6317. ประกาศิตสั่งตาย “ชัยขาว” เจ้าพ่อบ้านบึง

ประกาศิตสั่งตาย “ชัยขาว” เจ้าพ่อบ้านบึง

บ้านบึง อำเภอหนึ่งใน จ.ชลบุรี ถิ่นที่ให้กำเนิดเจ้าพ่อ มือปืน ตลอดจนนักเลงมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ที่โด่งดังและครองความยิ่งใหญ่เหนือพื้นที่นี้มาอย่างยาวนาน คงต้องยกให้ ชัยขาว นายสุชัย ธนาวรรณ นายกเทศมนตรีบ้านบึง หรืออีกฉากหนึ่งคือคนสนิทของ เจ้าพ่อใหญ่ แห่งภาคตะวันออก


องครักษ์คู่ใจเสี่ยจิว ชัยขาวครองความเป็นเบอร์หนึ่งที่บ้านบึงถิ่นเกิดของตัวเองตั้งแต่สมัยที่ เสี่ยจิว เป็นเจ้าพ่อแห่งภาคตะวันออก จนล่วงมาถึงยุคของ “ก๊อดฟาเธอร์” เมืองชลคนล่าสุด ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ในที่สุดชัยขาวต้องปิดฉากชีวิตลงแบบไม่ต่างไปจากผู้กว้างขวางรายอื่นๆ เช้าวันที่ ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๕ ชัยขาวต้องฝังร่างอยู่ในรถฮอนด้า พรีลูดคันงาม ขณะที่จอดรถเลี้ยวอยู่บริเวณสี่แยกบายพาส อ.เมืองชลบรี ด้วยฤทธิ์คมกระสุนจากมือปืน

ปิกอัพที่สะกดรอยตามฆ่าอย่างอุกอาจ อาวุธสงครามยิงถล่มจนพรุนทั้งคนทั้งรถ ชัยขาวนั่งตายอยู่หลังพวงมาลัยรถในสภาพแหลกเหลว เลือดและมันสมองสาดกระจายเต็มรถ อย่างน่าสยดสยอง ปิดฉากชีวิตเจ้าพ่อบ้านบึงที่ครองความยิ่งใหญ่มานานนับสิบปี

ปฐมบทแห่งชัยขาว ผู้มีชื่อโด่งดังขึ้นมาพร้อมกับ ชัยดำ ในฐานะองครักษ์ซ้าย-ขวา ของ เสี่ยจิว ผู้ผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าพ่อภาคตะวันออกต่อจากยุคของ หลงจู๊เกียง หลังจากเสี่ยจิวถูกมือปืนตามเด็ดหัวสิ้นชื่อไปจากทำเนียบเจ้าพ่อเมืองชล

พร้อมๆ กับการก้าวขึ้นมาของ “กำนันเป๊าะ ช่วงนั้นชัยขาวไม่มีการแสดงออกมากนัก ผิดกับชัยดำเพื่อนคู่หูที่หาโอกาสเช็กบิลเจ้าพ่อคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะอยู่เบื้องหลังการตายของเสี่ยจิว แต่ยังไม่ทันทำงานสำเร็จตามที่หวัง ชัยดำก็ต้องระเห็ดตามไปอยู่กับเจ้านาย เมื่อถูกฆาตกรนิรนามฆ่าตัดคออย่างโหดเหี้ยม

ชัยขาวเริ่มเข้ามาสู่อาณัติของเจ้าพ่อใหญ่แห่งตะวันออก ในฐานะคนสนิทโดยมีเพื่อนคู่หูรายใหม่คือ “ทิดเกี้ย นายเกรียงศักดิ์ ชัยศิริกุล โดยทั้งคู่ขอกลับไปครองความยิ่งใหญ่อยู่เหนือบ้านบึงถิ่นเกิดของตัวเอง

ชัยขาวและทิดเกี้ยจัดสรรพื้นที่กันอย่างลงตัว และทำงานร่วมกันให้เจ้าพ่อใหญ่ จวบจนทิดเกี้ยถูกยิงตายในร้านข้าวต้ม เสี่ยฮวด นายพิพัฒน์ โรจน์วานิชชากร ก็โผล่ขึ้นมาแทนที่ แต่ยังอยู่ใต้อำนาจของคนๆ เดียวกัน

แม้ว่าจะมีเจ้าพ่อบ้านบึงอยู่ถึง ๒ คน แต่ชัยขาวก็ไม่รู้สึกอะไรเพราะเจ้าพ่อใหญ่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจมากกว่า จวบจนชัยขาวก้าวขึ้นเวทีการเมืองท้องถิ่นในตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลบ้านบึง ยิ่งมองไม่เห็นเสี่ยฮวดอยู่ในสายตา

จวบจนเสี่ยฮวดเริ่มมีบารมีมากขึ้นจาการเกี่ยวดองเป็นญาติกับนักการเมืองคนหนึ่ง สนิทชิดเชื้อกับคนมีสีย่านสัตหีบ และแน่นแฟ้นอย่างยิ่งกับแหล่งเงินทุนรายใหญ่อย่าง โป้ยเสี่ย แห่งธนาคารศรีนคร

ชัยขาวเริ่มรู้สึกว่าเสี่ยฮวดจะมีอิทธิพลกล้าแข็งขึ้นทุกวัน ไม่สนใจใครแม้แต่เจ้าพ่อใหญ่ และนั่นคือลางหายนะที่ทำให้เสี่ยฮวดต้องกลายเป็นเป้ากระสุนปืนในวันเซ็งเม้งเลือด เมื่อเดือน เมษายน ๒๕๓๒ ชัยขาวจึงกลายเป็นเจ้าพ่อบ้านบึงแต่เพียงผุ้เดียวนับแต่นั้นเป็นต้นมา


พัวพันฆ่าเสี่ยฮวด หลังจากที่เสี่ยฮวดขึ้นมาครองความยิ่งใหญ่ในบ้านบึงควบคู่กับชัยขาว ก็พยายมสั่งสมบารมีขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีปัจจัยหลายอย่างหนุนเสริมทำให้เสี่ยฮวดเริ่มแข็งเมืองกับเจ้าพ่อใหญ่

จุดแตกหักระหว่างเสี่ยฮวด และเจ้าพ่อใหญ่เกิดขึ้นเมื่อเสี่ยฮวดประมูลโครงการยักษ์ในศรีราชามูลค่ากว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาทได้สำเร็จโดยอาศัยแหล่งเงินทุนจากโป้ยเสี่ย และความสนิทสนมกับคนวงในจึงสามารถประมูลได้

เจ้าพ่อใหญ่แม้จะไม่พอใจนัก ที่เสี่ยฮวดใช้ลูกเล่นในการประมูล แต่ไม่ได้แสดงออกมากนัก เพียงให้คนไปติดต่อขอมีเอี่ยวในโครงการนี้ แต่เสี่ยฮวดปฏิเสธ

ตามรายงานพบว่า แม้เจ้าพ่อใหญ่จะไม่ได้สั่งการอะไรในการจัดการกับเสี่ยฮวด แต่การทำวางเฉยกรณีที่เสี่ยฮวดอาละวาดกว้านซื้อที่ดินอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม แต่นั่นก็เป็นสัญญาณให้คู่อริของเสี่ยฮวดทราบว่า เจ้าพ่อใหญ่ไม่ไยดีกับลูกน้องคนนี้อีกแล้ว

ชะตาชีวิตของเสี่ยฮวดจึงสะบั้นลง โดยทีมฆ่าระดับพระกาฬร่วมมือกับคนมีสี ทั้งนี้ตำรวจเชื่อว่าผู้มีส่วนพัวพันอยู่เบื้องหลังการตายของเสี่ยฮวดก็คือชัยขาว เจ้าพ่อบ้านบึงอีกคนหนึ่งนั่นเอง

นับแต่เสี่ยฮวดเริ่มเบ่งบารมีและขยายอิทธิพลออกไป ชัยขาวก็ไม่ค่อยชอบหน้าอยู่แล้ว ยิ่งมีเรื่องหัวคะแนนของชัยขาวถูกยิงตาย ทำให้เชื่อว่าเป็นฝีมือของเสี่ยฮวด รวมถึง แดง บ้านบึง หรือ แดง ใหญ่ พี่ชายของชัยขาว ซึ่งร่วมลงทุนในหลายกิจการกับเสี่ยฮวด ต้องการครอบครองธุรกิจทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว

กอปรกับเจ้าพ่อที่ดินในย่านต่างๆ ไม่พอใจกรณีเสี่ยฮวดกว้านซื้อที่ดินอย่างบ้าเลือด และไม่เลือกวิธีการ เมื่อนำมาร้อยรวมกับเรื่องโครงการยักษ์ในศรีราชา สถานการณ์จึงสุกงอมอย่างยิ่งในการร่วมแรงร่วมใจลงขันฆ่าเสี่ยฮวด


บ้านบึงถิ่นเจ้าปัญหา นับแต่ชัยขาวครองความเป็นหนึ่งแต่เพียงผู้เดียวเหนือพื้นที่บ้านบึง ปัญหาต่างๆ ก็เริ่มรุมเร้าในถิ่นนี้ มีคดีฆ่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีไม่น้อยที่ชัยขาวเข้าไปมีชื่อพัวพันอยู่ด้วย

นอกจากนี้ ชัยขาวยังทำเรื่องผิดพลาดอย่างมหันต์ ในคราวการเลือกตั้งใหญ่เมื่อ วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๕ ชัยขาวทำคะแนนเสียงที่ต้องรับผิดชอบหดหายไป ทั้งๆ ที่เจ้าพ่อจ่ายเงินให้อย่างเต็มเม็ดหน่วย

ไม่มีคำอธิบายถึงเรื่องนี้ นอกจากคำแก้ตัวที่รับฟังไม่ขึ้น ปัญหาเรื่องแรกยังไม่ทันจางหาย ชัยขาวก็สร้างเรื่องขึ้นมาอีก โดยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่า ส.ท.บ้านบึง รวม ๓ ศพ

นายสังคม พิณรังสฤษดิ์ ส.ท.บ้านบึง ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตพร้อมกับเพื่อน รวม ๓ ศพ เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๓๕ จากการสืบสวนทราบว่ามือปืนผู้ลั่นไกคือ “ส.ท.โน๊ต” หรือ ส.ท.สมเกียรติ น้อยเล็ก มือปืนพระกาฬ ซึ่งรู้กันอยู่ในวงในว่าเป็นมือไม้ของชัยขาว

นอกจากนี้ ส.ท.บ้านบึงที่ถูกปลิดชีพ อดีตนั้นเคยอยู่ในทีมเดียวกับชัยขาว แต่ภายหลังแปรพักตร์ไปอยู่กับฝ่ายตรงข้าม เท่ากับประกาศตัวเป็นศัตรูการเมืองของชัยขาว

เมื่อมีการตายเกิดขึ้น ชัยขาวจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหตุการณ์หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เจ้าพ่อใหญ่ซึ่งแสดงความอิดหนาระอาใจกับลูกน้องคนนี้มากขึ้นทุกวัน


ปิดบัญชีชัยขาว เช้าวันที่ ๓๐ กรกฏาคม ๒๕๓๕ ชัยขาวขับรถฮอนด้าพรีลูดป้ายแดงใหม่เอี่ยมออกจากบ้านของเมียน้อย หลังแฮปปี้เวิลด์ อาบอบนวด มาตามถนนเศรษฐกิจ เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงถนนสายเศรษฐกิจ (ชลบุรี-บ้านบึง) บายพาส-บ้านสวน ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี

ได้มีรถกระบะสีเขียวแก่ได้วิ่งตามประกบ หนังจากนั้นโยกขวาเทียบข้างรถเก๋งของชัยขาว เยื้องไปข้างหน้าเล็กน้อย คนร้ายที่นั่งในรถกระบะและหลังกระบะ ได้ใช้อาวุธปืนสงครามกระหน่ำยิงแบบรัวเป็นชุด เข้าบริเวณกระจกหน้ารถฝั่งที่นั่งคนขับ และกระจกรถข้างคนขับ นับรูกระสุนไม่ถ้วน

หลังจากสิ้นเสียงปืน รถกระบะได้วิ่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงหวีดร้องของชาวบ้าน ที่เห็นเหตุการณ์ แบบจะจะตา

สภาพศพชัยขาวนั่งอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือดแดงฉานไปหมด ศีรษะหายไปทั้งแถบ ลูกตาหล่นลงมาจากเบ้า เหมือนกับจะมองคนร้ายก่อนที่จะลงมือยิง จนกระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้าย

ชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาดูเหมือนมีมหกรรมคอนเสิร์ตก็ว่าได้ เพราะจุดเกิดเหตุมีรถผ่านไปมาจำนวนมาก ที่สำคัญเป็นการยิงแบบอุกอาจกลางวันแสกๆ ที่มีชาวบ้านสัญจรไป-มาอย่างมากมายจนกระทั่งรถมาติดไฟแดงอยู่ที่แยกบายพาส ต.บ้านสวน อ.เมือง ชลบุรี

นัยว่าการตายของชัยขาว ได้รับไฟเขียวจากผู้ใหญ่ ซึ่งไม่พอใจชัยขาวในเรื่องทำคะแนนเสียงหายไปจำนวนมาก และปัญหาภายในบ้านบึง ที่ชัยขาวเป็นเจ้าพ่ออยู่ก็ไม่เคยสงบเรียบร้อยเลย

ยิ่งมีเรื่องฆ่า ส.ท.บ้านบึง ๓ ศพ ซึ่งในจำนวนนั้นมีหลานชายของผู้กว้างขวางอีกคนหนึ่งของเมืองชลรวมอยู่ด้วย ชัยขาวจึงต้องยอมรับชะตากรรมที่ตัวเองก่อขึ้น เพราะมิเช่นนั้นปัญหาต่างๆ อาจจะลามมาถึงผู้ที่อยู่เหนือกว่าชัยขาว เรียกว่าเป็นการสละเรือเพื่อนักษาขุน หรือตัดเนื้อร้ายเพื่อรักษาชีวิตนั่นเอง


เผยโฉมฆาตกร พล.ต.อ.พงษ์อำมาตย์ อมาตยกุล รอง อ.ตร. (ปป.) ในขณะนั้นให้ความสนใจกับคดีนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นการฆ่าด้วยอาวุธสงครามร้ายแรงอย่างอุกอาจกลางเมือง อีกทั้งผู้ตายเป็นผู้มีอิทธิพลเกรงว่าอาจจะมีการตามล้างแค้น

จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.เขตต์ นิ่มสมบุญ รอง ผบช.ภ.๑ เข้าควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า…

สาเหตุการฆ่าน่าจะมาจากเรื่องโกงเงินหาเสียงการเลือกตั้ง และคดีฆ่า ส.ท.บ้านบึง ๓ ศพ เจ้าหน้าที่รู้รายชื่อมือปืนและผู้บงการหลังเกิดเหตุไม่นานนัก แต่กว่าจะตามจับได้พร้อมของกลางทั้งหมดก็ปาเข้าไปถึง ๖ เดือน

วันที่ ๑๕ ธันวาคม ปีเดียวกัน พล.ต.ต.เขตต์พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจปราบมือปืนรับจ้างกระจายกำลังเข้าจับกุมมือปืนและผู้ร่วมฆ่าชัยขาวได้ ๓ คน

อันประกอบด้วย นายวรรณ การคำ, นายศักดิ์ ธีระธาดา และนายจำเนียร ประพันธ์ ส่วนผู้ต้องหาอีก ๓ คนคือ นายบัง ไม่ทราบนามสกุล มือปืน ข้าราชการป่าไม้ระดับสูงคนหนึ่งเป็นผู้ติดต่อ และนายวิรัตน์ เลี้ยงจันทร์ ผู้จ้างวาน

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายวิรัตน์ ผู้จ้างวานในคดีนี้รับคำสั่งมาจากจอมบงการให้สังหารชัยขาว จึงมาติดต่อกับข้าราชการป่าไม้ ให้จัดหามือปืนโดยตกลงกันในราคา ๕๐๐,๐๐๐ บาท กลุ่มมือปืนตามประกบชัยขาวอยู่ราว ๑๐ สัปดาห์ก่อนที่สบโอกาสลงมือ และไม่พลาดเสียด้วย


ประกาศิตสั่งตาย แม้ว่าคดีสังหารโหดชัยขาว ตัดคัตเอาต์ที่สำคัญคือนายวิรัตน์ ซึ่งจะโยงถึงจอมบงการที่แท้จริง แต่ตำรวจและหลายฝ่ายก็พอจะมองออกว่าใครที่มีประกาศิตสั่งตายชัยขาว ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของเจ้าพ่อใหญ่

บุคคลระดับชัยขาวถ้าหากไม่ได้รับไฟเขียวเช่นนี้ ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่ตัวชัยขาวเองเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งหมด ทำให้ผู้ที่อยู่เหนือกว่าจำต้องตัดใจตัดเนื้อร้ายก้อนนี้ทิ้งไปก่อนที่มันจะลามกินไปหมดทั้งตัว

ถึงแม้ชัยขาวจะมีค่าเปรียบเสมือน “เรือ” บนกระดานหมากรุก แต่เมื่อถึงคราวจำเป็นหรือเวลาอันควรก็ต้องยอมสละทิ้ง เพื่อเปิดตาเดินให้ ขุน มีโอกาสอยู่รอดต่อไป

ที่มา : สำนักพิมพ์ข่าวสด, Book Cafe Original

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: