6217. อาทิตย์ดับที่หาดทรายรี!! เหตุการณ์วันสิ้นพระชนม์ ของ “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์”

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์” ท่านเป็นชายชาตรี ใช้ชีวิตกลางแจ้งเพื่อศึกษาชีวิตของราษฎรตามหัวเมืองต่างๆ และที่สำคัญท่านชื่นชอบพุทธเวท ไสยเวท เป็นอย่างมาก

ท่านเป็นพระราชโอรสของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ พระองค์ทรงเป็นผู้วางรากฐานการบริหารงานของกองทัพเรือ ทรงได้รับการเชิดชูในหมู่ทหารเรือเรียกขานพระองค์ว่า “เสด็จเตี่ย” หรือ “หมอพร” และ “พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย” ต่อมาในปี ๒๕๓๖ มีประกาศกองทัพเรือขนานพระนามพระองค์ว่า “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และในปี ๒๕๔๔ แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย”

ย้อนไปเหตุการณ์ในวันที่เสด็จในกรม สิ้นพระชนม์ พ่อหลิม หรือ เสือไท เล่าว่าตนเองเป็นมหาดเล็กปลุกบรรทม มีหน้าที่ดูแลเรื่องเครื่องบรรทม และคอยปลุกเสด็จในกรมฯ ตามที่ทรงรับสั่ง หน้าที่นี้เองทำให้เขาเป็นมหาดเล็กใกล้ชิดและอยู่ในเหตุการณ์ในวันสิ้นพระชนม์

มหาดเล็กหลิม ได้เล่าเหตุการณ์ในวันที่ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ด้วยข้อมูลที่แตกต่างไปจากที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ในตอนสายวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๖๖ เป็นช่วงเวลาที่เสด็จไปพักผ่อนในที่ประทับที่สร้างขึ้นอย่างเรียบง่าย ที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร

ทรงประทับรักษาพระองค์จากไข้หวัดใหญ่ เสด็จในกรมฯ ทรงมีรับสั่งให้คนใกล้ชิดเข้าเฝ้าทีละคน หลังจากประทานปืนยาวให้เขาโดยทรงสำทับว่า อย่านำไปฆ่าคน ให้เป็นที่ระลึกแล้ว ทรงรับสั่งให้นำธูปและดอกไม้มาถวายเพื่อจะไหว้พระ ซึ่งทรงปฏิบัติเป็นประจำทุกวัน ทรงรับสั่งว่า สิบเอ็ดโมงวันนี้ไม่ต้องเข้าไปปลุก ตามปกติในระหว่างประชวร จะทรงตื่นบรรทมมาเสวยพระโอสถในช่วงนี้

เวลาผ่านไปราว ๓ ชั่วโมง ในห้องบรรทมเงียบจนได้ยินเสียงสวดมนต์ดังออกมาเบาๆ แล้วเงียบหายไปพักใหญ่ จึงเห็นควันธูปลอยออกมาตามช่องลมและพระแกลมากจนผิดสังเกต มีใครคนหนึ่งสั่งให้เปิดประตูเข้าไปดูพระองค์

แล้วภาพที่เห็นก็คือ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงค์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย เสด็จในกรมฯ และ เจ้าพ่อของลูกหลานไทยทุกคน ได้สิ้นพระชนม์อย่างสงบ ในพระอิริยาบถบรรทมตะแคงพระองค์สิ้นพระชนม์ในขณะที่พระหัตถ์ยังทรงพนมธูปและดอกไม้อยู่

ซึ่งก่อนหน้าในปีพ.ศ. ๒๔๖๖ พระองค์ทรงดำรงตำแหน่ง เสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ต่อจากสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงดำรงตำแหน่งได้ไม่นานก็ได้กราบบังคมลาออกจากราชการ

เพื่อพักผ่อนรักษาพระองค์ที่จังหวัดชุมพร ทรงถูกฝนประชวรเป็นพระโรคหวัดใหญ่ สิ้นพระชนม์ที่ ตำบลทรายรี ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ สิริพระชนมายุได้ ๔๓ พรรษา กองทัพเรือไทยถือเอาวันที่ ๑๙ พฤษภาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เป็น “วันอาภากร”

ขอบคุณข้อมูลจาก : เรื่องเล่าชาวสยาม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: