2028. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…วิญญาณ โหยรัก

ดิฉันเป็นลูกหลานคนจีน โดยแท้จริง เติบโตที่ภาคใต้ ส่วนใหญ่คนบ้านดิฉันรับจ้างทำงานทั่วไป ไม่ว่าจะงานก่อสร้าง ถ่างป่า หรือกรีดยาง แต่เหตุการณ์ที่ดิฉันจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับญาติของดิฉันคนหนึ่งซึ่งเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่อง ผี เห็นเป็นเรื่องไร้สาระ ผลสุดท้ายเขาเกือบเอาตัวไม่รอด ญาติของดิฉันคนนี้มีชื่อเล่นว่า นุ อายุก็ราว 16-17 ปี รุ่นเดียวกับดิฉัน กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น

สมัยนั้นหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยเจริญ บ้านของนุก็เหมือนกันไม่มีไฟฟ้าใช้เหมือนตอนนี้ เมื่อนุเรียนจบ ป.6 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน นุคิดอยากเรียนต่อจึงไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่รอบค่ำในอำเภอ กลางวันจะได้มีเวลาช่วยพ่อแม่ทำงาน แต่ระยะเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนก็ราว 20 กว่ากิโลเมตร แต่นุยังโชคดีหน่อย ที่เขายังมีรถเครื่องเก่า ๆ อยู่คันหนึ่งไว้ขี่ไปโรงเรียนทุกวัน หลังจากเลิกเรียนแล้วนุก็ชอบไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่อกลับมาถึงบ้านตี 2 เกือบตี 3 ทุกวัน

….มีอยู่วันหนึ่งเป็นช่วงหน้าฝน คืนนั้นฝนตกทั้งคืน นุก็ยังคงไปเรียนศึกษาผู้ใหญ่ในตัวอำเภอเหมือนเดิม หลังจากเลิกเรียนแล้วคืนนั้นนุไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่อจนเวลา 02.00 น. จะกลับบ้าน แต่เพื่อนของนุเห็นฝนยังตกไม่หยุด จึงชวนนุค้างที่บ้าน แต่นุปฏิเสธพร้อมกับบอกว่า “ระยะทางไม่ไกลหรอก เรากลับจนชินแล้ว หลับตาเรายังขี่ได้ เรื่องกลับบ้านแค่นี้เรื่องเล็ก ขอให้วางใจเถอะ”

เมื่อนุพูดอย่างนี้ เพื่อนของเขาก็ส่วยหัวกับความดื้อรั้นของนุ แล้วเขาคงไม่รู้ว่าเดือนก่อนตรงบริเวณก่อนถึงหลักกิโลเมตรที่ 2 ซึ่งมีศาลาพักร้อนอยู่ข้างทาง มีผู้หญิงสาวสวยรุ่นราวคราวเดียวกับนุอกหักจากแฟนผูกคอตายที่ป้ายนี้ เมื่อเธอตายแล้ว วิญญาณของเธอก็ไม่ยอมไปไหน วนเวียนอยู่ที่นี่ คอยหลอกคนนั้นคนนี้ที่ผ่านมา จนคนแถวนั้นกลัว แต่นะไม่รู้มาก่อน และนึกไม่ถึงว่าผียังมีอยู่ในโลก คิดว่าคนเราตายไปแล้วทุกคน เมื่อถูกเผาก็กลายเป็นเถ้าธุลีไป

….คืนนั้นนุกลับบ้านดึก เพราะติดฝนตก ตำลังขี่รถจะพ้นตัวอำเภอไปเลย จนถึงบริเวณป้ายหลักกิโลเมตรที่ 2 ก็มีผู้หญิงสาวสวยมายืนโบกรถอยู่ เมื่อนุเห็นจึงหยุดรถแล้วถามผู้หญิงคนนั้นว่า “น้องจะไปไหน มายืนตากฝนอยู่ที่นี่ไม่หนาวหรือ” ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบว่า “น้องคิดจะกลับ แต่ไม่มีรถพี่ช่วยไปส่งหน่อยได้ไหม” นุจึงรับอาสาส่งผู้หญิงคนนั้นที่บ้านนุได้ถอดเสื้อเจ็กเก็ตที่เขาใส่ให้กับผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นเธอหนาวจนสั่น แต่คำพูดของผู้หญิงคนนั้นเยือกเย็นชอบกลแต่นุก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเธอหนาว ตลอดทางที่ผู้หญิงคนนั้นนั่งรถเขามาก็ไม่คอยพูด มีแต่นุเท่านั้นที่ชวนคุยตลอดทาง

…จนมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน กม.7 ผู้หญิงสาวคนนั้นก็บอกให้นุหยุดรถ บอกถึงบ้านแล้ว “ส่ง..แค่..นี้..พอ..แล้ว..พี่..ไม่..ต้อง..ส่ง..บ้านหรอก” หญิงสาวคนนั้นชี้ให้นุเห็นหลังคาบ้าน พร้อมบอกว่า “หลัง..กลัว..แม่..ด่า..ส่ง..แค่…นี้..พอ..เสื้อ..ตัว..นี้..น้อง..ขอ..ใส่..ก่อน..อากาศ..หนาว..” นุจึงบอกว่า “งั้นพี่กลับบ้านก่อนเดี๋ยวดึกเกินไป วันหลังพบกันใหม่” ว่าแล้วเขาก็ขับรถต่อไปเพื่อให้ถึงบ้านเร็ว ๆ พอรุ่งขึ้นสายหน่อย นุคิดอยากไปเที่ยวบ้านหญิงสาวคนนั้นอีก พร้อมกับเอาเสื้อแจ็กเก็ตคืนด้วย พอไปถึงบ้านที่หญิงสาวคนนั้นบอกเมื่อคืน

เขาก็ได้พบกับหญิงชราคนหนึ่งอายุก็ราว 50-60 ปี นุได้ถามถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่เคยอยู่บ้านนี้มาก่อน ตอนแรกหลังจากหญิงชราได้ฟังนุเล่าเรื่องที่พบเจอเธอจนจบ หญิงชราคนนั้นก็มีอาการตกใจมาก คิดไม่ถึงว่าวิญญาณลูกสาวตายแล้วยังไม่ยอมไปเกิด ยังมาหลอกหลอนคนอีก หญิงชราคนนั้นจึงได้เล่าความจริงว่า ลูกสาวยายตายไปได้เดือนกว่าแล้ว ถ้าเธออยากพบเขาอีกก็ลองไปที่สุสานต้องเจอแน่ เพราะศพลูกสาวยายฝังไว้ที่สุสานแห่งนั้น ครั้งแรกที่พูดนุไม่เชื่อ พอหญิงชราพานุไปเห็นถึงเชื่อว่าตัวเขาได้ถูกผีหลอก เกือบช็อคในตอนนั้น

พบกับเสื้อของตัวเอง วางคลุมอยู่บนหลุมศพของหญิงสาวคนนั้น จึงเชื่อสนิทว่าตัวเองได้ถูกผีหลอก จึงตกใจมาก กลับมาถึงบ้านจิตใจของนุในเวลานั้นไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มีอาการหวาดกลัวมาก ดิฉันได้ข่าวว่านุโดนผีผู้หญิงสาวหลอกตรงบริเวณป้ายจึงไปเยี่ยม ตอนนั้นเห็นสภาพของเขาแล้วน่าสงสารมาก ยังมีอาการหวาดกลัวอยู่ ข้าวปลาไม่ยอมกิน พ่อแม่พี่น้องก็พยายามหาหมอผีมารักษาอาการของนุให้หาย แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ทุกครั้งที่ญาติพี่น้องไปเยี่ยมเขาจะมีอาการหวาดกลัว เหมือนกำลังเห็นอะไร ร้องตะโกนลั่นบ้านกลัวแล้ว กลัวแล้วๆๆ อยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวันและกลางคืนด้วย จนญาติพี่น้องคิดว่าคงหมดหนทางรักษาแล้ว แต่แล้วในวันหนึ่งญาติของเขาคนหนึ่ง ก็พบพระธุดงค์องค์หนึ่ง พักอยู่ที่วัด กม.7 จึงไปนมัสการพร้อมเล่าเรื่องของนุให้ท่านฟัง

พระองค์นั้นได้เพ่งกระแสจิตพักหนึ่งก็กล่าวกับญาติของนุว่า วิญญาณตนนี้มีความอาฆาต พยาบาทอย่างแรงกับผู้ชายทุกคน โยมนุกำลังมีเคราะห์ วิญญาณตนนี้อยากเอาไปอยู่ด้วย ถ้าจะให้โยมนุพ้นเคราะห์นี้ไป ต้องโกนหัวบวชที่วัดนี้ อุทิศส่วนกุศลไปให้แก่วิญญาณของเขาก็จะพ้นเคราะห์กลับมาเหมือนเดิม อาการต่าง ๆ ก็จะหายไปเองจากนั้นก็อุทิศส่วนกุศล แล้วก็ไม่เจอวิญญาณนั้นอีกเลย.

ขอบคุณขอมูลดีๆจาก thenightshock.com
รูปภาพเป็นเพียงรูปประกอบบทความและขอขอบคุณท่านเจ้าของรูป ณ ที่นี้ด้วยครับ
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: