1781.หลวงพ่อกวย ลองวิชา ปู่เม่าแย้มทับ

หลวงพ่อกวย เทพเจ้าแห่งเมืองสรรค์ ท่านเป็นพระใฝ่รู้หาวิชา วิชาท่านจึงมีมากมายมหาศาล หลวงพ่อกวย ได้เคยฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ และหลวงปู่ศรี ยังเป็นอาจารย์หลวงพ่อแพ เกจินามอุโฆษแห่งเมืองสิงห์ ท่านมีชื่อเสียงในการเทศน์ทานกัณฑ์นั้นโด่งดังมาก

ย้อนไปเมื่อราวๆเกือบยี่สิบปีที่เเล้ว ขณะที่เรื่องราวของหลวงพ่อกวยลงในนะโม ช่วงนั้น คุณเฒ่า สุพรรณได้เคยกล่าวถึงอาจารย์เม่ามาบ้าง ครั้งเเรกๆก็เกริ่นถึงไม่มาก ต่อไปก็ไปสืบข้อมูลมาได้มากขึ้น

หลวงพ่อเคยกล่าวไว้ว่า หลังจากท่าน ถ้าจะให้วัดท่านรุ่งเรื่องเหมือนสมัยท่านอยู่ ต้องเอาศิษย์ของท่านมารวมกันถึงสามคน
๑) คนเเรกคืออาจารย์จิ๊ด อยู่ทางชันสูตร ปัจจุบันเสียชีวิตไปเเล้ว หลวงตาจิ๊ดนี้ สามารถเสกก้อนหินลอยน้ำได้ เคยทำให้คนดูที่เเพข้ามเเม่น้ำน้อยที่วัดวังขรณ์ มีคนเห็นมาก เป็นที่โจษขานกันมาก ยังเคยให้หวยคนในตลาดชันสูตรถูกถึงหกงวดติดกัน ประวัติคร่าวๆหลวงตาจิ๊ดเป็นคนบ้านเเคโดยกำเนิด เก่งทางวิชาอาคม มาบวชเมื่อมีอายุมาก บวชกับหลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี ลักษณะของหลวงตาค่อนข้างเเปลกๆ นึกไปไหนก็ไป ไม่ใส่รองเท้า หิวตอนไหน กินตอนนั้น ใครถวายอะไรกินของนั้น บางครั้งเดินปอกส้ม ถือถุงโอเลี้ยงเดินกินหน้าตาเฉย ชอบเดินไปมืดๆคนเดียว สะพายย่ามใบนึง ให้หวยเเม่นมาก เวลาใครถาม ไม่พูด ไม่บอก เเต่เวลาจะให้ใครก็ให้เอง บางครั้งด่าก่อนให้หวยด้วย สมัยก่อนเคยมีคนนับถือท่าน ชวนท่านไปอยู่ด้วย กลัวท่านจะหนีไปที่อื่น เอาท่านไปขังไว้ในเรือ สักพัก หลวงตาเป่ากุญเเจหลุด ออกมานั่งข้างนอกสบาย หลวงตาจิ๊ดได้วิชากับหลวงพ่อกวยไปบ้าง เหมือนกับลุงทอดพี่ชายของตาหล่อน หรืออาจารย์เม่า
๒) คนที่สอง คือปู่เม่าที่กำลังจะกล่าวถึง
๓) คนที่สาม หลวงพ่อไม่พูด ทำนองว่ายากที่จะนำคนสามคนมารวมกันได้ อีกนัยนึง หลวงพ่อคงไม่อยากกล่าวถึงด้วย

ต่อไปนี้ เป็นเรื่องเล่าที่ได้ข้อมูลเก่าของคุณเฒ่า สุพรรณ ที่เคยเขียนไว้รวมกับเรื่องราวต่างๆที่ผมได้ไปคุยกับปู่เม่าเอง สมัยที่ปู่เม่า บวชกับหลวงพ่อ ยังเคยช่วยหลวงพ่อหล่อเเหวนทองเหลือง ซึ่งเป็นเเหวนยุคเเรกๆ หลวงพ่อกวยท่านสร้างตามตำรับของหลวงพ่อศรี

ครั้งนึง ก่อนจะไปบิณฑบาตร วันนี้จะไปเดินเเถวบ้านคู ซึ่งปรกติ จะไม่ค่อยได้อาหารสักเท่าไหร่ ก่อนไป หลวงพ่อบอกปู่ว่า เดี๋ยวจะลองวิชาบางอย่างให้ดู มีของดีให้ พูดจบหลวงพ่อก็เอาเศษกระดาษเเผ่นเล็กๆ มาจดคาถาไม่กี่ตัว ส่งให้ปู่ เเล้วบอกว่า นี่ของดีให้เม่า เอาใส่ไปในบาตรนะ หลวงพ่อท่านจดเป็นภาษาไทยด้วย ท่านบอกว่า กลัวปู่เม่าอ่านไม่ออก ปู่ก็เอากระดาษนั้นใส่ไปในบาตรของท่าน
สายๆกลับจากบิณฑบาตร ปรากฎว่า เช้าวันนั้น มีคนตักบาตรจนใส่ไม่หมด เเถมปู่ยังต้องหิ้วทั้งกับข้าว ขนม ผลไม้ พะรุงพะรังกลับมาวัด เเสดงให้เห็นว่าวิชาของหลวงพ่อนี่ดีจริงๆ

สมัยที่ปู่เม่าบวชกับหลวงพ่อกวยได้สามพรรษา ตอนนั้นปู่มีอายุราวๆสี่สิบกว่าๆ ปู่เม่าเป็นคนชอบเรียน ค้นคว้า บวชได้เเค่สามพรรษาก็สามารถใช้วิชาบีบปากถ้วยเข้าหากันได้ หลวงพ่อกวยเห็นดังนั้น ก็ชอบใจมาก เคยให้ปู่ไปหากระดูกควายตรงข้อมาทุบเเล้วจะสอนวิชามหาประสานให้ เเต่ปู่หากระดูกไม่เจอ จึงไม่ได้เรียน
เเต่ในพรรษานั้นเอง ปู่เม่าสามารถเรียนวิชาบังฟันได้สำเร็จ คือ เอากล้วยมาสามลูก เเล้วเอามีดมาทำท่าเฉือนรอบๆตรงเปลือก คือไม่เฉือนจริง เเค่ทำท่าเฉือนเท่านั้น เมื่อปลอกกล้วยดู จะพบว่า กล้วยจะขาดข้างใน ตอนนั้นมีคนเห็นอยู่สองคน คือ พระธรรม เเละพระหยด พระหยดเป็นคนบ้านเเค ปัจจุบันยังอยู่ มีเมียชื่อย้อย ส่วนพระธรรม ไม่เเน่ใจว่าใช่ลุงบุญธรรม เเย้มพรหม ที่ผมรู้จักหรือไม่

เมื่อรู้ว่าศิษย์มีดี ก็ต้องลองวิชาตามนิสัยของหลวงพ่อ วันนึงมีคนนำกล้วยมาถวาย หลวงพ่อให้คนหาเข็มมาสามเล่ม หลวงพ่อท่านบอกจะใช้วิชาเรียกเข็มให้เข้าไปในกล้วย เเละบอกให้ปู่เม่าใช้วิชาสู้ บังคับเข็ม หลวงพ่อเรียกเข็มได้สักพัก ก็บอกให้พระธรรม พระหยด เข้าไปฉันกล้วย ปรากฎว่าพระทั้งสองรูปฉันกล้วยหมด ไม่เจอเข็มเลย หลวงพ่อเอ่ยว่า พระเม่านี่สำคัญนัก เดี๋ยวจะเอางูกัดให้เข็ด จากนั้นหลวงพ่อก็เดินลงกุฎิ ไปตัดก้านกล้วยมาอันนึง เอาใบออก เอาผ้าคลุม จะเสกงู ปู่เม่าเห็นดังนั้น เลยรีบลงกุฎิไป เลยอดเห็นงูเสกของหลวงพ่อกวยเลย

วิชาสะเดาะกุญเเจก็เก่ง ครั้งนึงตอนเพล หลวงพ่อสั่งพระธรรม พระหยดว่า พระเม่ามีวิชาดีสะเดาะกุญเเจได้ ให้ไปลองดู พระสองรูปก็เลยลองตามหลวงพ่อบอก พากันขังพระเม่าไว้ในกุฎิใส่กุญเเจ ปิดทิ้งไว้ เเต่ตอนฉันเพล พระเม่าก็ออกมาฉันเพลได้ตามเวลา หลวงพ่อกวยกล่าวออกมาว่า พระเม่ามีดีจริงๆ

ขอบคุณที่มา

ปู่เม่าจอมขมังเวทย์-ศิษย์เอกหลวงปู่กวย phuttha

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: