3793. เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 52 หมาล่าเนื้อ (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 52 หมาล่าเนื้อ (เขียนโดยสุริยัน ศักดิ์ไธสง)

พอขบวนแห่นักชกแดนอันธพาลอันมี “โอรสเจ้าอาหรับ” อุสมาน ศรแดงซึ่งนั่งผงาดอยู่บนคอหนุ่ม “นิโกร” พ่อเล้าลาดยาวร่างใหญ่บัดนี้สีหน้าขรึมสงบ ผ้าเช็ดตัวสีแดงสดผืนใหญ่ที่ใช้คลุมหัวอดีตแชมป์มวยไทยเมื่อ ๒ ทศวรรษดึงสายตานักบู๊ทั่วส่วนกลางเปล่งเสียงไชโยต้อนรับตลอดรายทาง ตะวันบ่ายวันมงคลแห่งทาสรัตนโกสินทร์ดังเห็นใจนักเลงทุ่งบางเขนจึงเอื้อแสงแต่เพียงอุ่นเนื้อ ต่อมาเพื่อนพ้องที่แห่ตามขบวนทีมนักมวยแดนอันธพาลได้แยกย้ายกันร่อนหาทรัพย์จับเดินพันกับนักโทษแดนโรงพิมพ์มหาดไทย พอขบวนแห่ถึงหน้าทำเนียบเหล่ามโหระทึกหยุดบรรเลง กระทำคารวะคณะกรรมการพิจารณาจับกุมปลดปล่อยบุคคลอันธพาลรวม ๗ ท่าน ซึ่งนั่งเอ้เตอยู่บนเก้าอี้อันเจ้าหน้าที่จัดไว้รับรองตรงระเบียงเป็นแถว ทุกท่านยิ้มย่องผ่องใสอวยพรให้นักชกแดนอันธพาลจงได้ชัยในศึกยกทีมสัประยุทธ์มวยไทยครั้งนี้

เพราะอุสมาน ศรแดงผู้เกรียงไกรได้รับการทักทายจากท่านผู้ใหญ่ทั้ง ๗ หน่วยงานอย่างสนิทสนม พักใหญ่นักมวยทุกนามก็กลับไปยังม้านั่งยาว ๓-๔ ตัว หน้าเวที หรือ “ลุยไถ” ที่ทำเสร็จเรียบร้อยไม่ต่างสังเวียนจริงจัดการให้พี่เลี้ยงพันผ้าพันมือ บรรดาคอมวยกับนักพนันเลยเฮสัมภาษณ์นักมวยผู้ยิ่งใหญ่หาความมั่นใจในเกมเดินเงินต่อรอง
“บังจะชกสุดฝีมือ ถ้าเด็กมันกระดูกก็ไม่เกินยก ๒”
น้ำคำบังมานยืนยันหนักแน่น นัยน์ตาโตดำขลับประกายเรือง ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาในอดีตจากเค้าหน้านั้นยังคงเค้าชายงามอยู่ชัดเจน

๑๔ นาฬิกาตรง ปี่-กลอง-ฉลองและฉิ่ง บรรเลงเพลงศึกนักชก เรียกเลือดนักเลงนักพนันเต้นเร่า เวลาเดียวกัน วงกลองยาวแดนอันธพาลซึ่งยกขบวนไปรับนักชกแดนโรงพิมพ์เริ่มแผดเสียงโห่สามรารับตะวันบ่าย แฟนมวยรอบๆ เวทีฮือไปรับ มือกลองยาวประเดิมเทิ่งบอง-เทิ่งบอง โดยมีกะเทยหุ่มงาม ผิวคล้ำ สวย เฉียบวัย ๒๐ ปี นาม “สนธยา” จำคุกฐานลักทรัพย์ฝรั่งคู่นอน ภายใต้อาภรณ์ชุดไทยประยุกต์สวยสดกำลังฟ้อนรำกลองยาวลอยหน้าลอยตายั่วเหยื่อเรียกเสียงเป่าปากเปี้ยวป๊าวตลอดทาง ชัย โพธิ์สามต้น นักบู๊ธนบุรีเจ้าของร่างล่ำสันต้นเหตุล้มมาเฟีย ตง แซ่ตั้ง ก้าวตามขบวนแห่พลางโบกมือให้สหายนักบู๊สองฝั่งถนน ท่ามกลางการ์ดคุ้มครองนับสิบ

ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา ศึกมวยไทยยกทีมถล่มกันชืงถ้วยรางวัลเกียรติยศท่ามผู้ปกครองสถานอบรมฝึกวิชาชีพลาดยาว พร้อมมวยไทยคู่พิเศษชิงรางวัลเงินสด ๓๐๐ บาทขึ้นเวทีแล้ว แฟนมวยจากแดนนักโทษยกโขยงเข้าเชียร์นักชกของตนกว่าครึ่งแดน บริเวณรอบสังเวียนจึงแน่นขนัด ลิเกคณะ “อาจารย์เหล็ง ลูกมาตุลี” เข้าตรวจการพ้นผ้าพันมือนักชก ส่วนกรรมการข้างเวที ๒ ท่านเป็นเจ้าหน้าที่โล่เขนกับคอสิงห์แดนโรงพิมพ์ สักครู่พอนักชกสวมเสร็จ ผู้ตัดสินเขยิบออกจากมุมไปตรวจสอบสภาพนวมชกพร้อมกระจับพิทักษ์ไข่นักมวย หัวหน้าลอผู้บังคับแดนสงวนทำหน้าที่รักษาเวลาระหว่างยกตีนระฆังเตือนมวยคู่แรกกระทำการไหว้ครู ปี่-กลอง-ฉาบ-ฉิ่ง ขึ้นเสียงเชิญครูผู้ประสิทธิ์ประสาทแม่ไม้มวยไทย นักมวยลุกออกจากมุมมหาทิศบูชาครูพี่เลี้ยงลงจากสังเวียงไปยืนซุกอยู่ข้างเสา นักมวยเริ่มไหว้ครูด้วยลีลาน่าชม คณะกรรมการพิจารณาจับกุม-ปลดปล่อยบุคคลอันธพาลปรบมือเป็นเกียรตินักมวย

ทว่า ตรงกันข้ามกับเซียนมวยที่มิได้ใส่ใจศิลปะการไหว้ครู ผมนั้นรวมกลุ่มอยู่ในหมู่เพื่อนพ้องอันผสมผสานแดนโรงพิมพ์กับแดนอันธพาลระดับพ่อค้า-นายทุนพบว่าพรรคพวกต่อรองเดินเงินกับมวยคู่แรกพิกัดไม่เกินฟลายเวตด้วยเงินนับพันบาทก็รู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก (เฮโรอินชนิดเกล็ด) จำนวน ๑ ถุง น้ำหนัก ๑๕ กรัม ราคาขายถุงละประมาณ ๑๕๐ บาท และเมื่อพ่อค้านำเฮโรอินไปใช้มีดโกนผ่าเป็นเม็ดจำหน่ายเม็ด หรือ “โดด” ละ ๓ บาท ทั้งถุงจะจำหน่ายได้ราว ๑,๐๐๐ บาท ดังกล่าวเป็นราคาประเมินสินค้าที่มันบังเอิญซื้อ “ชีวิต” นักเลงลาดยาวนามหนึ่งได้ในราคาใกล้เคียงกัน ซึ่งในระยะ ๓-๔ ปีก่อนผมเยือนมีผู้ซื้อไปหลายพันบาทหรือหลายถุงแล้ว)

สิ่งนี้กระมังที่กลายเป็นทาสความคิดอันเร่าร้อนแทนสนุกสนานกับนักชกบนเวทีที่ประดังเพลงเตะกันพัลวัน พักเดียวความคิดใฝ่ดีอันมักเกิดแก่จิตใจในบางคราว ก็เจอกิเลสรอบตัวหลอมให้กลมกลืนกับความเป็นจริงได้ในที่สุด บ่ายจัด มวยไทยคู่ที่ ๓ ยุติลงโดยฝ่ายแดงชนะน็อกเอาต์ยก ๒ ด้วยการทิ้งหมัดขวาตรงเข้าปลายคางคู่ชิงแดนโรงพิมพ์ร่วงผล็อย จึงเท่ากับกู้หน้านักมวยนักเลงที่แพ้มา ๒ คู่รวดได้อยู่ ต่อมาเป็นมวยคู่เอกพิเศษสุดแห่งยุคคู่ที่ ๔ ระหว่างอุสมาน ศรแดง กับ ธงชัย สิงห์สำอาง อดีตแชมป์ “สิบปากไก่” นักชกรุ่นลูก ก้าวขึ้นสังเวียนกลางเสียงปรบมือพร้อมตะโกนเข้าฉายาบังมานลั่นสนาม
“โอรสเจ้าอาหรับ อุสมาน ศรแดง”
ฝ่ายกองเชียร์แดนอันธพาลมีกลองยาวนำร่องบัดนี้ขึ้นเทิ่งบอง อยู่ข้างๆ มุมแดง นิตย์ ท่าเตียน, เกชา, เกเตอร์, หาญ บางรัก และนิตย์ บางลำพู รวม ๕ เจ้าสำนักใหญ่ “ลงขัน” คนละ ๒๐๐ บาท ต่ออุสมาน ๒-๑ ให้รองแค่ ๕๐๐ บาท จึงถูกกลุ่มนักโทษแดนโรงพิมพ์จับไว้ก่อนชก

หันไปทางสหายบ้าง กลับพบว่าการวางเงินในราคาต่อ ๒-๑ นับหมื่นบาทที่เล่นหนักจับไว้เป็นหมื่นเพียงลำพัง ได้แก่ เต็งโก้ มือชงกาแฟประจำตัวป๋าหง่าซึ่งขณะนี้ขึ้นไปบนเวทีร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้บังมานด้วย พลันเสียงระฆังระรัวมาจากแดนสูทกรรมให้พี่เลี้ยงไปรับอาหารเย็น แต่ผู้คนในสนามมวยคล้ายไม่สนใจทั้งไม่ปรากฏว่า “พี่เลี้ยง” เคลื่อนไหว ก็เดาเวลาขึ้นตึกนอนวันนี้เกิน ๑๘ นาฬิกาแน่ ครู่เดียว สัญญาณระฆังข้างเวทีเตือนนักมวยไหว้ครู ปี่-กลอง-ฉาบ-ฉิ่ง เสียดเสียงแทรกเข้ากลางทรวงนักบู๊ทุกนามจนปิดปากสงบเงียบอันต่างกว่า ๓ คู่ที่ผ่านมา อุสมาน ศรแดงนุ่งกางเกงนักมวยขาสั้นสีแดง ตีนเปลือยพาร่างโรยที่เรื้อเวที่มานับสิบปีย่างไปหยุดกลางสังเวียนพลางกระทืบตีนกับพื้นเวทีสำแดงเดช ๓ ตึงค่อยทรุดไหว้ครูคล้ายพรหมสี่หน้า

ด้านมุมน้ำเงินได้แก่ ธงชัย สิงห์สำอาง นักชกวัย ๒๓ ปี มวยรองทางศักดิ์ศรี แล้วยังเป็นรองพิกัดพิกัดชนิดต่างรุ่นกันคนละรุ่นด้วย ราคาต่อรองจึงคงราคา ๒-๑ เช่นเดิม นักมวยไหว้ครูเสร็จกลับเข้ามุม เต็งโก้ตะโกนขึ้นไปบนเวทีจนผมได้ยิน
“บัง ถ้าน็อกมันได้เอาไป ๓,๐๐๐ บาท”
สิ้นเสียงคนสนิทป๋าหง่า สัญญาณระฆังระรัวขึ้น ผู้ตัดสินบนเวทีเรียกนักมวยไปพบกันกลางเวทีระบุกติกาชกแล้วค่อยถอยกลับเข้ามุม
“อุสมาน ศรแดง โอรสเจ้าอาหรับ”
แฟนมวยแดนอันธพาลโวยให้กำลังใจสนั่นทุ่งไล่ๆ กับอดีตนักชกสากลเชิงสูง บุญธรรม วิถีชัย ผู้ทำหน้าที่กรรมการตัดสินบนเวทีเรียกนักชกไปปะกันกลางเวที ปี่กลองหยุดบรรเลง ทุกสายตาแฟนมวยจับเรดาร์ยังเสือเฒ่ากับสิงห์หนุ่มเผชิญหน้ากัน ร่างกำยำอัดแน่นพลังหนุ่มทรุดลงกราบแทบเท้าด้วยคารวะความอาวุโสคู่ชก เจ้าของร่างวัย ๔๐ ปี ก้มลงประคองนักชกคราวลูกลุกขึ้นพลางยกมือหุ้มนวมตบหัวอดีตแชมป์ “สิบปากไก่” เบาๆ ๒ ครั้ง ก่อนผละจากกัน ผู้รักษาเวลาตีระฆังเริ่มยกที่ ๑ ผู้ตัดสินทิ้งมือขวาลงพร้อมคำสั่ง
“ชกได้”

อย่างมิต้องรีรออันใดอีก บังมานเปิดเกมด้วยแย็บซ้ายเข้าเต็มหน้าแล้วตามด้วยหมัดชุดอันลือลั่นกระหน่ำใส่ ธงชัย สิงห์สำอาง ถึงกับถอยหนีเพลงหมัดไปรอบเวที เรียกเสียงลุ้นจากนักบู๊กระหึ่มกำแพงกรรม อึดใจสิงห์หนุ่มเปลี่ยนกลยุทธ์เพลาการบุกเข้าชกหมัดชุดโดยใช้ถีบซ้ายเข้าช่องท้อง ดักการเข้าทำของบังมานพร้อมเตะขวาเข้าชายโครง ๒ ทีซ้อน โอรสเจ้าอาหรับเจอเข้าบริเวณชายโครง ๒ พรั่ก แม้ไม่ส่ออาการ แต่ได้เปลี่ยนกลยุทธ์ใช้วิธีเตะตัดส่วนล่างแล้วตามด้วยหมัด หนึ่ง-สอง อันหนักหน่วงไม่แพ้หมัดชุด ก็ทำเอาธงชัยแก้ทางมวยเป็นตั้งการ์ดสูง แล้วเดินเตะซ้ายต่อยซ้ายถีบซ้ายราวจักรผันจนเสือเฒ่าถลาไปติดมุมระฆัง ธงชัยฮึมเหิมโผนเข้าแทงเข่าหมายเสียบอก บังมานฉากออกซ้ายพร้อมสวิงขวาเข้าโคนกรามสิงห์หนุ่มดังหนักๆ ธงชัยหน้าสะบัด เซหลุนๆ ไปล้มครืนกลางเวที นับพันชีวิตนักเลงลาดยาวลุกขึ้นยืนอย่างลืมตัว ธงชัยพยายามใช้มือยันตัวเองลุกขึ้นอาการทุลักทุเลขาสั่นดิก กรรมการผู้ตัดสินปราดเข้านับเสียงดังฟังชัดในความเงียบ
“๑-๒-๓-๔….”

เสียงผู้ตัดสินบนเวทีนับไปได้แค่นั้น สัญญาณระฆังหมดยกที่ ๑ ดังช่วยไว้ทันท่วงที ช่วงพักยก ผมสืบราคาต่อรองจากภาครับทางรูหู กลับพบว่าบังมานยังเป็นต่อ ๒-๑ ดังเดิม แม้ความจริงสวิงขวาของบังหลุดออกไปตามสัญชาตญาณนักมวยเจนสังเวียน จึงลดพลังกำปั้นที่เคยกล่อมนักชกอื่นนิทรามานักต่อนักกลับล้มธงชัยไม่ได้ สัญญาณระฆังยกที่ ๒ เปิดเกมจากเเย็บซ้ายจากเสือเฒ่า สิงห์หนุ่มฟุตเวิร์กวนซ้ายไม่ยอมนิ่งเป็นเป้านิ่ง พร้อมหาจังหวะเตะซ้ายบริเวณท่อนขาหลายฉาด
“ลุยเลยบัง ลุยโลด” เซียนมวยหนุน
บังมานขยับเข้าหา แต่ถูกถีบซ้ายยันไว้ ๒ ครั้ง ถึงกับโผนเข้าแหวกการ์ดคู่ชกบุกสาวกำปั้นก็ถูกดักเข่าจนสะอึกไม่กล้าบุกผลีผลามแล้ว
“บังมานหมดแรงนี่หว่า” เซียนข้างๆ วิเคราะห์
“กูว่าจุกเพราะเข่า” อีกนายว่า
ธงชัย สิงห์สำอาง คล้ายมองเห็นอาการนักชกรุ่นครูเหมือนกันจึงถือโอกาสใช้เพลงเตะ “เถรกวาดวัด” เตะรวบขาบังมานล้มตึง และเมื่อลุกขึ้นได้บังมานปราดเข้ารัวหมัดชุดใส่หมายวัดดวง สิงห์หนุ่มไม่พรั่นยืนปักหลักสับศอกแลกหมัดเรียกแรงเชียร์กึกก้องจวบจนทั้งคู่กอดปล้ำกัน และเมื่อกรรมการแยกทั้งสองออกเสียงอุทานหลุดจากปากหลายคน
“บังมานแตกแล้ว”
“ไม่ใช่ นั่นมันเลือดจมูก”
“พ่อมึงซิเลือดจมูก แหกตาชัดๆ ว่าที่หัวคิ้วขวามีแผลหรือเปล่า”
“แผลนิดเดียว กรรมการไม่จับทีเคโอหรอก”

เสียงวิจารณ์ผู้สันทัดเพลงมวยแม่นยำนัก กรรมการบนเวทีได้ยุติการชกดูบาดแผลเหนือคิ้วขวาโอรสเจ้าอาหรับ ครู่หนึ่งก็อนุญาตให้ชกต่อ คราวนี้บังมานลืมตัว ลืมตายพุ่งเข้าหาราวกระทิงบ้า กลับถูกธงชัยอาศัยความหนุ่มแน่นปราดเปรียวกว่าหลอกชกเข้าเต็มหน้าหลายหมัดจนเลือดที่หัวคิ้วถูกละเลงแดงฉานทั่วหน้า นักบู๊หลายนามที่ถือเดิมพันข้างบังมานส่วนใหญ่นั่งอึ่ง พวกที่จับเดิมพันไว้ด้วยเงินพันถึงหมื่นไปยืนอัดอยู่ข้างมุมแดงตะโกนแข่งขัน
“ทนให้หมดยกนี้นะบัง”
ร่างฉกรรจ์โอรสเจ้าอาหรับอันทั่วหน้าอาบเลือดจากแผลแตกคล้ายไม่ได้ยินสรรพเสียงรอบกายคงโขยกเข้าหาทั้งพยายามสาวหมัดผิดบ้างถูกบ้างยังกับมวยวัดใส่แชมป์มวยรอบ “สิบปากไก่” จึงถูกดักเข่าและเตะอัดเข้าชายโครง ๒ ทีซ้อนดังชัดเจน จนถอยไปยืนพิงเชือกหอบหายใจฟืดฟาด นับพันชีวิตนักเลงลาดยาวดังร้างลมหายใจ ทุกนามแทบฉีกตายร่างโชกเหงื่อและเลือดบนลุยไถเขม็ง

นิตย์ ท่าเตียน ซึ่งตกอยู่ในกลุ่มเจ้าสำนักรุ่นเดียวกันลุกเดินไปที่มุมแดงพร้อมกระตุกผ้าเช็ดตัวสีแดงที่ใช้คลุมหัวบังมานจากเต็งโก้กะทันหัน พวกถึงกับอุทานเสียงหลง
“พี่…”
มือซ้ายพระเอกนิตย์ยกขึ้นแตะไหล่รุ่นน้อง ดวงตาดำขลับแลอ่อนโยนแข็งกร้าวประสานตามังกรดังสะพานเหลืองวิบหนึ่งก็โยนผ้าเช็ดตัวสีเลือดไปบนสังเวียนทันใด ปี่กลองหยุดบรรเลง ร่างท่วมเหงื่อระคนเลือดของบังมานค่อยๆ รูดระเชือกกั้นสังเวียนทรุดนั่งกับพื้นเวทีหน้าซีดเผือด ผู้ตัดสินเห็นพี่เลี้ยงฝ่ายแดงโยนผ้าไปกลางเวทียุติการชก ปราดไปยกมือธงชัย สิงห์สำอาง เป็นผู้ชนะทีเคโอทันควัน ผล…เซียนพนันแดนอันธพาลล้วนจำจ่ายทรัพย์ตามระเบียบ แต่ในทาลกลับกัน หากเป็นนักบู๊นามอื่นกระทำการเยี่ยงนั้นอะไรจะเกิดขึ้น?

เฉียด ๕ โมงเย็น มวยยกทีมปิดเกมนักชกแดนโรงพิมพ์คว้าถ้วยเกียรติยศไปครองพลิกความคาดหมาย ผู้แพ้แดนอันธพาลถูกต้องกลับเข้าแดนกินอาหารเย็นด้วยบรรยากาศสลดหดหู่ หลังจากอาหารเย็น ในสภาพฟ้าหลัวขณะที่นักบู๊ทยอยกันขึ้นตึกได้ปรากฏรกเข็น ๓ ล้อ กำลังถูกเข็นออกจากโรงเลี้ยงผ่านหน้าพวกเราไป จึงเกิดเสียงวิจารณ์จากปากสู่ปาก
“บังมานอาเจียนเป็นเลือด ขาถูกเตะราบตอนชกจนเดินไม่ได้”
วาจาผู้ใกล้ชิดเหตุการณ์เติมความเจ็บปวดแก่ความร้สึกผมอย่างเงียบเซียบรถเข็นประจำแดนบรรทุกผู้ป่วยพ้นตาแล้ว แต่ข้างกายโอรสเจ้าอาหรับปราศจากน้ำมืตรเอื้ออาทรกระทั่งยามนี้ สายลมหนาวใกล้ค่ำพัดหวิว ประสานหูผมแว่วเสียงปี่กลองโหยไห้มาจากแดนพยาบาลปลายทาง “หมาล่าเนื้อ” อันไม่ต่างพวกเราเลย

สุริยัน ศักดิ์ไธสง
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลงโต
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: