6122. ผัวเหี้ยมฆ่าชู้ ศาลยกผิดให้ไม่ติดคุก

ผัวเหี้ยมฆ่าชู้ ศาลยกผิดให้ไม่ติดคุก

มีคดีชู้สาวอีกคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยอดีต และถูกยกเป็นบรรทัดฐานในการพิพากษาว่าความคดีความอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งบันดาลโทสะฆ่าชู้ที่ลอบมามีสัมพันธ์กับภรรยาตนถึงในบ้าน ศาลในสมัยนั้นเกิดความเห็นใจยกฟ้องไม่เอาผิดฝ่ายจำเลย ด้วยเพราะเป็นการป้องกันเกียรติยศให้พ้นภยันตราย ซึ่งถ้าสมควรแก่เหตุแล้วไม่มีความผิดตามมาตรา ๕๐ แห่งกฎหมายลักษณะอาญา

ในคำพิพากษาฉบับหนึ่งที่หนังสือกฎหมายลักษณะผัวเมีย ที่นายเซี้ยงยกมากล่าวอ้างประกอบและน่าสนใจว่า

นายจันทาจำเลยไปเที่ยวในหมู่บ้าน อำแดงบัวเมียของจำเลยอยู่เรือนคนเดียว ออกมานอนร่วมสังวาสกับนายกาชายชู้ที่ชานหน้าเรือน จำเลยกลับมาพบเข้า บันดาลโทสะจึงเอาปืนยิงถูกนายกาตกจากเรือน จากนั้นจึงตามลงไปเอาดาบฟันซ้ำ กระทั่งนายกาตาย ศาลฎีกาพิพากษาว่านายจันทาจำเลยมิได้ทำสมควรเกินกว่าเหตุให้ปล่อยตัวจำเลย

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้กรมการตรวจฎีกาโจทก์ อุทธรณ์คำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษในเรื่องดคีนี้เป็นพิเศษ อัยการมณฑลอิสาณ โจทก์ในคดีระหว่างนายจันทา จำเลยคดีโจทก์ฟ้องต่อศาลมณฑลอิสาณว่า เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ร.ศ. ๑๒๐ เวลากลางคืนจำเลยเอาปืนยิงนายกาและเอาดาบฟันซ้ำ กระทั่งนายกาขาดใจตายอยู่กับที่ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญาส่วนที่ ๗ หมวดที่ ๑ และริบอาวุธเป็นของหลวง จำเลยได้ให้การรับว่าได้ฆ่านายกาตายจริง เพราะนายกาเป็นชู้กับอำแดงบัวภรรยาจำเลย จำเลยได้พบทั้งสองคนกำลังร่วมสังวาสกันเป็นการยั่วโทสะเหลือที่จะอดกลั้น จึงได้เอาปืนยิงและฟันนายกาตาย

ศาลพิจารณาได้ความเป็นหลักฐาน ฟังได้ว่าเมื่อวันเวลาที่โจทก์หานั้น จำเลยได้ไปเที่ยวเล่นในหมูบ้าน อำแดงบัวออกมานอนที่ชานหน้าเรือน ขณะนั้นนายกาชายชู้ของอำแดงบัวได้ขึ้นมาหาอำแดงบัวและได้ร่วมสังวาสซึ่งกันและกัน ทันใดนั้นจำเลยก็กลับมา ถือปืนมา ๑ กระบอก ดาบ ๑ เล่ม เห็นนายกาและอำแดงบัวภรรยาตนกำลังร่วมสังวาสจึงเอาปืนยิงไป ๑ นัด กระสุนถูกนายกาพลัดตกจากอกอำแดงบัว เลยตกลงมาจากเรือน จำเลยจึงได้ตามลงมาเอามีดดาบฟันซ้ำ นายกาขาดใจตาย

ครั้งนั้นศาลมณฑลอิสาณ ปรึกษาคดีความว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดฐานยั่วโทสะ ตามมาร ๕๔ และฐานรับสารภาพตามมาตรา ๕๙ เสียคงให้จำคุกจำเลย มีกำหนด ๓ ปี ๙ เดือน แต่ให้ริบปืนและดาบของจำเลยเสียด้วย

หลังศาลมีคำวินิจฉัยเช่นนั้นแล้ว นายจันทาผู้เป็นจำเลยผู้ต้องหาฆ่าคนตายก็ยังไม่พอใจคาดว่านายกานั้นพอจะมีความรู้ทางกฎหมายมาบ้าง หรือไม่เช่นนั้นก็คงเป็นเพราะความมุทะลุและเชื่อมั่นในการกระทำของตัวเองว่า อย่างไรเสียก็คงจะต้องหาทางชี้แจงให้ตนได้พ้นจากความผิดนั้น ในคำตัดสินของผู้พิพากษาแม้จะลดหย่อนโทษลงให้มาก นายจันทาผู้เป็นจำเลยจึงได้ทำเรื่องอุทธรณ์ต่อศาลขึ้นอีกครั้ง

“จำเลยร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิเศษเห็นว่าการที่จำเลยฆ่านายกาตายด้วยว่าป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงตามกฎหมายลักษณะอาญา แต่จะเกินเหตุหรือไม่นั้น เห็นว่าการล่วงประเวณีถือเคร่งครัดว่าเป็นการชั่วร้าย อ้างกฎหมายลักษณะผัวเมียมาตรา ๙ มา เรียกว่า “ทำเกินกว่าเหตุ” ครั้งนั้นนายจันทาผู้เป็นโจทก์ได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา

กรรมการศาลฎีกาให้ประชุมปฤกษาสำนวนนี้ตลอดโดยถี่ถ้วนแล้ว ทางคณะพิจารณาคงได้ความตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เห็นว่าบทลักษณะผัวเมียนั้น ท่านได้ดำริถึงและได้นำมาประมวลคดีนี้จะเข้าในบทหมวด ๔ นี้เป็นเบื้องต้น มาตรา ๕๐ มีใจความว่าบุคคลใดกระทำการเพราะความจำเป็นจะต้องป้องกันให้พ้นภยันตรายซึ่งชีวิต เกียรติยศ หรือทรัพย์ของตนหรือของคนอื่น และการกระทำลงนั้นพอสมควรแก่เหตุที่เขาต้องประทุษร้ายนั้น ท่านว่าไม่ควรลงอาญาดังนี้

คดีนายจันทาฆ่านายกาจะต้องพิเคราะห์ว่ามีเหตุจำเป็นเกิดขึ้นหรือไม่ เพื่อป้องกันภยันตรายหรือไม่ และการที่กระทำลงแล้วนั้น พอสมควรแก่เหตุซึ่งเกิดหรือไม่ คดีนี้จำเลยมาพบนายกาทำชู้อยู่กับภรรยาของตนนี้ เป็นเหตุจัดเป็นเกิดขึ้นโดยฉุกเฉิน และจำเลยเป็นผัวจำเป็นต้องป้องกันเกียรติยศชื่อเสียงของตนเองด้วยเมียด้วยดังนี้มีปรากฏแท้

เมื่อศาลนี้พิเคราะห์ข้อเท็จจริงแล้ว การที่จำเลยได้กระทำลงนั้นว่าจะเป็นการพอสมควรแก่เหตุที่เกิดขึ้น โดยความจำเป็นฉุกเฉินหรือไม่ ก็มีความเห็นพร้อมกันว่าจำเลยทำไปนั้นพอสมควรไม่เหลือเกิน คดีจึงเข้าบท ๕๐ ประมวลอาญา ท่านว่าอย่าให้เอาโทษแก่เขาเลย คำวินิจฉัยของกรรมการดังนี้อาศัยข้อเท็จจริงจำเพาะคดี ซึ่งคำพิเคราะห์ว่าทำมิได้เกินสมควรแก่เหตุจำเป็นต้องป้องกันภยันตรายซึ่งเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นนั้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ข้าหลวงพิเศษปฤกษามาชอบแล้วให้ยกฎีกาโจทก์เสีย ปล่อยจำเลยไปทันที”

โดย เกริกฤทธิ ไทคูนธนภพ
ที่มา : เรื่องอื้อฉาวและคดีความในอดีต
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Blog Gang
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: