6306. ทำไมจึงเรียกว่าไข่เยี่ยวม้า
เรื่องมันมีอยู่ว่า….
เมื่อสมัยก่อน… ทางตอนใต้ของจีน ในหมู่บ้านเกษตรกรแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านนี้จะเลี้ยงม้าเป็นพาหนะแทบทุกบ้าน ซึ่งสมัยก่อนการเลี้ยงสัตว์ก็มักจะเลี้ยงแบบไว้ด้วยกัน เลยทำให้เป็ด ไก่ และม้ามันอยู่ด้วยกันแบบสามีภรรยา เอ้ย…. แบบเพื่อนบ้านกันโดยปริยาย (ชักนอกเรื่อง…)
และ… ก็มีชายหนุ่มอยู่คนหนึ่งต้องการที่จะทำความสะอาดคอกม้าให้สะอาด โดยใช้แกลบและฟางมากลบขี้และเยี่ยวม้าให้หายมีกลิ่นเหม็น เพราะด้วยเหตุที่ว่าสมัยนั้นน้ำมันหายากก็เลยต้องใช้วิธีนี่แทน ต่อมาเวลาล่วงเลยไปหลายเดือนเข้าก็เกิดการหมักหมมจนเกิดเป็นแบคทีเรียธรรมชาติ (ภูมิชาวบ้านโดยแท้) ที่มีความสามารถฆ่าเชื่อโรคนั้นได้ ทำให้ไม่เกิดกลิ่นเหม็นต่อไป…
และแล้ว… พอถึงเวลาที่ชายคนนี้ต้องเอาแกลบและฟางออก เพื่อเปลี่ยนของใหม่เข้าไปแทน ก็ดันไปเจอไข่เป็ดที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครเห็นตั้งแต่แรก (คาดว่าคงเก็บไม่หมดเนื่องจากเมาขี้ม้า) ที่น่าแปลกก็คือไข่เป็ดมันไม่เน่า ทั้ง ๆ ที่เวลาผ่านไปหลายเดือน เขาก็เลยลองปอกเปลือกไข่ออกดู ก็เห็นเป็นเนื้อใส ๆ ดูน่ากิน สุท้ายเข้าก็เลยเจี๊ยะซะเลย (อึ๋ย….) ผลสุดท้ายเกิดติดอกติดใจขึ้นมาก็เลยบอกปากต่อปากกันไป ถึงเมนูไข่พิสดาร….
และนี่… ก็เป็นที่มาของไข่เยี่ยวม้าหละ… (จริงหรือเท็จไม่รู้นะ ฟังเขามาอีกที) สงสัยสมัยนั้น เยี่ยวม้าคงหมดสต๊อกแน่เลย ฮ่า….
อีกความเชื่อ
เล่ากันว่าไข่เยี่ยวม้า กำเนิดมากว่าห้าศตวรรษแลัว ตามตำนานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ บอกว่าไข่เยี่ยวม้าค้นพบเมื่อประมาณ 600 ปีก่อนในมณฑลหูหนานในสมัย ราชวงศ์หมิง
เมื่อเจ้าของบ้านพบไข่เป็ดในบ่อปูนขาวที่ใช้ในระหว่างการก่อสร้างบ้านของเขา เมื่อได้ลองชิมแล้วรู้สึกว่ามันมีกลิ่นรสเฉพาะตัวและสามารถนำมารับประทาน เขาจึงริเริ่มการผลิตเพื่อขาย โดยนำไข่ดิบมากลบอยู่ในบ่อปูนขาวประมาณ 2 เดือน และเติม เกลือลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ จึงพัฒนามาเป็นวิธีทำไข่เยี่ยวม้าในปัจจุบัน และนอกจากนี้ยังเป็นอาหารโปรดของคนในปัจจุบันด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : gotoknow และ wikipedia