6342.สนม ผู้เป็นต้นเหตุให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของ รัชกาลที่1กับพระราชินี มีอันต้องขาดสะบั้น

สนม ผู้เป็นต้นเหตุให้ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของ รัชกาลที่1กับพระราชินี( สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) มีอันต้องขาดสะบั้น

คุณหญิงเจ้าพระยาจักรี ( สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี)นางสาวนาคเกิดในตระกูลเศรษฐีใหญ่ชาวสวนบางช้าง มีญาติวงศ์พวกพ้องเต็มไปทั้งบาง ตัวท่านเองนั้นงดงามเป็นกุลสตรีครองตัวเองอยู่เป็นสาวโสดมาจนอายุด้ 23 ปี

เพราะบิดามารดาของท่านยังมองไม่เห็นใครในละแวกนั้นที่เหมาะสมให้เป็นคู่ครองได้จนกระทั่งมีข่าวว่า มีข้าหลวงเที่ยวไปตามหัวเมืองและตำบลใหญ่ๆ ในชนบท สืบหาธิดาผู้มีเทือกแถวที่ดีและมีลักษณะงดงามเพื่อจะจดชื่อส่งเข้าไปถวายพระเจ้าแผ่นดินให้ทรงเลือก

บิดามารดาของนางสาวนาคจึงต้องรีบขวนขวายจัดหาคู่ครองให้โดยเร็ว เพื่อพ้นจากการถูกส่งเข้าไปเป็นนางในประจวบกับหลวงยุกรบัตร (ทองด้วง) ข้าราชการหนุ่มรูปงามจากราชบุรีนั่งเรือผ่านมา เห็นนางสาวนาคกำลังปีนต้นไม้ในสวนของบิดาที่ริมคลองเพื่อเก็บผลไม้ แล้วพลัดตกลงมาจุกเสียดอยู่โคนต้น

หลวงยุกรบัตรจึงให้หยุดเรืองลงไปช่วยแต่อาการไม่ดีขึ้นจึงอุ้มนางสาวนาคลงเรือนำไปส่งบ้าน อาการของนางสาวนาคจึงคลายเป็นปกติการถูกเนื้อต้องตัวกันในสมัยนั้นถือเป็นการไม่งดงามสำหรับกุลสตรี หลวงยุกรบัตรจึงต้องให้ท่านบิดาคือพระอักษรสุนทร(ทองดี) มาสู่ขอนางสาวนาคจากพระยาแม่กลอง

ผู้เป็นญาติผู้ใหญ่ในสกุลบางช้าง ก็มีการตกลงยินยอมและได้จัดการวิวาห์ขึ้นราวปี พ.ศ. 2304 ซึ่งขณะนั้นหลวงยุกรบัตรมีอายุได้ 25 ปี นางสาวนาค มีอายุ 24 ปีเมื่อเกิดศึกใหญ่พม่ายกทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยานั้น หลวงยุกรบัตรก็ต้องจากครอบครัวไปสู้รบกับข้าศึก จนกระทั่งได้ไปร่วมรบพม่ากับพระยาตาก(สิน) จนได้รับชัยชนะกลับคืนมาฝ่ายทางอัมพวา คุณนาคพร้อมด้วยบุตรีชื่อแม่ใหญ่ อายุยังเยาว์อยู่มากก็ต้องหลบหนีพม่าทิ้งบ้านเรือนเข้าไปแอบแฝงศัตรูอยู่ในป่า

จนกระทั่งเมื่อพระยาตาก(สิน) ปราบปรามเสี้ยนหนามศัตรูทั้งหลายจนราบคาบแล้ว คุณนาคพร้อมบุตรีและพี่น้องจึงออกจากป่ากลับมายังบ้านเดิมที่อัมพวา แต่เป็นที่น่าสลดใจเป็นอันมากเมื่อญาติพี่น้องจำนวนมากมายได้พลัดหายตายจากบางพวกก็ถูกพม่าต้อนเอาไปอยู่เมืองพม่า

เมื่อพระยาตาก(สิน) ได้สถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้วนั้น หลวงยุกรบัตรมีความดีความชอบ ได้เลื่อนยศขึ้นเป็นลำดับจนเป็นเจ้าพระยาจักรี ตำแหน่งสมุหพระกลาโหม คุณนาคจึงเป็น คุณหญิง โดยอัตโนมัติ เมื่อท่านสามีมีตำแหน่งเป็นเจ้าพระยาจักรีนั้น ท่านมีบุตรชายหญิงที่เจริญเติบโตแล้ว 5 คน คือ แม่ฉิมใหญ่ พ่อฉิม แม่แจ่ม พ่อจุ้ย และแม่เอี้ยงแม่ฉิมใหญ่ถูกถวายเป็นเจ้าจอมในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโดยประเพณี


พระบรมสาทิสลักษณ์พระเจ้าตากสิน

ชีวิตครอบครัวของคุณหญิงนาคกับเจ้าพระยาจักรีเป็นสุขสงบราบรื่นมาตลอดแต่ภายหลังสงครามเมื่อท่านย้ายนิวาสสถานมาอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านฝั่งธนบุรีแล้วชีวิตก็เป็นปกติสุข จนกระทั่งเมื่อเจ้าพระยาจักรีไปรบเมืองเวียงจันทน์ได้ชัยชนะ แล้วนำอนุภรรยาลาวชื่อ แว่น .นางแว่นนั้นทั้งสาว ทั้งสวยเป็นที่โปรดปรานของเจ้าพระยาจักรีมาก

คุณหญิงจึงเกิดความหึงหวงขึ้นเป็นคราวแรกและได้ใช้สากกระเบือตีหัวนางแว่นจนแตกเลือดไหลนอง นางแว่นจึงวิ่งเข้าไปฟ้องเจ้าพระยาจักรีว่า “เจ้าคุณเจ้าขา..คุณหญิงเอาสากตีหัวอีฉัน”เมื่อเจ้าพระยาจักรีเห็นเลือดนองหัวนางแว่นซึ่งกำลังเป็นที่โปรดปรานก้เกิดความโมโหโกรธา ชักดาบออกจากฝัก

คุณหญิงซึ่งรู้ทันสั่งให้บุตรชาย 2 คน คือพ่อฉิมและพ่อจุ้ยนำครกตำข้าวหลายใบต่อกันขึ้นสูงพอให้คุณหญิงก้าวลงจากหน้าต่างบ้านหนี ไปพักกับเจ้าจอมฉิมใหญ่ บุตรี ในวังหลวงตั้งแต่นั้นมา ความรักของเจ้าพระยาจักรีและคุณหญิงก็ขาดสะบั้นลงจนแทบจะไม่เคยพบหน้าค่าตากันอีกเลยส่วนอนุภรรยาที่ชื่อแว่นนั้น ก้กลับกลายเป็นใหญ่เป็นโตในบ้าน

และเมื่อเจ้าพระยาจักรีได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และเสด็จไปประทับอยู่ในวังหลวงในกรุงเทพฯแล้ว นางแว่นก็กลายเป็นใหญ่ในฝ่ายใน ผู้คนพากันเกรงกลัวเรียกว่า “คุณเสือ”ข้างคุณหญิงนาคก็เข้าไปอยู่ในวังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เลี้ยงดูแลสมเด็จเจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ผู้เป็นหลานยายซึ่งประสูตรจากเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ซึ่งเป็นธิดาคนโตของท่าน

เพราะเจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ได้สิ้นชีพลงไม่นานหลังจากประสูตรเจ้าฟ้าชายเมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินสวรรคตแล้ว คุณหญิงนาคก็กลับมาอยู่ที่บ้านเดิมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใช้ชีวิตอยู่เหมือนอยู่บ้านสวนอัมพวา “ฝ่ายพระบาทสมด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาจุฬาโลกก็ไม่ทรงยกย่องสถาปนาอิสริยยศคุณหญิงนาคแต่อย่างใด

คุณหญิงนาคก็คงเป็นคุณหญิงนาคตามเดิม” มีชีวิตปกติสุขประสาชาวบ้านมิใช่ชาววัง คุณหญิงนาคมักข้ามฟากไปเยี่ยมพระราชธิดาสองพระองค์ของท่านที่ในพระราชวังหลวงเป็นครั้งคราว พระราชธิดาที่ทรงพระนาม”แม่แจ่ม”มีพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนศรีสุนทรเทพ ส่วนพระราชธิดาที่ทรงพระนามว่า “แม่เอี้ยง” มีพระอิสริยยศเป็นสมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนเทพยวดี

พอคุณหญิงนาคข้ามฟากมาถึงในวังหลวง พวกพ้องของคุณเสือจะพากันซุบซิบว่า “คุณหญิงมาแล้ว..คุณหญิงมาแล้ว” แล้วพากันหลบหน้าไปเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทะยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จสวรรคตแล้ว คุณหญิงนาคได้รับความทุกข์โศกในการสวรรคต แต่ความทุกข์ยิ่งกว่านั้นได้เกิดขึ้นแก่ท่าน

เมื่อหลังวันสวรรคต สมเด็จเจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ กรมขุนกษัตรานุชิต พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งประสูตรแต่เจ้าจอมมารดาฉิมใหญ่ พระราชธิดาองค์ใหญ่ของท่านถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ แล้วถูกประหารชีวิตพร้อมด้วยพระราชโอรสอีก 7

องค์สมเด็จเจ้าฟ้าสุพันธุวงศ์ กรมขุนกษัตรานุชิตนั้นเป็นหลานยาย ซึ่งคุณหญิงนาครักใคร่เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด ซ้ำคุณสำลี หรือพระองค์เจ้าสำลีวรรณ พระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นพระชายาของพ่อจุ้ย หรือสมเด็จพระมหาอุปราช กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระราชโอรสองค์เล็กของคุณหญิงก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏในคราวเดียวกัน ถูกประหารชีวิต ทิ้งพระราชโอรส-ธิดาที่ยังเยาว์ไว้ถึง 5 องค์

คุณหญิงนาคจึงต้องนำหลานๆซึ่งพระบิดาพระมารดาถูกประหารชีวิตทั้งหมดไปอุ้มชูดูแลที่บ้านฝั่งธนบุรีของท่านเมื่อ”พ่อฉิม” พระราชโอรสองค์ใหญ่ขึ้นครองราชเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแล้ว ทรงสถาปนาคุณหญิงนาคขึ้นเป็น”สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ พระบรมราชชนนี คนทั่วไปจึงเปลี่ยนสรรพรามจาก “คุรหญิง” มาเป็น “สมเด็จพระพันปี”

สมเด็จพระอมรินทรามาตย์ ภายหลังออกพระนามว่า สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีในรัชกาลที่ 1 ได้ทรงย้ายจากพระนิวาสเดิม จากฝั่งธนบุรีมาอยู่ในพระราชวังหลวงในปลายรัชกาลที่ 2 เป็นการสิ้นสุดความเป็นสามัญชนชาวสวนอัมพวาของคุณหญิงนาคโดยสิ้นเชิงคราวหนึ่งเมื่อมารดาของคุณหญิงนาค ชื่อ “ท่านสั้น” ผนวชเป็นรูปชีสิ้นชีวิตลง

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ พระราชทานโกศให้ใส่ศพ คุณหญิงนาคก็ยังพูดเป็นเชิงขบขันว่า “แม่ข้าเป็นเจ้า” ภายหลังรัชกาลที่ 4 ได้สถาปนาพระอัฐิพระราชนนีขึ้นเป็น”สมเด็จพระรูปสิริโสภาคมหานาคนารี”

คุณหญิงนาค หรือสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ดำรงพระชนม์อยู่ถึง 89 พรรษา จนพระราชโอรสและพระราชธิดาเสด็จสวรรคตและสิ้นพระชนม์ลงทั้งหมด ได้ทันทอดพระเนตรพระราชนัดดาองค์ใหญ่ขึ้นครองราชย์ เป็นรัชกาลที่ 3

เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นไปเฝ้าสมเด็จพระอมรินทร์ฯ นั้น ทรงพระชรามาก ไม่ทรงพระดำเนินแล้ว แต่ความทรงจำยังมั่นคง มีรับสั่งว่า “พ่อเจ้าเป็นหนี้ย่าอยู่ให้เอามาใช้แทนเสียเพื่อไม่ให้ป็นเวรกรรมต่อไป”พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯจึงทรงนำเงินจำนวนที่พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงเป็นหนี้สมเด็จพระอมรินทร์ฯอยู่มาถวายใช้หนี้ เพื่อให้สบายพระทัยเป็นกิริยาบุญ

เมื่อคุณหญิงนาค หรือสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีเสด็จสวรรคตแล้ว พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯให้ประกอบพระบรมศพด้วยพระโกศทองใหญ่ อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระที่นังดุสิตมหาปราสาท และโปรดให้สร้างพระเมรุมาศขนาดใหญ่ ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระอัยยิกาที่ท้องสนามหลวงเป็นพระเกียรติยศสูงสุด..

ที่มา ราชินี เจ้าจอม หม่อมห้าม ในอดีต

แอพเกจิ

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: