#หลวงพ่อเปิ่น

เมื่อหลวงพ่อเปิ่นพบดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อกวย เพิ่งทราบไม่นานนี้เอง จากข้อมูลเพจคนขลังคลังวิชา ว่าหลวงพ่อเปิ่นเคยไปหาหลวงพ่อกวยที่วัดหลายครั้ง เมื่อมาดูปีเกิดหลวงพ่อทั้งสอง พบว่าหลวงพ่อกวยเกิดปี๒๔๔๘ ส่วนหลวงพ่อเปิ่นเกิด๒๔๖๖ อายุต่างกันถึง๑๘ปี จึงเป็นไปได้ว่า หลวงพ่อเปิ่นอาจจะไปขอความรู้บางอย่างจากหลวงพ่อกวย เมื่อปีพ.ศ.๒๕๓๙ ทางวัดโฆสิตารามได้สร้างเหรียญหลังหนุมาน แบบย้อนยุค ได้นิมนต์เกจิมาปลุกเสกหลายองค์ หลวง่พอเปิ่นก็ถูกนิมนต์มาเสกด้วยเช่นกัน เนื่องจากวันปลุกเสก หลวงพ่อเปิ่นท่านติดงานสำคัญ มาในวันงานไม่ได้ ท่านจึงเดินล่วงหน้ามาก่อนหนึ่งวัน แจ้งกรรมการวัดว่า

หลวงพ่อเปิ่นสนใจในเรื่องของไสยศาสตร์ มาตั้งแต่สมัยเด็กอาศัยว่าครอบครัวของท่านอยู่ใกล้กับวัดบางพระซึ่งในสมัย นั้นมีพระคุณเจ้าที่จำพรรษาอยู่ที่วัดบางพระมีความเก่งกาจมีความเชี่ยวชาญใน สายไสยศาสตร์ หลายองค์ เด็กชายเปิ่นจึงเข้าออกเพื่อความอยากรู้อยากใฝ่หา ในวิชาอยู่กับวัดบางพระเป็นประจำ นายเปิ่น ศึกษาวิชากับหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ได้รับการถ่ายทอดยาสมุนไพรรักษาโรค คาถาอาคมต่างๆ โดยเฉพาะวิชาสักยันต์อันเกรียงไกร จากหลวงพ่อหิ่ม อินฺทโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพระซึ่งท่านท่านรักและเมตตาศิษย์หลวงพ่อเปิ่นเป็นพิเศษ วิชาการต่าง ๆ ท่านจึงถ่ายทอดให้โดยไม่ปิดบัง ๒๓

สุดยอดมหาอำนาจ ตะบะเสือ หลวงพ่อเปิ่น เรื่องเผชิญกับมหาอำนาจหลวงพ่อเปิ่น เป็นเรื่องที่เกิดกับอ.กฤษณะเอง ถ้าใครเจออาจารย์ ลองถามไถ่ดู ไม่ว่าเล่ากี่ครั้ง ก็จะเหมือนเดิมทุกครั้ง อ.กฤษณะ ตอนนั้นจะเป็นคนขวานผ่าซาก เวลาคิดทำอะไร ก็ไม่มีสติยั้งคิด ยังเช่นไปหาครูบาอาจารย์ บางทีถามท่านโพล่งๆ ไม่ค่อยได้กาลเทศะ มาถึงตอนนี้ จึงรู้สึกเสียดาย ว่าตอนนั้น ถ้ารู้จักวิธีการถามคงได้อะไรดีอีกเยอะ

เส้นทางการเรียนไสยศาสตร์ หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อเปิ่น พื้นเพท่าน เป็นคนวัดบางพระ สมัยเป็นเด็กก็วิ่งเล่นเข้าออกวัดบางพระ สมัยก่อน พอมีญาติมาบวช พวกเด็กๆก็จะมาเป็นลูกศิษย์พระ เพราะสมัยก่อน พวกขนมนมเนย ใครจะได้กินต้องมาเป็น ลูกศิษย์วัด หลวงพ่อเปิ่นจึงมีความสนิทสนมผูกพันธ์กับวัดบางพระตั้งแต่เล็กๆ แต่พอเป็นวัยรุ่น พ่อแม่ของท่านได้มาทำนาที่สุพรรณ ด้วยความที่ชอบไสยศาสตร์ จึงได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก

ของดีที่ควรรู้ว่าหลวงพ่อกวยปลุกเสก หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณทางสักอักขระเลขยันต์จนเป็นที่เคารพนับถือจากผุ้ฅนทุกชนชั้น หลายท่านอาจยังไม่เคยรู้ว่าความจริงแล้วหลวงพ่อเปิ่นมีความสัมพันธ์ ทั้งให้ความเคารพนับถือเคยไปมาหาสู่เพื่อขอต่อวิชาสักอักขระเลขยันต์ไปจาก หลวงพ่อกวย ชุตินธะโร วัดโฆสิตาราม ไม่มีผู้ใดรู้ว่าท่านทั้งสองรู้จักกันได้อย่างไรหรือตั้งแต่เมื่อไร แต่พ่อเปิ่นให้ความเคารพในหลวงพ่อกวยมาก เป็นที่ทราบกันดีว่าหลวงพ่อกวยท่านเจนจบวิชาสักรูปเสือ, สิงห์, หนุมาน โดยเฉพาะรูปเสือที่ภายหลังนับเป็นสัญลักษณ์ประจำของหลวงพ่อเปิ่น คาดว่าหลวงพ่อเปิ่นอาจได้พบหลวงพ่อกวยในงานพุทธาภิเษก ได้รู้กิตติศัพท์ของหลวงพ่อว่าเป็นผู้เลิศในทางอาคม หรืออีกนัยหนึ่งคาดว่าท่านทั้งสองอาจพบกันในคราวธุดงค์ในป่าเขา

ช่วงที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา อันเป็นเวลาที่เจริญรุดหน้าขึ้นอย่างสูง ใน ส่วนของวัดบางพระ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เมื่อหลวงปู่หิ่ม อินฺทโชโต มรณภาพลงและหลวงพ่อเปิ่นออกจาริกแสวงธรรม ทางวัดบางพระเงียบเหงาลง ต่อมา”หลวงพ่อทองอยู่ ปทุมรัตน์” พระกรรมวาจาจารย์ของหลวงพ่อเปิ่นได้เป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่หิ่ม จนมรณภาพลงในปี พ.ศ.๒๕๑๖ เจ้าอาวาสวัดบางพระ จึงว่างลง ชาวบ้านจึงพร้อมใจกัน ไปกราบอาราธนาหลวงพ่อเปิ่นให้กลับมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางพระ

นามเดิม เปิ่น นามสกุล ภู่ระหงษ์ เกิดวันอาทิตย์ที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๖ เดือน ๙ ปีกุน ณ บ้านเลขที่ ๔ หมู่ที่ ๔ ตำบลบางแก้วฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นบุตรของนายฟัก

หลวงพ่อเปิ่นพบหลวงตาวาส นีก็ใกล้วันไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นแล้ว เลยนึกถึงเรื่องที่สองเกจิมาพบกัน คุณศุภฤกษ์เป็นศิษย์ที่สนิทกับหลวงพ่อเปิ่นมาก เคยตามท่านไปต่างประเทศ และคุณศุภฤกษ์ก็เป็นศิษย์หลวงตาวาสด้วย พอคุณศุภฤกษ์จัดงานทำบุญบ้าน จึงนิมนต์หลวงพ่อเปิ่นและพระลูกวัด และหลวงตาวาสกับพระวัดสะพานสูง ตอนแรกหลวงตาวาสท่านเป็นพระที่ไม่ค่อยยอมแสดงตัว จึงหลบไปอยู่ท้ายแถว เมื่อคณะหลวงพ่อเปิ่นมาถึง นั่งฉันน้ำชาสักครู่ ท่านก็หันไปพูดกับหลวงตาวาสว่า หลวงพ่อมานั่งหัวแถวนี่ ไปหลบอะไรอยู่ท้ายแถว หลวงตาวาสท่านจึงตอบว่า ผมพรรษายังไม่มากขออยู่ตรงนี้ดีกว่า แต่หลวงพ่อเปิ่นท่านไม่ยอมท่านว่า พรรษามากพรรษาน้อยไม่เกี่ยว

คราวที่แล้วลงเรื่องสักหนุมานทั้งเก้าตัว มีคนฮือฮามาก วันนี้จึงขอเสนอลายสักอีกหนึ่งลาย ที่ถือว่าฮอตฮิตที่สุด มีครูบาอาจารย์นิยมสักมากที่สุด ลายสักนั้นคือลายสักเสือ สำนักที่สักเสือแล้วโด่งดังมากที่สุด คือ หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส หลวงพ่อสุด วัดกาหลง หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ แต่ทั้งสามสำนักนี้ สำนักหลวงพ่อเปิ่น จะมีคนมาสักมากที่สุด และในศิษย์ที่เป็นผู้ชาย เกือบร้อยเปอร์เซนต์ล้วนสักเสือตัวนี้ ลายยันต์เสือหลวงพ่อเปิ่น