1091. เบี้ยสุดขลังสายอ่างทอง หลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ

เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางที่ได้รับความนิยมมาก ในอันดับต้นๆ มีสายที่ทำเบี้ยแก้อยู่มากมาย แต่ที่ได้รับความนิยมมาก มีเพียงสามสาย คือ สายหลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สายเกจิทางอ่างทอง สายนี้จะมีหลายวัดหลายหลวงพ่อ เช่น หลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง(องค์นี้สังขารไม่เน่าเปื่อย) แต่วันนี้แอดมินจะเสนอเรื่องหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ

หลวงปู่คำ ท่านน่าจะเป็นองค์เดียว ที่ได้รับสมณศักดิ์ ว่า พระครูวิตถารสมณกิจ ถ้าเป็นคนสมัยนี้ พอเห็นสมณศักดิ์แบบนี้ แอดมินว่าร้อยทั้งร้อย ต้องคิดไปในไม่ดีแน่เลย แต่ความจริงคำว่าวิตถาร ในภาษาบาลี แปลว่า กว้างขวาง สมณศักดิ์ท่านคงแปลว่า สมณะผู้มีกิจอันกว้างขวาง ท่านมีประวัติดังนี้

หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำนามเดิมคือ คำ นามสกุล ทรัพย์ประเสริฐ เป็นบุตรของพ่อเส็งแม่ไท เกิดเมื่อวันพฤหัสบด ีเดือน 10 ปีฉล ูปีพ.ศ.1432 ณ ปากคลองวัดโพธ ิ์ครั้นเมื่ออายุครบได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์โดยมีพระพระญาณไตรโลก (อาจ) วัดศาลาปูน เป็นพระอุปัชฒาย ์พระครูวินญานุโยก แห่งวัดกษัตราธิราชพร้อมทั้งพระอุปัชฌาย์จั่น วัดทำนบ เป็นพระกรรมวาจาจารย ์และอนุสาวนาจารย์ตามลำดับ ได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ จากสมุดข่อย ที่พบในโพรงต้นโพธิ์ภายในวัดจนเชี่ยวชาญชำนาญอย่างยิ่งยวดอีกทั้งยังแลกเปลี่ยน

วิชากับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น ล.พ.พริ้ง วัดบางปะกอบ, ล.พ.จง วัดหน้าต่างนอก, ล.พ.พักวัดโบสถ์และท่านเจ้าคุณสุธรรมธีรคุณ วัดสระเกศ เนื่องจากมีอายุใกล้เคียงกันแม้ว่าบางองค์จะอาวุโสมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหลวงพ่อพักวัดโบสถ์จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอๆซึ่งจะเห็นว่าเบี้ยแก้ของท่านทั้งสองจะมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะเบี้ยเปลือยจนบางครั้งยังมีการเล่นหาสะสมข้ามวัดข้ามสำนักกันอยู่เรื่อยเป็นประจำ หลวงพ่อคำวัดโพธิ์ปล้ำถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2503รวมสิริอายุ 72 ปี 52 พรรษา

ลักษณะเบี้ยแก้หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำ การสร้างวัตถุมลประเภทเบี้ยแก้ของท่านนั้น เริ่มสร้าง

มาตั้งแต่ก่อนปีพ.ศ.2493 เท่าที่พบเห็นเล่นหาเป็นสากลเบี้ยของท่านจะเป็นเบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือกแต่อย่างใด ส่วนการเลี่ยมจับขอบไม่ว่าจะด้วยเนื้อทองคำ เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่เกียวกับท่านซึ่งร้านที่มักนิยมนำเบี้ยไปเลี่ยมนั้นเป็นร้านเดียวกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อพักวัดโบสถ์นำ ไปเลี่ยมกันเป็นร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมหากเป็นเบี้ยเปลือยของทั้งสองสำนักนี้จึงมีลักษณะเดียวกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียว

กันนั่นเอง จึงเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควรในการจะแย่งแยกและพิจารณา แต่มักมีข้อเปรียบเทียบง่ายๆ อยู่ว่าเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์มักจะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นข้อเท็จจริงในการชี้ชัดจุดตายตัวได้

การปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรงและแผ่นหรือตะกรุดเนื้อทองแดง(ต่างจากหลวงพ่อพักที่ใช้ตะกรุดเนื้อชินเนื้อตะกั่ว) ในส่วนของการปิดทับด้วยชันโรงนั้นแบ่งเป็น 3 ยุค 3 ลักษณะด้วยกัน กล่าวคือเบี้ยแก้ยุคแรกจะปิดทับด้วยชันโรงที่ได้รับจากธรรมชาติอันแแท้จริง แต่เนื่องจากเป็นของทนสิทธิ์ที่ได้จากธรรมชาติจึงหาได้ยาก ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็นชันยาเรือแทนและท้ายสุดอุดทับด้วยชันยาเรือผสมผงอิทธิเจซึ่งลักษณะประการหลังนี้พบเห็นได้น้อยมากในเบี้ยแก้หลวงปู่คำวัดโพธิ์ปล้ำ จ.อ่างทองนั้น เมื่อเขย่าดู

เสียงปรอทจะแตกต่างออกไปไม่เหมือนเบี้ยแก้สำนักอื่นๆที่เวลาเขย่าจะมีเสียงดังขลุกๆจะเสียงดังแซ๊กๆคล้ายกับเสียงของเม็ดท้ายวิ่งอยู่ภายในนับเป็นเอกลักษณะอีกอย่างหนึ่งของเบี้ยแก้สำนักนี้ที่สามารถใช้เป็นจุดสังเกตได้
พุทธคุณของเบี้ยแก้สำนักนี้ก็เหมือนกับเบี้ยแก้สำนักอื่นๆ คือป้องกันคุณไสยยาสั่งแก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดีพร้อมทั้งแคล้วคลาดปลอดภัยคงกระพันชาตรี เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ศิษย์สายวัดสะพานสูง
ข้อขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : คุณวัต ท่าพระจันทร์
นำเสนอโดย : แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: