1321. อภินิหารแหวนขาวมหาอุตฆ์

อภินิหารแหวนขาวมหาอุตฆ์

นะมหาอุตฆ์ เป็นที่มาของวิชาที่มีประสิทธิภาพในทางคงกระพันชาตรี มนุษย์เราทุกคนเกิดมาร่างกายจิตใจต่างกัน การเกิดมาเป็นคนมีสิ่งที่อุบัติอยู่ในร่างกาย บางคนที่เกิดมามีความแปลกมหัศจรรย์ดังเช่นบางคนที่เกิดมามีดอกพิกุลอยู่ในมือและบางคนอยู่ที่เท้า เพราะได้สร้างกุศลไว้แต่อดีตชาติและบุคคลผู้นั้นแม้จะเยี่ยวออกมาก็ยังเป็นยาให้คนกินอาการโรคที่คนป่วยกินเยี่ยวที่เด็กมีพิกุลที่มือจะเป็นโรคอะไรก็หายสิ้น

ลักษณะการเขียนหนังสือ มีมากมายหลายอย่างต่างกัน ถ้าจะรวมเอาแต่หลักสำคัญ ก็มีอยู่ 2 ประเภทเท่านั้นคือประเภทที่ 1 เขียนไปตามอารมณ์ซึ่งค่อนข้างง่ายเพราะเขียนตามแต่ใจเราคนเดียวก็พอ รายการที่ 2 เขียนเพื่อให้ความรู้แก่ผู้อื่นเพื่อให้ผู้อ่านเห็นคุณและโทษไปด้วยนั้นไม่ใช่ทำได้จริงๆนัก

ก่อนอื่นจะต้องค้นคว้าหาหลักฐานให้เพียงพอที่จะออกความเห็นได้นั้นจะต้องมีทั้งการอ่านและการค้นคว้าการเที่ยวไต่ถามผู้รู้จนแน่ใจว่าถูกต้องแล้วจึงจะลงมือเขียนได้ฉะนั้นในการเขียนชนิดที่ 2 นี้จึงต้องใช้เวลาและความเหน็ดเหนื่อยมิใช่น้อย การได้รับค่าตอบแทนจากท่านบรรณาธิการก็จะขอยอมเหนื่อยไปจนกว่าจะหาหลักฐานอันแน่นอนได้

ข้อเขียนที่ข้าพเจ้าเอามากล่าวจึงมีข้อเขียนที่ประกอบทั้งหลักฐานและเหตุผล ผู้เขียนหาเอามาไว้เพื่อความอุ่นใจไม่แน่นักว่าท่านผู้อ่านคนไหนสงสัย ผู้เขียนก็จะเอาหลักฐานที่หามาไว้พร้อมมูลเป็นเครื่องประจักษ์พยานเรื่องของผู้เขียนครบถ้วนเพราะเป็นความจริง

เรื่องนี้ผู้เขียนกล่าวถึงที่มาของอาจารย์คณะแหวนขาวผู้มีอิทธิฤทธิ์ในทางมีเครื่องรางของขลังอยู่ยงคงกระพันชาตรีโดยอาจารย์ปลุกเสกแหวนให้มีอิทธิฤทธิ์และก็แจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ที่มาขอทุกคนอักขระที่แหวนขาวมีอยู่ 8 ตัวเขาเรียกว่า นะมหาอุตฆ์ด้วยเอามหาอุตฆ์ของพระพุทธเจ้าซึ่งมีอยู่ 8 มหาอุตฆ์

โหรหลวงผู้ทรงคุณวุฒิทํานายพระพุทธองค์ว่าจะเป็นศาสดาเอกของโลกเหตุผลเพราะพระองค์จุติมาด้วยมีอภินิหารหลายประการ มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะพระองค์มีถึง 8 มหาอุตฆ์ เหล่าบรรดาเกจิย์อาจารย์ต่างๆนำมหาอุตม์นี้มาปลุกเสกบูชาเป็นที่เคารพนับถือสามารถคุ้มกันอาวุธมีดและปืนได้

อาจารย์แสง นิพนธ์อยู่บ้านเลขที่ 35 ตรอกบ้านพานถม ก่อนที่จะมาตั้งตัวเป็นอาจารย์ทางคงกระพันชาตรี อาจารย์แสงอุปสมบท อยู่วัดชัยชนะสงคราม สอบเปรียญประโยค 6 ได้ลาสิขาโดยไปแต่งงานกับนางสาวอุไร เทพรส ซึ่งเป็นลูกสาวของนายกำจร บุญฤทธิ อาจารย์แสงได้สร้างเเหวนขาวเป็นเครื่องสัญลักษณ์ อักขระที่เป็นพระคาถามีพระคาถา 8 ตัวเท่ากับจำนวนมหาอุตฆ์ของพระพุทธองค์

คณะแหวนขาว มีชื่อบันทึกอยู่ในวงการนักเลงลูกศิษย์ที่จะมาสักจะต้องเป็นคนดีมีศีลธรรมจึงจะได้รับแหวนขาว คณะนี้โด่งดังเทียบเท่ากับคณะ 9 ยอด คณะลักกั๊ก สิ่งที่แน่นอนมหัศจรรย์จะเกิดขึ้นเป็นประจักษ์พยานก็ต่อเมื่อ อาจารย์แสงมอบพระคาถา 8 ตัวและแหวนขาวให้และทำพิธีประสิทธิประสาทวิชาให้พร้อมกับจ่ายค่ายกครูเป็นเงิน 6 บาท

เมื่อได้รับแหวนขาวและพระคาถาจากอาจารย์แล้วอาจารย์จะใช้หลาวไม้รวก ราวเหล็กพุ่งข้างหลัง 3 ทีข้างหน้าอก 3 ที บรรดานักเลงที่อยากได้ เมื่อเห็นการทดลองประจักษ์ของอาจารย์ประชาชนทุกคนทุกเหล่าตลอดจนทั้งกองทัพ 4 เหล่าก็หลั่งไหลมาขอเป็นศิษย์

สมัยนักเลงเป็นคนมีสัจจะ ในท้องพระนครมีอั้งยี่ถึง 26 คณะทางฝ่ายไทยก็มีอาจารย์ที่เก่งกล้า ตลอดทั้งพระภิกษุที่อยู่วัด ดังเช่นหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อจง หลวงพ่อจาด หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อวัดบางเชือกหนัง หลวงพ่อวัดกบ ล้วนแต่เป็นผู้มีความชำนาญในเรื่องวิชาการต่างๆ ดังบันทึกที่ข้าพเจ้าได้เขียนไว้ให้ผู้อ่านทราบ

มีอยู่อย่างหนึ่งบุคคลต่างถิ่นจะเข้ามาในเขตที่ไม่ใช่ถิ่นของตัวบุคคลนั้นต้องปกปิดรอยสักไม่เห็นเครื่องหมาย ถ้าเป็นพวกอั้งยี่คณะไหนก็ต้องเอาเครื่องหมายประจำคณะออกเเม้ว่านักเลง ในถิ่นนั้นจะรู้จักและจำได้ว่าบุคคลนั้นเป็นพวกต่างถิ่น เมื่อเข้ามาดูลักษณะกลัวและยอมสวามิภักดิ์เป็นประเพณีที่นักเลงปฏิบัติ เหมือนกันทุกคณะแต่ถ้าล่วงข้ามเขตมาโดยลักษณะไม่ปิดบังเครื่องหมายและเข้ามาโดยเจ้าของถิ่นเดือดร้อนแล้วละก็ คือคนหนึ่งผู้นั้นจะต้องถึงจุดจบ

เมื่อ พ.ศ. 2480 ระหว่างตอนนั้นข้าพเจ้าอยู่คณะเก้ายอด ยังมีลิเกคณะหนึ่งเป็นลิเกคณะอยู่บางลำพู เป็นลูกศิษย์ คณะเเหวนขาวทั้งหมดคณะ ในคณะนี้มีผู้แสดงเป็นพระเอกชื่อนายกาหลง บุษบกมีฝีมือในการแสดงและมีมหาเสน่ห์อันขมัง รูปสวย มีเพศตรงข้ามรักชอบมาก แต่เป็นคนไม่มีความจริงจังต่อความรัก ได้ล่วงข้ามเขตมาในถิ่นเก้ายอดตำบลนางเลิ้งมาเที่ยวเกี้ยวผู้หญิงที่ร้านไพฑูรย์ภัตตาคารซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนเพนียง เจ้าของชื่อชลอ จันทร์ประดิษฐ์

นายกาหลงเข้ามาในลักษณะยอมสวามิภักดิ์โดยไม่ได้มีแหวนสวมมาจึงปลอดภัย นายกาหลงมาเสมอ นางเลิ้งตอนนี้นั้นมีละครประโมทัย คณะศรีจันทรา ภายใต้การควบคุมของนายจวงจันทร์ จันทร์โอภาส นางเอกของคณะชื่อนางสาววาสนา ดุริพันธ์ มีพันธะรักใคร่กับนายกาหลงเมื่อจะพบคุยกัน ก็ต่อเมื่อนัดหมายมาคุยกันที่ร้านไพฑูรย์ภัตตาคารพบปะคุยกันเสมอมา

ในคืนนั้นมาในลักษณะนักเลงเพราะไม่ได้ถอดแหวนขาวที่นิ้วทั้งนี้เพราะเเหวนขาวนั้น นายกาหลงทำเป็นแหวนเพชร ให้อาจารย์ลง นะมหาอุตม์ อย่างเรียบร้อย เป็นอันตรายอันใหญ่หลวงนัก

ก็เป็นจริงอย่างที่ข้าพเจ้าว่าคืนนั้นเวลาประมาณ 2 ทุ่มข้าพเจ้ากำลังนั่งคุยกับพี่เงี่ยม หัวหน้าคณะเก้ายอดมีนายวิเชียร นายตุ้มนายยอด สามคนนี้เป็นลูกศิษย์ของพี่เงี่ยม มาบอกพี่เงี่ยมว่า พี่พี่ครับเวลานี้มีนายกาหลง พระเอกลิเกเข้ามาจีบนางสาววาสนานางเอกละคร คุยกันอยู่ที่ร้านไพฑูรย์ภัตตาคาร พี่จะว่าอย่างไร

พี่เงี่ยมถามว่ามันถอดเครื่องหมายออกพรางหรือเปล่า เจ้าวิเชียรบอกว่าแหวนที่มันใส่เป็นแหวนเพชร มันใส่อวดกำลังคุยกับผู้หญิง พี่เงี่ยมบอกว่าเอามันเเต่เพียงเบาะๆ อย่าให้มันชอกช้ำมากนัก เท่านั้นเองบุรุษทั้งสามก็รีบวิ่งมาที่ร้านไพฑูรย์ภัตตาคาร

เจ้ากาหลงเป็นคนเจ้าชู้ไม่มีความจริงจังกับผู้หญิง มานอนกับผู้หญิงบาร์ ครั้งไหน เจ้ากาหลงก็ชักชวนพาไปจนได้เพราะความสวยรูปของมันและช่างพูดช่างจาของเจ้ากาหลง เจ้ากาหลงนำไปแล้ว จังหวะโอกาสดีก็เอาไปขายภาคใต้ภาคอีสานดังนั้นจึงเป็นที่โกรธแค้นของผู้เป็นผัว ต่างจดจำเพื่อรอผลการแก้แค้นเจ้ากาหลง ล่วงถิ่นเข้ามาทุกครั้งถอดเเหวน

วันนี้เจ้ากาหลงมาคุยกับนางเอกละคร เป็นแม่ปลาทองตัวงาม

เมื่อคนทั้งสามมาถึงร้านไพฑูรย์ภัตตาคารมาพูดกับนายกาหลง ซึ่งกำลังคุยอยู่กับนางสาววาสนาว่า ”เฮ้ยไอ้หลง” มึงเข้ามาในเขตครั้งไรมึงต้องมาเอาผู้หญิงในเขตกู ทุกครั้งและการที่มึงเอาผู้หญิงไปว่าจะเอาไปเลี้ยงเป็นเมียคู่ชีพ ไปอยู่กับมึงสองวันมึงก็เอาไปขายและส่งไปขายไกลจนผัวและคณะของกูตามไม่ถูก มึงมีอะไรจะพูดกับกูบ้าง

กาหลงตอบว่าก็ผู้หญิงที่กูเอาไปก็มันเป็นผู้หญิงสำเพ็งนี่หว่า กูรักมันมันไม่รักกูก็จำเป็นที่ต้องเอาไปขาย นางสาววาสนาได้ฟังคำพูดของทั้งสองฝ่ายไม่อยู่ช้าแล้วรีบออกจากร้านไปโรงละครทันที

มันเรื่องอะไรของมึงที่มายุ่งกับกู นายวิเชียรบอกว่า เเม้มัน จะเป็นผู้หญิงสำเพ็งมันก็มีผัวผู้คุมดูแล มึงไม่รักเกียรติยศ เมียของพวกกูถูกมึงเอาไป เหมือนมึงทุบหม้อข้าวของพวกกูมึงมาลักขโมยแบบชายชู้กูเห็นมึงมาหลายครั้งแต่มึงถอดแหวนกูก็มีความแค้นมึงก็จำต้องยอมทนเพื่อไม่ให้เป็นการเสื่อมเสียศักดิ์ศรีของนักเลงนี่มึงกำลังจะมาจีบนางละครเอก ต้องการโอ้อวดแหวนเพชรว่าแสดงว่ามึงเป็นคนมีเงินแต่แท้ที่จริงมึงก็คือไอ้ตัวเหี้ยพร้อมกับยกเท้าเตะ

เจ้ากาหลงกาหลงก็ต่อสู้อย่างลูกผู้ชาย 3 ต่อ 1 เจ้ากาหลงเห็นศัตรูมีหลายคนก็ชักมีดออกมาแทงป้องกันตัว ชายทั้งสามเห็นคู่ต่อสู้ชักมีดต่างก็ชักมีดเช่นเดียวกัน ต่างก็โถมเข้าต่อสู้กันจนโต๊ะเก้าอี้ขวดแตกกระจายเต็มร้านผู้หญิงบาร์และคนที่มาเที่ยวหาความสำราญต่างก็หนีกันฉุกละหุก เพื่อเอาตัวรอด แต่กำลังของคนจะฆ่ากันได้มันไม่ใช่ของง่ายนักเพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีเครื่องรางของขลังอาวุธคมมีดไม่ระคายผิวหนังจน นายกาหลงเริ่มอ่อนเพลียเต็มที

นายวิชัยกอดจับส่วนบนและอีกคนจับขาให้นายกาหลงนอนหงายแล้วอีกคนก็กระทืบท้องหน้าอก คอหอย ชีวิตพระเอกลิเกผู้มีนามกระเดื่องทั่วกรุงและเป็นนักล่าผู้หญิงก็จบลงเพียงเท่านี้เพราะไม่ได้ถอดแหวน เจ้าสามคนก็หลบหนี

ทางฝ่าย ร้อยตำรวจเอกขุนอินทร์ นามกำเหนิด ขึ้นเป็นสารวัตรนางเลิ้งได้มาสอบสวนที่เกิดเหตุ ถามที่ร้านและเจ้าของร้านหลายคนก็ไม่มีบุคคลใดให้การว่ารู้เรื่องและจำตัวคนทั้ง 3 ได้เท่านี้เป็นธรรมดาเพราะถิ่นของคณะเก้ายอด คุ้มครองรักษาร้านไพฑูรย์ภัตตาคารไว้ สิ่งใดที่เป็นอันตรายกับคณะเก้ายอด ย่อมมีการช่วยเหลือเป็นธรรมดา

เหตุเกิดในถิ่นพี่เงี่ยมอยู่ ร้อยตำรวจเอกขุนอินทร์ได้มาถามพี่เสงี่ยมพี่เสงี่ยมก็ให้การว่าผมอยู่บ้านคนที่มีเรื่องนั้นจะเป็นพวกเก้ายอดดังที่สารวัตรกล่าวหรือไม่ผมก็ไม่รู้เพราะไม่มีพยานโจทก์คนไหนรู้จักเท่านั้นก็สิ้นเรื่อง เรื่องนี้ก็เงียบหายไม่ได้ตัวคนร้าย

รุ่งเช้าหนังสือพิมพ์ประมวลวัน สยามราษฎร์ ไทยหนุ่มลงข่าวสรุปว่านายกาหลงพระเอกลิเก ล่วงข้ามถิ่นเข้ามาในเขตพวกคณะเก้ายอดได้ชักชวนลูกเมียของพวกเก้ายอดไปขาย นำความโกรธเเค้นมาให้ผู้เป็นผัว ข่าวยังไม่เเน่นอน บาดแผลที่นายกาหลงถูกทำร้ายตามคำแพทย์ตรวจว่าหัวใจ ปอด ตับ ม้ามภายหลังจากการเอ็กซเรย์แล้ว ตับช้ำ ม้ามบวม กระเพาะเยี่ยวแตก ยังไม่อาจติดตามคนร้ายได้..

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: