2601.พระเครื่องเครื่องรางเหมือนกันหมดใช้อะไรก็ได้เหมือนกันจริงหรือ?

พุทธคุณต่างกัน
พระเครื่องเครื่องรางเหมือนกันหมดใช้อะไรก็ได้เหมือนกันจริงหรือ?

……เมื่อสมัยผมยังเป็นเด็กๆจะได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่ท่านแนะนำเรื่อวเครื่องราง ท่านจะบอกว่า ถ้าอยากให้เป็นชาตรี(ลูกเบา)ต้องแขวนหลวงพ่อโตกรุวัดบางกระทิง ถ้าเป็นโรคภัยไข้เจ็บต้องการทำน้ำมนต์รักษาให้ใช้พระกริ่ง ถ้าบ้านไหนมีทะเลาะเบาะแว้งบ่อยๆมีเรื่องมีราว ให้ใช้ตะกรุดมหาระงับ ถ้ามีคดีความที่ไม่ยุติธรรมให้ใช้พญาเต่าเรือน ถ้าอยากเมตตาให้แขวนนางพญาเสน่ห์จันทร์ ถ้าอยากคงกระพันมีหลายอย่างเลือกเอาตามแต่จะถูกโฉลก จากคำพูดของคนยุคเก่านั่นมีสิ่หนึ่งที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พระครื่องหรือเครื่องรางต่างๆนั้นมีอานุภาพโดดเเด่นต่างกัน โบราณจารย์นั้นท่านมีหลักมีเกณฑ์ในการสร้างเครื่องรางต่างๆอย่างชัดเจน ของที่สร้างขึ้นมาแต่ละอย่างนั้นจะสร้างขึ้นมาจากตำราโบราณอย่างไม่มีผิดเพี้ยน คือท่านจะไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

……วัตถุอาถรรพ์ที่ตำรากล่าวไว้ ไม่ว่าจะยากเย็นเพียงใดก็ต้องหามาให้จนได้ หากแม้ขาดอะไรสักอย่าง ท่านก็จะยังไม่สร้าง และท่านก็จะบอกอย่างชัดเจนเลยว่าท่านยังสร้างไม่ได้เพราะขาดวัตถุอาถรรพ์อยู่ ดั่งเช่น หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ท่านสำเร็จวิชาควายธนู แต่ท่านก็ยังไม่ยอมสร้างสักที จนขุนพันธุ์ท่านไปพูดคุยด้วยจึงได้ความว่า ยังขาดวัตถุอาถรรพ์อยู่อย่างหนึ่งคือ ตะไคร้น้ำที่ติดอยู่บนจมูกของจระเข้ ขุนพันธุ์ท่านจึงเป็นธุระจัดหามาให้จึงได้สร้างควายธนูอันลือลั่นสะท้านโลกันตร์ขึ้นมาได้ อาจารย์ชุม ไชยคีรี หากท่านจะสร้างพระเครื่อง หรือเครื่องรางแต่ละอย่างนั้น วัตถุอาถรรพ์ต้องพร้อมสรรพเสียก่อน ไม่ใช่พร้อมธรรมดา อาจารย์ชุมท่านจะตรวจเช็คก่อนด้วยว่าวัตถุอาถรรพ์ที่ได้มานั้นมีพบังและอานุภาพเต็มเปี่ยมรึป่าว หากขาดตกแม้แต่นิดท่านก็จะไม่นำมาใช้ นี้เองจึงเป็นเหตุให้พระเครื่องและเครื่องรางของท่านมากมายด้วยประสบการณ์

……ฤกษ์ผานาที การวางฤกษ์ในการสร้างพระนั้นจัดเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ด้วยเพราะฤกษ์นั้นถูกกำหนดไว้ในตำรามาแต่โบราณว่า เมื่อจะสร้างเครื่องรางชนิดนี้ ต้องใช้ฤกษ์นี้ จะทำให้สำเร็จผลตามตำราที่สร้างนั้นก็เพราะโบราณจารย์ท่านมีเหตุผลสำคัญ คือ ฤกษ์จะเป็นตัวกำหนดทิศทางทางของพลังงานและเป็นแนวทางของโชคชะตาที่จะเข้าไปเป็นส่วนเสริมให้ผู้ที่ใช้พระเครื่องหรือเครื่องรางนั้นได้พบประสบแต่สิ่งดีๆ เช่นพระเครื่องบางอย่างจะถูกเลือกให้สร้างใน เพชรฆาตฤกษ์ เพราะด้วยความหมายของเพชรฆาตฤกษ์นั้น คือ ฤกษ์แห่งการตัด ไม่เกี่ยวกับการฆ่ากันนะครับ หมายถึงการฆ่าอุปสรรคทั้งปวงให้สิ้นเหมาะกับการที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรค ปราบปรามศัตรู ลงเลขยันต์ ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องราง งานที่ต้องใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แม้แต่การตั้งศาลบางอย่างก็ต้องใช้ฤกษ์นี้ครับ
ดังนั้นเราจึงเข้าใจได้อย่างง่ายเลยว่าพระหรือเครื่องรางใดๆที่สร้างในเพชรฆาตฤกษ์นั้นก็จะมีอานุภาพในด้านการกำจัดอุปสรรคเป็นหลัก

ยกอีกตัวอย่างแล้วกันนะครับ
หากเครื่องรางใดที่ถูกกำหนดให้สร้างและเสกใน เทวีฤกษ์ เราก็มาดูในความหมายของเทวีฤกษ์ว่าเป็นอย่างไร เทวีฤกษ์นั้นหมายถึง นางพญา ความมีเสน่ห์น่าหลงไหล โชคลาภ ทรัพย์สินเงินทอง ความมีชื่อเสียง ดังนั้นเมื่อเรารู้ว่าพระเครื่องหรือเครื่องรางนั้น สร้างในเทวีฤกษ์ นั่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้สร้างนั้นท่านต้องการให้เครื่องรางเหล่านั้นมีอานุภาพในด้าน เมตตา โชคลาภ ชื่อเสียง

เพิ่มเติมอีกนิดครับ เทวีฤกษ์นี้ มีดาวราหูคุมอยู่เป็นเจ้าฤกษ์ ดังนั้นมันจะมีเรื่องความลุ่มหลงมัวเมาด้วยครับ ดังนั้นกิจการที่ต้องใช้ความมัวเมาอย่างเช่น ผับ บาร์ ร้านเหล้า หรือบ่อนการพนัน ก็ควรจะมีเครื่องรางประเภทนี้เข้าไปบูชาในร้านด้วย (ให้เป็นเคล็ดไว้ครับ)

……ดังนั้นฤกษ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ถูกจัดวางไว้ในตำราการสร้างพระเครื่องและเครื่องรางทั้งหลาย ในเรื่องของฤกษ์นั้นมีความสำคัญมาก มากถึงขนาดที่ต้องจัดเป็น DNA ของพระเครื่องเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าหากเราย้อนไปในอดีตพระเครื่องที่เราพบในกรุต่างๆนั้นจะมีจารึกการสร้างพระเหล่านั้นไว้ ลงไว้เป็นวัน เดือนปี ที่สร้างพระนั้นไว้ โบราณจารย์ท่านแยบยลท่านลงไว้เพื่อบอกอะไรเรา ท่านบอกความหมายต่างๆไว้ในฤกษ์การสร้าง เพียงแต่เราใส่ใจค้นคว้าสักนิดก็จะได้รู้ความหมายต่างๆที่โบราณจารย์ท่านบันทึกไว้อย่างชัดเจน
ต่อไปเรามาว่าถึงการเสก

…… การเสกนั้นจะถูกวางไว้ในส่วนท้ายดังเราจะเห็นได้จากในตำราเก่าที่ท่านบอกไว้ว่าให้เสกด้วยคาถานี้ 108 คาบ หรือท่านจะบอกว่าให้เสกด้วย คาถา บารมี30ทัศน์ หรือท่านจะกำหนดคาถามาให้ไว้ในตำรา ตัวคาถานี้เองที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะจะเป็นตัวกำหนดและเป็นพบังงานที่จะส่งลงไปถึงเครื่องรางเหล่านั้นให้เป็นไปตามความต้องการ และตัวคาถานี้ยังต้องมีความสอดคล้องกับฤกษ์ที่ถูกกำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการเสกของทางเมตตาโชคลาภ ในฤกษ์ เทวีฤกษ์ คาถาที่ถูกกำหนดมานั้น ก็จะเป็นไปในทางที่ เมตตามหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม เรียกโชคลาภ เป็นต้น

การวางคาถาเสกที่สัมพันธ์กับฤกษ์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งเพราะจะเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนกัน ฤกษ์จะส่งผลให้คาถานั้นๆสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปและถือได้ว่าครบสูตรในการสร้างอย่างแท้จริง
ถึงตอนนี้แล้วมะกอกเมืองเพชรจะขอพาท่านย้อนกลับไปยังหัวข้อแรกที่ว่าด้วยวัตถุอาถรรพ์ คือ เมื่อเราได้ฤกษ์และคาถาที่เสกเหล่านั้นแล้ว หากฤกษ์ผานาทีและคาถากำกับเป็นไปในทิศทางทางที่เป็นเมตตามหานิยมแล้ว วัตถุอาถรรพ์ที่นำมาผสมในเครื่องรางนั้นก็จะถูกคัดเลือกจากของที่มีอานุภาพทางด้านเมตตาทั้งสิ้น

เพราะวัตถุอาถรรพ์นั้นคือสิ่งที่จะต้องเก็บอานุภาพของพลังงานนั้นไว้ และยังต้องเป็นเครื่องส่งพลังงานนั้นออกมา เพราะเหตุนี้เองวัตถุอาถรรพ์จึงต้องถูกคัดเลือกมาอย่างดีที่สุดเพื่อให้พลังงานนั้นคงรูปไว้อย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เข้าใจเป็นอย่างดีที่สุดเลยว่าทำไมหากยังหาวัตถุอาถรรพ์ได้ไม่ครบครูบาอาจารย์ท่านจึงยังไม่สร้างเครื่องรางนั้น เพราะครูบาอาจารย์ท่านจะไม่เอาสิ่งของที่ไม่มีประโยชน์มาเจือปน และ ที่สำคัญวัตถุอาถรรพ์แต่ละชนิดนั้นก็เหมือนกับยาพิษ

ในที่นี้คือ หากเอาว่านชนิดที่ 1 มากินเราจะไม่เป็นอะไรเราจะปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเอาว่านชนิดที่ 1 กินพร้อมกันกับว่านชนิดที่ 2 มันจะเกิดอาการเป็นพิษขึ้นมาทันที เรียกว่า ว่านทั้งสองมันเข้าไปทำปฏิกิริยากันจนทำให้เกิดสารชนิดใหม่ขึ้นมา วัตถุอาถรรพ์ในการสร้างเครื่องรางเองก็เช่นกัน ทุกอย่างจะเข้าไปทำปฏิกิริยาซึ่งกันและกันจนเกิดเป็นพลังอานุภาพชนิดใหม่ขึ้นมา

ซึ่งจะส่งผลให้มีอานุภาพตามที่โบราณจารย์ท่านกำหนดไว้ มะกอกเมืองเพชรขอยกตัวอย่าง ผงว่านช้างผสมโขลง ของท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ท่านจะใช้ว่านช้างผสมโขลงเป็นเบสในมวลสาร และใช้ ผงอิทธิเจซึ่งให้อำนาจทางด้านมหาเสน่ห์มาเป็นส่วนเสริม อีกทั้งยังใช้ผงมหาราชซึ่งทำอำนาจในด้านมหานิยมใส่เข้าไปเพื่อให้คนหมู่มากนิยมชมชอบ ยังมีผงยันต์กำเนิด 3 เพื่อเป็นการเรียกจิตของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย โดยอ้างบารมีของพระรัตนไตร นี่เองที่เราจะเห็นได้ถึงการใช้มวลสารให้ส่งเสริมฤทธิ์อำนาจให้เครื่องรางนั้นเป็นที่สุดของที่สุด

ท้ายนี้ผมนายมะกอกเมืองเพชรขอยกบทความนี้ถวายไว้แด่ครูบาอาจารย์ทั้งทางด้านโหราศาสตร์และไสยศาสตร์ หลวงปู่คง บูรพาจารย์แห่งเขาอ้อทุกท่าน อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์เทพย์สาริกบุตร อาจารย์ไพโรจน์ และขอให้ทุกท่านที่อ่านเข้าใจไว้ด้วยเหตุด้วยผลว่า วิชาทางไสยศาสตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายไม่ใช่เรื่องงมงมายเป็นแต่เพียงเราท่านทั้งหลายต้องศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน

แล้วท่านจึงจะได้รู้ว่าสิ่งเหล่านี้นั้นกว่าจะสร้างได้นั้นยากเย็นขนาดไหนหากครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้เปี่ยมไปด้วยเมตตาที่มีให้ศิษย์แล้วถามว่า ท่านจะมาลำบากสร้างเพื่ออะไร แล้วถ้าสร้างมามันไม่ได้ผลที่จริงตามตำราแล้ว ท่านจะสร้างให้เสียเวลาเพื่ออะไร ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดระหว่างอดีตและปัจจุบันฝากไว้ให้คิดครับ

Cr.มะกอกเมืองเพชร

แอพเกจิ