดือนล่วงหน้าเลี้ยงครอบครัวพร้อมส่งเสียง ‘สาย’ ข่าวของตน”
คุยจนแดดดับไม่รู้ตัว พี่ก็ยังไม่กล้าบอกจ่าดำให้ไปบอกเจ้านายหรือหัวหน้าทีม เพื่อขอให้ติดตามไปด้วยกลับถูกชวนคุยเรื่องบ้านบางกลอยคล้ายฝังใจจึงเบนเรื่องอีกครา
“อาได้ข่าวว่าจ่ามาอยู่กับ ป.ป.ส.ไม่ใช่หรือ”
“ครับ”
“จ่าลองๆ พูดกับเจ้านายขออาห้อยท้ายไปด้วยจะผิดกติกาใหม”
จ่าผิวนิลจ้องหน้า กล่าวหนักแน่น “ผมอยากคุยกับอาเพราะเหตุนี้แหละ ทุกคนในทีมรู้จักอาจากหนังสือที่อาเขียนถึงมือปืน-เจ้าพ่ออาจารยืเองก็นิยมอาอยู่”
“หยั่งงั้นลุ้นให้อาหน่อย ยังงัยก็โทร.เข้ามือถือส่งข่าวหลังอากลับบ้าน”
บอกพลางหยิบนามบัตรเขียนรหัสมือถือไว้ให้ เจ้าบ้านรับไว้พร้อมเทเบียร์ทดแทน
แก้วจ๊ะ นับแต่เขียนหนังสือมาส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวคนนอกกฎหมายทุกขบวนท่า ครานี้ถ้าโชคช่วยพี่คงได้เขียนถึงผู้รักษากฎหมายและก็หวังว่าคงได้ข่าวดี
กลับจากสงกรานต์เมืองเพชรฯ พี่คงเป็นฤาษีเฝ้าบ้านนั่งเขียนหนังสือตามอาชีพ ภรรยาออกไปทำงาน ลูกชายวัย ๖ ขวบไปโรงเรียนไอ้สอนโชเฟอร์ไปเลื้อยไม้ทำโต๊ะเก้าอี้สไตล์ของเรานอกบ้าน
ชีวิตคนเขียนหนังสือแลจำเจเงียบเหงา แต่ก็เป็นความสุขยามจมอยู่ในห้วงลำดับอักษร อันนี้แก้วอย่าคิดว่าพี่ตีโวหารนะ เพราะคราใดที่เขียน ถ้ามีห้วงหนึ่งผลิตอักษรเป็นภาษาสื่อแลกระปรี้กระเปร่าชวนติดตามแค่ ๒ ชั่วยามดูยากในเวลา ๒๔ ชั่วโมงแห่งวัน
เมื่อสะดุดก็ออกไปช่วยหรือแนะนำขัดถูถากไม้ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์หรืออารมณ์ตัวเองจนได้เหงื่อถึงอาบน้ำไปขายอักษรตามอาชีพ กระทั้งคืนหนึ่งลุกจากเก้าอี้บิดตัวคลายเส้นสายเหลือบตามองนาฬิกาติดผนัง
ตี ๓ แล้ว” พี่อุทานในอก
ใจนั้นคิดถึงลุกเมีย ป่านนี้คงกรนฟี้ทั้งแม่ลูก พราะมื้อตอนค่ำสองแม่ลูกกลับจากห้างเห็นพี่เขียนหนังสือจึงไม่ได้คุยกัน ก็ย่องขึ้นไปเปิดประตูห้องนอนสองแม่ลูกกลางแสงไฟสลัวหัวเตียง
อกจะแตก…ทั้งภรรยาสาวคราวลูกกับลูกชายนิทราสนิท หากแต่ในมือลูกชายวัย ๖ ขวบกำโซ่เส้นเล็กๆ กับไม้ที ปลายเตียงมีวิดีโอเทปก็หยิบมาดู
“๒๔๙๙ อันธพาลครองเมือง”
หรือ “เส้นทางมาเฟีย” ที่เขียนโดยตัวเอง
ความรู้สึกระหว่างนั้นหนาวยะเยือก ภาวนาขอให้ “ลูกไม้” ที่ยังเดียงสาอย่าได้เหมือนอดีตพ่อบนเส้นทางสีดำ เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่มีใครเขาทำ น้อยรายรอดนรก ถ้าไม่ถอยเมื้อจังหวะเอื้อ
ปิดประตูห้องเบากริบกลับเข้าห้องตนนอนพาดท่อนแขนไว้บนหน้าผากคิดไปถึงพาหนะ ซึ่งจะต้องคุยกับภรรยาเรื่องพาหนะด้วยเคยใช้รับ-ส่งลูกชายเช้า-เย็น
ตื่นตาอีกครั้ง เห็นภรรยาแต่งตัวจะไปทำงาน พี่รีบขอเวลา
“หมู อาขอเวลาคุยเรื่องสำคัญหน่อย”
“คุยอะไร?” เธอถามพอได้ยิน
“ให้อาไปทำงานกับพวก ป.ป.ส.นะ อยากเห็นแหล่งผลิตกับขบวนการค้ายาบ้า เพราะอาสงสัยมาตั้งแต่บ้านบางกลอย”
“หาเรื่องเข้าตัวอีกแล้ว”
“ขอเถอะแม่” พี่อ้อน
แม่ของลูกอึ้งไปคู่หนึ่งก่อนสรุปสุ้มเสียงปกติ “จะติดต่อรถตู้ของโรงเรียนให้…อาจะไปมื้อไหร่”
“จ่าดำคงโทร.บอกวันสองวันนี้แหละ เผลอๆ หากเข้าไปคุยกับเจ้านายวันนี้ อาจโทร.วันนี้ก็ได้”
อดีตเด็กสาวข้างวัดเปิดกระเป๋าถือสีน้ำตาลหยิบเงินปึกหนึ่งให้เสริมคำเบาโหวง
“ตังค์นี่หมื่นหนึ่งนะ ปืนอยู่ใต้หมอน”
พลัน…โทร.มือถือหัวเจียงดังขึ้น พี่หยิบมากดปุ่มสัญญานรับเสียงปลายสายเป็นจ่าดำ
“อาเปี๊ยกหรือเปล่าครับ”
พี่กับภรรยามองหน้ากัน “อาเองคุณจ่า”
ต้นสายรายงานเสริม “ผมคุยกับเจ้านายแล้ว ตกลงครับ แกก็อยากคุยกับอาด้วย”
“เจ้านายไม่รังเกียจอดีตของอาหรือ”
“ไม่เลย แกยังพูดบางทีต้องอาศัยประสบการณ์อาด้วย หากอาพร้อม เย็นวันนี้มาทันมาเลยครับ เราจะประชุมทีมงานที่บ้านเพื่อนผม”
“ตกลงจ่า”
พี่ตอบ แล้วหันมองเมียสาว เธอบอกเสียงนุ่ม “มีอะไรก็โทร.หาแล้วกัน ไปทำงานหละ”
สิ้นคำ รีบคว้าแขนเธอไว้ บอกจากใจ
“อาขอบใจหนูมาก ฝากลูกด้วย”
กว่าจะจัดเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์ลงถุงทะเลเสร็จเกือบ ๙ นาฬิกา ก็ไหว้พระอราธนาขอมงคลชัย จึงเข้าไปในห้องภรรยายกหมอนขึ้นคว้าบาเร็ตต้าออกมาตรวจสมรรถนะ แล้วเสียบเข้าเอวปิดคลุมด้วยเสื้อยีน ลงไปสั่งโซเฟอร์ปิดทีวี ไฟฟืน และปิดบ้าน
โตโยต้าสีแดงสดพุ่งเข้าถนนวงแหวนมุ่งเข้าถนนสายธนบุรี-ปากท่อ กลางแดดสายสาดจ้าพลางถามใจตนกรณีหัวหน้าทีมงาน ป.ป.ส. อนุญาตให้ติดตามไปชมการทำงาน เพราะอย่างน้อยการทำงานทุกครา ป.ป.ส.อาจอ้างพี่เป็นพยาน ถ้าบังเอิญไปจับแล้วเจอ “ตอ” เข้าเต็มเท้า
เที่ยงเศษ โซเฟอร์กำลังทะยานรถเข้าเขตอำเภอเขาย้อย กริ่งสัญญานโทร..มือถือกังวานอีก จึงกดปุ่มรับสัญญาน ปากแจง
“จากใครครับ”
ต้นสัญญานตอบ “จ่าดำครับอา…ตอนนี้อาอยู่ที่ใหน”
“เข้าเขตเขาย้อยแล้ว”
“ผมโทร…มากลัวอาเสียเวลาวิ่งรถไปท่ายาง ตอนนี้ผมอยู่ที่อำเภอเมือง จะได้ออกไปคอยที่ห้าเขาวังเพื่อพาไปบ้านเพื่อน”
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมงอาคงถึง”
“ผมจะออกไปคอยที่ปั๊มน้ำมันสี่แยกเขาวัง”
“ขอบใจครับจ่า”
ความมุ่งหมายที่จะเข้าไปเป็นลูกทีม ป.ป.ส.ยิ่งใกล้สำเร็จ กิจกรรมทางความคิดกทำหน้าที่ของมันหากถูกสัมภาษณ์จากหัวหน้าทีมงานกรณีมีเจตนาสถานใดที่มาเข้าร่วมทีม
ใกล้บ่ายโมง แดดเผาจนต้องเร่งแอร์ โซเฟอร์สอนลดความเร็วของรถเมื่อเข้าพื้นที่ อ.เมือง อันมีขุนเขาใหญ่ตั้งอยู่กลางเมือง
พี่ถามย้ำโซเฟอร์
“ที่จ่าดำนัดมึงรู้นะ”
ไอ้หนุ่มเมืองเพชรฯ หัวเราะก๊าก ครวญเสียงอ่อย “อาก็รู้เพชรบุรีบ้านผม”
สี่แยกไฟแดงข้างเขาวังเบื้องหน้าสายตาปรากฎปั๊มน้ำมัน โซเฟอร์บอก
“รถจ่าดำจอดอยู่ในปั๊มครับ”
“เลี้ยวเข้าไปหาเลย”
ร่างกำยำ ผิวกายราวนิล ในชุดยีนปรากฎเต็มเลนส์แก้วตา เขาวิ่งเหยาะๆ มา พี่หมุนกระจกลง มือปราบ ป.ป.ส.ยกมือคารวะ ปากบอก
“อาให้ไอ้สอนขับรถตามรถผมไปนะครับ”
โซเฟอร์ได้ยินคำบอกจ่าดำขับรถตามโตโยต้าสีส้มที่ทะยานลิ่วไปทางวัดเขาบันไดอิฐ กระทั้งเลี้ยวเข้าไปในพื้นที่กว้างซึ่งมีรถเก๋งกับปิกอัพสีแผกกันจอดอยู่ก่อน ๔-๕ คัน ไม่เห็นคน สภาพบ้านปูนตีฝาด้วยปีกไม้บอกถึงรสนิยมเจ้าบ้านที่เห็นคุณค่า บริเวณพื้นที่บ้านวัดด้วยสายตาเกือบ ๒ ไร่ ล้วนปลูกไม้เลื้อยไม้ประดับเพียบ ภายในเนื้อที่นั่นมีบ้านเรือนทรงไทย ๒ หลัง
จ่าดำลงจากรถมาบอก มือซ้ายกำโทร.ไร้สาย
“อาไปกับผม หลังนี้แหละครับ”
ผลักประตูเปิดแล้วปิด ก้าวอย่างตามจ่าผิวนิลค่ายนเรศวรขึ้นบันไดปูน ๔-๕ ขั้นไปบิดลูกบิดกลอนประตูเปิดเข้าไปปะห้องโถงกว้างตกแต่งด้วยไม้ล้วน พื้นบ้านปูด้วยไม้ประดู่แลมีสีสัน ตั้งโต๊ะยาวใหญ่ใช้ไม้มะค่า มีเก้าอี้ตั้งรายล้อม
แต่บริเวณมุมหนึ่งตั้งวงไฮโลของกลุ่มหนุ่มฉกรรจ์ ๗-๘ นายด้านขวามี ๒ สาววัยเจริญพันธุ์นั่งอยู่หน้าทีวีขนาด ๒๐ นิ้ว การโผล่เข้าไปของจ่าดำกับพี่จึงเบี่ยงเบนเป้าหมายของทุกคนมาที่เรา
ทั้งหมดคล้ายรู้จักพี่มาก่อนพนมมือคาราวะ ๑ ในกลุ่มชายฉกรรจ์ร่างใหญ่หล่นคำ
“หวัดดีครับอา เพิ่งพบตัวจริงวันนี้ หลายคนในกลุ่มเราเคยเห็นอาในทีวี ดีใจมากที่ได้ร่วมงานกันครับ…ตอนนี้ขอเวลานอกหน่อยครับ”
สีหน้า แววตา รอยยิ้มและวาจาล้วนน่าปลื้ม อีกหนุ่มในกลุ่มลุกขึ้นยืนยิ้มให้พี่พลางละจากวงไฮโลมาหา จ่าดำบอก
“ขอแทงไฮโลหน่อยนะอา ไอ้ตัวนี้แหละเจ้าของบ้าน”
ผู้ถูกระบุเจ้าบ้านหน้าตาสมชาย ถ้าจะเจ้าชู้เมียแยะแน่ เพราะหุ่นทรงต่างกว่าจ่าดำ พิกัดมวยคงราวเฟเธอร์เวต กล่าวพอได้ยิน
“อาไปคุยกับเจ้านายผมก่อนไหม…แกอายที่ออกมาเห็นไอ้พวกนี้เล่นการพนัน แต่ก็ต้องการให้ทุกคนผักผ่อนเต็มที่ เราเป็นสายข่าวล่อซื้อกับหาข่าวแหล่งผลิตโดยมีกำลังหน่วยอื่นร่วมปราบปราม”
“ไปเลยคุณ”
เจ้าบ้านก้าวนำไปทางซีกซ้ายของบ้านเคาะประตูห้องพอได้ยินพลางบิดลูกบิดผลักประตูเปิดเข้าไปรับเสียงทักทายจากชายวัย ๔๐ ปีเศษ บุคลิกดี ผิวพรรณขาวเหลือง ใส่แว่นตาติดหน้าตลอด
“สวัสดีครับพี่”
สัมผัสแรกช่วยให้มั่นใจจึงคารวะตอบ “ขอบพระคุณที่ให้เกียรติผม”
ยิ้มเปิดเผย ต่อคำพี่ สุ้มเสียงเป็นกันเองพลางผินหน้าไปทางเจ้าบ้านสอบถาม
“พวกเรามากันครบแล้วหรือคุณ”
“ครบแล้วครับอาจารย์”
“ราวห้าโมงเย็น ผมจะติดต่อเข้ากองบัญชาการถึงแผนงานที่เราจะทำ คุณช่วยจัดการบริการอาหารมื้อเย็นสำหรับทุกคน…เบียร์ลังหนึ่งด้วยด้วย”
จบคำ หัวหน้าทีม ป.ป.ส.ดึงกระเป๋าหนังสีดำหยิบธนบัตรใบละ ๑,๐๐๐ บาท ๒ ใบส่งให้เจ้าบ้านซึ่งพอรับธนบัตรเขาหันมาทางพี่กล่าวนอบน้อม
“อาอยู่คุยกะอาจารย์นะครับ”
พี่ยิ้มให้เพราะรู้สึกเข้าตากับหนุ่มฉกรรจ์ เจ้าบ้านละจากไปดำเนินการ ผู้ถูกเรียกขาน “อาจารย์” กล่าวเปิดเผย
“ผมชื่อวโรทัยครับพี่ ส่วนคนที่ผมให้ไปซื้อของและเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ชื่อ จ่าคอน ตำรวจพลร่มจากค่ายนเรศวรครับ”
“คงเคยทำงานกับอาจารย์มาก่อนแล้ว”
“ครับ…ยกเว้นผู้หญิงสองคน”
“ผมเป็นอุปสรรคหรือป่าว”
หัวหน้างาน ป.ป.ส.วัยหลัก ๔ นำหน้าอายุแจ้งทันควัน “ผมว่าพี่นั้นแหละคือพลังกับความหวังของทุกคนในทีม สำหรับผมคิดแต่เพียงเพราะเหตุใดพี่พึ่งมาร่วมงานกับพวกเราซึ่งทุกฝีก้าวเหมือนอยู่ใต้เงาปืน เสี่ยงตายกับพิการได้ทุกขณะ ดูไม่คุ้มสำหรับคนที่มีชื่อเสียงอย่างพี่”
พี่ตอบทันควัน “ผมอยากทราบที่มาที่ไปของยาบ้า รวมไปถึงแหล่งผลิตกับขบวนการแพร่ช่างเร็ว จนเข้าไปถึงโรงเรียนแล้ว มีเรื่องอะไรช่วยได้ผมคงอยู่เฉยไม่ได้ แม้จะเสี่ยงหยั่งที่อาจารย์พูดก็ขอยืนยันความตั้งใจเดิมครับ”
“ถ้าพี่ต้องการไปกับทีมงานอย่างเด็ดเดี่ยวจริง ผมขอจับมือหน่อยครับ”
“ผมภูมิใจมาที่อาจารย์รับไว้ในสังกัด”
สุริยัน ศักดิ์ไธสง
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม