2074. สุดหลอน สยองเป็นตำนาน !!! “ลิฟท์แดง” ยังคงเป็นที่น่าสะพรึงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน !!! เรื่องเล่าจาก นศ.ศิลปศาสตร์ !!!
เมื่อพูดถึงตำนาน หรือเรื่องเล่าสยองขวัญของ ม.ธรรมศาสตร์ แล้วล่ะก็ เรื่องแรกที่เรามักจะนึกถึงกันนั้นก็คือเรื่อง “ลิฟท์แดง” ตำนานความลึกลับที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุด และยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ เรื่องมหาลัยสยองขวัญอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ที่กลุ่มผู้ปราบปราม บุกเข้ามาในม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อกวาดล้างขบวนการนักศึกษา
โศกนาฏกรรมที่ต้องจารึกในประวัติศาสตร์ไทย ตามตำนานที่เล่าว่า เมื่อเช้ามืดวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 (วันฆ่านกพิราบ) ขณะที่กลุ่มนักศึกษากำลังชุมนุม เพื่อยื่นข้อเรียกร้องทางการเมือง ทันใดนั้นก็มีเหล่าทหาร-ตำรวจ (กลุ่มผู้ปราบปราม) จำนวนมาก บุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อกวาดล้างพวกนักศึกษา อย่างโหดเหี้ยม
โดยมีเรื่องเล่าต่อกันว่า มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งหลบหนีเข้าไปอยู่ในลิฟท์ภายในมหาวิทยาลัย หวังเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่า ทว่าก็ไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือมัจจุราชได้ เพราะทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก พวกเขาก็ถูกกระหน่ำยิงอย่างทารุณจนเสียชีวิตทั้งหมด เลือดสาดกระจายทั่วลิฟท์
ต่อมาทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้บูรณะทำความสะอาดกันทุกพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่ลิฟท์ตัวนั้น แต่ทำความสะอาดยังไงคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่ก็ไม่ล้างไม่ออก จึงได้ทำการทาสีลิฟท์ให้เป็นสีแดง และถูกเรียกว่า “ลิฟต์แดง” เป็นต้นมา แล้วทางมหาลัยก็ได้นำกลับมาใช้ตามปกติ
น.ส.เอนริณ ธนาเดชาวุฒิ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 เล่าในช่วงนั้นก็ใกล้ที่จะสอบปลายภาคแล้ว งานต่างๆไม่ว่าจะเป็นรายงานก็เยอะมาก นักศึกษาหญิงคนหนึ่งมาส่งรายงานที่ตึกนี้ ขณะนั้นเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแล้ว ด้วยความที่เร่งรีบ เธอได้ใช้ลิฟต์ตัวนี้ขึ้นไปส่งงานที่ห้องพักอาจารย์ด้วยที่ไม่คิดอะไร ทันทีที่เข้าไปก็กดลิฟต์ไปที่ชั้น 6 ระหว่างที่ลิฟท์กำลังเลื่อนขึ้นไปนั้นก็ดันไปหยุดที่ชั้น 3 และประตูลิฟท์ก็เปิดออกมา
ขณะนั้นเองจิตใจของนักศึกษาผู้นี้ก็เริ่มสงสัย และหวาดกลัวแล้ว แต่ขณะนั้นเมื่อลิฟต์เปิดอยู่ นักศึกษารายนั้นรู้สึกเหมือนว่าลิฟต์กำลังมีคนวิ่งเข้าๆ เพราะเมื่อลิฟต์ประตูกำลังปิด ก็ดันเปิดอีกครั้ง เหมือนกับว่าประตูลิฟต์ไปถูกคนที่วิ่งเข้ามา เธอพยายามสั่งปิด แต่ในระยะเวลากระชั้นชิด เสียงที่ลิฟต์ก็ดังขึ้นว่า OVER LODE เธอมาคนเดียว แต่ทำไมมัน OVER LODE ตอนนั้นหัวใจหล่นมาอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว เธอตัดสินใจวิ่งออกจากตัวลิฟต์ลงบันไดทันทีท่ามกลางความมืดลงมายังชั้นล่าง ซึ่งวันนั้นเธอไม่ได้ส่งรายงานเล่มนั้น
น่าแปลกใจมาก ที่ลิฟต์ตัวนี้บ่อยครั้งมากที่มันเปิดค้างไว้ แต่ไม่มีใครกล้ามองเข้าไป เพราะเคยมีคนเห็นภาพศพที่เต็มไปด้วยกองเลือดนอนทับถมกันอยู่ในลิฟต์ และเรื่องเหล่านี้ก็มักเกิดขึ้นเสมอ และในช่วงตอนเย็นจะไม่มีใครกล้าเดินผ่านลิฟต์แดงเลย ยิ่งตอนที่ประตูลิฟต์เปิดค้างไว้จะไม่มีใครกล้ามองเข้าไปเพราะเคยมีคนเห็นภาพศพที่เต็มไปด้วยกองเลือดนอนทับๆ กันอยู่ในลิฟต์เป็นตั้งๆ ได้ยินแล้วเสียวสันหลังมาก
จากนั้นก็เริ่มมีเสียงเล่าลือ ถึงความสยองขวัญของลิฟต์ตัวนั้น ทั้งนักศึกษา และอาจารย์ต่างเคยสัมผัสเหตุชวนขนลุกกันมาแล้ว เช่น บางคนเข้าไปในลิฟต์คนเดียว จากนั้นไม่นานก็มองเห็นคนอยู่ในลิฟต์เต็มไปหมด หรือจู่ๆ ขณะกำลังขึ้นลิฟต์ก็มีนักศึกษาเดินเข้ามา พร้อมรอยเลือดที่ไหลมาตามทาง ไม่เว้นแม้แต่เสียงโหยหวน และรอยคราบเลือดสีแดง ที่หลายคนอ้างว่าเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว
ปัจจุบันลิฟท์แดงถูกถอดออกไปแล้ว เพราะมีสภาพผุพัง และได้นำลิฟทืตัวใหม่มาแทนที่ อย่างไรก็ตามทางมหาวิทยาลัย ยังคงเก็บ “ประตูลิฟท์แดง” ของจริงเอาไว้ โดยนำไปตั้งอยู่ที่หลังบันไดจากชั้น 4 ขึ้นไปชั้น 5 ของคณะศิลปศาสตร์ มาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แสดงถึงความสูญเสียของเหล่านักศึกษาผู้บริสุทธิ์ ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงสืบต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : TNews
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji
