2121. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…เล่นพิเรนทร์

เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…เล่นพิเรนทร์

เรื่องเกิดขึ้น ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านท่าพระ ตอนเรียนอยู่โน๊ตได้ชวนเพื่อนเล่นผีถ้วยแก้วหลังเลิกเรียน ก็หาคนทำกระดาน โดยโน๊ตเป็นคนหาข้อมูลเพื่อมาทำกระดาน โดยใช้กล่องกระดาษลังแผ่นใหญ่ๆมาทำ โดยใช้เลือดไก่สดเขียนแทนปากกา

ช่วงเวลาที่เล่นกันเลือกใช้เวลาโพล้เพล้ในห้องเรียน คนที่เล่นเป็นผู้ชาย 4 คน แล้วก็มีผู้หญิงนั่งดูและจะคอยจดข้อมูล วิธีเล่นคือท่องนโมพุทธายะ กลับหลัง 3 รอบ แล้วขออันเชิญ สักพัก กระดานที่เป็นกระดาษลัง กลับขยับนิดหน่อย แทนที่จะเป็นแก้วที่ขยับ แล้วก็ถามว่าถ้าท่านมาแล้วให้ไปที่ใช่ กระดานก็ไม่ขยับ จุดที่เล่นจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ได้ อยู่ดีดีไม้กวาดก็พลิกตกลงมา แล้วเพื่อนก็ให้โน๊ตเป็นคนเอื้อมมือไปหยิบขึ้น สักพักเพื่อนผู้หญิงที่นั่งดูก็ค่อยๆ ก้มลงดูกระจกที่เตรียมมาด้วย ก้มเรื่อยๆ เพื่อนก็ถามว่าเป็นอะไร เพื่อนผู้หญิงก็ลุกขึ้นเอากระเป๋าแล้วกลับบ้านเลยไม่พูดอะไร สักพักทั้ง 4 คนก็ย้ายวงมานั่งห่างจากประตูหลังห้องมานั่งใกล้ๆ ประตูหน้าห้อง แล้วเริ่มเล่นใหม่

รอบนี้แก้วขยับ เพื่อนคนหนึ่งเลยถามพิเรนทร์ว่า ถ้ามาจริงให้ถามว่าใส่กางเกงในสีอะไร แก้วก็พยายามจะพลิก ก็คิดว่าแกล้งกัน แล้วต้องกดไว้แน่นๆ ก็มีคนพูดขึ้นมาว่า เอางี้ดีกว่ามาให้เห็นเลยดีกว่า สักพักสวนเล็กๆ ข้างห้อง ที่มีต้นมะพร้าว ต้นกล้วย แล้วได้ยินยินเสียงเหมือนอะไรหล่นแล้วเด้งเข้ามาหลังห้องที่อยู่ชั้นสาม สักพักมองหลังห้อง ก็เห็นเป็นลูกมะพร้าวที่ค่อยๆ ขยับ เหมือนมีคนจับเล่น ก็พากันจ้อง เพราะแสงสลัวๆ จ้องไปจ้องมาเห็นเป็นหัวคน แล้วทั้งสี่คนก็ลุกแล้ววิ่งชนประตูพังโครม แล้วกระโดดลงไปเลยโดยไม่วิ่งลงบันได อุปกรณ์การเล่นก็ยังอยู่โดยไม่ได้เก็บ ทั้งกระดาน ธูป และกระจก วันต่อมาก็โดนทำโทษหน้าเสาธง พอตอนกินข้าวเที่ยงก็มีเพื่อนๆจ้องตลอดเวลา จนทุกคนกินข้าวไม่ลง จึงพากันขึ้นไปเล่ากันต่อบนห้อง เพื่อนผู้ชายก็บังคับให้เพื่อนผู้หญิงเล่าให้ฟังมาเห็นอะไร

ผู้หญิงก็ทำท่าจะร้องไห้ แล้วเล่าว่า ที่เห็นในกระจกคือ มีมือปริศนากดแก้วอยู่ โดยขาชี้ฟ้า แล้วค่อยๆ หันมาทางเพื่อนผู้หญิง โดนเป็นผู้หญิงวัยกลางคน ใส่เสื้อม่อฮ่อมสีฟ้า ไม่มีลูกกะตา แล้วหัวห็เหมือนกระโหลก แล้วหัวเราะเหมือนเสียงตุ๊กแก พอเลิกเรียนโน๊ตกลับบ้านไป ตอนนอนก็เห็นเหมือนเงาอยู่บนเพดาน แล้วค่อยขยับตัวลงมา แล้วโน๊ตก็ตื่นอีกทีตอนเช้าเลย แล้วไปเล่ากับเพื่อนๆ เลยตัดสินใจพากันไปวัด ก่อนไปวัด ภารโรงมาถามว่าเป็นยังไงพวกเอ็ง เจอดียัง ภารโรงเลยต่อว่าว่าใครเค้าเล่นกันเวลาโพล้เพล้ ผีตากผ้าอ้อม หรือช่วงตะวันทับตา ภารโรงก็บอกว่ามันอันตราย ทุกวันนี้เค้าก็ตามอยู่ไปไหนไม่ได้ สรุปว่าภารโรงบอกว่าวิญญาณตามอยู่ตลอด เช่นตอนเที่ยงที่นั่งกินข้าวอยู่เค้าก็นั่งแย่งกินข้าวอยู่บนโต๊ะ ทำให้พวกโน๊ตกินไม่ลง

พอถามว่าเป็นใคร ภารโรงบอกว่าโรงเรียนเนี้ยไม่มีผีหรอก แต่พวกเอ็งไปเรียกเค้ามา เจ้าที่เจ้าทางก็ต้องยอม พวกเอ็งไปดักทางเค้าไว้ก่อน เค้ากำลังจะไป พวกเอ็งไปเรียกเค้าก่อน ทั้งสี่คนเลยพากันไปหาหลวงตา ก่อนจะเข้าวัด หลวงตาก็ดักก่อนว่า อย่าเพิ่งเข้ามา ให้คนมาด้วยนั่งรอข้างนอก เดี๋ยวจะไม่ได้ไปเกิด แล้ววันนั้นก็ทำอะไรไม่ได้หลวงพ่อก็ให้สายสิญจน์กลับบ้านไปก่อน เช้ามหลวงพ่อก็สวดบังสุกุลให้ หลังจากวันนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณโน๊ตก็ยังไม่จบ

มีวันหนึ่งคุณโน๊ตเลิกเรียนแล้วนั่งรอรถที่ป้ายรถเมล์ประมาณทุ่มหนึ่ง ขึ้นรถเมล์แล้วไปนั่งที่หลังรถ รถก็ขับไปเรื่อยๆ กระเป๋ารถเมล์ก็ไม่เดินมาเก็บเงิน รถก็ขับไปเรื่อยๆ แล้วคนบนรถเมล์ก็นั่งตัวแข็งๆ ไม่ขยับ โน๊ตเริ่มกลัว เหงื่อออก ตัดสินใจลงป้ายหน้า ก็มานั่งพิงเสา รถเมล์ก็ขับไป แล้วโน๊ตก็เห็นว่าตัวเองยังอยู่ที่ป้ายเดิม ซึ่งคิดว่าฝัน แต่เหตุการณ์มันชัดมาก โน๊ตก็ตัดสินใจเดินกลับไม่ขึ้นรถเมล์ อันนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับโน๊ต

Credit: คุณโน๊ต
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Pantip โดยสมาชิกหมายเลข 2299004
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: