1527.หลวงปู่พวงอริยสงฆ์ศักสิทธิ์แห่งเทือกเขารัง

หลวงปู่พวงอริยสงฆ์ศักสิทธิ์แห่งเทือกเขารัง

พระภิกษุนักปฏิบัติ เป็นพระนักพัฒนา เคร่งครัดพระธรรมวินัย ชอบสันโดษ มักน้อย ไม่นิยมสั่งสมเงินทอง หากมีผู้ถวายจะสมทบสร้างวัดสร้างวาจนหมดสิ้น นอกจากหลวงปู่พวงจะเป็นพระนักปฏิบัติวิปัสนาชั้นยอดแล้ว ท่านยังมีคุณวิเศษอีกหลายอย่าง เก่งด้านไสยเวทย์วิทยาคม บารมีสูงวาจาสิทธิ์ ที่ใครๆต่างให้ความยอมรับนับถือและสำคัญหลวงปู่พวงเป็นพระที่มีเมตตากรุณาไม่เลือกชั้นวรรณะ ใครไปหากราบไหว้ท่านต้อนรับทุกคน สมเป็นสมณพุทธบุตรธรรมทายาท เนื้อนาบุญอย่างแท้จริง ด้วยเหตุนี้ทำให้ลูกศิษย์มากมายทั้งในจังหวัดเพชรบูรณ์และทั่วประเทศ หลวงปู่พวง ฐานวโร เจ้าอาวาสวัดน้ำพุสามัคคี ปัจจุบันเจริญอายุ ๘๗ ปี ๖๖ พรรษา ( ๒๕๕๕)

อัตโนประวัติ

“ พระอธิการพวง ฐานวโร ” หรือ หลวงปู่พวง มีนามเดิมว่า พวง เพ็ชรมูล เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ ที่เมืองดอกบัวจังหวัดปทุมธานี เชื้อสายมอญ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายยวง และ นางเพิ่ม เพ็ชรมูล ครอบครัวประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม

สู่ร่มกาสาวพัสตร์ หลวงปู่พวงบวชเรียนเป็นสามเณรตั้งแต่วัยเยาว์ สามเณรพวงได้ปรนนิบัติหลวงพ่อทบมิได้ขาด ไม่ว่าจะล้างบาตร เทกระโถนน้ำหมาก บีบนวด หลวงพ่อทบสม่ำเสมอ ศีกษาพระธรรมวินัยอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงพ่อทบ ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติเรื่อยมา ด้วยความเมตตาที่หลวงพ่อทบเห็นในความเพียรตั้งใจจริงจึงได้ถ่ายทอดสรรพต่างๆและวิปัสนากัมมัฏฐานการกำหนดจิต การฝึกกสินแต่ละกอง จนถึงการอุปสมบทเป็นพระภิกษุในวัย ๒๑ ปีได้ฉายา “ ฐานวโร ” แปลว่า ผู้มีฐานะอันประเสริฐ

ตลอดระยะเวลาที่อยู่กับหลวงพ่อทบ หลวงพ่อพวงได้ช่วยงานหลวงพ่อทบหลายอย่าง หลวงพ่อทบให้ช่วยจารตะกรุดมั่ง ม้วนมั่ง ถักมั่ง หลวงพ่อทบรักมากสอนให้จนหมด หลวงพ่อทบไปมาหาสู่กับหลวพ่อเขียน สำนักขุนเณรบ่อยๆ ไปทุกครั้งก็จะพาพระพวงไปด้วย หลวงพ่อทบจึงได้ฝากฝังศิษย์รักให้หลวงพ่อเขียนให้ช่วยประสาทวิชาเพิ่มเติมให้ หลวงพ่อพวง ได้จำพรรษาวัดขุนเณรได้เล่าเรียนฝึกปฏิบัติกรรมฐาน วิปัสนากรรมฐาน พุทธาคมโดยฝึกวิชากสินจนชำนาญในกสิน ๑o รวมทั้งวิชาทำน้ำมนต์สะเดาะเคราะห์ หลวงพ่อเขียนท่านวาจาสิทธิ์มากหากพูดอะไรจะเป็นไปตามปากของท่านจนชาวบ้านขนานนามหลวงพ่อเขียนปากพระร่วง

ตลอดการช่วยงานหลวงพ่อเขียนนั้น หลวงพ่อเขียนท่านสอนให้หมดจนเป็นที่ไว้ใจมอบหมายให้หลวงพ่อพวงทำน้ำมนต์อาบน้ำมนต์ให้ชาวบ้านแทนท่าน เรื่องเด่นอีกเรื่องของหลวงพ่อเขียน การให้หวยของหลวงพ่อเขียน ถูกกันทุกงวดจนเจ้ามือเจ้งกันไปหลายราย เมื่อสำเร็จธรรมจากหลวงพ่อเขียนแล้วจึงได้กราบลาหลวงพ่อเขียนเดินทางกลับมาเพชรบูรณ์อีกครั้งได้ไปกราบนมัสการหลวงพ่ออ้วน ที่วัดดงขุย หลวงพ่ออ้วน ท่านรับศิษย์ยากท่านต้องทดสอบกำลังใจเสียก่อน

หลังจากทดสอบผ่านแล้วท่านจึงรับเข้าสำนักถ่ายทอดวิทยาคมให้หมดสิ้น ช่วงที่อยู่ที่วัดดงขุย ได้เห็นหลวงพ่อทบ กับ หลวงพ่ออ้วนได้ลองอาคมกันกลางอาอาศ ใครตาดีมีบุญจึงได้เห็น ช่วงที่จำพรรษาได้ช่วยงานวัดมิได้ขาด หลังจากที่ได้ร่ำเรียนจนสำเร็จแล้วจึงได้กราบลาหลวงพ่ออ้วนเพื่อออกธุดงค์ปลีกวิเวกตามป่าเขา ตามถ้ำต่างๆ หมั่นฝึกปฏิบัติวิชาอาคมต่างๆตามที่ได้ร่ำเรียนและได้รับการถ่ายทอดมาจนมีความชำนาญในวิปัสนากัมมัฏฐาน มีพลังสมาธิญาณอย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อการปฏิบัติธรรมแก่กล้าแล้วจึงได้เดินทางมากราบนมัสการหลวงพ่อทบ ที่วัดชนแดน หลวงพ่อทบ วาจาสิทธิ์ ท่านบอกจะต้องห่มจีวรตลอดชีวิตเพื่อสงเคราะห์ผู้คน อยู่ปรนนิบัติหลวงพ่อทบอยู่ชั่วระยะหนึ่ง จึงได้ออกแสวงหาธรรมอีกครั้ง ได้ธุดงค์เข้าป่ารกชัชขึ้นเขา ลงเขา จนมาถึงเทือกเขารัง ณ บ้านน้ำพุ จ. เพชรบูรณ์ พ.ศ. ๒๕oo ได้ปักกลดจำวัด ณ ที่แห่งนี้ ตอนที่มาอยู่ใหม่ๆชาวบ้านมาถวายข้าวปลาอาหารหลวงปู่พวง พร้อมกับบอกว่า ให้ระวังผีดุ โดนหลอกทั้งกลางคืนกลางวัน หลวงปู่พวง ท่านได้แต่ยิ้มๆให้ชาวบ้าน หลังจากชาวบ้านเห็นพระองค์นี้อยู่ได้ถึง ๗ วันไม่หนีไปใหน จึงได้มาสอบถามว่าไม่เจอดีบ้างหรือ หลวงพ่อได้ตอบไปว่า เขามาดีเราให้บุญเขาก็ไปหมดไม่อยู่ที่นี่แล้ว ชาวบ้านจึงได้ศรัทธานิมนต์ให้สร้างวัด ที่นี่

ปฏิปทาศีลวัตร

หลวงปู่พวง เป็นพระที่มีอัธยาศัยไมตรีเปี่ยมด้วยเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง เรียนรู้ธรรมตั้งแต่เล็ก เรียนรู้แล้วนำมาปฏิบัติให้เข้าถึงรู้แจ้งจริง ช่วยคนได้จริง ผู้ใกล้ชิดหลวงปู่พวง ต่างรู้กันดีว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดา ญาณบารมีสมาบัติสูง มีสมาธิจิตแก่กล้า หยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน อนาคต แล้วแต่ว่าท่านจะพูดหรือไม่เท่านั้นเอง สมัยมาอยู่ใหม่ๆ ใครมากราบต่างก็อยากได้ของดีจากหลวงปู่พวง ท่านไม่มีอะไรจะให้ เสกก้อนหินบ้าง ก้านธูปบ้างให้ศิษย์เอาไปใช้ กันปืนได้ ขวานฟันไม่เข้า รถชนไม่เป็นไรวัตถุต่างๆที่ได้ออกจากมือหลวงปู่พวงไปแล้ว มีอานุภาพพุทธคุณอย่างน่าอัศจรรย์

หลวงปู่พวง ได้รับการยอมรับและศรัทธาของศิษย์ทุกระดับชั้น เชื่อถือกันว่าท่านมีคาถาอาคมทรงพุทธคุณครอบจักรวาล โดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม ความเจริญรุ่งเรือง และด้านมหาอำนาจ แคล้วคลาด เพชรกลับ คงกระพันชาตรี ศิษยานุศิษย์ต่างประจักษ์ สามารถให้คำตอบได้เป็นอย่างดี

ด้านการพัฒนา

หลวงปู่พวง ฐานวโร ท่านเป็นพระปฏิบัติและพระนักพัฒนาที่เป็นแบบอย่างที่ดีต่อชุมชน ได้ก่อสร้าง ศาลาสามัคคีธรรม กุฏิสงฆ์ หอสวดมนต์ ศาลาเอนกประสงค์ ห้องน้ำ เมรุ โรงเรียนวัดน้ำพุ ฯลฯ ทั้งหมดล้วนเกิดจากบารมีของหลวงปู่พวงอย่างแท้จริง ท่านสร้างสิ่งสาธารณูประโยชน์ไว้มากมาย ลาภยศต่างๆหลวงปู่พวงท่านไม่ยินดี ต้องการเพียงพัฒนาและช่วยเหลือญาติโยม

วัตถุมงคล

ถ้าไม่ดีไม่สร้าง จากคำปรารภของหลวงปู่พวง เพื่อให้สิ่งที่สร้างออกมานั้นคุ้มครองลูกศิษย์ลูกหาได้ อย่างแท้จริง ทำให้วัตถุมงคลหลวงปู่พวงได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เพราะการสร้างแต่ละครั้ง สร้างไม่บ่อย สร้างน้อย ไม่เน้นปริมาณ ท่านเน้นคุณภาพ พุทธคุณโดดเด่นทางเมตตามหานิยม กลับร้ายกลายเป็นดี คงกระพันมหาอุตม์ และความเจริญรุ่งเรือง ประสบการณ์ที่เจออาทิ เหรียญรุ่นแรก สีผึ้ง พระปิดตานะชาลีติ แหวนเพชรกลับ ตะกรุดโทน รูปหล่อ ล้วนต่างเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์อย่างมาก หลวงปู่พวง เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ วัตถุมงคลของท่านมีค่าดั่งทองคำต่อไปภายหน้าจะหายาก ”

หลวงปู่พวง ไม่เปียกฝน

หลวงปู่พวง และ พระสงฆ์ในวัดออกบิณฑบาตรยามเช้าที่หมู่บ้านน้ำพุ ปรากฏว่าขากลับมีฝนตกปรอยๆจนหนักขึ้นเรื่อยๆ พอมาถึงวัดพระทุกองค์สบงจีวรต่างเปียกน้ำฝนทุกองค์ มีพระรูปหนึ่งรีบไปนำผ้ามาให้หลวงปู่พวงเปลี่ยนเพราะเกรงว่าหลวงปู่พวงจะไม่สบาย พอมาถึงได้ยื่นผ้าให้หลวงปู่พวง แต่กลับตลึงเพราะจีวรหลวงปู่พวง ไม่เปียกฝนเลย ได้สอบถามหลวงปู่พวงว่า ไม่เปียกฝนหรือขอรับ หลวงปู่พวงท่านยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า ฝนตกด้วยหรือ แล้วท่านก็เดินเข้ากุฏิไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้เกิดความประหลาดใจมาก จนเป็นที่กล่าวขาน


ของหายได้คืน

มีลูกศิษย์ที่ศรัทธาหลวงปู่พวงมาก มากราบหลวงปู่พวงที่วัด ได้ทำบุญกับหลวงปู่พวง บ่อยๆได้เช่าแหวนเพชรกลับไป 1 วงหลวงปู่พวงท่านแนะนำว่า ให้เอาไปใช้จะค้าขายดี หลังจากเช่าไปแล้วปรากฏว่าค้าขายดีเป็นสองเท่า ลูกศิษย์คนนี้ใส่แหวนติดตัวเป็นประจำ มีอยู่วันหนึ่งสังเกตุว่า มีแต่ตัวแหวน แต่หัวแหวนหายไป ก็จิตตกจึงได้ไปกราบรายงานเรื่องหัวแหวนเพชรกลับหายไปจะมีอะไรไม่ดีหรือเปล่า แล้วจะหาเจอหรือไม่ หลวงปู่พวงท่านบอกว่า ไม่เป็นอะไรหรอกและไม่หายไปใหนด้วยตั้งใจหาหน่อย เมื่อกลับไปตั้งจิตอธิฐานบอกหลวงปู่พวง สักพักก็พบว่าหัวแหวนนั้นตกอยู่ใต้โต๊ะนั่นเอง

รถพลิกคว่ำพลิกหงายรอดมาได้

พนักงานการไฟฟ้า ขับรถไปแก้ไฟตอนเย็น ปรากฏว่าตลอดทางมีฝนตกรุนแรง ถนนลื่นจนเกิดอุบัตเหตุรถเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบดูแล้วไม่น่ารอด ปรากฏว่า พนักงานไฟฟ้าไปกัน 2 คน คนที่นั่งข้างคนขับนั้นเข้าไอซียู ส่วนคนขับนั้นไม่เป็นอะไรมากแค่มีรอยจ้ำแดงตามตัวเท่านั้น พนักงานคนนี้ได้บอกว่า ได้ไปทำไฟที่วัดน้ำพุมาได้พบหลวงปู่พวง ท่านเห็นหน้าจึงได้ให้ไปบูชาแหวนที่ศาลาการเปรียญ 1 วง พร้อมกับบอกว่า ใส่แล้วห้ามถอดเด็ดขาด ท่านพูดเพียงเท่านี้ ส่วนเพื่อนอีกคนไม่เชื่อ ตนเชื่อบวกกับศรัทธาในตัวหลวงปู่พวงอยู่แล้วจึงได้ทำตาม ทำให้รอดมาได้ราวปราฏิหารย์

ยิงไม่ออก

โยมบ๋วยคนชอบลองของ หลวงปู่พวงอธิฐานจิตปลุกเสกพระปิดตานะชาลีติจำนวนครึ่งบาตรพระแช่น้ำมนต์ทิ้งไว้เมื่อนำออกให้บูชา ปรากฏว่าโยมบ๋วยแกก็ไปเอาปืนลูกซองมาทดลองยิงทันที ปรากฏว่ายิงไป ๒ นัดไม่ออก จึงทดลองหันปืนขึ้นฟ้าแล้วยิงปรากฏว่า ออก จึงได้หันกระบอกปืนไปที่ พระปิดตานะชาลีติ อีกครั้งแล้วยิงปรากฏว่า ไม่ออก จนได้ก้มกราบพระปิดตา ชาวบ้านที่พบเห็นต่างพากันแห่เช่าพระปิดตาจนหมดในวันเดียว เมื่อหลวงปู่พวงทราบข่าวได้ตำหนิโบมบ๋วยว่า “ อย่าทำเป็นเล่นไปห้ามลองจะมีบาปติดตัว ”

หลวงปู่พวงโดนลองของ

สมัยที่มาจำพรรษาใหม่ๆ มีคนมาลองของ เขาพูดว่านี่ศิษย์หลวงพ่อทบคงจะเหนียวเหมือนอาจารย์ ว่าแล้วก็ยิงใส่ด้านหลังหลวงปู่พวง เสียงปืน แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ ปืนขัดลำกล้องยิงไม่ออก คนที่มาลองดีเกิดตกใจจนหน้าซีด ปืนตกจากมือ หลวงปู่พวง หันกลับไปยิ้มให้ด้วยความเมตตา เขาจึงทรุดลงกับพื้นที่ได้เห็นแววตาของพระที่ยิ้มให้อย่างไม่โกรธเคือง จึงได้กราบขอขมาและเลิกทำตัวเป็นอันธพาลตลอดชีวิต

หลวงปู่ละมัย ได้บอกให้พระที่มาไปกราบหลวงปู่พวง

พระสงฆ์ที่ดงขุยได้ไปกราบหลวงปู่ละมัย ที่สวนสมุนไพรบ้านกล้วยบ่อยๆ เพราะอยู่ไม่ไกลกันมาก ขณะนั้นหลวงปู่ละมัยได้ย้ายมาจำพรรษาและกำลังสร้างวัดที่บ้านกล้วย พระสงฆ์ที่บ้านดงขุยจึงพากันไปกราบขอพรและขอคำปรึกษาด้านกรรมฐาน คำหนึ่งที่หลวงปู่ละมัย ท่านได้กล่าวกับพระสงฆ์ที่มาว่า “ เดี๋ยวจะไม่อยู่แล้ว ต่อไปให้ไปหาพระพวง ที่วัดนำพุ ท่านมีรัศมีดีมาก ” พระสงฆ์บ้านดงขุยจึงได้มากราบหลวงปู่พวงตามคำแนะนำ ต่างก็มาขอบารมีหลวงปู่พวงเนืองๆ จากนั้นไม่นานหลวงปู่ละมัย ได้ละสังขารไปตามที่ท่านได้กล่าววาจา

พระอธิการ พวง ฐานวโร วัดน้ำพุสามัคคี ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์

ข้อมูล
http://www.watnampusamakkee.com/personnel-detail/465.html

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: