2414.หลวงปู่แหวนเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่สี

หลวงปู่แหวนเป็นศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่สี หลวงปูสี วัดถ้ำเขาบุญนาค ท่านเป็นศิษย์รุ่นสุดท้าย สมเด็จโต วัดระฆัง เป็นสหธรรมมิก กับ หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า และ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาตฯ ท่านนับเป็นเกจิ รุ่นโตกว่า หลวงพ่อจาด จง คง อี๋อีกแต่เนื่องจากหลวงปู่สี ท่านอายุยืนนานมาก

Read more

2371.บุพเพสันนิวาสอันเหลือเชื่อของหลวงปู่แหวน

บุพเพสันนิวาสอันเหลือเชื่อของหลวงปู่แหวน หลวงปู่ว้าวุ่นใจเป็นอย่างยิ่ง จิตที่เคยควบคุมบังคับให้สงบนิ่งได้ก็เกิดปรวนแปรไป ความคิดคำนึงคอยแต่จะโลดแล่นซัดส่ายไปหาหญิงงามอย่างเดียว ทำให้หลวงปู่แหวนเกิดความหวาดกลัวตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ขืนอยู่ต่อไปอาจจะพ่ายแพ้ต่อกิเลสเมื่อไหร่ก็ได้ดังนั้นหลวงปู่แหวนจึงตัดสินใจเก็บบริขารทั้งหลายเดินทางกลับประเทศไทยอย่างฉับพลัน ทันที เมื่อข้ามแม่น้ำโขงสู่ผืนแผ่นดินมาตุภูมิแล้วก็มุ่งหน้าขึ้นไปทางอำเภอศรี เชียงใหม่ ระหว่างเดินทางหนี “มาตุคาม” ซึ่งเป็นเนื้อคู่บุพเพสันนิวาสมาแต่ชาติปางก่อน จิตใจของหลวงปู่ยังโลดแล่นไปหาสาวงามเกือบตลอดเวลา เป็นความรู้สึกที่ฟุ้งซ่านที่รุนแรงร้ายกาจสุดพรรณนาทีเดียว หลวงปู่แหวนเดินทางมาถึงพระบาทเนินกุ่ม หินหมากเป้ง จึงหยุดยั้งอบรมตนอยู่ ณ ที่นี้ และก็เป็นวาสนาของหลวงปู่ที่ได้พบกับท่านพระอาจารย์มั่น

Read more

2506.หลวงปู่แหวนปฏิบัติบูชาภาวนาจนถึงวาระสุดท้าย

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร เทศน์หลวงปู่แหวนปฏิบัติบูชาภาวนาจนถึงวาระสุดท้ายไว้ดังนี้ “ดูตัวอย่างหลวงปู่แหวนเพิ่งจะมรณภาพไปเร็วๆ เมื่อเดือนวันที่ 2 เดือนกรกฎาคม อาจารย์หนูเป็นผู้เฝ้าดูอาการไข้ของท่าน ท่านไม่วุ่นวายอะไรทั้งนั้น ภาวนาอยู่รูปเดียว จิตใจไม่ว้าวุ่นประการใด เป็นเพียงแต่ว่าหายใจมันสั้นไปๆ หายใจไม่ถึงท้อง ถึงกระนั้นจิตใจท่านก็เย็นสบาย ไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่กระวนกระวาย จนกระทั่งลมหายใจหมดไป ท่านก็ไม่วุ่นวายอะไร เมื่อลมหายใจหมดแล้ว ยังมีเส้นในคอกระตุกอยู่อีกนิดๆ

Read more

2642.หลวงปู่แหวนแสดงอิทธาภิสังขาร

หลวงปู่แหวนแสดงอิทธาภิสังขาร อาตมา(หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป) ไปอยู่กับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ปี ๒๕๐๗ นั่งอยู่กับท่าน อาตมาเห็นพวกเทพบุตรเทพธิดานะ เขาอยู่ที่ต้นไทรใกล้ ๆ ที่หลวงปู่แหวนผิงไฟนะ เขาหนีหมด เขาหนีไปอยู่ตรงต้นดู่ที่ก้นโบสถ์กันหมด ก็ตอนนั้นหลวงปู่แหวนท่านบรรลุธรรมเข้าใจไหม พวกเทพเขากลัวบาป อยู่ตามต้นไม้ใกล้ ๆ จะหนีหมดเลย เขาไม่อยู่สูงกว่า

Read more

2213.บารมีต้องสร้างเอา หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง

#บารมีต้องสร้างเอา “เหมือนอยากให้มะม่วงของตน มีผลดก ก็ต้องหมั่น บำรุงรักษาเอาไม่ใช่แกไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่นต้องไปปลูก ไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเองการสร้างบารมีก็เช่นกันต้องสร้าง ต้องทำเอาเอง” #ของดีที่หลวงปู่มอบให้ลูกหลานทุกคน “ของดีอะไร อะไรคือของดี ของดีก็มีอยู่ด้วยกันทุกคนแล้วการที่ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้พยาธินั้น ก็มีของดีแล้ว การมีร่างกายแข็งแรง มีอวัยวะ ครบถ้วน ไม่บกพร่อง วิกลวิการ อันนี้ก็เป็นของดีแล้วของดีมีอยู่ในตน ไม่รู้จะไปเอาของดีที่ไหนอีก

Read more

1877.หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนัดพบหลวงปู่สีทางจิต

หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนัดพบหลวงปู่สีทางจิต ถอดข้อความส่วนหนึ่งมาจากหนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป (อยากอ่านเต็ม ๆ ซื้อได้ที่วัดท่าซุงและซอยสายลมครับ) เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๔ ในวันหนึ่งหลวงพ่อได้มาแสดงธรรมะออกอากาศที่สถานีวิทยุกระจายเสียง ๐๔ ตาคลี จ.นครสวรรค์ เหมือนเช่นเคย และหลังจากที่หลวงพ่อได้แสดงธรรมะออกอากาศเสร็จก็ได้มานั่งพักผ่อนสนทนากับ ข้าพเจ้าและพ.อ.อ.

Read more

4114.ผีโป๊กกะโหล้ง รังควาญหลวงปู่แหวน เจอ หลวงปู่ตื้อใช้วิชาเสกไฟใส่

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ แห่ง วัดดอยแม่ปั๋ง กับเรื่องเล่าสนุกๆในสมัยที่ท่านออกเดินทางธุดงค์วัยหนุ่ม ขึ้นดอยกาดผี กับ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม แล้วประสบ พบพานกับผีโป๊กกะโหล้ง ผีป่าพื้นเมืองภาคเหนือ เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ? … Cr.Double Colour

Read more

1754.”หลวงปู่แหวน สุจิณโณ สอนเปรตแม่น้ำโขง”

“หลวงปู่แหวน สุจิณโณ สอนเปรตแม่น้ำโขง” เมื่อครั้งที่ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ บวชได้ไม่กี่พรรษา และมีวาสนาถวายตัวเป็นศิษย์ของท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านได้รับคำสั่งสอนแนะนำในข้อธรรมต่างๆ อย่างกระจ่างแจ้ง ทำการเจริญภาวนากระทำความเพียรก้าวหน้าไปอีกหลายระดับ เป็นกำลังใจให้เกิดความวิริยะมานะที่จะสะบั้นสายใยแห่งกิเลสจนกว่าจะหมดสิ้นในภพชาตินี้ ขณะจำพรรษาอยธู่กับพระอาจารย์มั่นที่บ้านนาหมีนายูง อำเภอน้ำโสน อุดรธานี ท่านพระอาจารย์มั่นได้บอกเล่าให้ฟังว่า ใกล้ฝั่งแม่น้ำโขงมีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง ที่ถ้ำนั้นมีเปรตตนหนึ่งสิงสู่อยู่ไม่ยอมไปไหน

Read more

1753.ท่านพระอาจารย์มั่นท่านย้ำอยู่เสมอว่า….

ท่านพระอาจารย์มั่นท่านย้ำอยู่เสมอว่า “ ให้ใช้บทพุทโธเป็นบทบริกรรมสำหรับผูกจิตก็ได้ เมื่อจิตสงบลงเป็นสมาธิแล้วให้วางบทบริกรรมเสีย แล้วพิจารณาร่างกาย ครั้งแรกให้พิจารณาส่วนใดส่วนหนึ่งที่เราสามารถที่เราจะเพ่งพิจารณาได้อย่างสะดวกในอาการ ๓๒ เมื่อพิจารณาจนเกิดความชัดเจนกลับไปกลับมาหรือที่เรียกว่าอนุโลมปฏิโลมแล้ว เมื่อหายสงสัยในจุดที่พิจารณานั้นแล้ว จึงค่อยเปลี่ยนเป็นจุดอื่นต่อไป อย่าพิจารณาเป็นวงกว้างทั้งร่างกาย เพราะปัญญายังไม่แก่กล้า ถ้าพิจารณาพร้อมกันทีเดียวทั้งร่างกาย ความชัดเจนจะไม่ปรากฏ ต้องค่อยเป็นค่อยไป เมื่อจิตมีความชำนาญเพียงพอแล้ว คำบริกรรมพุทโธก็ไม่จำเป็น เพียงกำหนดจิตก็จะสงบเข้าสู่สมาธิได้ทันที ผู้ปฏิบัติจิตตภาวนาถ้าส่งจิตออกไปภายนอกจากร่างกายแล้ว เป็นอันผิดทางมรรคภาวนา

Read more
error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ