2617.พระสยามเทวาธิราช มาขอพบ หลวงปู่มั่น
มาขอพบท่าน “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต”
(เหตุการณ์ครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒)
ท่านพระอาจารย์มั่นเล่าว่า..!!
“คราวหนึ่งท่านพักอยู่ที่ดอยมูเซอ วันหนึ่ง
ตอนท่านออกไปบิณฑบาต ได้สังเกตเห็น
ชาวบ้านจับกลุ่มสนทนากัน”
ด้วยท่าทางตื่นเต้น ฟังไม่ค่อยรู้ภาษา ได้ยิน
แต่ว่า “ยาปาน…ยาปาน…”
“พอกลับถึงวัด ท่านจึงถามคนในวัดด้วยภาษาคำเมืองว่า “เขาพูดอะไรกัน?” ก็ได้ความว่า “ทหารยาปาน (ญี่ปุ่น) บุกขึ้นประเทศไทยที่เมืองสงขลา การรบเป็นไปอย่างหนักหน่วง มีแม่ค้าขายของเข้าร่วมรบด้วย นักรบแม่ลูกอ่อนก็มี แม่ลูกหนึ่งลูกสองก็มี”
“ต่อมาได้มีคำสั่งจากรัฐบาลถึงกองทัพให้ทหารไทยหยุดยิง โดยอ้างว่า ญี่ปุ่นไม่ต้องการรบกับไทย แค่ขอผ่านทางเฉย ๆ แต่ทหารไทยประจำแนวหน้า พร้อมทั้งนักรบแม่ลูกอ่อนก็ยังไม่หยุดยิงและไม่ยอมถอย ทหารญี่ปุ่นจึงขึ้นบกไม่ได้ ตายเขียวไปทั้งทะเล จนรัฐบาลต้องส่งกองทหารอื่น..? เข้าไปสั่งให้ทหารญี่ปุ่นหยุดยิง แล้วขอสับเปลี่ยนกองทหาร ทัพแนวหน้าและนักรบแม่ลูกอ่อน จึงได้หยุดยิงแล้วถอยเข้ากรมกอง ฝ่ายกองทัพญี่ปุ่นจึงขึ้นบกได้
ก็ไม่ได้ถือเอาเป็นอารมณ์ ด้วยคิดว่าเป็นกรรมของสัตว์โลก
เช้าวันต่อมา จวนจะสว่าง หลวงปู่มั่นฯ เกิดวิตกว่า “ชะตากรรมของประเทศไทยจะเป็นอย่างไรกันหนอ” … พลันก็ปรากฏนิมิตขึ้นว่า…!!
“ประเทศไทยคล้ายภูเขาสูง บนยอดมี
ธงไทยสามสีปลิวสะบัดอยู่ และมีพระแก้วมรกตประดิษฐานอยู่เหนือธงไทย … มองดูตีนเขาลูกนั้นก็เห็นมีธงชาติต่าง ๆ ปักล้อมรอบเป็นแถว ๆ”
“ประเทศไทยไม่เป็นอะไรมาก นอกจากผู้มีกรรมเท่านั้น และต่อไปนานาประเทศจะยอมรับนับถือ เพราะประเทศไทยพระพุทธเจ้าสอนไม่ให้เบียดเบียนรังแกข่มเหงเพื่อนมนุษย์และสัตว์ และประเทศไทยก็ไม่เคยข่มเหงประเทศใด นอกจากป้องกันตัวเท่านั้น ชาติต่าง ๆ จึงยอมรับนับถือเป็นกัลยาณมิตร”
ในเวลาต่อมา..วันหนึ่ง “พระสยามเทวาธิราช” พร้อมคณะเทพบริวาร ได้พากันมากราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่นฯ ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ พอรายงานตัวเสร็จ ท่านพระอาจารย์มั่นฯ ถามวัตถุประสงค์…
“เวลานี้ฝ่ายสัมพันธมิตรได้มาทิ้งระเบิดกรุงเทพฯ อย่างหนักหน่วง พวกข้าพเจ้า
ป้องกันเต็มที่”
“มีคนบาดเจ็บล้มตายไหม”
หลวงปู่มั่นฯ_ถามว่า “ทำไมไม่ช่วย”
ตอบว่า “ช่วยไม่ได้” เพราะเขามีกรรมเวร
กับฝ่ายข้าศึก
จะช่วยได้แต่ผู้ไม่มีกรรม สถานที่สำคัญ และพระพุทธศาสนาเท่านั้น”
“มานี้ประสงค์อะไร”
ตอบว่า “ขอให้ท่านบอกคาถาปัดเป่า
ลูกระเบิดไม่ให้ตกถูกที่สำคัญด้วย”
หลวงปู่มั่นฯ จึงกำหนดพิจารณาหน่อยหนึ่ง
ได้ความว่า..
นะโม_วิมุตตานัง_นะโม_วิมุตติยา
เทพคณะนั้นก็ได้สาธุการ แล้วลากลับไป ..
ไม่เห็นกลับมาอีกเลย…
จากหนังสือ_รำลึกวันวาน
บันทึกโดยหลวงตาทองคำ_จารุวัณโณ_เกี่ยวกับเกร็ดประวัติและปกิณกธรรมของ
หลวงปู่มั่น_ภูริทัตโต
**********************
ขออนุโมทนาขอขอบคุณ และขออนุญาตนำ
มาเผยแผ่เป็นธรรมทานแก่ผู้ที่มีความศรัทธา.
แอพเกจิ