3772. เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 31 พระผจญมาร (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 31 พระผจญมาร (เขียนโดยสุริยัน ศักดิ์ไธสง)

บ่ายแล้ว แดดอ่อนรอนแสงย่านสลัมล็อก ๑๑ ท่าเรือคลองเตย รวงรังของหมู่ด้องบัดนี้สมาชิกภายในครอบครัว มีป้าละไมมารดาเพื่อนกับ ๓ ลูกสาว ไก่, กุ้ง และก้อยก็ได้รับรู้เรื่องเมื่อคืนโดยการสารภาพจากพี่ชายของเธอหมดเปลือกเฉพาะเฮโรอีนชนิดเกล็ดจำนวน ๑๐ กิโลกรัมที่หมู่ด้องกับเกชัชสิงห์บากขอไว้ หัวหมู่ได้สั่งห้ามมารดากับน้องสาวยุ่งเด็ดขาด ของเล็กน้อยแค่นี้ปล่อยให้เด็กๆ ทั้ง ๑๑ ล็อกขายราวสัปดาห์ก็หมด

ส่วน แอ๊ดเสือเผ่น เก๊าตี๋ และผมแบ่งเงินสด ๕๐,๐๐๐ บาทใช้ ๓ ทหารกันเรียบร้อยเก๊าตี๋ได้ฉากไปก่อน ผมกับเสือเผ่นออกไปนั่งตากลมบนม้านั่งหน้าบ้านคิดใช้เงินโจรให้เกิดประโยชน์ แต่ใจกระหวัดถึงพระคุณเจ้าหลวงพ่อขึ้นมาทันใด ไม่ทราบป่านนี้ทางฝ่ายทหารแจ้งเรื่องให้ท่านทราบหรือยังว่าผมแหกรั้วสีเขียวมาพร้อมคดีอุกฉกรรจ์แล้ว

อยากเข้าธรณีสงฆ์กราบนมัสการท่าน ให้ท่านรับรู้ข้อเท็จจริงด้วยตนเองก็ไม่กล้าตัดสินใจนัก เหลือบตามองเพื่อนบ้าง เห็นจ้องตาอยู่ที่ร้านค้าน้าปรุงอันขายตั้ง ต่น้ำแข็ง เครื่องดื่ม กาแฟ เหล้า ขนมโหล ข้าวสาร กะปิ น้ำปลา พริก หอม กระเทียม ยันน้ำมันก๊าดพลางเกิดความคิด จึงปรึกษา

“แอ๊ด ตอนนี้เรามีเงินหมื่นแล้วนะออกร่อนไหนดีล่ะ”

ขุนมีดเสือเผ่นเฉียงตามอง “กำลังคิดอยู่ทีเดียวเพื่อน”

“จุดแรกไปไหน” ผมตามเรื่อง

“อยากไปเยี่ยมยาย เอาเงินไปให้ใช้สักก้อนหนึ่งแล้วก็ซื้อของไปถวายพระแดง…เปี๊ยกล่ะ คิดจะออกไปไหน ไม่ไปลองเยี่ยมหลวงพ่อบ้างหรือ”

“ไปสิ แต่ตอนเยี่ยมหลวงพ่อเราจะซื้อของฝากให้นายไปถวายนะ”

“ทำไมไม่ถวายท่านด้วยตัวเอง”

“เสี่ยง…คดีเพิ่งเกิดอาทิตย์เดียวเท่านั้น”

“หยั่งงั้นเราจัดการให้…ไปเถอะปล่อยพ่อค้าแม่ขายเขามั่วกันตามสบาย” เสือ เผ่นสรุป

ที่สุดเรา ๒ คนพากันทอดตีนโต้รังสีตะวันรอนไปบนสะพานไม้เก่าคร่ำเหนือบึงน้ำสีดำออกไปใช้บริการแท็กซี่หน้าโรงหมูทะยานเข้าใจกลางมหานครโอฬารในบัดนั้น ราว ๒๐ นาที พาหนะของเราผ่านเข้าเขตอุรุพงษ์ไปจอดตรงปากทางเข้าบ้านพักพนักงานรถไฟพอชำระค่าบริการแล้ว แต่เจ้าถิ่นไม่พาเข้าบ้านพักคนงานรถไฟกลับนำลัดเลาะไปตามทางเดินอันขนาบกับทางรถไฟสายแปดริ้วเข้าดงสลัมที่ปลูกอยู่แน่นขนัดไม่ผิดกับที่ที่เราเพิ่งจากมาท่ามกลางพรรคพวกทักทายลั่นร้านกาแฟปากทาง ซึ่งมีผู้ใช้บริการตรงระเบียง ๗-๘ นาย ส่วนใหญ่วัยรุ่น

แอ๊ดละจากร้านกาแฟขยับไปยังร้านขายลูกชิ้นปิ้งที่ตั้งอยู่บนกองเปลือกอ้อยข้างร้านกาแฟ ผมตามไปด้วยอาการสงบปกติ หญิงวัยกลางคนร่างเตี้ยอ้วนนุ่งซิ่นลาย สวมเสื้อชั้นในคอกระเช้าสีมอๆ ตัวเดียว แม่ค้าลูกชิ้นปิ้งยิ้มทักทาย

“หายหน้าไปนานเลยเที่ยวนี้”

เจ้าถิ่นยิ้มให้บอกพอได้ยิน “ถูกจับซ่องโจร”

“เอ็งมาเยี่ยมยายหรือ” นางเปลี่ยนเรื่อง

“ยายเป็นยังไงบ้าง”

“ยังพอเดินไหว แต่หยุดขายของแล้ว เก็บเงินจากค่าเช่าบ่อนกิน…ก็ห้องของเอ็งน่ะแหละ พวกไอ้แบน, ไอ้โก๊ะแล้วก็ไอ้ช่วยมันมาเช่าเล่นไฮโลกัน…ดีแล้วล่ะวันหนึ่งๆ ไม่ใช่น้อยนะ บางวันปาเข้าไปร้อยกว่าบาท ทิ้งร้างไว้ทำไม่”

จบร่ายยาวแม่ค้า เสือเผ่นยิ้มให้เช่นเคยพร้อมอุดหนุนลูกชิ้น ๓ ไม้ก็ขอตัวนำผมลัดเลาะไปบนสะพานไม้ผ่านมาบ้านเรือนสองฝั่งสะพานราว ๕๐ หลัง จึงถึงเรือนพักหลังน้อยของยายเอิบอันครอบไว้ด้วยสังกะสีเก่าๆ จนแทบไม่เห็นเนื้อไม้

“ยายจ๋า ยาย” เสือเผ่นโวยลั่นขณะผลักประตูสังกะสี

บัดดล…เสียงเห่ากรรโชกดังสนั่นสวนออกมาไล่กัน เจ้าของเสียงปรากฏโฉมสีน้ำตาลเกรียน หุ่นทรงกำยำ หูตั้ง หางชี้โด่ ปากดำมอมอชัดตา

“โอ…ไอ้หมา กูมาแล้ว” แอ๊ดทักทายมัน

พลัน ไอ้ตัวร้ายกระโจนขึ้นตะกายร้องอี๊ดอ๊าดส่ายหางจนเกรงเอวมันจะหลุดสำแดงอาการดีใจกับแอ๊ดจนได้รับบำเหน็จจากนายของมันด้วยลูกชิ้นปิ้งทั้ง ๓ ไม้นั่น

“ดูสิ หมามันยังรักคิดถึงเจ้าของ แต่เอ็งไม่คิดถึงยายไอ้หอกหัก”

ยายเอิบปรากฏร่างซูบผอมวัย ๗๐ ปี เนื่อหนังเหี่ยวย่น ผมขาวทั้งศีรษะทักประโยคแรก ผมกระทำคารวะ เสือเผ่นผวาเข้าไปทรุดลงแทบเท้าและจูบตีนเปลือนผู้เฒ่าขุนชีวิตตนเกลือกหน้าอยู่ตรงนั้น

“ไอ้หมา” ตัวร้ายเลี่ยงมาดมน่องผม คล้ายข้องจิต

“ผมคิดถึงยายทุกคืน อยากมาหาแต่มีมือกับตีนมาชาวบ้านเขาจะด่า เผอิญวันก่อนถูกหวยหลายพัน เลยเอามาให้ยายใช้ก้อนหนึ่ง” เพื่อนบอกพร้อมประคองยายเข้าบ้าน ผมเปิดโอกาสให้ยาย-หลานพบกันโดยจ่อมตัวเองอยู่หน้าบ้าน สร้างความสนิทสนมกับ ไอ้หมาของเพื่อนอยู่ราวครึ่งชั่วโมง แอ๊ดจึงกลับออกมาโดยมียายเอิบตามมาติดๆ

“ไอ้งานเซ็นมงเซ็นแมนที่เอ็งทำน่ะ มันงานอะไรเขาทำอะไรกัน” นางผู้ชราถามเรื่องที่สงสัย

เสือเผ่นสบตาสง ซิก ให้สงบปากและชี้แจงสุ้มเสียงกังวาน

“ก็งานเดินตลาด นำสินค้าของบริษัทไปเสนอขายเขาน่ะแหละยาย”

“แล้วเอ็งขายเป็น”

“ผมเป็นหัวหน้าเขาแล้วครับ” คุยคำโต

“ก็ดี ทำได้ก็ทำไป อย่าเสือกมีเรื่องให้เขาไล่ออกล่ะ” นางปราม นัยน์ตาขุนข้นมองด้านหลังหลานชายที่กำลังก้มลงผูกเชือกรองเท้า

“ผมไปละยาย วันหลังผมจะมาใหม่” เสือเผ่นล่ำลาเมื่อเสร็จกิจ

“ขอพระคุ้มครองเอ็งด้วย” นางบอกเสียงพร่า

แอ๊ดเข้าโอบกอดร่างซูบผอมจูบที่แก้มตอบโบ๋ลึก สองมือผู้เฒ่าเกาะแขนกำยำแข็งแรงของหลานชายไว้มั่น ผมรู้สึกเนื้อตัวเบาโหวงเพราะคิดไปว่าสองมือบอบบางมีแต่หนังหุ้มเนื้อของยายที่กำแขนเพื่อนไว้นั้น สื่อความหมายฝากฝังห้วงแห่งลมหายใจสุดท้ายไว้กับเขา เสือเผ่นค่อยๆ บรรจงแกะมือยายออก บดกรามตัวเองจนเป็นสันนูน ผมกระทำคารวะผู้เฒ่าขอลาไม่อาจทนดูน้ำตาคนปูนนี้

สนธยาแล้ว เรา ๒ อำลาสลัมกลางเมือง จับแท็กซี่ออกจากยมราชไปแวะซื้อของที่บางลำพูให้เพื่อนนำถวายหลวงพ่อ เช่น พัดลมให้ท่านคลายร้อน วิทยุทราซิสเตอร์ให้ท่านฟังข่าว ชาชั้นดีครึ่งโหล พร้อมบุหรี่เกล็ดทอง ๑๐ หีบ ขณะพักผ่อน รองเท้าแตะ ๒ คู่รองรับเท้าท่าน พร้อมปัจจัยค่าหนังสือพิมพ์จำนวนหนึ่งแทนท่านออกไปนั่งอ่านที่ร้านกาแฟโกเตี้ยข้างวัด

ช่วงหิ้วของพะรุงพะรังรอใช้บริการแท็กซี่ หนุ่มหนึ่ง หุ่นทรงสันทัด ใบหน้าคมคาย ตัดผมรองทรงแต่งกายมะกันเปี๊ยบ น้องชายเจ้าพ่อบ้านบาตรภูเขาทอง#อนันต์_ยืนยง ยิ้มหราเข้ามาทัก เลยเสวนากันริมวิถีครู่เดียวเสือเผ่นชวนร่วมทางไปยังวัดจำพรรษาของหลวงพ่ออีกราย

ใกล้เวลาเชิญธงชาติลงจากยอดเสา ผมนั่งกินโอเลี้ยงคอย ๒ เพื่อนนำสิ่งของทั้งหมดที่ซื้อไว้ไปถวายพระคุณเจ้าหลวงพ่ออยู่ร้านกาแฟสี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ราว ๑๐ นาที แท็กซี่คันเดิมพาหนะของเพื่อนปราดเข้าเทียบ ผมวางเงินค่าโอเลี้ยงไว้ที่โต๊ะลุกออกจากร้านไปเปิดประตูหลังพร้อมดึงประตูรถปิด โชเฟอร์เคลื่อนรถผ่านหน้าวัดตรีเทพไปข้ามสะพานวันชาติตรงดิ่งไปออกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยสู่วัดจำพรรษาอดีตวัยรุ่นชื่อดัง ไม่ถึง ๑๐ นาทีโชเฟอร์ก็เทียบรถจอดยังประตูวัด ผมผลักประตูรถเปิดออกไปรีบถุงบุหรี่พร้อมผลไม้กระป๋องจากแอ๊ดหน้ารถขณะเพื่อนจ่ายค่าบริการ นันก้าวตามพร้อมปิดประตูรถ พอเสือเผ่นจ่ายทรัพย์เสร็จโชเฟอร์เคลื่อนรถจาก นันบอกเสียงตื่น

“เฮ้ย…ดูข้างในประตูวัดนั่นสิ”

กลางลำแสงตะวันต่ำติดโค้งฟ้าสภาพฟ้าหลัวปรากฏวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า ๑๐ นายยืนกระจัดกระจายอยู่บนซีเมนต์ แต่ละครแต่งกายรัดกุม ในมือกระชับแป๊ปน้ำ, ตะพด, คมแฝก, ดิ้ว และกระบองจ้องตามาทางพวกเราเช่นกัน

“มีเรื่องแล้วว่ะ” เสือเผ่นกัดฟันบอก

“ผมแอะไม่ออกที่เห็นอยู่เต็มตาว่า ดาวระเบิดกับเสือเอสโซ่ยกพลเข้าถล่มหลวงพี่ถึงวัด นันสันนิษฐาน

“วานนี้แหลมสิงห์ยกพวกถล่มเด็กไอ้ปุ๊กับไอ้ดำบนสะพานนรรัตน์ตลาดนานาเย็นนี้พวกมันเลยยกมา #แก้ ถึงกุฏิแน่ๆว่ะ

“เข้าไปดูกัน” เสือเผ่นบอกเสียงเข้มตาจ้องเขม็งยังเหล่าวัยคะนองโนเนม

“ตำรวจนะเพื่อน ดีไม่ดีจะติดเอี่ยวกะพวกมันด้วย” สิงห์ภูเขาทองปราม

“มันยังไม่ลุยกัน ไปเหอะ”

เสือเผ่นว่าพร้อมแบ่งถุงไปช่วยถือ แล้วนำผ่านประตูวัดเข้าไปด้วยอาการปกติ แต่ฝ่ายตรงข้ามเกิดปฏิกิริยาขยับมารวมกันยืนขวางทาง ส่อเค้าเอาจริงจากสีหน้าแต่ละคน

“พวกพี่จะไปไหนครับ” วัยรุ่นร่างใหญ่สวมเสื้อยืดสีขี้ม้าสวมกางเกงฟาติกสีเดียวกัน ล้ำหน้าออกมาถาม

“เอาของไปถวายพระ” เสือเผ่นว่า

“พระชื่ออะไรครับ”

“พระแดง!”

สิ้นคำเพื่อนเดนทหารเหมือนผมทำท่ายกมือยันไว้ “พวกผมกำลังมีเรื่องคุยกับพระแดงอยู่ อย่าเข้าไปเลยพี่ เผลอๆอาจเจอลูกหลง”

“ช่างมัน” เสือเผ่นคำรามทั้งยังก้าวนำ

ตรงนี้ครับ ที่ผมคิดว่าเพื่อน วัดใจ ด้วยไม่ยอมหันมาสบตาส่งซิก แต่ผมก็ส่งเพื่อนด้วยการเดินขนาบเพื่อน มือขวาปลดกระดุมเสื้อออกพร้อมใช้ นิ้วคู่ชีพ

ทหารครึ่งท่อนถอยไปยืนเกือบติดกลุ่มพวกขยับแป๊ปในมือปักสองขาเตรียมชน บัดดล เสียงปืนแผดสนั่นขึ้น ๒-๓ นัด กลุ่มนักบู๊ที่ประจันหน้ากับพวกเราอยู่สะดุ้งโหยง หัวหน้าทีมชุดเขียวหันกลับไปสั่งพวกพ้อง

“ไปที่นั่น…เร็ว”

ผฝยืนกัดฟันกำมือตัวเอง ทันใดเสียงตะโกน โหวกเหวกโวยระคนเสียงวิ่งเสียงวัตถุกระทบกันดังสนั่นธรณีสงฆ์ ภิกษุสามเณรตลอดจนศิษย์วัดแตกตื่นเปิดหน้าต่างชมเหตุสลอน บริเวณถนนสายกลางของวัดปรากฏนักบู๊ไล่ล่าออกมาดวลกันแล้ว ผมพยายามเขม้นตามองหา #พระ กลางกลุ่มมารแต่รางเลือนสับสน เสียงปืนดังสะท้านธรณีสงฆ์อีก ๒ นักซ้อน เสียงแหกปากบอกกันเร้าหู

“มันปีนกำแพงออกด้านหน้าแล้วเร็ว”

กลุ่มนักบู๊เฮโลกันสับตีนมาทางพวกเราหมายออกประตู จนได้ระยะใกล้เห็นชัดเจนตรงประตูวัดหัวหน้าทีมซึ่งกระชับมีด #สปาต้า เปลือยฝักขาววะวับหยุดกึก เป็นผลให้ทั้งขบวนเบรกกะทันหัน

“หวัดดีปุ๊” เสือเผ่นทักทายก่อน

ดาวระเบิดมองถุงบรรจุข้าวของในมือของพวกเรา ทั้งยังปรายตามาทางผม

“พวกนายเอาของมาถวายพระ”

“ใช่” เสือเผ่นรับคำสั้นๆ

ปุ๊ระเบิดขวด ยิ้มหยัน หน้าเหี้ยมพลางใช้มือซ้ายปาดเช็ดบริเวณท้ายทอยแล้วยื่นให้ดู

“นี่เลือดใช่ไหม ขอให้พวกนายเป็นพยานด้วยว่าพระยิงเรา…ไปก่อนละเพื่อน”

จบคำ เขาวิ่งนำบริวารออกประตูทันที เรา ๓ คนยืนเซ่ออยู่สักครู่ก็รีบเผ่นออกจากวัดจับแท็กซี่ร่อนไปตั้งหลักอยู่ร้าน #รุ่งเรืองโภชนา ซอกทางเข้าโรงภาพยนตร์ควีนจนหายเพลียและอิ่มกระเพาะ ไม่พบดาราดังเตร่มาให้เห็นโฉมสักนามจึงบอก ๒ เพื่อน

“ยังหัวค่ำอยู่ แต่ไม่เห็นมีใครโผล่มาเลย แปลกว่ะ”

“หยั่งงั้นกลับดีกว่า เราชักรู้สึก #สี ไม่ดีเหมือนกัน” แอ๊ดว่า

ผมหันไปทางสิงห์ภูเขาทอง “นันจะไปไหนต่อล่ะเพื่อน”

“ตามไอ้ เปี๊ยกเทวราชขุนตลาดวางแผนปล้นอาบ อบ นวดไมอามี่ ยังขาดปืนอีก ๒ กระบอก”

“ขอให้สำเร็จด้วยดีนะเพื่อน” ผมถือโอกาสอวยชัย

ฟ้ามืดสนิท #อนันต์_ยืนยง จากไปตามทิศทางของตน ผมกับแอ๊ดนั่งแท็กซี่กลับคลองเตย ตามองถุงใส่บุหรี่กับผลไม้กระป๋องข้างกายเงียบกริบ

“แอ๊ด” ผมขานนามเพื่อน

“หือ”

“หลวงพ่อสั่งอะไรมาบ้าง”

เสือเผ่นเหลือบตามองโชเฟอร์พลางชะโงกบอกเบากริบ

“ถามว่านายฆ่าครูฝึกจริงหรือเปล่า เราบอกว่าเปล่า”

“แล้วอะไรอีก”

“ให้กลับไปมอบตัวสู้คดี”

ผมสะอึก ความรู้สึกไม่พร้อมขึ้นศาลกลาโหมขณะนี้ยังมีอยู่ จึงขอเป็นนักแสดงบนเวทีสุดแต่บทบาทที่สวรรค์หรือนรกบัญชากว่าจะสุดสายปาน

สุริยัน ศักดิ์ไธสง
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: