3782. เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 41 บ้านนักเลง (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 41 บ้านนักเลง (เขียนโดยสุริยัน ศักดิ์ไธสง)

และแล้ว เวลา ๓ วันแรกก็สามารถช่วยให้ผมเคลียร์ตัวเองกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไทเจ้าของคดีและเจ้าของท้องที่เกิดเหตุปล้นสถานบริการอาบ-อบ-นวดไมอามี่ได้เป็นที่เรียบร้อย โดยมีประจักษ์พยาน ๕ ปากยืนยันว่า ๑ ใน ๔ ที่ร่วมปล้นและยังจับตัวไม่ได้นั้นไม่ใช่ผม นักปล้นรายนั้นร่างสูงใหญ่กว่าผมแยะ จบไปได้อีกคดีหนึ่ง

ล่วงมาวันนี้ หลังอาหารเช้า พนักงานสอบสวน สน.พระโขนงมารับตัวไปสอบปากคำคดีปล้นร้านขายยาประเภท ก. ซึ่งไม่ทราบว่าได้บุกปล้นแต่เมื่อใด จวบใกล้เที่ยงโจทก์ผู้เสียหาย ๒ สามี ภรรยาสัญชาติไทยเชื้อสายมังกรกับสาวรุ่นเด็กรับใช้ภายในร้านก็มาถึง เจ้าหน้าที่จึงนำตำรวจนอกเครื่องแบบ ๕ นายมาร่วมเข้าแถวกับผมให้โจทก์ชี้ตัว ผลเช่นเดียวกับ สน.พญาไท

เมื่อเสร็จ เขานั่งจิ๊ปตราโล่กลับ สน.นางเลิ้ง ๒ หนุ่มโล่เขนยศชั้นประทวนซึ่งนั่งประกบมาแต่ สน.พระโขนงรู้ว่าผมมีอายัดตัวฐานประพฤติตนเป็นบุคคลอันธพาลก็คุยถึงสภาพสถานฝึกอบรบวิชาชีพลาดยาวอันเหล่าชาวยุทธ์เข้าไปสถิตว่าทุกคนทำงานไม่ต่างทาส ถึงจะได้รับการเลื่อนชั้นตั้งแต่ชั้น ๕ ไปจนถึงชั้น ๑ แต่ละชั่นใช้เวลาพิจารณาผลงาน ๖ เดือน ใครทำความผิดร้ายแรงอาจถูกตัดชั้นกักบริเวณ และขังเดี่ยว

ทั้งยังเน้นว่า ชาวยุทธ์ระดับเจ้าสำนัก เช่น เกชา เกเตอร์ วองยี ยอดกาญจน์ประตูน้ำ นิตย์ท่าเตียน จีนสะพานถ่าน นิตย์บางลำพู หาญบางรัก ตุ๊ตลาดสมเด็จ และ จ่าหาญบางลำพู ยังตากแดดลมตัวดำเป็นเหนี่ยง ดังกล่าว ผมสนใจแต่มิได้สะทกสะท้านเนื่องจากคำบอก ๒ หัวหมู่ไม่ได้กล่าวถึงบรรดาเจ้าสำนักยิ่งยงแต่ละค่ายได้เสียชีวิตลงเพราะทำงานหนักแกอิสระภาพ

พอถึง สน.นางเลิ้งเมื่อตะวันบ่าย เจ้าหน้าที่ส่ง-รับมอบตัวผมเสร็จ สิบเวรดันหลังเข้าตะรางไปพบสมาชิกวัยรุ่นทรงนักเรียน ๔ นายนั่งร่วมกลุ่มหน้าหมองอยู่ใกล้ห้องน้ำสะดุดตา แต่ไม่ทันคิดถึงเรื่องอื่น อนันต์ยืนยง รั้งแขนเข้าไปในห้องซอยบอกพอได้ยิน

“หลวงพ่อนายมาเยี่ยม นั่งคอยอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง เห็นนายยังไม่กลับท่านเลยฝากของเยี่ยมกับสิบเวรไว้”

ผมอึ้ง นึกพานฉุนเจ้าหน้าที่ สน.พระโขนงที่ดึงเอาตัวไปจนหมดโอกาสพบพระคุณเจ้า สักครู่ดาวดังภูเขาทองเห็นผมเงียบไป เพื่อนต่อคำเสียงเบาแผ่ว

“นายยังโชคดีที่มีหลวงพ่อ ส่วนเราพรุ่งนี้เขาจะส่งตัวเข้าลาดยาวแล้ว ยังไม่เคยมีใครมาเยี่ยมสักราย”

ผมขยับไปจับแขนเขา ยิ้มแก่กันแทนคำกล่าว

ล่วงถึง ๔ โมงเย็น อนันต์ ยืนยงนำเฮโรอินชนิดเกล็ดที่ยึดจากวัยรุ่นยมราชใกล้หมดออกจ่ายแจกบรรดานักเสพกลั้วคอก่อนถึงเวลาอาหารเย็นจนหมดจึงดลให้ห้องน้ำชาวตะรางวุ่นวายส่อพิรุธ ส่วน บังเซ็ม กับ เฮียกุ่ย เจ้าของรอยสักมังกร ๙ ตัวนิยมเสพฝิ่นทั้ง เซฟ ฝิ่นสุกอยู่ประมาณครึ่งตำลึง แต่ปราศจากบ้องกับตะเกียงอุปกรณ์สำคัญในงานสูบฝิ่น ได้ประยุกต์ใช้ฝิ่นสุกละลายกับน้ำเทเข้าปากคนละกรุ๊บ พลางสั่นหัวดิก หน้าเบ้

“ขมฉิบหาย” มังกรบ่น

ผมพลอยหน้าเสีย รู้สึกขมในลำคอติดหมัด นันดึงถุงพลาสติกบรรจุกัญชาที่เหลืออีกครึ่งขีดมาแกะออกแล้วขยุ้มไว้ในมือประมาณครึ่งเขียง (๖-๘ บ้อง) ก็ชะโงกไปกวักมือเรียกบรรดาวัยคะนองข้างห้องน้ำ

“ลุกมานี่หน่อยสิ”

ทั้ง ๔ หนุ่มลุกมานั่งลงเบื้องหน้า กิริยาสงบเสงี่ยม ผมลอบสังเกตหน้าตา ผิวพรรณ ตลอดไปถึงอาภรณ์ที่พวกเขาสวมใส่บอกยี่ห้อ โก๋ ชักท้อ

“ถูกจับคดีอะไร” นันถาม

วัยรุ่นผิวขาว ตัดผมทรงผมอเมริกันสวมเสื้อยืดสีทหาร ประทับอักษรภาษาอังกฤษชื่อนักปฏิวัติคิวบา ลำคอมีสร้อยเงินห้อยกางเขนไว้อันหนึ่งลนลานตอบ

“ถูกจับตอน ๙ โมงเช้าวันนี้ครับ”

นันยิ้มที่ไอ้หนุ่มดันตอบคนละงานจึงย้ำ “พี่ถามว่าพวกน้องถูกจับคดีอะไร…ไม่ได้ถามว่าถูกจับเมื่อไหร่”

“อ๋อ…” ตีหน้าปูเลี่ยนๆ “ถูกข้อหาโทรมหญิงครับพี่”

“อ้าว ไอ้หอก” บังเซ็มอุทาน

นันชักต่อ “ยังเรียนหนังสือหรือเปล่า”

“ผมกับไอ้ติ๋วไม่ได้เรียนแล้ว” โก๋แจงทั้งชี้ไปยังเพื่อนที่นั่งคู่กันด้านหลัง “ส่วนเอกับต้อยยังเรียนอยู่ครับ”

ผมแฉลบตาไปทาง ๒ วัยคะนองเบื้องหลังโก๋ก็สะดุดใจกับหนุ่มหน้ามนผิวพรรณดี แต่นั่งก้มหน้างุด

“พวกน้องข่มขืนเขาจริงหรือเปล่า” นันตามเรื่อง

๔ วัยลำพองพากันก้มหน้าหลบสายตา ทว่าเพื่อนชี้คงเดาคำถามที่ไม่มีคำตอบทะลุทำหน้าที่อัยการอีกประโยค

“ทำยังไงถึงจับได้ล่ะ”

เงียบ…ในความเงียบกลางวงสนทนาปรากฏเสียงสะอื้นดังเบาๆ จาก ๑ ใน ๒ หนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลัง ๓ เพื่อนรีบหันไปจับมือถือแขนวัยรุ่นรูปงามพากันปลอบ

“อย่าคิดมากสิ เอ”

นันสายหน้า กุ่ยทำตาหยี คิ้วขมวด บังเซ็มยิ้มเนือยๆ ส่วนตัวเองยังกังขาอากัปกิริยา นายเอ ที่พรรคพวกขานเมื่อครู่

“เคยสูบกัญชากันหรือเปล่า” นักเลงลาดยาววันพรุ่งเปลี่ยนบรรยากาศสุ้มเสียงเป็นกันเอง โก๋เสื้อยืดเขียวเงยหน้าขึ้นตอบอายๆ “แถวๆ บ้านพวกผมมีก๊วน พวกเราเคยเข้าไปบ่อยครับ”

“หยั่งงั้นเอานี่ไป สอย บุหรี่สูบแก้เซ็งซะ แต่ไม่ใช่เดี๋ยวนี้นะ ไว้ตอน ๓ ทุ่มแล้วค่อยสูบ”

จบคำเพื่อนโชว์ เนื้อ เชลยในมือ โก๋หนุ่มทำตาเหลือก ลังเลไม่กล้ารับจนบังเซ็มลุ้นอีกปากพวกจึงรับของไว้พร้อมชวนสหายกลับไปนั่งที่เดิม ๑๗ นาฬิกาตรง สิบเวรให้ผู้ต้องหาเยี่ยมญาติ บังเซ็มมีลูกชายวัย ๑๐ ขวบนำอาหารมุสลิมมาส่ง รุ่นใหญ่จึงลุกไปคุยกับลูกชาย เหลือเรา ๓ คนซึ่งไร้ญาติช่วยกันใช้ตะปูเจาะเปิดฝาผลไม้กระป๋องที่หลวงพ่อฝากมาเตรียมไว้ล้างคาวปากกระทั่งอาหารมื้อเย็นถูกลำเลียงเข้าห้อง จึงลุกไปช่วยเฮียกุ่ยเสิร์ฟอาหารราวเซียนตะราง หมดเวลาเยี่ยมญาติ เรา ๔ คนตั้งวงอาหารบนแผ่นกระดาษที่นอนเดิมบรรดาผู้ต้องหาคดีต่างๆ ซึ่งมีญาติมาเยี่ยมได้นำอาหารคาว-หวานมาให้เหมือนทุกมื้อ เฉพาะอย่างยิ่ง ๔ วัยรุ่นคดีโทรมหญิงนำอาหารปิ่นโตมาให้ทั้งเถา นันดึงแขนไว้

“เดี๋ยว…”

๓ หนุ่มมองตากัน นันหยิบเงาะกระป๋องส่งให้

“เอาไว้ เราตอบแทนน้ใจกัน”

โก๋หัวหน้ากลุ่มในสายตาผมรับไว้อย่างเกรงใจก่อนพากันไปตั้งวงอยู่ท้ายห้องแลเชื่องซึม ส่วนเรา ๔ คนลงมือกินอาหารเย็นพร้อมกันในเวลาต่อมา ตกกลางดึก ผมกำลังหลับสนิทถึงกับสะดุ้งตื่นเพราะเกิดเสียงตึงตังดังอยู่ใกล้ตัว และพอนัยน์ตาหายพร่า เห็นชาวตะรางยืนกันสลอนก็พรวดลุกขึ้นยืนจึงปะมวยไทยหลังเที่ยงคืน ระหว่างอนันต์ ยืนยงกับไอ้ทุ้ยคู่กรณีเก่าปักหลังสาวกำปั้นกีนพัลวัน ผมกวาดตาไปรอบห้อง เห็นเฮียกุ่ยวนคุมเชิง ๒ นักชกราวผู้ตัดสิน ครู่เดียวสภาพการต่อสู้เริ่มชี้ความเหนือกว่าของดาวดังวัดสระเกศทุกขบวน โดยเฉพาะเตะซ้ายต่อยซ้ายอันหนักหน่วงแม่นยำเรียกเลือดจมูกเสือเตี้ยละเลงหน้ามันเองแดงเถือก

“ไอ้นัน หยุดนะ”

สิบเวรโผล่มาตะคอกหน้าตาบูดบึ้ง แต่ไม่กล้าเสี่ยงเปิดประตูห้องควบคุมยามวิกาล แม้จะมีตำรวจประจำสถานีอีก ๓ นายวิ่งหน้าตื่นเข้าสมทบ ด้านนักมวยเสือเตี้ยเองเมื่อประจักษ์เพลงยุทธ์มวยไทยของตนเป็นรองคู่ชกหลายขุมมันเปลี่ยนแผนเป็นก้มหัวพุ่งชนทันใด

วิบตา นันฉากออกซ้ายแล้วแทงเข่าขวาดักเข้าเต็มหน้า เสียงดังพล็อก ทุ่ยหงายหลังตึง นั่งสะบัดหน้าเร่าๆ นันก้าวเข้าไปหา มือซ้ายตะปบคว้าคอเสื้อมันกระชากให้ลุกขึ้น

“โอ้ย” ทุ้ยร้องลั่น

สิ้นคำ ร่างของมันถูกเหวี่ยงหวือไปท้ายห้องชนถังขยะล้มโครม

“เฮ้ย ไอ้บ้า ทำไมไม่ห้ามมัน” สิบเวรโวยอีก

ผมชักเลือดเต้น ชมเพื่อนตามไปลากคอคู่ต่อสู้มากลางห้อง ตีนมือเกร็งไปหมด

“เปี๊ยก ห้ามนันเหอะ” บังเซ็มเตร่มากระซิบเสียงพร่า

คำบอกรุ่นใหญ่ดึงสติผมคืน จึงตัดใจปราดเข้าขวาง

“พอเถอะเพื่อน มันจะตายแล้ว”

นับว่ากุศลยังมี เขาปล่อยมือจากคอเสื้อมัน ยืนหอบหายใจฟืดฟาดระคนเสียงไขกุญแจประตูห้องควบคุม

“ไอ้นักมวย ๒ คนนั่นมายืนหน้าห้อง ส่วนใครไม่เกี่ยวนั่งลงให้หมด”

สุ้มเสียงห้าว-กร้าวไม่คุ้นหูนักจากหน้าห้องพาให้ทุกคนนั่งลง นันปฏิบัติตามคำสั่งโดยมีเฮียกุ่ยถือรองเท้าหนังกลับหุ้มข้อตามไปด้วย

“มันเรื่องอะไรกันวะ ไอ้นัน” ชายวัย ๔๐ ปีแต่งกายนอกเครื่องแบบเจ้าของคำสั่งถาม

นันยืมหอบ เฮียกุ่ยตอบแทนเสียงดังฟังชัด “ไอ้นั่นมันซ่อนกัญชาเข้ามาในรองเท้าครับ หัวหน้าห้องเขาห้ามสูบมันยังสูบ…นี่ครับ สารวัตร มันซ่อนไว้ในรองเท้านี่”

น้ำคำมังกร เก้าเล้ง ทำเอาผมหันไปมองบังเซ็มอย่างประหลาดใจกับเรื่องราวที่รุ่นพี่หาทางออกให้เพื่อนจากจำเลยเป็นโจทก์ได้ในพริบตา เสียงห้าว-กร้าวของสารวัตรสั่งการก่อนจาก

“พรุ่งนี้ให้ร้อยเวรสอบสวนดำเนินคดีฐานนำยาเสพติดเข้าไปในสถานที่หวงห้ามของทางราชการเพื่อเสพและจำหน่าย”

ลับร่างสารวัตร สิบเวรบัญชาให้ช่วยกันจัดทำความสะอาดห้องซึ่งมีเศษปฏิกูลจากถังขยะกระจายเกลื่อนสังเวียนประลองเพลงยุทธ์มวยไทยในบัดนั้น และกว่าจะเปลี่ยนสภาพสังเวียนนักชกเรียบร้อยจนสามารถนั่นนอนได้ดังเดิมเกือบตี ๔ เรา ๔ คนเลยตัดยอดใช้เวลาพักผ่อนมานั่งปรึกษาความหาคนขึ้นเป็นหัวหน้าห้องแทนอนันต์ จึงออกความเห็นให้รุ่นใหญ่รับหน้าเสื่อแทน เนื่องเพราะนักบู๊ เก้าเล้ง มะรืนนี้จะถูกส่งตัวไปขออำนาจศาลฝากขังยังเรือนจำลหุโทษ (เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ปัจจุบัน) อัน “ซือเฮีย ยกย่องเป็นคุกขุนนางเมืองสยามตามหลังดาวดังวัดสระเกศวันเดียว

พักใหญ่ สภาพภายในห้องเงียบงัน ชาวตะรางพักความเครียด เฮียกุ่ยลุกไปใช้ห้องน้ำ นันนั่งพิงซี่กรงเหล็ก ใช้ผ้าเช็ดหน้าประคบโหนกแก้มบวมเป่งไปมาผมเห็นบรรยากาศเหมาะก็ถามถึงเหตุเปิดศึกดวลกำปั้นกลางดึกเบาๆ

“เรื่องเมื่อกี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง”

เพื่อนละมือจากโหนกแก้ม “เราลุกไปเยี่ยว พอโพล่ออกจากห้องน้ำมันโดดชกเลย”

“มันคงอายที่นัน หัก มันต่อหน้าคน จึงถือจังหวะ แก้ ตอนนันจะส่งลาดยาววันนี้” บังเซ็มวิเคาระห์

“เฮียกุ่ยแก้เหตุการณ์เฉพาะหน้าเยี่ยมมาก” ผมชมลับหลัง

บังเซ็มหัวหน้าชาวตะรางนับแต่วันพรุ่งนี้ซึ่งผ่านคุกมาบ้างแล้วหัวเราะหึๆ พลางสอนน้องตามความจัดเจน “สับ คุกขุนนางว่า สถานที่นั้นไม่ใช่คุก ทั้งไม่ใช่แหล่ง “แก้ไข หรือพัฒนาคุณภาพคนแต่อย่างประการใด บังบอกคล้าย เมืองโจร วุ่นวายสกปรก ไร้ระเบียบ พวกยาเสพติดประเภทเฮโรอิน หรือ แคปซูล ชนิดเกล็ด ฝิ่น กัญชา ยากล่อมประสาท รวมไปถึงการพนันและโสเภณี (กะเทย) มีบริการเพียบ ใครที่ปรารถนายิ่งยงคับคุกต้องเป็นคนจริงมีฝีมือ ฉลาด ไหวพริบดี พร้อมยืดอกรับ “เหล็ก (มีด) ทุกเมื่อจึงจะใหญ่ได้

ถ้าขาดปัจจัยดังกล่าว แต่กระสันอยาก ใหญ่ ต้องมีเงินและใช้เงินในคุกเป็น อย่าง “เสี่ยตังปัก มิเช่นนั้นถูกปล้น ทั้งสิ้นที่บังเซ็มอรรถาทำให้อยากรู้อยากเห็นกับตายิ่งขึ้น ความพรั่นพรึงต่อ คุก อันเคยคร้ามเกรงสมัยยังป้ออย่างมีอิสระ ไม่มีอยู่ในสำนึกอีกแล้ว และคงไม่นานผมคงได้เห็นเมืองโจรในนครหลวง

สุริยัน ศักดิ์ไธสง
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: