2072. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน ทำไมไม่ไหว้แต่แรก

เรื่องราวนี้ เกิดขึ้นโดยตรงกับ #แอดมินรัช เองนะครับ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2545

หากพูดถึง “ศาลหลักเมือง” ของอำเภอเล็กๆอย่างพระประแดง ในจังหวัดสมุทรปราการ คงพูดได้อย่างเต็มปากว่า ไม่มีใคร “ไม่รู้จัก” อย่างแน่นอน ซึ่งปัจจุบันได้มีการบูรณะศาลนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตอนนั้น ผมอายุประมาณ 13 ปี ช่วงปี 2545 (ไม่ต้องนับนะครับ..ว่าตอนนี้ผมอายุเท่าไหร่)

ช่วงเวลาประมาน 6 โมงเย็น คนโบราณมักจะไม่ให้คนในบ้านนอน เพราะเป็นช่วง “ตะวันทับตา” บางที…อาจจะทำให้ป่วย บางที…อาจจะทำให้สื่อสารกับสิ่งลี้ลับได้ แต่สำหรับตัวผม ผมมองว่า คงเป็นกุศโลบาย ไม่ให้คนทั่วไปนอนมากกว่า เพราะเดี๋ยวกลางคืนจะไม่หลับ ผมก็เลยรู้สึกว่าไม่สนใจ ง่วง..ก็ต้องนอนสิครับ รออะไร 555

ในที่สุด…ผมก็เผลอหลับไปทีโซฟาบ้านของลุง ในขณะที่หลับไปสักพัก ก็ฝันว่าวิ่งๆๆๆ วิ่งๆๆๆ วิ่งอย่างไม่มีจุดหมาย แล้วก็ได้ยินเสียงคนหัวเราะอยู่ตลอดเวลา และผมก็เริ่มรู้สึกตัว ตอนที่โบว์ (พี่สาวของผม) มาปลุก “ตื่นๆ โกหมวยเรียกให้กลับบ้าน” ตอนนั้นผมรู้สึกตัวนะครับ แต่ทำอะไรไม่ได้ ขยับตัวไม่ได้ ได้แต่นอนนิ่งๆ พี่สาวผมก็ยังเรียกอยู่เหมือนเดิม แล้วก็ยังแกล้งผม เพราะคิดว่าผมขี้เกียจลุก นางเลยไปเอาไม้กวาดดอกหญ้าที่ยังไม่ได้ใช้ ดึงดอกไม้กวาด แล้วมาเขี่ยจมูกผมเล่นอีก แต่ผมก็ยังขยับไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ ตอนนั้นผมรู้เลยว่า มันผิดปกติแล้ว ผมเล่นสวดมนต์ในใจ พร้อมกับน้ำตาค่อยๆไหล

“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต สวดทำไมอะ นี่ก็สวดได้” เป็นเสียงของเด็กผู้ชา ที่ไม่น่าจะเด็กมาก ดังออกมาจากฝั่งของผนังโซฟาที่ผมนอนอยู่ ผมได้ยินชัดเต็มหู ผมก็ยิ่งกลัว แล้วสวดมนต์ต่อ จนผมเริ่มพูดได้ ผมเลยบอกให้โบว์ จับมือผมขึ้นพนมมือ (ต้องบอกก่อนนะครับ โซฟาที่ผมนอน เป็นโซฟาแบบยาว นั่งได้ 3 คน ผมนอนเอาศีรษะของผมออกไปทางนอกบ้าน)

โบว์ก็มาจับมือผมพนมมือ แบบงงๆ แต่ยังไม่ทันจะสวดมนต์ต่อ เสียงเดิมก็ดังขึ้นที่ข้างผมอีก “ไหว้กูทำไมอะ มะตอนบ่าย ยังไม่เห็นจะไหว้กูเลย 55” แค่นั่นแหละ เหตุการณ์ต่างๆเมื่อบ่ายก็แว๊บเข้ามาในหัวของผมทันที

เมื่อช่วงสายๆของวันนั้น ผมกับแม่เราพากันไปไหว้พระพิฆเนศที่ศาลหลักเมือง ตัวศาลหลักเมืองนั้น อยู่ในตลาดเพชรหึง เป็นตลาดที่เรียกได้ว่า “เละ 24 ชม.” หนูวิ่งกันเหมือนเป็นลานออกกำลังกายของพวกเขาเลยทีเดียว

ในขณะที่ผมกำลังไหว้พระพิฆเนศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆภายในศาล ผมก็เหลือบไปเห็นต้นโพธิ์เก่าแก่ ที่อยู่น่าศาลเต็มไปด้วยผ้าสีแดง สีเขียวสีเหลือง ทั้งเก่าและใหม่ ผูกกันเต็มไปหมด แล้วก็มีตุ๊กตากุมาร ใส่ชุดสีเขียว สะอาดใหม่เอี่ยม เหมือนเพิ่งมีคนนำมาวางอยู่ที่บริเวณโคนต้นไม้ต้นนั้น ในใจผมตอนนั้น คิดว่า “อ้อ กุมาร ไม่ต้องไหว้ก็ได้มั้ง คงเด็กกว่าเรา (เพราะตอนนั้นจะคิดอยู่เสมอว่า เราจะไหว้คนอายุน้อยกว่าเราไม่ได้ เดี๋ยวเค้าจะอายุสั้น 555 คิดไปได้)” แล้วเราก็ไหว้อย่างอื่นรอบๆบริเวณนั้นจนเสร็จ แล้วก็ขี่มอไซค์กลับบ้าน

เหตุการณ์ทุกอย่างมันย้อนกลับมาหลังจากที่ผมได้ยินประโยคนั้น ในใจผมได้แต่บอกว่า “ขอโทดจริงๆครับ ผมไม่รู้ ผมขอขมาด้วย” แล้วผมก็สวดมนต์ต่อ

จนในที่สุด ก็ต้องให้คนขับสามล้อ (แถวพระประแดงยังมีสามล้อปั่นอยู่นะครับ) มาช่วยกันหิ้ว + ลากผมกลับบ้าน

พอผมถึงหน้าบ้าน ก็ทรุดลงอีก ทุกคนในบ้านตกใจ พี่สามล้อ 2 คนนั้น ก็มาช่วยกันลากผมเข้าไปในบ้าน แม่ของผมเหนถ้าไม่ดี ก็เลยไปเอาสร้อยพระของผมมาสวมคอ

ผมจำได้ว่า ตอนนั้น ผมร้องไห้ไป พูดไป คนในเหตุการณ์ตอนนั้นบอกว่า ผมพูดเปน 2 เสียง เสียงนึงเปนเสียงตัวเอง อีกเสียงเปนเหมือนเสียงเดก และสุดท้าย แม่ก็ไปจุดธูป แล้วให้ผมขอขมา บอกว่า เดี๋ยวจะออกไปไหว้และทำพิธีให้ถูกต้องตอนนี้เลย พอปมไหว้เสร็จ แม่ก็เอาไปปักไว้ที่ต้นไม้หน้าบ้าน อาการของผมก็ถึงดีขึ้น

แม่จึงเรียกให้พี่สามล้อปั่นพาแม่กับผมไปไหว้ขอขมาที่ศาลหลักเมือง

หลังจากนั้น ผมก็ต้องลาเรียนไปถึง 3 วัน เพราะผมป่วย เปนไข้สูง ไปหาหมอก็ได้ผลตรวจกลับมาว่า ไม่ทราบสาเหตุ

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในชีวิตผม ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าผมจะเจอหรือเห็นอะไร ผมจะยกมือขึ้นไหว้ ด้วยใจที่ไม่สงสัยเสมอ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : เรื่องหลอนสยองขวัญ
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: