2122. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…จำจนตาย

เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…จำจนตาย

เรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสุขาภิบาล 3 ย้อนไปสมัยที่คุณหนุ่มยังเด็ก หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ติดริมคลองแสนแสบ เยื้องหมู่บ้าน อีกฝั่งคลองเป็นวัดแห่งหนึ่ง หมู่บ้านี้มีทั้งหมด3ซอย ระหว่างซอย1กับ2มีสนามฟุตบอล

ส่วนซอยที่3อยู่ใกล้ริมคลอง มีบ้านไม้หลังหนึ่งซึ่งสร้างยื่นลงไปในคลอง เจ้าของบ้านคือลุงกับป้า ที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย วันหนึ่ง ขณะที่คุณหนุ่มนั่งพักกับเพื่อนๆหลังเสร็จจากเล่นฟุตบอลในร้านค้าใกล้ๆสนาม คุณป้าจากบ้านในคลอง ก็วิ่งหน้าตาตื่นผมตั้งชี้ฟูเข้ามาหา พูดจาไม่ได้ศัพท์

หลังจากให้ป้านั่งพักและตั้งสติ ป้าจึงเล่าว่าโดนผีเด็กหลอก ป้าบอกว่าเป็นผีเด็กผู้หญิง ถือตุ๊กตาขึ้นมาจากน้ำ สวมชุดกระโปรงสีฟ้า พวกคุณหนุ่ม4-5คนจึงอาสาไปดูที่บ้านป้า โดยให้ป้าอยู่กับเพื่อนๆที่ร้านค้าข้างสนามฟุตบอล

เมื่อไปถึงบ้านป้า สิ่งทีมองเห็นผ่านร่องไม้ของตัวบ้านคือ รอยเท้าเด็ก3-4รอยแล้วหายไป จึงพากันตกใจ และชักชวนกันดูให้ละเอียดอีกที ก็มองไปเห็นเท้าคนนอนเหยียดอยู่บริเวณส่วนครัวของบ้าน ข้างๆหม้อข้าวที่ล้ม มีข้าวสารดิบกระจายอยู่ จึงพากันกลับมาที่ร้านค้า ก็ไม่เจอป้าแล้ว ถามเพื่อนๆก็บอกว่า ป้าเดินออกไปตามลุงแฟนป้า ทางหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเดินเลี้ยวไปคนละทางกับฝั่งบ้าน

พวกคุณหนุ่มจึงเล่าให้เพื่อนที่ร้านค้าฟังถึงสิ่งที่เจอ และพากันย้อนกลับไปที่บ้านป้าอีกที โดยไปกันทั้งหมด14คน สิ่งที่เห็นคือ คนที่นอนชักเกร็ง น้ำลายฟูมปากก็คือป้าคนที่วิ่งมาบอกว่าเจอผี และพบว่าป้าตายแล้ว!!

เมื่อตำรวจมาในที่เกิดเหตุ ก็สันนิษฐานว่าป้าเสียชีวิตมาแล้ว3ชั่วโมง จากสาเหตุหัวใจวายเฉียบพลัน!! มูลนิธิได้สอบถามพวกคุณหนุ่มว่า ทราบได้อย่างไรว่ามีผู้เสียชีวิต คุณหนุ่มจึงได้เล่าเหตุการณ์ไปว่าเจอป้ามาบอกว่าถูกผีเด็กหลอก มูลนิธิจึงบอกว่า เด็กผู้หญิงที่ป้าพูดถึง ตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และยังหาศพไม่เจอ!!

เช้าวันต่อมาพวกคุณหนุ่มจึงพากันไปทำบุญและกลับมาคุยกันที่ร้านค้าข้างสนามฟุตบอล ก็เจอคนจากมูลนิธิมาบอกว่า ได้รื้อบ้านของป้าออกและสิ่งที่พบก็คือ ศพเด็กผู้หญิงโดยไปพบอยู่ใกล้ๆกับตอไม้ของบ้านป้าคนนั้นพร้อมกับตุ๊กตา…..เหตุการณ์นี้ ทำให้เพื่อนคุณหนุ่มบางคนถึงกับจับไข้ และพากันทบทวนถึงสิ่งที่ได้เจอมา

Credit: คุณหนุ่ม
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Pantip โดยสมาชิกหมายเลข 2299004
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: