2092. เรื่องเล่าไม่ควรเล่าตอน…บุปผาราตรี…….หอชั้นนี้ ผีดุ

บุปผาราตรี…….หอชั้นนี้ ผีดุ
เรื่องเล่าสยองขวัญ (ยาวนะครับแต่อ่านแล้วสนุก)

คุณเคยดูหนังบุปผาราตรีใช่ไหม
แล้วคุณคิดว่า ในชีวิตจริง มันจะมีเรื่องแบบในหนังหรือเปล่า ที่ผีออกมาหลอกจนคนเช่าย้ายหอหนีหมด
คุณอาจจะคิดว่า เรื่องจริงมันจะมีหรอ

คุณว่าหอๆนึงในชั้นนั้น ทำไมคนเช่าพากันย้ายออกชนิดเรียงห้อง จนแทบหมดปีกตึก
แล้วทุกวันนี้
ผู้หาญกล้าที่เหลืออยู่ของชั้นนั้น ปีกตึกนั้น มีเพียง1คน กับ1ตน และ1ในนั้นเป็นคนรู้จักของเรา

…..บ่าว เป็นหนุ่มชาวสตูลค่ะ มาเรียนที่สงขลา เป็นเพื่อนร่วมห้อง เป็นคนไม่มีแฟน จริงๆบ่าวก็อยากมีแฟน แต่บ่าวไม่กล้าจีบใคร บ่าวบอกว่า เหตุผลที่ชอบเพ้อว่าอยากมีแฟน แต่ไม่กล้าจีบใคร เป็นเพราะบ่าวฐานะไม่ดี ยิ่งช่วงนั้นราคายางก็ถูก ทางบ้านส่งเงินมาให้ใช้ ก็ได้แค่พอไว้กินสำหรับคนเดียว เวลาบ่าวรู้ว่าพวกเราจะไปนั่งเล่นริมทะเล ในจุดที่ไม่ต้องใช้เงินมากมาย บ่าวเลยมักจะขอติดตามพวกดิฉันไปนั่งด้วย บ่าวบอก ไม่มีแฟนกับเค้า ขอไปนั่งกับเพื่อนสาวๆก็ยังดี เรารู้กันดีว่าบ่าวแอบชอบใครบางคนในกลุ่มเรา แต่ไม่กล้าบอก เพราะสายตามันฟ้องเวลาบ่าวแอบมองจำปา

…..พวกเราก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะบ่าวไม่เคยมาล่วงเกิน หรือทำตัวฉวยโอกาส แต่เป็นเพื่อนชายที่ดี ใช้แรงกายเข้าช่วยเหลือเพื่อนสาวทุกคนเมื่อใครร้องขอ เวลาซื้ออะไรมากิน พวกเราเลยจะให้บ่าวออกเงินหารน้อยกว่าคนอื่น เพราะรู้ว่าบ่าวฐานะเป็นยังไง

…..บ่าวไปเช่าห้องอยู่ที่หอพักเก่าๆหอหนึ่ง กลางเมืองสงขลา แต่ไม่ใช่แหล่งเจริญเท่าไหร่ เพราะราคาค่าห้องถูกดี พอพวกเราเริ่มสนิทกับบ่าว ก็เลยมักใช้ห้องของบ่าวเป็นที่สุมหัวหลายๆครั้งเวลาไม่อยากให้ใครรู้ว่าพวกเราไปไหน บ่าวเองก็ยินดีต้อนรับ เทคแคร์ดี สภาพจึงมักจะเป็นว่า เวลาเราไปห้องบ่าว พวกเราจะนอนกลิ้งบนเตียง แต่บ่าวเจ้าของห้องต้องไปนั่งมองที่ระเบียง

…..ในช่วงปี1ปี2นั้น หอของบ่าวคึกคักดี ห้องเต็มทุกห้อง แต่ในช่วงปลายๆเทอมปี2 เราไม่ได้ไปที่หอของบ่าวอีก เพราะที่หอพักนั้นเปลี่ยนเจ้าของ และเค้าห้ามคนนอกมามั่วสุมที่หอ ประมาณว่าเพื่อป้องกันปัญหาหลายๆอย่าง ทั้งการงัดห้องและมั่วสุมเสพยา กินเหล้า ประมาณนี้ เพราะก่อนหน้านี้เจ้าของเก่าค่อนข้างปล่อย หอก็ไม่ติดกล้องหรือคีย์การ์ด คนนอกเลยเข้ามาได้ และเกิดการงัดห้องลักขโมยขึ้น พอเจ้าของใหม่เข้ามาทำ ก็ทำระบบใหม่หมด แต่ก็ยังเป็นหอรวมเหมือนเดิม

……จนช่วงนึง ของการเรียนปี3 ดิฉันสังเกตเห็นบ่าว เขาดูแปลกๆไป เขามาเรียนเหมือนคนไม่ค่อยมีแรง สะดุ้งตกใจกลัวอะไรแบบโอเวอร์มากๆ เช่นเพื่อนจับไหล่ตอนเขานั่งหลับในห้องเรียน บ่าวก็จะสะดุ้ง แล้วโวยวายลั่นห้องเรียน จนอาจารย์ที่สอนและเพื่อนๆต้องมอง ในช่วงนั้นบ่าวก็หายๆจากการติดตามกลุ่มพวกดิฉันไปเหมือนกัน เพราะเขาไปได้กลุ่มเพื่อนชายที่เข้าใจกันมากกว่า แต่พวกเราพอเห็นบ่าวเป็นแบบนั้น หน้าตาเค้าตาคล้ำเหมือนหมีแพนด้าขึ้นทุกวัน เราเลยต้องเข้าไปชวนคุย

“บ่าว”

“ดีหยก จำปี จำปา”

“เพื่อนเป็นอะไรไป ทำไมหมู่นี้นายดูแปลกๆหน้าเหมือนหมีแพนด้าขึ้นทุกวันแล้ว”

“เราไม่ค่อยได้นอนเลย”

“นายไปทำอะไรมา ไปซาวด์บ่อยหรือไง”

“เปล่า เราไม่ได้ไปซาวด์ เราไม่มีเงินไปที่แบบนั้นหรอก”

“แล้วไปทำอะไรมา บอกพวกเราได้นะ”

….บ่าวเงยหน้ามองพวกดิฉัน (บ่าวไม่รู้ว่าดิฉันสัมผัสผีได้ค่ะ) ก่อนจะนั่งเอาคางเกยแขน……

“เราไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง เรากลัวพวกเธอหาว่าเราบ้า”

“เล่ามาเถอะ ถ้าเธอบ้าจริงๆ โรงพยาบาลจิตเวชอยู่แค่นี้เอง”

“โคตรรักกันเลยจะพาเราเข้าโรงบาลบ้าเนี่ย”

“ก็ว่ากันไป ไหนเล่ามาหน่อย เหตุผลที่นอนน้อย”

……บ่าว นิ่งไปสักพัก ก่อนจะเริ่มเล่าด้วยเสียงเหนื่อยๆ อันเป็นอาการของคนไม่ค่อยได้นอนหลับ……
บ่าวเล่าว่า

……ตั้งแต่หอเปลี่ยนระบบใหม่ คนก็ไม่ค่อยพลุกพล่าน ทุกห้องก็อยู่ปกติ ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกัน และไม่มีคนนอกมาจุ้นจ้านอีก แต่ที่ตามมาคือหอจะเงียบมากๆ จนวันนึง บ่าวกลับห้องตอนค่ำๆ บ่าวได้กลิ่นคาวๆบางอย่างลอยมาปะทะจมูก แต่บ่าวก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคนหอนี้ ทำอาหารกินเองเป็นปกติอยู่แล้ว อาจจะมีใครเอาเนื้อปลา เอาหมู เอาวัวมาทำกินก็ได้

……บ่าวบอก บ่าวกลับหอมาทีไร ก็ได้กลิ่นคาวๆแบบนั้นทุกวัน แต่จากกลิ่นคาว มันเริ่มเหม็นฉึ่งๆฟุ้งที่ปีกตึกปีกนั้น ในชั้นที่บ่าวอยู่ จนบ่าวทนไม่ไหว ไปบอกคนเฝ้าหอ ว่าทำไมที่ชั้นของบ่าว ปีกด้านนั้นที่บ่าวอยู่ ถึงมีกลิ่นเหม็นอะไรแปลกๆเหมือนปลาเน่าคาวๆลอยมาแตะจมูกมากๆ และแรงขึ้นทุกวัน อยากให้พี่คนเฝ้าหอ ไปตามหาต้นเหตุหน่อย

……คนเฝ้าก็รับปากว่าจะจัดการให้ พอดีช่วงนั้นบ่าวก็กลับบ้านช่วงปีใหม่พอดี เลยไม่ได้สนใจอะไร 4-5วันกลับมากลิ่นอะไรที่ว่า ก็ไม่มีแล้ว เป็นปกติดี บ่าวก็แฮปปี้ ใช้ชีวิตได้ตามเดิม

“แต่ตอนจะนอนตอนดึกๆนะ เราว่าเราได้ยินเสียงแปลกๆ แบบ เหมือนได้ยินเสียงคนร้องไห้เบาๆแบบ ฮือ…ยาวๆนะ
แต่เราก็ว่าเออ มันเป็นปกตินะ ที่หอนี้มีหนุ่มสาวมาอยู่กันเป็นคู่หลายคู่ เรื่องทะเลาะกันจนผู้หญิงร้องไห้ บ่าวเจอมาบ่อยจนชิน เลยไม่ได้ใส่ใจ”

…..แต่คืนนึง บ่าวไปนั่งริมทะเลกับกลุ่มเพื่อนชาย แล้วกลับมาดึกมาก บ่าวก็เดินขึ้นห้องไป แล้วห้องของบ่าวอยู่ด้านในสุดของปีกตึก ไฟที่ปีกนั้นมี2ดวง แต่ด้านตรงข้ามห้องบ่าวมันเสียอยู่ มันเลยสว่างแค่ด้านของบ่าว พอกำลังไขๆประตู บ่าวหันกลับไป หน้าห้องเลขท้าย08 ตรงด้านไฟเสียน่ะมันมืดๆทึมๆ มีผู้หญิงผมสั้นๆมานั่งชันเข่า เอาหน้าก้มลงบนหัวเข่า ผมสั้นๆปรกเข่า แล้วร้องไห้ได้ยินเสียงเบาๆ

….บ่าวก็ไม่ได้สนใจ ก็คิดว่าคงทะเลาะกับแฟน เลยออกมานั่งร้องไห้แหละ แต่บ่าวว่า บ่าวได้ยินเสียงร้องไห้เบาๆแทบทุกคืนนะ จนบ่าวเริ่มรู้สึกรำคาญเต็มที เพราะพอเคลิ้มๆจะนอน เสียงผู้หญิงคนนั้นก็จะแว่วมาให้ได้ยิน จนคืนนึง บ่าวทนไม่ไหว เลยเปิดประตูห้องออกมาตะโกนบอกไปที่หน้าห้องเลขท้าย08 เพราะเห็นผู้หญิงผมสั้นบ๊อบเทนั่งร้องอยู่ว่า

“เธอๆ เป็นอะไรครับ ทำไมร้องไห้บ่อยจัง ผมนอนไม่ค่อยได้เลยครับ”

…..บ่าวว่าผู้หญิงไม่ตอบนะ แต่เงียบ บ่าวก็เลยเข้านอนต่อ แต่คืนต่อๆมา และต่อๆมา ผู้หญิงคนนั้นก็ยังมานั่งร้องอีก
บ่าวทนไม่ไหวแล้วไง ก็เปิดประตูออกมาตะโกนไปที่หน้าห้องนั้นอีก

“เธอๆ เข้าไปร้องในห้องได้ไม๊ครับ ผมรำคาญ”

…ทีนี้บ่าว ข้องใจว่าเป็นอะไรนักหนา มานั่งร้องแทบทุกวัน บ่าวก็จะเดินไปใกล้ๆ แต่พอเดินได้4-5ก้าว ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นเปิดประตูเดินเข้าห้อง ปิดประตูดัง “ปั้ง” บ่าวยังแอบตำหนิในใจ ว่าทำไมเธอมารยาทแย่มากๆ

…..บ่าวบอก ต่อมาบ่าวก็เห็นห้องเลขท้าย07 ติดป้ายว่าง บ่าวก็ยังไม่คิดไร มองว่ามันเรื่องปกติที่จะมีคนย้ายออก แต่บ่าวเริ่มแปลกใจตรงที่ ห้องเลขท้าย 09 พึ่งย้ายมาอยู่ได้เดือนเดียว และเป็นนักศึกษาด้วย ดันมาขนของย้ายหอ บ่าวเองก็ไม่ได้ไปสุงสิงนะ มองๆก็เออ จำได้ว่าห้องเลขท้าย09 พึ่งเข้ามานี่หว่า ทำไมย้าย แต่ไมได้ไปถาม ส่วนผู้หญิงผมสั้นห้องเลขท้าย08 ที่เคยเห็นมานั่งร้องไห้นั้น ก็ยังชอบมานั่งท่านั้นอยู่อีก แต่ไม่ถี่และไม่ร้องเหมือนเก่า แต่บ่าวจะเห็นเดินเข้าๆออกๆอยู่ในหลายครั้ง เหมือนกระวนกระวายใจ

ถัดมาไม่นาน ห้องเลขท้าย10 กับ 11 ก็ติดป้าย “ว่าง” ในเวลาไล่เลี่ยกัน บ่าวเริ่มแปลกใจหนักและ แต่ยังไม่ได้ไปถามใคร เพราะไม่ค่อยได้เจอใคร บ่าวว่าตอนนั้นตนเองก็แปลกใจหนักมาก เพราะห้องเลขท้าย 07 -09-10-11 พากันย้ายห้องไปหมด ตอนนั้นก็เหลือแค่ห้องเลขท้าย 08 ที่สาวผมสั้นคนนั้นชอบมานั่งร้องไห้หน้าห้อง กับห้องเลขท้าย12 และห้องของบ่าว 13

…..แล้วเช้าวันนึง บ่าวได้ยินเสียงดังตึงตังหน้าห้อง บ่าวไม่มีเรียน ก็สงสัยว่ามีอะไร ก็เลยเปิดประตูห้องไปดู เจอเจ้าของห้องเลขท้าย12 กำลังขนข้าวของ บ่าวก็เลยคุยถาม

“พี่ผมช่วยขนไม๊ครับ”

“ก็ดีนะ ขอบใจมากน้อง”

จังหวะที่ช่วยขนของ บ่าวก็ชวนคุย

“เออ พี่ ทำไมคนเช่าห้อง .ปีกตึกเรา ย้ายกันไปหมดเลย นี่ถ้าพี่ไปอีกคน ก็เหลือแค่ผมกับน้องห้อง08เองนะ”

“ห๊ะ น้องว่าไรนะ ห้อง08หรอ”

“ครับ”

“เอ๊ะ ยังไง น้องเจอเหมือนกันใช่ป่ะ”

“เจออะไรพี่”

“ผู้หญิงผมสั้นห้อง08ไง”

“ครับ ผมเห็นเธอออกมานั่งร้องไห้บ่อยๆ ผมยังออกมาบอกเธอให้หยุดร้องไห้เลย ผมนอนไม่หลับ”

“โอยยยยย”

“ยังไงพี่”

“เดี๋ยวจะเล่าอะไรให้ฟังนะ”

…..พอบ่าวช่วยพี่ห้อง12 ขนของเที่ยวสุดท้ายเสร็จ พี่ห้อง12 ก็ลากพาบ่าวมาไกลๆ ข้างถนนไทรบุรี และเริ่มเล่า
พี่ห้อง12บอกบ่าวว่า บ่าวไม่รู้หรือ ห้องเลขท้าย08น่ะ เจ้าของห้องที่เป็นผู้หญิงผมสั้นน่ะ หัวใจวายตายคาห้อง จนศพขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั้งชั้น แกเองช่วงนั้นทำงานไม่ได้กลับบ้าน ก็เหม็นทนไม่ไหว เลยไปบอกกับคนเฝ้าหอ ว่าทำไมปีกตึกชั้นนั้น มีกลิ่นเหม็นหนักมาก ช่วยไปดูหน่อย

…..ก็เลยพากันขึ้นไป2คน สูดดมกลิ่นกัน แต่ช่วงนั้นห้องอื่นๆจะล๊อคกลอนด้านนอก กลับบ้านปีใหม่กันหมด รวมทั้งห้องบ่าวด้วย ก็เห็นว่าห้อง08 ไม่ได้ล๊อคกลอนนอก เลยพากันเคาะ เพราะได้กลิ่นโชยออกมาจากห้องนั้น ก็พี่แกนั้นแหละก้มลงไปสูดดมกลิ่น ไม่รู้ตัวเลยว่าสูดกลิ่นอะไรไป แต่เคาะเรียกเท่าไหร่ไม่ยอมเปิด คนเฝ้าหอก็ใจเสียเลย ว่ายังไง

แกจำได้ว่า คนเช่าห้อง08เนี่ยเป็นผู้หญิงอยู่คนเดียว แต่ก็ไม่เห็นหน้ามาหลายวันแล้วเหมือนกัน แต่ไม่แปลก เพราะผู้หญิงในห้อง08นั้นทำงานกลางคืนกลับดึกๆดื่นๆตลอด เลยไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว

พอเคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ พี่คนเฝ้าหอเลยไปตามน้าผู้ชายอีกคน มาพังประตู เพราะลูกบิดน่ะมีกุญแจไขได้ แต่ยังมีกลอนสลักธรรมดาด้านในอีกชั้นนึง พี่ผู้ชายก็โดดชนโดนถีบประตูเลย โดดชนจนเจ็บไหล่ แกก็ออกแรง จนเนื้อไม้ด้านในของประตู ที่เป็นรูกลอนน่ะพัง เลยเปิดประตูได้ พอเปิดได้ ภาพที่เจอคือ เจ้าของห้องที่เป็นสาวผมสั้นน่ะ นอนอืดน้ำเหลืองไหลเยิ้มเต็มพื้นห้องเลย แล้วกลิ่นก็ตลบอบอวลทั้งห้อง พี่คนเฝ้าหอที่เป็นผู้หญิง ก็กรี๊ดลั่นเลย

…..ดีว่าช่วงนั้นคนเช่ากลับบ้านหมด แกเองก็แทบลมจับ นี่ไม่มีใครรู้เลย ว่านอนร่วมชั้นกับศพคนตายมาหลายวัน แกไม่รู้ทำไง ก็เลยโทรแจ้งตำรวจ แจ้งกู้ภัยก่อนเลย ก็มากันเต็ม ทั้งตำรวจและกู้ภัย ศพก็เลยโดนกู้ภัยเอาผ้าขาวห่อกันอุจาดตาแล้วแบกลงหอไป คนแถวนั้นพอรู้ก็มายืนๆรอดูกัน แต่คนด้านนอกไม่รู้หรอก ว่ามีคนตายที่ห้องไหน เห็นแค่มีห่อศพลงไปจากตึก

…..โชคดีช่วงนั้นคนเช่ากลับปีใหม่เสียแทบหมดตึก เหลืออยู่ไม่กี่คน พี่แกอยู่ห้อง12 ก็หวั่นๆกับห้อง08เวลาเดินผ่านเพราะถัดกันไปอีก4ห้องเอง แถมตอนจะเข้าห้อง มันต้องเดินเฉียดๆห้อง08ด้วยไง แกก็วิ่งเอาแหละพอเดินผ่าน ห้องนั้นเลยโดนปิดไว้เฉยๆ แตกลอนน่ะมันล๊อคไม่ได้แล้ว เพราะโดนพัง ก็ปิดไว้เฉยๆแบบนั้นแหละ

….พี่ห้อง12เล่าว่า ไม่รู้หรอกว่าคนห้องอื่นเจออะไรบ้าง แต่ที่แกเจอคือ คืนนึงแกเดินขึ้นห้อง แกบอก พอเลี้ยวมุมปีกตึกมา ก็จ๊ะเอ๋ แกว่าประตูห้อง08น่ะ เปิดอยู่ แล้วในห้องน่ะมืด มองไม่เห็นอะไร แกยืนในที่แจ้งไง แกก็ยืนขาแข็งขนหัวลุกเลย คือประตูห้องมันเปิดอ่ะ แกก็ยังใจดีสู้เสือนะ คิดว่าลมคงพัดประตูจนเปิดเอง อีกอย่างคือ ญาติของผู้หญิงที่เสียชีวิตน่ะยังไม่ได้มาเอาข้าวของ ของคนตายออกจากห้อง เจ้าของหอก็เลยยังไม่กล้าทำอะไร ยังตกใจด้วย

…..เขาก็ขอให้พี่ห้อง12เนี่ยอย่าบอกคนอื่นๆเรื่องนี้ เพราะแกกลัวลูกค้าหนี แต่แกก็ไม่ต้องบอกอะไรเลย เพราะอยู่ๆคนเช่าห้องคนอื่นๆ พากันทยอยย้ายหอหมด ตอนย้าย ก็ย้ายกันแบบไม่ทันได้ถามไถ่ว่าเจออะไรกัน ถึงอยู่ไม่ได้โดยเฉพาะห้องที่ติดกับห้อง08เนี่ยพากันย้ายไปก่อนเลย

……บ่าวก็บอกว่าผิดสังเกตอยู่เหมือนกัน ตั้งแต่ห้อง09 ที่พึ่งมาอยู่ได้ประมาณเดือนเดียวย้ายออก ปกติแล้วทำไมย้ายไวขนาดนี้ มัดจำก็ไม่ได้คืนแน่ๆ เพราะหอนี้ถ้าอยู่ไม่ครบ3เดือนจะโดนยึดมัดจำ3000ไป แต่พอห้อง10-11ย้ายตามไปอีก บ่าวก็ใจเสียแล้วว่ามีอะไร พอบ่าวมารู้จากพี่ห้อง12 ที่แอบบอกบ่าวในเรื่องห้อง08 มีคนตายคาห้อง ทำเอาบ่าวแทบร้องไห้ บ่าวเดินผ่านห้อง08ทีไรใจหวิวๆ ไม่กล้ามอง กลัวเจอประตูห้องเปิดอยู่เหมือนที่พี่ห้อง12เจอ

 

ทีนี้บ่าวอยู่ไม่สุขเลย บางคืนนอนก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นออกมาร้องไห้อีก แต่รอบนี้บ่าวไม่กล้าออกไปตะโกนต่อว่าแล้ว บ่าวว่าร้องเสียงดังฮือ ยาวๆทุกคืน จนต้องตื่นมานอนฟังกลางดึก หนักๆเข้าบ่าวเลยกลายสภาพตาคล้ำจนคล้ายๆหมีแพนด้าแบบที่เห็น

…..แต่บ่าวก็ใจชื้นขึ้น เมื่อวันนึง มีคนขนของเข้ามาอยู่ห้อง07 ที่ติดกับห้อง08 บ่าวก็อุ่นใจว่าเอาละวะ ไม่หัวเดียวแล้ว
จนคืนนึง บ่าวได้ยินเสียงร้องโวยวายจากผู้ชายดังมาตอนยามดึกว่า

“โว้ยยยยย ไม่อยู่แล้วโว้ยยยย”

แล้วก็ได้ยินเสียงประตูปิดดังปัง แล้วมีเสียงวิ่งตึงๆลงตึกไป บ่าวไม่กล้าเปิดประตูไปดู กลัวเจอหน้าผู้หญิงคนนั้น
เช้ามา บ่าวแต่งตัวลงไปมหาลัย ไปเจอเจ้าของห้อง07 ที่ย้ายมาใหม่ ยืนเอ็ดตะโรกับพี่คนเฝ้าหอ เรื่องขอย้ายออกและขอเงินมัดจำคืน พี่คนเฝ้าก็บอกคืนให้ไม่ได้ เพราะเป็นกฎของหอ ถ้าพี่ห้อง07จะย้ายออก ก็ต้องเสียเงินมัดจำ
พี่ห้อง07ก็โวยวายว่า แล้วตอนมาเช่า ทำไมไม่บอกว่ามีผี

….บ่าวก็เข้าไปถาม ว่าพี่เจออะไร พี่แกก็บอก แกนอนๆ ได้ยินแต่เสียงผู้หญิงร้องไห้ทั้งคืนจากห้อง08 ทีนี้แกทนไม่ไหวแล้วไง เลยออกจากห้องไปกลางดึก กะว่าจะไปเคาะบอกว่าจะร้องอะไรนักหนา แต่พอเคาะ ประตูมันไม่มีกลอน บานประตูก็เปิด แกก็ตกใจที่ประตูเปิดเอง แต่พอดู อ้าวกลอนเสีย แต่คือมองเห็นในห้องว่ามีข้าวของ แกก็งงๆ
เลยมองเพ่งฝ่าความมืดในห้องไป ก็ไม่เห็นใครเลย แกยิ่งงง เพราะได้ยินเสียงร้องไห้ดังมาจากห้อง08แน่ๆ ทีนี้แกจะปิดประตูห้องไว้ พอปิดเดินคล้อยหลังมา ประตูห้องดันปิดไม่อยู่ เปิดเองดังแอ๊ดไปอีก เพราะกลอนมันเสียไปแล้ว เนื้อไม้มันพัง แกก็หันไปจะกลับไปปิดใหม่

 

ทีนี้แกดันเห็นว่าในห้องมีเงาผู้หญิงนอนที่พื้น แกก็ตกใจร้อง เห้ย ! ใครน่ะ แกว่าทีนี้เงานั้น ลุกขึ้นแล้วเดินหายแว้บเข้าไปในตู้เสื้อผ้าดื้อๆเลย แกก็เลยร้องลั่นตึกเมื่อคืน แล้ววิ่งตึงๆลงหอไปไม่กล้านอน ไปขอนอนห้องเพื่อนมา
พอเช้าเลยมาโวยวาย เพราะผีหลอก จนแกไม่อยากอยู่แล้ว อยู่ได้ไม่กี่วัน ผีหลอกทุกคืน จะขอเงินคืน
แต่ไม่ได้ก็คือไม่ได้ พี่ห้อง07 เลยเดินฟึดฟัดไม่พอใจกลับห้องไป แต่ไม่ยอมนอนห้องตัวเองนะ พอใกล้ค่ำ ก็ออกจากห้องไปที่อื่นตลอด

…..บ่าวว่า บ่าวก็อยากย้ายอยากหนี แต่ไม่รู้จะไปอยู่ไหน ไปที่อื่นต้องจ่ายอะไรใหม่หลายอย่าง บ่าวไม่มีเงินตรงนั้น เลยยังทนอยู่ บ่าวว่ามาทั้งกลิ่นและเสียงเลยบางคืน เจ้าของหอรู้ และพยายามหาวิธีนะ วิธีนึงที่ใช้คือ ทำตามซินแสที่แนะนำมาว่า วิญญาณคนตายยังยึดติดกับห้อง ให้เจ้าของหอเอาเบอร์ห้องออก ผีจะได้จำไม่ได้ ว่าห้องนี้เป็นห้องของเค้า เจ้าของก็ทำ เอาเบอร์ห้อง08ออกไปจากประตู พอญาติพี่น้องคนตายมาขนของออกไป ก็เลยกลายเป็นว่า
ห้องเช่าปีกนั้นทั้งแถบ ติดป้ายว่างหมดเลย

…..บ่าวไม่รู้เหมือนกัน ว่าเจ้าของหอเค้าไปทำพิธีอะไรบ้าง แต่ไม่พบว่าจะได้ผลเท่าไหร่ บ่าวยังได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ลอยแว่วมายามดึกๆในบางคืนอยู่เลยจนตอนนี้ แถมพี่คนที่มาพักห้อง07 ก็ไม่ยอมนอนห้องตัวเองตอนกลางคืนเหมือนกัน
ส่วนบ่าว ก็หนีไปนอนที่ระเบียงห้อง ปิดประตู2ชั้น คือประตูห้อง กับประตูที่ออกไประเบียง แล้วเกิดความระแวงต่างๆนาๆ กลัวผู้หญิงคนนั้นจะเดินทะลุประตูมาหลอก จนตอนนี้บ่าวก็ยังเผชิญกับสิ่งนั้นอยู่ จนมีสภาพเหมือนที่พวกเราเห็นในตอนนี้

…..จนตอนนี้ห้องเลขท้าย08-09-10-11-12 ยังไม่มีคนเข้ามาเช่าเลยค่ะ บ่าวถ่ายรูปส่งมาให้ดิฉันดู ว่าเนี่ยของแท้ ไม่ได้มดเท็จแต่อย่างใด แต่ขอเบลอเอาไว้แล้วกัน ตอนนี้บ่าวก็กลัวมาก แต่ยังทนอยู่ เพราะไม่มีที่ไป บอกใบ้ได้แค่ว่า หอนี้อยู่ในเมืองสงขลาค่ะ สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Pantip โดยสมาชิกหมายเลข 3341624
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : PaiNaiDii
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: