6274. ประวัติความเป็นมาของมวยไท ตอนที่ ๑

ประวัติความเป็นมาของมวยไท ตอนที่ ๑

ประเทศไทเราตั้งอยู่ในเขตร้อน รวมถึงการสัญจรในอดีตจะใช้การเดินทางด้วยเรือ ชนชาวไทจึงจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น เพื่อระบายความร้อนและความคล่องตัวในการเดินทาง ในอดีตผู้ชายไทจะไม่ใส่เสื้อนุ่งเพียงผ้าหรือกางเกง จึงสะดวกและคล่องตัวในการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ในอดีตชนชาวไทมักถูกรุกราน หรือกระทบกระทั่งกับประเทศใกล้เคียงด้วยหลายเหตุผล ทำให้ชนชาวไทในอดีตต้องสู้รบเพื่อป้องกันตัว การสู้รบในอดีตเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว

อาวุธที่ใช้กันในสมัยโบราณ เช่น ดาบ, ทวน, หอก, ง้าว ฯลฯ ซึ่งการใช้อาวุธต่าง ๆ ต้องมีการเรียนรู้วิธีการใช้อาวุธให้ถูกต้อง อันเป็นที่มาของศาสตร์การใช้อาวุธที่เรียกรวม ๆ ว่า “วิชากระบี่กระบอง” การต่อสู้ในสนามรบบางครั้งยืดเยื้อยาวนาน การสู้รบที่ติดพันอาจทำให้อาวุธชำรุดเสียหายหรืออาวุธหลุดมือ นักรบจำเป็นต้องต่อสู้ป้องกันตัวด้วยมือเปล่า จำต้องเปลี่ยนอวัยวะ คือ หมัด, เท้า, เข่า, ศอก ให้เป็นอวัยวุธ เพื่อป้องกันตัวและตอบโต้ข้าศึก วิชาต่อสู้ด้วยมือเปล่านี้จัดเป็นศาสตร์การต่อสู้ อันเป็นภูมิปัญญาของชนชาวไท ที่เรียกขานสืบมาว่า “มวยไท” ได้สั่งสอนสืบทอดกันมายาวนานตราบปัจจุบัน

มวยไทในประวัติศาสตร์
สำหรับมวยไทโบราณซึ่งมีรากฐานมาจากการต่อสู้มือเปล่าในสนามรบ จะมีความแตกต่างจากมวยไทมาตรฐานที่ต่อสู้กันในเวทีปัจจุบัน ด้วยมวยไทโบราณจะเน้นการใช้อวัยวะให้เกิดผลสูงสุด ทั้งป้องกันตัวและตอบโต้ให้ได้ผลในการเผด็จศึกคู่ต่อสู้ การต่อสู้ของมวยโบราณจะใช้ทั้ง การชก, การโขก, การทุบ, การเหวี่ยง, การงัด, การจับหัก ฯลฯ รวมถึงการใช้อวัยวะส่วนอื่น ๆ เช่น ศีรษะ เป็นอาวุธเสริม ด้วยการใช้ศีรษะโขกเป็นต้น มีการบันทึกถึงเรื่องราวของ มวยไท อันเป็นศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าของชนชาวไท เท่าที่สืบค้นพอมีหลักฐานบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับมวยไทที่ปรากฏขึ้นในยุคต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือบุคคลดังนี้ คือ

มวยไทในสมัยกรุงสุโขทัย
ในราว พ.ศ. 1781 – พ.ศ. 1951 รวมระยะเวลา 140 ปี ที่กรุงสุโขทัยเป็นราชธานี เกือบตลอดยุคมีการทำสงครามกับประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ รอบด้าน จึงมีการฝึกใช้อาวุธต่าง ๆ รวมถึงวิชามวยไทให้กับกองทหารยุคนั้น ชายไทยุคนั้นต้องฝึกการต่อสู้ทุกคน สำนักมวยไทที่มีชื่อเสียงยุคนั้นมี สำนักสมอคอน แขวงเมืองลพบุรี วิชามวยในยุคนั้นจัดเป็นศาสตร์ชั้นสูง ด้วยมีการบรรจุวิชามวยไว้ในหลักสูตรการศึกษาของกษัตริย์ ดังปรากฏในพงศาวดารว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ กษัตริย์ของกรุงสุโขทัยพระองค์แรก ทางเห็นการณ์ไกลได้ส่งเจ้าชายพระองค์ที่ 2 นามว่าร่วง ขณะอายุได้ 13 พรรษา ไปฝึกมวยไทที่ สำนักสมอคอน แขวงลพบุรี เพื่อฝึกให้เป็นกษัตริย์ที่แกร่งกล้าในอนาคต

ต่อในราวปี พ.ศ. 1818 – พ.ศ. 1860 ยุคของ พ่อขุนรามคำแหง พระองค์ท่านได้เขียนตำราพิชัยสงครามขึ้น ข้อความบางตอนในตำราพิชัยสงครามมีการกล่าวถึงมวยไทด้วย นอกจากนี้ยังมีบันทึกว่าในยุคของพระเจ้าลิไท ครั้งยังทรงพระเยาว์ พระองค์ท่านก็ได้รับการศึกษาจากสำนักราชบัณฑิตในพระราชวัง วิชาที่พระองค์ท่านศึกษานั้นหลากหลาย ทั้งวิชาการต่อสู้ด้วยอาวุธต่าง ๆ รวมถึงการต่อสู้ด้วยมือเปล่า คือ มวยไท ก็อยู่ในศาสตร์ที่พระองค์ท่านทรงศึกษาด้วย

มวยไทในสมัยกรุงศรีอยุธยา
กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 1988 – พ.ศ. 2310 รวมระยะเวลา 417 ปี ในยุคนี้บางช่วงมีการทำศึกสงครามกับประเทศใกล้เคียง เช่น พม่า กับ เขมร ชายไทในยุคนี้ต้องศึกษาวิชาการใช้อาวุธและการต่อสู้ด้วยมือเปล่าไม่ต่างจากสมัยกรุงสุโขทัย

โดยในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น พระมหากษัตริย์ ได้ทรงโปรดให้มีกรมมวยหลวงขึ้น โดยให้คัดเลือกเอาชายฉกรรจ์ที่มีฝีมือในการชกมวยไท เข้าต่อสู้กันหน้าพระที่นั่งแล้วคัดเลือกผู้มีฝีมือเป็นเลิศ เข้าเป็นทหารคนสนิท และทหารรักษาพระองค์ เรียกว่า “ทหารเลือก” หรือ “ทนายเลือก” สังกัดกรมมวยหลวง มีหน้าที่รักษาความปลอดภัย ภายในพระราชวังหรือตามเสด็จไปในราชกิจต่าง ๆ ทั้งเป็นครูฝึกมวยไทให้เหล่าทหารและพระราชโอรสอีกด้วย
#รอติดตามตอนต่อไป

เขียน / เรียบเรียง โดย : ฅนขลัง คลังวิชา
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก :kiatiyosbuddhism.blogspot.com/2014/11/blog-post_12.html
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ฅนขลัง คลังวิชา

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: