3837. โก๋ หลังวัง “วัยรุ่นประลัยกัลป์” ตอนที่ 5 (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

โก๋ หลังวัง “วัยรุ่นประลัยกัลป์” ตอนที่ 5 (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

นายทุนก็คือนายทุน เป็นขุนพลต้องอยู่ตรงกลางศึก แวดล้อมกองบัญชาการ พวกเขาต่างหากที่มีหน้าที่สร้างสงครามทุกรูปแบบทั้งรุกและรับเพื่อแระคองที่มั่นหรือก้าวไปยึดที่มั่นศัตรู บัดนี้ เขากำลังก้าวเข้ามา มาเพื่อต้องการอะไร?

เอ็ด หลังวัง ถามตัวเองหลังจากพิจารณารูปการณ์ได้ทั่ว ทุกวันนี้เขาไม่ต่างนักเลงสุรา ถึงเมาก็ยังมีเวลาสร่าง ต่อไปถ้าเขา “เมาอำนาจ” อะไรคือจุดจบ?

อำนาจก็ไม่ต่างน้ำป่าหน้าฝน มันจะไหลบ่าพังเขื่อนและทำนบแห่งธรรมชาติตลอดไป ถ้าเปรียบก็ไม่ต่างกับพญาครุฑที่บินสูงเพราะลำพองในศรีศักดิ์ของตน

“ช่างมัน…ชีวิตกูเอง คนหนีบาปพ้นมีแต่คนตาย…”

ดาวดังวังบูรพาตัดสินลิขิดตนเอง

“เราจะลงมือกันวันไหน?” เขาถามแทนคำตอบ

“มึงไปดูสถานที่ทั้งสองแห่งกับกูแล้วเข้าพบเสี่ยพร้อมกันตอนเที่ยงคืนที่โคลีเซียม”

“ตกลง สองทุ่มคืนนี้ กูจะคอยมึงที่หรดี”

จากนั้นก็เป็นรายการโจ้สุราอาหาร โดยมีบริวารคอยลำเลียงขึ้นมาไม่ขาดตอน กระทั่งใกล้สี่โมงเย็น เอ็ด หลังวัง จึงกลับรัง ยังไม่ทันที่จะก้าวขึ้นบันไดบ้าน เพื่อนชี้รั้วเฟืองหนึ่งในสี่โผล่ออกมาเห็น ตะโกนลงมาก่อน

“ไอ้ดำถูกแทง”

ราวกับตีนเหยียบลงไปในกระบะตังเม

“ขึ้นมาก่อนชีโว้ย” เวียน วังแดง ผู้โผล่มาทีหลังร้องเรียก

ตรงระเบียงอันใช้เป็นสถานที่เอนกประสงค์ไอ้ขวัญรายงานเรื่องราวของอดีตอินทรีขาวทันที

“พวกกูขึ้นรถกลับจากโรงเรียน พอรถผ่านมาถึงสี่แยกบ้านแขก ก็เห็นพวก #บังมาน “บ้านแขก” กับ #บังลาบ “เจริญพาศน์” กับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งบุกขึ้นมาบนรถ ลากตัวพวกกูทั้งสี่คนลงไปกระทืบมีไอ้ดำคนเดียวพกชาร์ปติดตัวจึงชักออกสู้ ทีนี้ทุกคนก็หันไปเล่นไอ้ดำจนพุงทะลุ ส่วนพวกกูฟื้นขึ้นมาก็เห็นแต่ตำรวจ สำหรับไอ้ตัวแสบอินทรีขาวอยู่โรงพยาบาลทหารเรือ (พระปิ่นเกล้าฯ)

เอ็ด หลังวัง ไม่ได้ปริปาก ได้แต่กรอกตามองหน้าอีกสี่เฟืองด้วยความรู้สึกคุกรุ่นในอกเพราะหน้าตาแต่ละองค์ล้วนเปลี่ยนรูปโฉมเดิมจนสิ้น ซ้ำยังไม่ยอมถามอาการคนที่เจ็บหนัก

“ก็ไม่คิดว่าบังมานกับบังลาบจะมารบกับพวกเราหาหอกอะไร มันไม่มีสาเหตุเลยโดยเฉพาะพวกเขารุ่นใหญ”

ไอ้เข้ วังแดง แสดงข้อกังขาในงานที่พวกตนเจอ “ยำ”

“มีโว้ย!?” เอ็ด หลังวัง หลุดคำ

ทุกคนหันไปมองเชิงถาม เขาขบกรามตัวเอง สลัดรองเท้าไปคนละทิศ ตาวาวอย่างที่ทุกคนเพิ่งพบเห็น

“มึงจำวันที่พวกเรา ฉะกับไอ้หมู พรานนก ได้ไหม?”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน?” ต้อย เทวัญ ซึ่งไ่ม่ได้ไปในวันนั้นคลางแคลง

“ไอ้หมู เป็นเด็กของบังลาบเขา” วายร้ายวังบูรพากระแทกตอบเสียงกร้าว “ส่วนบังมานก็เป็นเพื่อนกับชาติ เป๋ งานนี้จึง “เหมา” มาลงที่พวกมึง

“แสดงว่า พวกเรารบทั้งลาวทั้งเขมร หรือวะ?”

ขวัญ ศรีเมือง เฉลยอย่างมีอารมณ์ขันทั้งๆที่ผ้าก๊อสพันขาวอยู่รอบหัว

“เอาล่ะ ยุติกันแค่นี้ก่อน พวกมึงจัดหาข้าวปลากินกันหรือยังวะ? เขาเบนเรื่อง

“หุงข้าวต้มแดกกันเมื่อก่อนหน้ามึงมานี่แหละ…”

หนึ่งในกลุ่มเพื่อนซี้บอกถึงอาหารอันเสมือนบอกอาการของทุกคน

“คืนนี้กูมีนัดตอนสองทุ่ม มึงพักผ่อนรักษาตัวให้มาก เรื่องที่เกิดขึ้นกับพวกมึง กูไม่ต้องการเก่งแบบเสือลำบาก ช้าหน่อยไม่เป็นไร ถ้าคืนนี้การนัดหมายของกูแฮปปี้ อาจได้รบมันทั้งลาวทั้งเขมรอย่างที่ไอ้ขวัญมันว่าจริงๆ”

ขณะจับแท็กซี่มุ่งไปยังที่นัดหมายกับวายร้ายโบลิ่ง สมองเขาเฝ้าคิดถึงแต่เรื่องที่เพื่อนซี้เจอ “ยำ” แล้วรำพึงอยู่ผู้เดียว มีอะไรบ้างที่จะให้กลุ่มทรชนดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างสันติ แล้วก็เพราะเหตุใด ชีวิตพวกเราจึงเป็นเช่นนั้น? ทุกคนต่างล้วน “แตกลายงา” เขี้ยวโง้ง ลากดินใช้การดำรงอยู่ด้วยเล่ห์เหลี่ยม หักหาญกันและกัน คล้ายทั้งปวงต้องการต้องการความฉะฉานชำนาญลีลาบู๊, บุ๋น ดังที่เขากำลังเริ่มก้าวเข้าไปหามันกระนั้นหรือ?

สำหรับในอีกความรู้สึกหนึ่งขณะเดียวกันแต่หลังความคิดข้อแรก ในความลึกอันเงียบงำเขาคล้ายกับวายร้ายที่หัวอกกำลังร่ำไห้อยู่เงียบๆ ทุกสิ่งทุกอย่างของสิ่งที่เขาพบแค่ตัวเองหรือจากเพื่อนฝูง ดั่งว่ามันบดขยี้จนเขาสามารถกล้ำกลืนมันได้อย่างชาชิน

แล้วมาย้อนดูแม่คนเดียวของตนเองบ้างปะไร! แม่สู้นั่งตากหน้าอยู่บนโป๊ะท่าน้ำ นั่งเก็บเงินค่าโดยสาร ทั้งที่วัยควรแก่การพักผ่อนเพื่อใคร? แม้ไม่ทำก็มีกิน ถึงกระนั้นแม่ก็ยอมตรากตรำด้วยตัวเอง ถ้าแม่จ้างเขาให้นั่งโต๊ะเก็บเงิน….เขาก็ทำไม่ได้ แต่แม่ทำได้ ทำเพื่อทายาทในตระกูลอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย

บัดนี้ ข้างตนมีแต่อาวุธจะต้องพร้อมสัปยุทธ์อยู่ทุกขณะจิต เพราะระเริงเตลิดหลงมาไกลแล้ว…มันสุดทางที่สังคมคนดีเขาจะยอมรับ เขาคร้านกับการตั้งต้นท่ามกลางศัตรู จึงสลัดทุกอย่างในสมองทิ้ง ลิขิตตัวเองต่อไป ลองสิว่าโชคร้ายจะมีให้เขาเผชิญอีกมากน้อยเท่าใด

แท็กซี่หยุดความคิดและหยุดล้อสงบนิ่งตรงหลังโรงภาพยนตร์ควีนส์ เขาฉวัดสายตาเข้าไปในร้านหรดี บัง โบลิ่ง พาร่างล่ำสันใบหน้าคมเข้มรูปแบบนักเลงปาทานเดินเข้ามาหา ขณะที่เขากำลังชำระค่าโดยสาร

“เดี๋ยวโว้ยไอ้เอ็ด ต่อไปโคลีเซี่ยมยมราชเลย”

เท่านั้นสองประลัยกัลป์ตีคู่กันอยู่ท้ายรถคันเก่า มุ่งสู่ที่หมายตามที่วายร้าย โบลิ่ง บอก ย่านโคลี่เซี่ยมยุคนั้นแม้ฟู่ฟ่าสีแสง แต่ยังจัดเป็นรองปัจจุบันหลายช่วงตัว ถ้าเปรียบฝีเท้าแห่งการวิ่งของอารยธรรม บนชั้นสามของตัวอาคารสุวิทย์ภัตตาคารเขาผ่านสถานบริการและบันเทิงหลายอย่าง จนกระทั่งผ่านเข้าห้องคาสิโนที่คับคั่งดาวพนัน

“เสี่ยอยู่ไหน?” วายร้ายมักกะสันถามลิ่วล้อดูแลบ่อน

“อยู่ห้องใน” มันตอบสั้นๆ

เขาทั้งคู่หมุนร่างไปยังห้องสุดซ้ายมือ มัคคุเทศก์เคาะประตูพร้อมทั้งบิดล็อก พื้นพรมภายในห้องเจ้าของหรือผู้จัดการรองรับตีนให้ เอ็ด หลังวัง สัมผัสความนุ่มและยืดหยุ่น ภายในห้องเย็นจัด และได้รับการประดับประดารอบห้องอย่างพิถีพิถันสมบารมี เสี่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานบนเก้าอี้หนังบุนวมราคาสูงกว่าเงินกรรมกรเกินสองเดือนรวมกัน การแนะนำให้มีการรู้จักกัน ไม่มีการบอกสรรพคุณยืดยาว ชื่อเสียงของเขากระฉ่อนหูอยู่ และนัยน์ตาของคนที่พร้อมจะออกคำสั่งงานอาชญากรรมทุกประเภทย่อมไม่สั้น หนุ่มลูกจีนวัยเฉียดหลักสามเริ่มงาน

“อั๊วจะขยายบ่อน และเด็กให้ออกหาเงินฝากไว้ตามโรงแรม อยากให้รับหน้าที่คุมเกมรับผิดชอบเบี้ยเลี้ยง, เงินเดือน อาวุธพร้อม”

“ปมคนเดียวเหมาสองงาน?” เขาคลางแคลงเพราะยังคิดว่าตนไม่ใช่นารายณ์

“สองคนช่วยกันสิ ลื้อกับไอ้บังจอยงานกันเอง” สองทรชนสบตากัน

“สำหรับเรื่องเด็กๆ ของ #เก๊า_ม้าเก็ง ที่คอยรังควานขวางทางเราไอ้นี่ต้องเพิ่มงบประมาณแล้วหาเด็กๆใจถึงร่วมทีม กิจการเำเนินไปดี ลื้อสองคนมีหุ้นส่วนนอกเหนือเงิน, เบี้ยเลี้ยง อีกคนละสิบเปอร์เซ็นต์ หากพลาดจนติดคุก ไมม่ซัดทอดอั๊วรับเลี้ยงส่งเสียจนกว่าจะออกมาในด้านทางคดีอั๊วมีทนายความประจำอยู่แล้ว”

แล้วสองทรชนวัยรุ่น ก็รับทราบโครงการขยายอิทธิพลเถื่อนในรูปมาเฟียของเสี่ยสุวิทย์จนละเอียด

จอมประลัยกัลป์ดังคนละถิ่น พอจับมือกันเสนอสองงานเถื่อน กิจการจึงไปได้สวยเพียงเดือนแรกก็พาให้นักเลง #ม้าเก็งเอ๋า พี่คนโตของ #สุมาอี้ และ #เก๊าตี๋ ร้อนองค์ ไม่ต่างกับสีหราชกระทบแส้กระแสไฟฟ้า

เก๊า ม้าเก็ง เคยคิดกำจัด พัน หลังวัง กับ เอ็ด หลังวัง มาแต่ต้น เพราะมั่นใจว่าสองวัยรุ่นวัยร้ายคู่นี้อาจ “ทับทาง” ของเขาในวันหนึ่งซึ่งนักเลงม้าเก็งเอ๋าก็โล่งอกเมื่อ #เล็ก_ต่วน กระซวกอกจบชีวิตไปเสียหนึ่งราย กำลังลำพอง ก็ให้ปรากฏดาวดังขึ้นมาจนทาบรัศมีเขา เช่น #เอ็ด_หลังวัง #แดง_ไบเล่ย์ #ดำ_เอสโซ่ #ปุ_ระเบิดขวด กระทั่ง #บัง_โบลิ่ง

เขาช้าเพราะระเริงหลงกับอบายมุขปล่อยมือทิ้งงานให้บริวารและน้องๆ ดำเนินการ จึงถูกเฮียหลอ นายทุนลูกพี่ใหญ่ กพชับให้ดำเนินงานอย่างจริงจัง นั้นคือธุรกิจเถื่อน ซึ่งต้องขี่คอเหนือชั้นกันอยู่ร่ำไป หากไม่ทำเช่นนั้น ใหญ่ไม่จริง ดังไม่นาน! กิจการจะดับไปเอง

#หมี_ท่าเรือ #ด้อง_คลองเตย #สิงห์_ไผ่ตัน เป็นมือตีนอันสำคัญสำหรับ #เอ็ด_หลังวัง ไม่น้อยความรุ่งเรืองของวัยรุ่นวังบูรพาเติบกล้า เพื่อนชี้จากรั่วเฟือง #ดำ_ม้าเหล็ก อินทรีขาวผู้ถูกนักเลงปาทานย่านเจริญพาศน์กับสี่แยกบ้านแขก “ยำ” จนต้องคอยคิวไถ่เลือดก็หายเป็นปกติดี

หนี้แค้นของวัยรุ่นอดีตอินทรีขาวตัวแสบเริ่มเป็นรูปเงาของมัน เมื่อทุกองค์อยู่ครบทีมในวันอาทิตย์ของเช้าวันหนึ่ง จอมประลัยกัลป์วังบูรพาเป็นประธานในการวางแผนอยู่กลางสวนซอยวัฒนา เขาดึงสามวัยรุ่นมือดี อดีตสาวกของ พัน หลังวัง ผู้คอยเป็นการ์ดขณะนี้ เข้าร่วมกำจัดหนามตำอกครั้งนี้ด้วย

ไอ้หมี, ไอ้ต้อง, และไอ้สิงห์ ดังได้เคยกล่าวแล้วว่ามันเป็นนักเลงสลัม เฉพาะชีวิตอันถือเป็นถิ่นกำเนิด แต่เมื่อสู่ยุทธจักรนักชนเต็มสภาพ ได้พบได้เผชิญหน้าทุรชนทุกรูปแบบมากเข้า มันก็เลยกลายเป็น “เสี่ยวสลัม” นั่งเก๋งชูคอพกปืน นั่นก็เนื่องจากเป็นเด็กสลัมไมม่ใช่สวะ?!”

แสงอาทิตย์จัดจ้าขึ้นตามเวลา พร้อมเพิ่มองศาความร้อนรอบๆ ตัวอีกทั้งในใจของห้าเฟืองเป็นทวีคูณ เมื่อการวางแผนมีการโต้แย้งกันเกือบทุกขั้นตอน แม้ตอนหนึ่ง เอ็ด หลังวัง จะกล่าวอย่างมีเหตุผล

“พวกมึงต้องการรบทีเดียวทั้งสองพวกคือ ฝ่ายเจริญพาศน์ของบังลาบกับฝ่ายสี่แยกบ้านแขกของบังมานน่ะ มันไม่รัดกุมเอาเสียเลย ถ้าทั้งคู่อยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือถิ่นเดียวกันเรื่องปัญหาคงไม่มี นี่มันอยู่ห่างกันเป็นกิโล? หรือหากพวกมึงอยากให้แบ่งแยกกันเป็นทีมเข้าตะลุย คิดบ้างไหมว่าเราไม่มีกำลังอย่างทหารเป็นกองร้อยกองทัพ ยิ่งมาแยกกลุ่มกันไป กำลังยิ่งน้องลงไปอีก เหลานี้จะหาญบุกถิ่นถึงรังเขา คิดเป็นผู้ชนะได้อย่างไรวะ…? และที่สำคัญ พวกมึงเป็นนักศึกษามีอนาคตอย่าให้โทสะทำร้ายทำลายความคิด เวลาไม่ใช่มีวันนี้วันเดียว”

“แล้วเมื่อไหร่วะ ที่มันถึงจะหมดหนี้?” ขวัญ ศรีเมือง ขยับปากบ้าง คราวนี้น้ำเสียงอ่อนลง

“มันอยู่ที่ใจของพวกมึง ถ้าจะเป็นไฟ มันก็สามารถเผาผลาญได้แม้กระทั่งหลักฐาน กูไม่ท้วงเด็ดขาด อย่างน้อยที่สุด เรื่องที่ไอ้ดำเจ็บก็มาจากเรื่องของกู ใครจะเย็นเป็นพระพุทธอยู่ได้”

“ยังงั้นมึงลงมติสิวะ!?” เข้ วังแดง หลุดปากอย่างไม่มีหูรูด

“สี่โมง! เย็นนี้บุกบังมานก่อน ทุกคนพร้อมกันที่นี่”

คำตอบผสานคำสั่งเฉียบขาดกร้าว และเอาจริงพาให้ทุกคนเงียบงัน

“ใครมีเด็กของตัวเองพอควบคุมได้พาไปรอในสนามวงเวียนใหญ่ อย่าลืมหัวหน้ากลุ่มทุกคนต้องมารวมกันที่นี่ก่อนสี่โมง”

ฉากแห่งการเสวนาเรื่องราวความฉิบหายยุติลงเมื่อดาวดังวังบูรพาลุกไปคว้าเสื้อใส่ แล้วนำสามการ์ดนักเลงสลัมออกจากซอยวัฒนา เขากลับมายังที่พักของพวกโสเภณีซึ่งเสี่ยสุวิทย์ได้เช่าไว้เก็บกักผู้หญิงเป็นบ้านเรือนไม้หลังใหญ่ มีรั้วรอบขอบชิด พอให้รถที่ตัวเองนั่งมาออกไปรับเด็กๆ ที่ออกไปแต่งเล็บ, แต่งหน้าและทำผม เขาก้าวจะขึ้นตัวเรือน เสียงเด็กชายรุ่นหุ่นโก๋ รายงานทันที

“อีศรีมายดื้อ ไม่รับแขก ผิดหวังกันไปสองรายแล้ว พี่บังจับขังห้อง เอาเสื้อผ้าชุบขี้ให้มันใส่กำลังร้องลั่นที่เดียว”

เขากระโจนหรือวิ่งหรือกระโดดข้ามขั้นบันไดแบบไหนไม่มีบริวารคนใดเห็นนอกจากร่างอันปราดเปรียวกำลังทะยานลิ่วขึ้นชั้นบน อันใช้เป็นสถานที่กักขัง “ศรีมาย” คนสวยที่เขาเพิ่งซื้อมาด้วยเงินหมื่น ร่างผิวสีเม็ดมะขามผอมเกร็งของวัยรุ่นหลังวัง พุ่งไปถึงหน้าประตูที่ใช้คุมขังเด็กสาววัยรุ่นโนเนมที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องแทบผงะกระโจนหนีเมื่อเห็นหน้าลูกพี่กลับกลายเป็นพระกาฬ!

“พี่เอ็ด มีเรื่องอะไร?”

“ไขกุญแจห้อง! เร็ว” มือซ้ายคว้าคอเสื้อแมงดารุ่นกระเตาะ มือขวาก็เตรียมประเคนเต็มเหนี่ยว

“เสี่ยให้ลงโทษนะพี่” มันครางเสียงอ่อย

“กูมีวิธีที่นิ่มนวลกว่านี้ เปิด!”

ใบหน้าที่เขาสำแดงออก และขมวดคิ้วนิ่วทำให้วัยรุ่นนั่นลนลานไขกุญแจเปิดประตูตามคำสั่ง ห้องคุมขังอันว่างเปล่าสว่างเพราะลำแสงที่ลอดเข้าทางประตู สิ่งที่ เอ็ด หลังวัง สัมผัสก่อนอื่นคือกลิ่นของกากอาหาร มันเหม็นคลุ้งจนน่าสะอิดสะเอียน ร่างสาวรุ่นนางหนึ่ง ผมกระเชิงนอนคว่ำหน้าสะอึกสะอื้นตลอดเวลาคล้ายเธอรู้ว่าประตูเปิดจึงพลิกร่างกลับ เขายิ่งเห็นเด็กสาวชัดตา กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดสีเหลืองสดถูกละเลงความสกปรกของอาจมตั้งแต่หัวจรดเท้า พอเห็นหน้าเขาถนัด เด็กสาวหยุดสะอื้น ประสานตากับเขาอย่างวิงวอน

“พี่เอ็ดซื้อหนูมาทรมาน-มาม่า! หรือว่าต้องการให้ขายตัวใช้หนี้?”

สุริยัน ศักดิ์ไธสง
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลงโต
ขอขอบคุณรูปภาพสวยๆจาก : The Standard
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: