2137. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…ไม่ได้ตั้งใจ

เรื่องมีอยู่ว่า … “เต้” เดินทางไปบวชที่วัดชานเมืองแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ วัดดังกล่าวมีเพียงเจ้าอาวาสรูปเดียว ไม่มีพระลูกวัด เย็นวันนั้นหลังสวดมนต์เสร็จแล้ว หลวงพ่อก็ถาม “เต้” ว่า “ท่านเต้กลัวผีหรือเปล่า … ตามกฎของวัดแล้ว ผมนอนกับท่านเต้ไม่ได้นะ ท่านเต้ต้องนอนต่ำกว่าผม ผมจะขึ้นไปนอนที่กุฏิบนยอดเขา” หลวงพ่อพูดพลางชี้ไปยังกุฏิที่ตั้งอยู่บนยอดเขาภายในบริเวณวัด ว่าแล้วหลวงพ่อก็พา “เต้” ไปยังกุฏิ เนื่องจากวัดแห่งนี้เป็นวัดป่าจึงไม่มีแสงไฟใดๆ มีเพียงตัวโบสถ์เท่านั้นที่มีไฟจากเครื่องปั่นไฟ เดินทางมาได้ซักครู่ หลวงพ่อก็พา “เต้” ไปยังกุฏิหลังหนึ่งมีลักษณะเป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ หลวงพ่อบอกให้ “เต้” ขึ้นไปนอนที่ชั้นสอง ซึ่งจะมีห้องอยู่ห้องหนึ่งที่ไม่ได้ล็อค เมื่อพา “เต้” ไปยังกุฏิแล้ว หลวงพ่อก็เดินกลับไปยังกุฏิของตัวเอง

ระหว่างที่ “เต้” กำลังเปิดกุญแจเข้าไป ก็สังเกตเห็นว่า กุฏิหลังดังกล่าวมีการทาสีแปลกๆ บางแผ่นเป็นสีเหลือง บางแผ่นเป็นสีขาว และมีลายกนกที่เขียนด้วยเส้นสีทอง พอเปิดประตูเข้าไปภายในกุฏิได้ “เต้” ก็เดินสำรวจหาห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำอยู่บริเวณชั้นล่าง ข้างหน้าห้องน้ำมีกองหินอ่อนวางซ้อนกันอยู่ เนื่องจากไม่มีไฟ “เต้” จึงเข้าห้องน้ำโดยไม่ได้ปิดประตู ระหว่างกำลังทำธุระก็ส่องไฟฉายไปยังกองหินอ่อนและก็พบว่ามันเป็นหินอ่อนสำหรับใช้แปะไว้รอบโบสถ์เพื่อติดรูปคนตาย ! หลังจากทำธุระเสร็จ “เต้” ก็เดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อจะเข้านอน ระหว่างที่กำลังนอนอยู่ หน้าต่างไม้ก็ถูกดึงออกดัง “ปึก !” และมีเสียงเหมือนคนเล่นกับเด็ก ! ด้วยความกลัว “เต้” ก็วิ่งออกจากกุฏิเพื่อไปยังกุฏิของหลวงพ่อ แล้วตะโกนเรียกหลวงพ่อ ซักพักหลวงพ่อก็เปิดประตูออกมาและถามกลับไปว่า “เป็นอะไรท่านเต้ … ใจเย็นๆ” “ผมเจอหลวงพ่อ … ผมเจอ” แต่หลวงพ่อกลับตอบกลับไปว่า “เพ้อเจ้อมาก … ผมอยู่มายี่สิบพรรษาไม่เห็นเจออะไรเลย ท่านเพิ่งมาวันเดียวจะมาเจออะไรได้ไง” แต่ด้วยความกลัว “เต้” เลยขอเข้าไปนอนกับหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อปฏิเสธ สุดท้าย “เต้” เลยตัดสินใจไปนอนในโบสถ์ ซึ่งหลวงพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมกับเดินไปหยิบเสื่อมาให้

เมื่อ “เต้” เข้าไปในโบสถ์ ก็สังเกตเห็นว่าโบสถ์มีพื้นเป็นปูน หลังคาเป็นไม้ ผนังด้านข้างเป็นกระจกทึบทั้งหมด เมื่อเห็นดังนั้น “เต้” เลยตัดสินใจปีนขึ้นไปบนแท่นวางพระประธาน แล้วเอาหลังพิงพระประธานไว้ ทันใดนั้น “เต้” ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่สไบสีส้มนั่งไหว้พระอยู่ พอเห็นดังนั้น “เต้” ก็หันหน้าเข้าหาพระประธานแล้วเอามือคล้องพระหัตถ์ของพระพุทธรูป (พระปางประทานพร) เพื่อไม่ให้ตัวเองตกลงไปข้างล่าง ระหว่างที่พยายามข่มตานอน “เต้” ก็ได้กลิ่นดอกเข็มตลอดเวลา !

บ่ายวันต่อมา “เต้” ก็ไปกวาดลานวัดเช่นเดิมและเอาใบไม้ไปกองไว้ที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ระหว่างกวาดใบไม้ไปได้ซักพัก “เต้” ก็ไปนั่งพักและได้ยินเสียงดัง “แป๊ก … แป๊ก” เหมือนเสียงรองเท้าเวลาเดิน พอหันไปหาที่มาของเสียง “เต้” ก็เห็นผู้หญิงคนเมื่อคืนเดินขึ้นบันไดที่ยังสร้างไม่เสร็จ แล้วหายเข้าไปในต้นไม้ที่ “เต้” กวาดใบไม้ไปกองไว้ หลังจากนั้น “เต้” ก็ไปบอกหลวงพ่อ แต่หลวงพ่อกลับตอบว่า “เต้” อาจจะหลับแล้วคิดไปเอง แต่ถ้ามีจริงๆ ก็คงเป็นเทวดาทีรักษาที่นี่ ไม่อย่างนั้นหลวงพ่อต้องเคยเจอบ้าง พอได้ฟังดังนั้น “เต้” ก็เลยเดินกลับไปกวาดใบไม้ต่อ แต่เอาใบไม้ไปกองไว้ใต้ต้นไม้ต้นอื่นแทน

พอตกกลางคืน หลวงพ่อสอน “เต้” ให้นั่งสมาธิ แต่เนื่องจาก “เต้” ไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน “เต้” เลยแอบลืมตามองหลวงพ่อ แต่เห็นผู้หญิงคนเมื่อคืนยืนอยู่ ด้วยความตกใจ “เต้” จึงตะโกนเรียนกหลวงพ่อพร้อมกับกระชากจีวร แต่หลวงพ่อกลับมองไม่เห็นผู้หญิงคนดังกล่าว ! ซักพัก “เต้” ก็ได้กลิ่นดอกเข็มเหมือนเมื่อคืน ตอนนั้น “เต้” รู้สึกว่าอยู่ไม่ได้แล้ว จึงบอกกับหลวงพ่อว่าให้ติดต่อญาติมารับกลับ แต่หลวงพ่อตอบกลับว่า “ไม่ได้ … กว่าญาติจะมารับก็อีกอาทิตย์นึง” พอได้ฟังดังนั้น “เต้” ก็ขอร้องให้หลวงพ่อมานอนที่โบสถ์ด้วย หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาหลวงพ่อก็มานอนที่โบสถ์กับ “เต้” ทุกคืนจนกระทั่ง “เต้” สึก

คืนต่อมาระหว่างที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ “เต้” ก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า “คนนี้รึเปล่า … คนนี้รึเปล่า” และเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงเหมือนคนคุยกัน “เต้” เลยพยายามหลี่ตามองก็เห็นผู้หญิงคนเดิม แต่วันนี้แขนของผู้หญิงคนนั้นหักและจ้องมองมาที่ “เต้” ! พอเห็นดังนั้น “เต้” ก็เรียกหลวงพ่อ หลวงพ่อเลยว่าน่าจะไปทำอะไรผิด ว่าแล้วหลวงพ่อก็นั่งปลงอาบัติและสวดมนต์ แต่ยิ่งสวดมนต์กลิ่นดอกเข็มยิ่งแรงขึ้น แรงขึ้น … เหตุการณ์เป็นอยู่อย่างนี้ทุกวันจนกระทั่ง “เต้” สึก !

หลังจากที่ “เต้” สึกออกมาแล้ว แต่ยังไม่ได้กลับบ้าน “เต้” ก็ไปกวาดใบไม้เหมือนทุกวันและเผาใบไม้ที่เคยกวาดไปกองไว้ใต้ต้นไม้ ซักพัก “เต้” ก็เจอตุ๊กตานางรำใส่สไบสีส้ม แขน-ขา-คอหัก … “เต้” จึงเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดว่าทำไมเขาถึงเจอผู้หญิงคนนั้นทุกคืน !

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Pantip โดยสมาชิกหมายเลข 2949998
ขอขอบคุณรูปภาพคลิปจาก : musicjin
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: