499.วันพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ “หลวงปู่ไม่ไปนิพพานหรือ”

20 เมษายน 2534
วันพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

“ถ้าข้าตายแล้วอย่าเก็บศพไว้นาน เจ็ดวันเผาเลย ไม่เผาก็โยนทิ้ง เดี๋ยวจะกลายเป็นหากินกับศพ”
ลูกศิษย์ได้แย้งท่านว่า “กลัววัดจะร้าง”

หลวงปู่ท่านตอบว่า “เรื่องเผาไม่เผา ต้องแล้วแต่คำสั่ง ดูอย่างหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านสั่งไม่ให้เผา เพราะกลัวพระเณรจะอดอยาก แต่สำหรับข้าให้เผา เวลาจะเผาให้เผายืน ข้าจะได้ไปไหนได้”

ลูกศิษย์จึงถามท่านว่า “หลวงปู่ไม่ไปนิพพานหรือ”

ท่านตอบว่า “จะไปได้อย่างไร คนนี้ก็เรียก คนนั้นก็ร้อง ข้าไปแค่หัวตะพานก็พอ ดูอย่างหลวงปู่ทวดซิ มีคนเรียกร้องท่านมากมาย บารมีท่านเต็มท้องฟ้า อย่างข้าเอง คนไหนคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา คนไหนไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเขา เพราะในวันหนึ่งๆ ข้าต้องอธิษฐานไปให้หมู่คณะทุกวันไม่เคยขาด วันละ ๓ ครั้ง เขาจะได้ไม่เป็นอันตรายทั้งเช้ามืด ตอนเย็น ตอนกลางคืน ก่อนนอน เพื่อเป็นการช่วยเหลือหมู่คณะ”

หลวงปู่ท่านได้ย้ำด้วยความเมตตาต่อไปอีกว่า “คิดถึงพระครั้งหนึ่ง บารมีพระมาถึงเราไปกลับ ๗ เที่ยว รวมแล้ว ๑๔ ครั้ง ได้กำไรดีไหมล่ะ นี่มีในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์”

หลวงปู่ท่านว่า
“ถ้าเราคิดถึงพระได้เหมือนกับคิดถึงแฟนเมื่อไหร่ แสดงว่าจะดีแล้ว”

นะโมโพธิสัตโต พรหมปัญโญ สัมมาสัมพุทโธ อนาคตกาเล

*********************************

หลวงปู่ดู่ได้ละสังขารไปด้วยอาการอันสงบด้วยโรคหัวใจในกุฏิของท่าน เมื่อเวลาประมาณ ๕ นาฬิกาของวันพุธที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๓ สิริอายุรวมได้ ๘๕ ปี ๘ เดือน อายุพรรษา ๖๕ พรรษา

สังขารธรรมของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศลโดยมีเจ้าภาพสวดอภิธรรมเรื่อยมาทุกวันมิได้ขาด ตลอดระยะเวลา ๔๕๙ วัน จนกระทั่งได้รับพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ในวันเสาร์ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔

สำหรับสรีระสังขารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติธรรมดาสำหรับคนทั่วๆ ไป ที่เมื่อหมดลมหายใจแล้วจะยังคงมีเนื้อหนังที่นิ่มหรือยืดหยุ่น

การสังเกตดูสังขารของหลวงปู่หลังมรณภาพ ได้กระทำอย่างเป็นทางการประมาณ ๒ ครั้ง คือครั้งแรกเมื่อท่านมรณภาพไปได้ ๔๘ ชั่วโมง ซึ่งครั้งนั้นคุณหมอที่พระนครศรีอยุธยาเป็นผู้มาตรวจดู และเอ่ยว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่คนที่เสียชีวิตมานานถึง ๔๘ ชั่วโมง จะสามารถงอหรือพับข้อพับต่างๆ ได้ อีกทั้งไม่มีอาการที่เลือดตกหรือไปคั่งที่ด้านล่าง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาสำหรับคนทั่วไปจริงๆ

การสังเกตสังขารของหลวงปู่ครั้งที่ ๒ ได้กระทำก่อนวันพระราชทานเพลิงศพไม่นาน ซึ่งนั่นหมายความว่าหลวงปู่ละสังขารมาแล้วเกือบ ๑ ปี แต่ปรากฏว่าเนื้อที่บริเวณน่องของท่านก็ยังมีความนิ่มและยืดหยุ่นอยู่ จึงยังความประหลาดใจพร้อมๆ กับความปลื้มปีติแก่ศิษยานุศิษย์ผู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก

บันทึกเล่าเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนี้ เพื่อให้ผู้ที่ไม่ทันสังขารของหลวงปู่จะได้พอกพูนศรัทธาให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

ขอบคุณข้อมูลจาก วิถีไสยศาสตร์ชาติไทย.

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: