1865.หลวงปู่คาน วัดบูรพาหนองบัว ผู้มีเมตตาธรรมสูง

“พระครูวิสุทธิสังฆคุณ” หรือ “หลวงปู่คาน วิสุทโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ อดีตเจ้าคณะอำเภอแกดำ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาธรรมสูง สืบสายธรรมจากหลวงปู่เนียม พุทธสโร แห่งวัดศรีบุญเรือง (วัดบ้านหนองหล่ม) ต.ดอนหว่าน อ.แกดำ จ.มหาสารคาม พระเกจิชื่อดังมหาสารคาม เมื่อกว่าเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา

ประวัติ เกิดในสกุล จันทะฤทธิ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2466 ณ บ้านดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อ นายเภาและนางหมื่อ จันทะฤทธิ์ จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านหนองหล่ม ต้องออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนา
อายุ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2487 เข้าพิธีอุปสมบท ณ อุโบสถวัดบ้านหัวหนอง ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม มีเจ้าอธิการเนียม พุทธสโร วัดศรีบุญเรือง ต.ดอนหว่าน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระบุญมา เตชวโร วัดบ้านหัวหนอง เป็นพระ กรรมวาจาจารย์, พระบุญ อมโร วัดศรีบุญเรือง ต.ดอนหว่าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบท ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดศรีบุญเรือง ท่านยังสนใจด้านวิทยาคม ขณะนั้นหลวงปู่เนียม พระอุปัชฌาย์ของท่าน มีชื่อเสียงในฐานะพระเกจิ ท่านจึงขอฝากตัวศิษย์กับหลวงปู่เนียม

หลวงปู่เนียม ให้ความเมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น รวมทั้งยังสอนอ่านเขียนอักษรธรรม อักษรไทยน้อย ทำให้หลวงปู่คานมีความรู้ในการอ่านเขียนอักขระโบราณอีกแขนงหนึ่ง ต่อมา ท่านได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ช่วงนี้ท่านได้อุทิศตนพัฒนาวัดแห่งนี้จนเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน จนถึงปี พ.ศ.2534 ท่านได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ

ด้วยวัตรปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลาย หลวงปู่คาน จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนในพื้นที่ ในแต่ละวันจึงมีผู้มากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์เสริมความเป็นสิริมงคล รวมทั้งปรารถนาวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนรุ่น 1 ที่เข้มขลังอย่างไม่ขาดสาย

สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค หลวงปู่คานหาเก็บงำไว้เป็นส่วนตัวไม่ จะนำมาพัฒนาวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม จนเจริญรุ่งเรืองไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ อาคารเรียนพระปริยัติธรรม กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ เป็นต้น ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2497 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะตำบลดอนหว่าน พ.ศ.2535 เจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะอำเภอแกดำ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2527 ได้รับพระราช ทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ที่พระครูวิสุทธิสังฆคุณ

พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอ ชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม จนถึงปี พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

หลักธรรมคำสอนที่หลวงปู่คาน พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอดเป็นเรื่องของความไม่เที่ยงของสังขาร สรรพสิ่งในโลกที่เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็จะเสื่อมและดับไป ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจะต้องดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท หมั่นประพฤติปฏิบัติแต่กรรมดี ยึดศีล 5 เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างเคร่งครัด หากทำได้ทั้งตนเองและครอบครัวจะพานพบแต่ความสุขและความเจริญ

ล่วงเข้าปัจฉิมวัย หลังจากที่หลวงปู่คานพ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอแกดำ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอแกดำ ได้กลับมาจำพรรษาอยู่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองหล่ม ซึ่งเป็นถิ่นมาตุภูมิ ได้อยู่ใกล้ชิดญาติพี่น้องช่วงบั้นปลายของชีวิต ด้วยความไม่เที่ยงของสังขารท่านอาพาธบ่อยครั้งเพราะความชราภาพ แต่ท่านยังรับงานนิมนต์อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยด้วยญาติโยมมีศรัทธาจะปฏิเสธไม่ได้ บางครั้งอาการกำเริบหนักท่านยังฝืนสังขารไปตามกิจนิมนต์ที่รับไว้

หลังตรากตรำรับใช้พระพุทธศาสนามายาวนาน สุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2556 สิริอายุ 90 พรรษา 69 สร้างความเศร้าสลดแก่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนเป็นอย่างยิ่ง แม้ท่านจะละสังขารไปจากโลกนี้แล้ว แต่คุณงามความดีของหลวงปู่คานยังคงอยู่ในศรัทธาของชาวมหาสารคามไปตราบนานเท่านาน

ขอขอบข้อมูลดีๆจาก ผู้บ่าว’ ไทบ้าน
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม