908. ตะกรุดโทนหลวงพ่อทบ หลอมไม่ละลาย

ฤทธิ์อภิญญาหลวงพ่อทบ
ตำนานเล่าขานฤทธิ์อภิญญาหลวงพ่อทบ วัดชนแดน (หรือวัดช้างเผือก ) พระเถราจารย์แห่งเมืองเพชรบูรณ์ผู้มีตบะบารมีแก่กล้า พระผู้มีใจเด็ดเดียว พากเพียรปฎิบัติอบรมสมาธิภาวนาจนแก่กล้า ออกธุดงค์จาริกสร้างบารมีไปมาหลายประเทศ ศึกษาสรรพวิชาจากพระเถราจารย์ยุคเก่ามากมายหลายรูป จนเชี่ยวชาญเจนจบในพระเวทย์พุทธาคม และเป็นหนึ่งในศิษย์ของหลวงปู่ศุข สมภารแห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเถราจารย์ใหญ่แห่งเมืองชัยนาท ( อาจารย์เก่งเช่นไร ศิษย์ย่อมไม่ทิ้งแถว / ศิษย์เก่งได้เพราะมีครูดี)

ตะกรุดโทนหลวงพ่อทบ หลอมไม่ละลาย
วันนี้ ”ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม“ จะมาเล่าถึงเรื่องฤทธิ์อภิญญาตบะบารมีของหลวงพ่อทบ แห่งวัดชนแดน พระเถราจารย์ใหญ่แห่งเมืองเพชรบูณ์ (เมืองขึ้นชื่อมะขามหวาน) ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่หลวงพ่อทบ ท่านยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ กิตติคุณเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทบ แผ่ขจรไปไกล ผู้คนมากมายเดินทางมุ่งหน้าสู้อำเภอชนแดนเพื่อกราบไหว้ขอพร และที่สำคัญ คือต่างต้องการเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อทบท่านสร้าง (ลานวัดไม่เคยว่างเว้นจากผู้คน ที่เดินทางมาจากทั่วสารทิศ) ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อทบ มีมากมายทั้งข้าราชการ พ่อค้า ทหาร ตำรวจ ที่ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อทบมีมากมายเช่นนี้ ก็เพราะว่า “ หลวงพ่อทบนั้น ท่านเป็นพระที่เก่งจริง หากจะบอกว่าหลวงพ่อทบท่านเป็นพระที่มีวาจาสิทธิ์ก็คงจะไม่เกินไป เพราะเวลาหลวงพ่อทบท่านพูดอะไร ก็มักจะเป็นไปตามนั้น “

ด้วยกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทบ ที่แผ่ขจรไป หลวงพ่อท่านจึงได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตในงานพุทธาภิเษกวัตถุมงคลอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งในช่วงปัจฉิมวัยของท่าน อาจจะพูดได้ว่า ท่านได้รับอาราธนานิมนต์ไปงานพุทธาภิเษกแทบทุกวัน ด้วยเมตตาธรรมของหลวงพ่อทบ ถึงแม้จะเหนื่อยล้า ถ้าวันนั้นสังขารเอื้ออำนวยหลวงพ่อท่านจะไปสงเคราะห์ญาติโยมเสมอมิได้ขาด นี้คือเมตตาธรรมของหลวงพ่อทบ สมภารแห่งวัดชนแดน

กล่าวถึงตบะบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทบ มีเรื่องเล่าขานกันมาช้านานว่า เมื่อคราวฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ มีงานหล่อพระและพิธีพุทธาภิเษก ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามตำรับพิธีของวัดสุทัศน์ โดยในพิธีครั้งนั้นได้อาราธนาพระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศเข้าร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต ซึ่งหลวงพ่อทบท่านก็เป็นหนึ่งในพระเถราจารย์ที่ได้รับอาราธนาเข้าร่วมพิธีในวันนั้นด้วย

ซึ่งงานวันนั้นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีพลตำรวจเอกเผา ศรียานนท์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระเถราจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ

เก่งกล้าพุทธาคมมากมายเข้าร่วมในพิธี พอถึงเวลาอาราธนาพระเกจิคณาจารย์ขึ้นสู่อาสนะเพื่อนั่งปรก เมื่อพระสงฆ์ท่านขึ้นสู่อาสนะแล้ว ทางคณะกรรมการผู้จัดงาน ก็เข้าไปกราบขอโลหะธาตุวัตถุมงคลวิเศษของพระเถราจารย์แต่ละรูปเพื่อนำไปเป็นชนวนมวลสารสำคัญในพิธีเททองหล่อพระเครื่องวัตถุมงคลในครั้งนั้น

พระเถราจารย์แต่ละรูปก็ได้เมตตามอบโลหะธาตุวัตถุมงคลที่ตนได้พกติดย่ามมาให้ทางคณะกรรมการ รูปใดพกเหรียญติดย่ามมาด้วย ท่านก็ให้เหรียญ รูปใดมีตะกรุด ท่านก็ให้ตะกรุด หรือถ้ารูปไหนไม่มีติดย่ามมาเลย ทางคณะกรรมการ ก็นำแผ่นทองที่เตรียมไว้เข้าไปกราบขอความเมตตาเพื่อขอให้หลวงปู่หลวงพ่อจารอักขระยันต์ให้ พอมาถึงหลวงปู่ทบ ท่านก็มอบตะกรุดโทนที่ท่านปลุกเสกและเตรียมมาแล้ว ให้ทางคณะกรรมการไป 3 ดอก เมื่อทางคณะกรรมการได้วัตถุมงคลจากพระเกจิคณาจารย์ครบแล้ว ประธานฝ่ายฆราวาสก็นำไปเทลงเตาหลอมที่จัดเตรียมไว้อย่างดี

ตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบ ถูกหย่อนลงในเตาหลอม เตาละ1ดอก

ไฟเตาหลอมลุกโชนแดงกล้า ฝ่ายพระเถราจารย์ที่อาราธนานิมนต์มาก็ขึ้นนั่งบนอาสนะเพื่อบริกรรมพระพุทธมนต์คาถาเจริญจิตภาวนา เวลาผ่านไปนาน จนถึงฤกษ์เททอง ทีมงานช่างหล่อก็ลงมือตักโลหะที่หลอมละลายแล้วเพื่อเทลงเบ้าหล่อ (เรื่องอัศจรรย์ก็ปรากฏให้ผู้คนได้เห็น เป็นที่ฮือฮา !! คือ ช่างตักได้ตะกรุดขึ้นมาดอกหนึ่ง ซึ่งไม่มีวี่แววว่าจะหลอมละลายเลย (เล่ากันว่า แม้แต่เชือกที่ใช้ถักตะกรุดยังไม่ไหม้ไฟ) ซึ่งโดยธรรมชาติของโลหะธาตุประเภททองเหลืองแล้ว เมื่อถูกความร้อนในระดับเตาหลอม ย่อมละลายกลายเป็นน้ำทองไปไม่มีเหลือรูปร่างให้เห็น แต่ไฟในเตาหลอมกลับมิอาจที่จะหลอมละลายตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบได้ ช่างจึงตักตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบออก แล้วเทน้ำทองลงในเบาหลอมที่เตรียมไว้ พอทางช่างตักเตาที่หนึ่งผ่านไป ก็ถึงเตาที่2 และที่3 ก็ปรากฏเกิดเหตุอัศจรรย์เช่นกัน คือ ไฟในเตาหลอมไม่อาจที่จะหลอมละลายตะกรุดโทนของหลวงพ่อทบได้เลย ทางช่างจึงนำตะกรุดสามดอกนั้นมาให้ประธานดู ซึ่งประธานฝ่ายฆราวาสในวันนั้น ก็คือ พลเอกเผ่า ศรียานนท์ เมื่อพลเอกเผ่าเห็นและทราบว่า นี้เป็นตะกรุดของหลวงพ่อทบ วัดชนแดน (เมื่อท่านพิจารณาดูแล้ว ก็พูดกับทีมงานช่างหล่อว่า หลวงพ่อทบนี้ท่านไม่ธรรมดาจริงๆ )

แล้วพลเอกเผ่า จึงได้นำตะกรุดโทน 3 ดอกนั้นเข้าไปถวายหลวงพ่อทบ ซึ่งนั่งอยู่ที่อาสนะ เมื่อหลวงพ่อทบท่านรับตะกรุดแล้ว ท่านก็พนมมือยกขึ้นเหนือหัวอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงได้มอบตะกรุดโทน 3 ดอกนั้นให้กับพลเอกเผ่า ศรียานนท์ (เมื่อเขียนมาถึงตอนนี้แล้ว บอกตรงๆเลยว่า คนที่ได้ตะกรุด 3 ดอกนั้นไป คงโชคดีมากๆ เพราะนั้นคือตะกรุดที่เปี่ยมด้วยอิทธิคุณแห่งพุทธาคมของหลวงพ่อทบ)

เรื่องเล่าขานนี้เป็นอีกหนึ่งตำนาน ที่กล่าวขานกันมาช้านาน แสดงให้เห็นถึงสภาวะจิตอันลึกล้ำและตบะบารมีอันแก่กล้าของหลวงพ่อทบ ที่ท่านได้เสกลงไปในวัตถุมงคล ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด หรือพระเครื่องของท่าน ท่านเสกได้อย่างเข้มขลังเปี่ยมล้นด้วยอิทธิคุณ เรื่องราวอิทธิปาฎิหาริย์ความศักดิ์สิทธิของหลวงพ่อทบนั้นมีมาย เอาไว้วันหน้าเมื่อมีเวลา ทาง ”ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม “ จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีก โปรดรอติดตาม….

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน / ขอบคุณในการกดแชร์เรื่องราวของทางตำนานเล่าขาน ฯ การกดแชร์ของท่าน คือการร่วมกันเผยแผ่ตำนานเรื่องเล่าขาน เพื่อปะโยชน์แก่อนุชนผู้ใคร่ต่อการศึกษาต่อไป

ขออภัย!! ห้ามเสริม เติม แต่ง บทความของทางตำนานเล่าขานฯ โดยเด็ดขาด (เพื่อป้องกันการนำบทความไปแต่งเติมเสริมใส่ชื่อนามหลวงพ่อรูปนั้น รูปนี้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เรื่องราวอันเป็นตำนานที่น่าศึกษาเรียนรู้คลาดเคลื่อน “ที่ประกาศเช่นนี้เพราะเคยมีมาแล้ว ขอบคุณครับ” )

ท่านผู้อ่านทั้งหลาย….หากไม่อยากพลาดทุกเรื่องราว ทุกตำนานที่ทางเพจได้ลงไป ? กดติดดาว เปิดรับการแจ้งเตือน แล้วทุกครั้งที่ทางเพจโพสต์ จะมีการแจ้งเตือนให้คุณทราบ (อย่าลืมนะครับ ด้วยความปรารถนาดี )

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม

แอพเกจิ – AppGeji

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: