1117. ตำนานเล่าขาน หลวงปู่รอด วัดโคนอน และ หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

วิทยาคุณและคุณวิเศษของพระภาวนาโกศล (หลวงปู่รอด) ที่จะบรรยายต่อไปนี้ คุณปู่ทรัพย์ ทองอู๋ ผู้ซึ่งเป็นบุตรของลูกพี่ลูกน้องของพระภาวนาโกศล (หลวงปู่เอี่ยม สุวณฺณสโร) และเป็นบิดาของคุณพ่อพูน ทองพูนกิจ ได้เล่าให้ทายาทฟังต่อๆ กันมา ซึ่งจะได้นำมาประมวลเข้าไว้ดังต่อไปนี้

การถอนคุณไสย์

ในการออกเดินธุดงค์คราวหนึ่งของหลวงปู่รอด ท่านได้ไปถึงชนบทแห่งหนึ่งแถวๆ ทุ่งสมรหนองขาว เขตติดต่อระหว่างกาญจนบุรีกับราชบุรี คืนวันหนึ่งขณะที่ท่านอยู่ในกลด มีพายุอื้ออึง มีเสียงต้นไม้ต่างๆ ดังลั่นและหักโค่นดังกึกก้องไปหมด ท่านจึงทำสมาธิเจริญพุทธาคม สงบนิ่งอยู่ พระที่ติดตามท่านเดินธุดงค์ได้ยินเสียงวัตถุหนักๆ ปลิวมาตกอยู่รอบบริเวณที่ปักกลด เสียงดังตุบ เช้าขึ้นพอเปิดกลดออกมาก็เห็นท่อนกระดูกตกเรี่ยราดอยู่รอบบริเวณนั้น พอสักครู่หนึ่งก็มีชาวบ้านกะเหรี่ยง ๒-๓ คนเดินตรงเข้ามา บางคนก็ถือจอบและเสียมมาด้วย เมื่อได้สอบถามจึงได้ความว่าเขาเตรียมฝังศพพระธุดงค์ ซึ่งคาดว่าจะต้องถูกคุณไสย์มรณภาพเมื่อคืนนี้

ครั้นเมื่อเห็นว่าหลวงปู่รอด และพระผู้ติดตามยังปกติดีอยู่ พวกกะเหรี่ยงจึงพากันกลับไป แต่พอไม่ทันไรก็พากันมาอีก แต่ในตอนนี้นำเอาอาหารมาถวายด้วย หลวงปู่รอดบอกพระผู้ติดตามว่าอย่าได้ฉันอะไรเป็นอันขาด พอรับประเคนอาหารจากพวกกะเหรี่ยงแล้ว ท่านก็เรียกให้พระผู้ติดตามเอาหม้อกรองน้ำของพระธุดงค์มาให้ จากนั้นหลวงปู่รอดก็บริกรรมทำประสะน้ำมนต์พรมอาหารนั้น

ปรากฏว่าข้าวสุกที่อยู่ในกระด้งก็กลายเป็นหนามเล็กๆ เต็มไปหมด กับข้าวต่างๆ ในกะลามะพร้าวก็กลายเป็นกระดูกชิ้นน้อย หลวงปู่รอดเอามือกวาดกระดูกและหนามเหล่านั้นไว้ แล้วคืนภาชนะที่ใส่มาให้กับพวกนั้นไป พวกกะเหรี่ยงพยายามจะขอคืนไปท่านไม่ยอมให้ ตกกลางคืนหลวงปู่รอดบอกกับพระลูกศิษย์ว่า ท่านจะปล่อยของเหล่านี้กลับไปเล่นงานเจ้าพวกนี้บ้าง เพียงสั่งสอนให้รู้สึกสำนึกเท่านั้น

พอรุ่งเช้าพวกกะเหรี่ยงก็รีบมาหาหลวงปู่รอดแต่เช้ามืด คราวนี้หามคนป่วยมาด้วยคนหนึ่ง กล่าวคำขอขมาและขอร้องให้ท่านว่าช่วยรักษา ลักษณะคนป่วยร่างกายบวมไปทั้งตัวเหมือนศพที่กำลังขึ้นอืด หลวงปู่รอดหัวเราะแล้วถามว่าเป็นอะไรบ้าง คนป่วยได้แต่นอนอยู่ ได้แต่กรอกหน้าและยกมือขึ้นพนม หลวงปู่รอดจึงเอาน้ำมนต์ในหม้อกรองน้ำ (ลักจั่น) พรมลงไปตามร่างคนป่วย เพียงครู่เดียวนั้นเองร่างกายที่บวมก็ค่อยยุบเป็นอัศจรรย์ ทุกคนก็กราบหลวงปู่ด้วยความยำเกรง แล้วบอกว่าจะนำอาหารมาถวาย แต่ท่านบอกว่าจะถอนกลดแล้วเดินธุดงค์ต่อไป หลังจากได้ปักกลดอยู่ ๒ คืนแล้ว

การเดินบนใบบัว

เรื่องนี้เนื่องมาจาก การเดินธุดงค์ในสมัยที่ “หลวงปู่เอี่ยม” ยังเป็นสามเณร ได้เล่ากันต่อๆ มาว่า ในครั้งนั้นหลวงปู่รอดได้เดินธุดงค์โดยมี สามเณรเอี่ยม ร่วมทางไปด้วย ในระหว่างทางห้วยกระบอกหรือห้วยกลด เขตจังหวัดกาญจนบุรี พอมาถึง ณ ที่แห่งหนึ่ง เห็นกลดของพระธุดงค์ร้างปักอยู่มาก เนื่องจากหนีสัตว์ป่าไปเสียข้างหน้า ภูมิประเทศโดยรอบเป็นภูเขาสูงชันมากยากแก่การปีนป่าย และมีต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด ซ้ำยังมีบึงบัวใหญ่ขวางหน้าอยู่อีก ท่านจึงพิจารณาว่าจะต้องข้ามทางบึงบัวนี่แหละ จึงจะออกจากสถานที่นั้นได้ หลวงปู่รอดจึงบอกกับสามเณรเอี่ยมว่า เมื่อท่านเดินก้าวลงใบบัวในหนองน้ำนั้น ชึ่งเป็นพืดติดต่อกันไปถึงฝั่งตรงข้าม ให้สามเณรคอยก้าวตาม เหยียบทับรอยเท้าของท่านบนใบบัวแต่ละใบ อย่าให้พลาดโดยเด็ดขาด รอยไหน รอยนั้น

หลวงปู่รอดจึงบอกคาถาให้บริกรรมขณะที่จะก้าวเดิน แล้วท่านก็เจริญอาโปกสิณอยู่ครู่หนึ่ง ท่านก็ได้ก้าวเดินบนใบบัวที่กางใบสลอนทั่วบึงนั้น ทีละก้าว ส่วนสามเณรเอี่ยมก็ก้าวตามไปพร้อมด้วยบริกรรมคาถา ผ่านท้องน้ำอันเวิ้งว้างไปโดยตลอด ราวกับว่าใบบัวนั้นเป็นถาดไม้รองรับน้ำหนักตัวของหลวงปู่รอด และสามเณรเอี่ยมได้โดยไม่ยุบจมหายไปในน้ำนั้นเสีย เท้าต่อเท้า ก้าวต่อก้าว ไม่มีผิด ไม่มีพลาด

อาจารย์ทิ้งรอยเท้าไว้ สามเณรเอี่ยมก็รีบสวมรอยเท้านั้นทันที จนในที่สุดสามเณรเอี่ยมเห็นว่า ใบบัวก้าวสุดท้ายของหลวงปู่รอดก่อนที่ท่านจะก้าวขึ้นฝั่งนั้น เป็นใบบัวที่เล็กมากและอยู่เกือบชิดตลิ่งแล้ว จึงไม่เหยียบตามหลวงปู่รอดไป จะสืบเท้าก้าวขึ้นฝั่งเลยทีเดียว แต่ไม่สำเร็จ เพราะใบบัวที่เท้าหลังเหยียบอยู่ยุบตัวลงเสียก่อน สามเณรเอี่ยมจึงตกลงไปในน้ำเสียงดังโครม ดีที่ว่าใกล้ตลิ่งมากแล้วจึงไม่ได้รับอันตรายมาก หลวงปู่รอดหันมาดู ได้แต่หัวเราะชอบใจเสียงดัง และกล่าวขึ้นว่า “บอกให้เดินตามทุกก้าวไป ก็ไม่ยอมเดิน ถ้าเป็นกลางบึงคงสนุกกันใหญ่ละ”

การสะกดจิต

คุณปู่ทรัพย์ ทองอู๋ บิดาของคุณพ่อพูน ทองพูนกิจ ได้เล่าเรื่องประหลาดกันต่อๆ มาว่า ได้มีคนร้ายขโมยเรือของหลวงปู่รอดที่จอดไว้ลำคูริมคลองขวางไป แต่ไม่สามารถจะพายไปได้ คงเวียนอยู่หน้าวัดโคนอน หน้ากุฏิของท่าน จนเช้าพระลูกวัดรูปหนึ่งจะเอาเรือออกบิณฑบาต ครั้นไม่เห็นเรืออยู่ แต่กลับเห็นชายแปลกหน้าคนนั้นกำลังพายเรือวนเวียนอยู่ จำได้ว่าเป็นเรือของหลวงปู่รอด จึงได้นำเรื่องไปเรียนให้ท่านทราบ

หลวงปู่รอดจึงลงมาที่ท่าน้ำ ขณะนั้นได้มีชาวบ้านใกล้เคียงมาดูกันอยู่เนืองแน่น ท่านจึงตะโกนบอกไปว่า “เจ้าจงเอาเรือมาคืนพระเสีย ท่านจะเอาไปบิณฑบาต” คนร้ายก็พายเรือมาจอดให้พระท่านแต่โดยดี แล้วท่านก็สั่งต่อไปว่า “ขึ้นมาบนกุฏิเสียก่อน” คนร้ายก็ขึ้นตามคำสั่ง ในที่สุดหลวงปู่รอดก็สั่งให้เด็กจัดเอาอาหารมาให้รับประทาน แล้วก็สั่งต่อไปอีกว่า “จะกลับบ้านก็กลับเถิด” คนร้ายจึงได้เดินลงจากกุฏิไป

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : dhammajak.net
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: