6341.ตำนานศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า
ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า
ศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ ๔๖๘ ซอยดิลกจันทร์ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า ชาวจีนเรียกศาลเจ้านี้ว่า ” ตั่วเหล่าเอี้ย ” แปลว่า ” เทพเจ้าใหญ่ ” ลักษณะอาคารสร้างตามรูปแบบศาลเจ้าที่นิยมทางภาคใต้ของจีน เทพเจ้าประจำศาลคือ “ เสียนเทียนซั่งตี้ ” หรือที่คนไทยเรียกว่า “ เจ้าพ่อเสือ ” นั่นเอง นอกจากนี้ยังประดิษฐานรูปเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้, รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิมด้วย
ตำนานศาลเจ้าพ่อเสือแห่งนี้เล่ากันว่า ยายผ่องและนายสอน สองแม่ลูกเป็นคนทุกข์ยาก ทุกๆ วันนายสอนจะต้องเข้าไปเก็บของป่ากลับมาให้มารดาเสมอ วันหนึ่งนายสอนออกหาของป่าโดยได้ลึกเข้าไป ได้พบกับซากกวางพึ่งตายใหม่ๆ จึงรู้ได้ทันทีว่าจะต้องมีเสือผู้เป็นเจ้าของซากกวางอยู่บริเวณนี้เป็นแน่ แต่ด้วยความกตัญญู นายสอนได้รำลึกถึงมารดาอยากให้ได้บริโภคเนื้อกวางนี้ จึงเฉือนเนื้อกวางได้ก้อนหนึ่ง
ฝ่ายเสือที่ซุ่มอยู่ได้กระโจนเข้ามาทำร้ายนายสอนและกัดได้แขนไปข้างหนึ่งจากนั้นกระโดดหายไป นายสอนจึงค่อยตะเกียกตะกายกลับไปหามารดา แม้จะบาดเจ็บสาหัสก็พาตัวเองกลับมาถึงบ้านได้ เมื่อยายผ่องเห็นบุตรชายก็ตกใจ นายสอนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังจากนั้นจึงสิ้นใจ
ยายผ่องโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากได้นำเรื่องไปแจ้งแก้นายอำเภอเพื่อให้ช่วยตามเสือร้ายนั้นมาลงโทษ นายอำเภอเห็นใจและรวมตัวกับปลัดไปออกตามหาเสือร้ายตัวนั้น เมื่อจับเสือได้จึงนำตัวมาเพื่อฆ่า เสือตัวนี้มิได้ขัดขืนแต่อย่างใดได้แต่นอนหมอบร้องให้อยู่ ยายผ่องเห็นแล้วเกิดความสงสารจึงขอให้ยกเลิกไม่ให้ฆ่าเสือ จากนั้นได้นำเสือตัวนี้มาเลี้ยงแทนบุตรชายที่เสียไป
ซึ่งเสือตัวนี้ได้กลายเป็นเสือที่เชื่อง เชื่อฟังและรักยายผ่อง โดยจะคอยเฝ้าบ้านเฝ้าเรือนให้ ต่อมาเมื่อยายผ่องเสียชีวิตไป เจ้าเสือเกิดอาการตรอมใจและเมื่อเผาร่างของยายผ่อง เสือตัวนี้ได้กระโจนเข้าไปในกองไฟด้วยสำนึกในคุณของยายผ่อง สร้างความสลดใจแก่ชาวบ้าน ชาวบ้านจึงร่วมใจกันสร้างศาลโดยปั้นรูปเสือไว้พร้อมนำเถ้ากระดูกของมันมาไว้ใต้แท่นและทำพิธีเรียกดวงวิญญาณเสือมาสถิตย์ไว้
ว่ากันว่าศาลเจ้าพ่อเสือตั้งขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมาธิวรเสรฐมหาเจษฎาบดินทร พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เดิมตั้งอยู่ริมถนนบำรุงเมือง ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายศาลเจ้าพ่อเสือมาไว้ที่ทางสามแพร่งถนนตะนาวจนถึงปัจจุบัน
” เสือ ” เป็นสัตว์ที่คนจีนเชื่อว่ามีฤทธิ์เดชมาก สามารถปราบผีหรือสิ่งเลวร้ายของชีวิตได้ หากบ้านใครตั้งอยู่บริเวณทางสามแพร่ง หรือจุดที่ถือกันว่าจะมีวิญญาณเลวร้ายพุ่งเข้าบ้าน จะนิยมเอาเสือคาบดาบไปแขวนไว้ที่หน้าบ้านเพื่อขจัดสิ่งเลวร้าย เชื่อว่าเคราะห์ร้ายที่จะมากล้ำกรายชีวิตของเราให้พ้นไปหรือบรรเทาลงได้
นอกจากจะเป็นที่เลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความงามด้านสถาปัตยกรรม และ การตกแต่งภายในอีกด้วย โดยเฉพาะโบราณวัตถุที่ประดับอยู่ภายในศาลเจ้านั้น บางชิ้นมีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปีเลยทีเดียว
จะเป็นที่เลื่องชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีความงามด้านสถาปัตยกรรม และ การตกแต่งภายในอีกด้วย โดยเฉพาะโบราณวัตถุที่ประดับอยู่ภายในศาลเจ้านั้น บางชิ้นมีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปีเลยทีเดียว
Cr.Aphimanyu Sirikhna
