3755. เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 14 อำนาจเงิน (สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

เส้นทางมาเฟีย ตอนที่ 14 อำนาจเงิน (เขียนโดย สุริยัน ศักดิ์ไธสง)

“ฟ้าดินเกรงท่านกระหาย จึงให้น้ำแก่ท่านดื่ม เกรงท่านหิวโหย จึงให้พืชพันธุ์ธัญญาหารแก่ท่านรับประทาน เกรงท่านหนาวจึงให้ฝ้ายให้แพรพรรณแก่ท่านป้องกันความหนาว…ฟ้าดินทุ่มเทแก่ท่านมากมายถึงปานนี้ ท่านกระทำเรื่องราวใดแก่ฟ้าดินบ้าง?”

ดังกล่าว แม้เป็นวาจาชาวยุทธ์ในตงง้วน กระนั้นยังแผ่นดินสยามเมืองกวีเอกสุทรภู่ภายใน ร.พ. ที่ผมนอนป่วยด้วยไข้ปืนก็กำลังเฝ้าถามใจตน เมื่อรับรู้คำบอก คำชี้แจงจากสหายร่วมทางที่ผลัดเปลี่ยนกับไปเฝ้ามิให้ถูก “กัด” ตอบจากพลพรรคของเสือรุณ หรือศัตรูของผู้ใหญ่เต๊กอันอาจมี

ดังนั้นตลอด ๒ สัปดาห์ที่นอนบแบ่บอยู่ ร.พ. ผมจึงเอาแต่ลำดับเรื่องราวเพื่อนแต่ละนามมาวิเคราะห์ ก็เข้าล็อกที่เคยวาดไว้ว่ามังกรเมืองใต้จะต้อง “รับสมัคร” เอาสุมาอี้, ปุ๊ และดำเข้าร่วมทีมได้เป็นความจริงหลังผมป่วย ๓-๔ วัน โดยให้ทั้ง ๓ วันคะนองควบคุมรถสองแถวเล็กจำนวนเกือบครึ่งร้อยแทนสมุนแขนขวา แอ๊ด ตะกั่วป่า ผู้ควบคุมอยู่เดิม

งานนี้ดาวดังไบเล่ย์ผู้นำข่าวมาบอกสรุปคำบอกผู้ใหญ่เต๊กด้วยเหตุผลไม่ยาวคงาม

“เพื่อให้การทำงานเข้มข้นขึ้น”

และพอรับงานได้ ๒ วัน เริง สวนมะลิ บอกเหตุร้ายเรื่องสุมาอี้ใช้ปืนตบหน้า เฮียแกะ หรือ แกะ ท่าศาลา ชาวยุทธ์รุ่นใหญ่แขนขวาของเสี่ยเหวียนเจ้าของคิวรถสองแถวซึ่งกำลังถูก “สายสืบ” สถ.อ.เมืองระยองประกบตัวคดีจ้างวานฆ่า เชียร รถถัง และผู้ใหญ่เต๊กอยู่ขณะนี้นั่นเอง

ถึงสัปดาห์ที่ ๒ ผมชักเริ่มสัมผัสเภทภัยความเดือนร้อน ความวุ่นที่อาจมีขึ้นโดยส่วนรวม เพราะสุมาอี้เกณฑ์สมุมรู้งานรู้มือจากอุดรฯ มาเสริมทีมงาน ๔-๕ คน พร้อมข่าวการปรับปรุงตกแต่งบ่อนกับค็อกเทลเลานจ์ใกล้แล้วเสร็จ

จนปลายสัปดาห์ที่ ๒ ผมถูกตำรวจสอบสวนปากคำกับมีข่าวน่ายินดีจากปาก ดำ เอสโซ่ ว่า ๒ สาวเงาะกับอ้อยตกลงปลงใจร่วมเตียงสู้ชีวิตกับ ๒ ดาราดังแม้นศรีเริงกับพลเรียบร้อยแล้ว เลยพลอยโล่งใจกับปัญหาหญิง

พอล่วงไปถึงสัปดาห์ที่ ๓ ข่าวซึ่งไม่ค่อยดีนักหล่นจากปากกุมารจีน #ม้าเก็งเอ๋า_เก๊าตี๋ เรื่องแดง, ปุ๊, ดำ, พล และเริงระดมพลพรรคที่กรุงเทพฯ เสริมบารมีตนแล้วจึงเป็นอันว่าถ้วนหน้าต่างเสริมฐานะตนยิ่งขึ้น จนบัดนี้ได้มีการสับเปลี่ยนโยกย้ายที่อยู่อาศัยแยกกลุ่มกันตามอัธยาศัย

ส่วนแหล่งซุกชีวิตของผมเดิมที่บ้านฉาง แดงได้ให้เด็กขนที่หลับนอนพร้อมปลากัดหม้อโยกไปอยู่ยังบ้านเช่าครึ่งตึกครึ่งไม้หลังใหญ่ ตรงข้ามอพาร์ตเมนต์หรือบ่อนและเล้าของพวกเรา แล้วยกรวงรังเดิมให้เป็น “รังรัก” ของพลกับเริง
๒ กุมารจีน สุมาอี้ กับ เก๊าตี๋ อยู่บ้านเช่า ต.ชากลูกหญ้า ดำ เอสโซ่ และ ปุ๊ ระเบิดขวด พำนักอยู่บ้านผู้ใหญ่เต๊ก

เหล่านี้ ผมเห็นด้วยที่ต่างคนต่างหาที่อยู่เป็นสัดส่วน เพราะสามารถตัดปัญหากระทบกระทั่งกันเรื่องจุกจิกภายในบ้านได้ แต่เมื่อทอดความคิดไปถึง “งาน” ที่มังกรใต้มอบหมายให้ดูแลอย่างลึงซึ้งก็มองเห็นเหตุอันอาจเกิดทั้งผลดีผลเสียทั้งแก่พวกเราและนายทุน

ยกตัวอย่างจากงานชิ้นแรก คือบ่อนเถื่อนซึ่งกำหนดให้แดงกับเก๊าตี๋คุมเกมนั้นจะเห็นได้ว่า มันขัดกันอยู่เพราะงานนี้เก๊าตี๋เดินเรื่องผู้เดียวตลอด จึงควรเพื่อนจะเป็นผู้บริหารเบ็ดเสร็จ มังกรอาวุโสกลับเอาดาวดังไบเล่ย์เข้าไปประกบและปล่อยให้ “บี้” กันในเชิงเช่นนั้น ลองตรองดูด้วบจิตประสาชาวบ้านเถอะครับ อะไรจะเกิด?

ในระยะแรกๆ อาจอาศัยความที่เราต่างบุกเบิกร่วมกันมาให้ความเกรงใจในกันและกัน แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เจ้าพ่อเจ้าแม่มักมองข้ามเหตุก็คือ “เด็ก” ในสังกัดที่ดึงกันมาคุมบ่อน เพราะบรรดาชาวยุทธ์ดังกล่าวต่างศรัทธาในตัวลูกพี่หรือผู้นำคนเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เด็กของเก๊าตี๋และของแดงจะสามารถจับมือประสานใจกันได้หรือ

กรณี “ถ้ำ” เดียวสถิตเสือเพศผู้ร่วมอาศัย ๒ ตัว และถ้าจะให้เดาใจกันสืบไป ระหว่าง ๒ เพื่อนแล้ว เก๊าตี๋ย่อมขุ่นเคืองคิดมากอย่างเก็บกด ส่วนกับแดงผมมั่นใจว่าเขาต้องรู้สึกคลางแคลงในเรื่องนี้อย่างสูงเนื่องจากเพื่อนกับผมลุยงานหาเด็ก(หญิง)มานั่งเล้ากับมือ แต่เมื่อถึงทีจริงนายทุนกลับส่งไปทำบ่อน ชนิดคนละงานและคนละเรื่องทีเดียว

สำหรับผม รับหน้าเสื่อเป็นที่ปรึกษาทั้งบ่อนและเล้า (ไม่มีอำนาจในมือคล้าย ผบ. สูงสุด) ยิ่งยงน่าดูก็แอะไม่ออกเหมือนกัน ด้วยทั้งบุญทั้งคุณอุดปากเสียสนิท

๒ ดาราแม้นศรีจึงรับงาน “เล้า” ไปดำเนินการ หันไปทางด้านคิวรถสองแถว ซึ่งผู้ใหญ่เต๊กให้อี้, ดำ และปุ๊ดำเนินการคงดุจเดียวกัน เพราะกุมารจีนอย่างอี้แรงไม่ผิดเก๊า ม้าเก็ง ผู้พี่ชาย จะเห็นได้จากการโชว์ฟอร์มใช้ปืนตบหน้าเฮียแกะ ชาวยุทธ์รุ่นใหญ่หัวหน้าคิวรถสองแถวหน้าสนามบินอย่างอาจหาญ

แม้จะรู้ว่าผลจากที่ประพฤตินั่นชี้ความตายอยู่แค่นิ้วที่เหนี่ยวไกปืน สุมาอี้กลับตัดใจทำ ซึ่งหากผมเดาไม่พลาดอี้ใช้กระบี่เดียวสยบมารทางจิตวิทยา คือปุ๊กับดำปูฟอร์มดับเสือรุณไว้สวยแล้ว อี้จึงอาศัยจังหวะตบลูกที่ใส่พานถวายจากเพื่อนเข้าประตูไปง่ายดาย เท็จจริงประการใด อยาคตบอกผมได้

ครบ ๓ สัปดาห์ ผมติดต่อแพทย์ขอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ซึ่งก่อนอนุญาตพนักงานสอบสวนรุดมาสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยานประจักษ์คดีพยายามฆ่าผู้ใหญ่เต๊กเจาะหาตัวผู้บงการแทนมือสังหารที่ดับไปตามวัฏจักร

ตกบ่ายจัดคำสั่งแพทย์อนุมัติ เพื่อนพ้องนำรถมารับเป็นขบวนพลอยให้ปลื้ม กระทั่งถึงที่พักฝั่งตรงข้ามกับอพาร์ตเมนต์หรือที่ขึ้นป้าย “บลูมูน ค็อกเทลเลาจ์” ในที่สุด

ฟ้ามืดแล้ว…ผมออกจากห้องพักชั้นบน เดินหลังงอจากพิษไข้ปืนลงบันไดไปเดินยืดเส้นยืดสายเพราะนอนติดเตียงมาตลอด ๒๐ วันที่โรงพยาบาล กับสำรวจอาณาเขตที่พักพบวัยคะนองแต่งกายรัดกุมแลสุภาพปราดเข้าประคองจึงยกมือปราม
“เราจะลองเดินดู…ขอบใจมากตั้ว”

เจ้าของหุ่นปราดเปรียว ใบหน้าสี่เหลี่ยม ผิวคล้ำตัดผมทรงลายบิน ยิ้มให้พร้อมเดินเป็นเพื่อนออกไปหน้าบ้าน พบสาวงาม ๒๔ นางที่นำมาจากกรุงเทพฯนั่งอยู่บนเก้าอี้ และบนเสื่อที่สนามหญ้าจึงทักทายและอยู่พูดคุยด้วยพักหนึ่ง จึงขอตัวอ้อมไปหลังบ้าน ซึ่งผมมองจากหน้าต่างห้องนอนเมื่อครู่เห็นช่างไม้เปิดไฟฟ้าสว่างโร่ทำงานปลูกสร้างที่พักห้องแถวไม้ชั้นเดียวไม่ต่ำกว่า ๒๐ ห้องอยู่

พอขยับเข้าไปใกล้ถึงสถานที่ก่อสร้าง ตั้ว ดาลิ่ง เด็กของแดงบอกโดยไม่ต้องถาม

“ผู้ใหญ่สร้างให้พวกผู้หญิงทำงานพักครับพี่”

ผมผงกหัวรับทราบ และคิดถึงงบฯ เงินที่มังกรเมืองใต้โถมทุ่มไปในการนี้แล้วไม่ต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท(เงินบาทยุคหลังจอมพล ป. ที่ไม่ใช่…เปรม) อดพรั่นวิมานพังไม่ได้ จึงลองไต่ถามวัยคะนองข้างกายถึงบ้านนี้ทั้งหลังว่าเช่าให้ใครอยู่บ้าง คงไม่ใช่ให้ผมกับแดงอยู่กัน ๒ คนแน่ ซึ่งเขาก็แจงว่า สำหรับชั้นล่างซึ่งกั้นห้องแบ่งเป็น ๑๐ ห้องนั้นเป็นที่อาศัยฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเก๊าตี๋กับแดงลูกพี่ตนด้วย

เมื่อผินหน้ามองไปฝั่งตรงข้ามยังอาคารที่ติดป้าย “บลูมูน ค็อกเทลเลานจ์” วัยคะนองฉายเรื่องกาสิโนต่อราวรู้ใจ

“บ่อนของเราใกล้เสร็จแล้วละพี่ เห็นพี่แดงบอกว่าจะเปิดต้นเดือน ก.ค. พร้อมกับค็อกเทลเลานจ์ ตอนนี้ช่างลุยงาน ๒ ผลัดทั้งกลางคืนกลางวัน”

“ดี…จะได้มีงานทำเสียที” ผมว่าตามน้ำ

“แต่มีเรื่องที่พี่แดงไม่สบายใจอยู่นะพี่”

วาจานั่นดลให้กระตุกสายตากลับผินหน้าไปทางคู่สนทนารุ่นน้อง ถามทันที

“ไม่สบายใจเรื่องอะไร”

“อ้าว…” ตั้วตีหน้าเหรอ “พี่แดงไม่ได้บอกพี่หรือ”

“เรื่องอะไร” ผมจี้ลูกเดียว

“เรื่องเฮียเก๊าเสนอให้ผู้ใหญ่เต๊กเอาเฮียอี้มาคุมค็อกเทลเลานจ์ครับ”

“เฮ้ย…” ผมออกโขนเพราะลืมตัว

“จริงๆ ครับ”

“แล้วพลกับเริงทำอะไร”

“เป็นผู้ช่วยเฮียอี้”

“๒ คนนั่นโวยหรือเปล่า”

“เฉยครับ”

“แดงละ…”

“พี่แดงขอให้ผู้ใหญ่เต๊กเปิดประชุมพร้อมกันตอนพี่ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ”

คำบอกวัยคะนอง ตั้ว ดาลิ่ง หมดเรื่องที่ผมควรรู้อีกแล้ว จึงเดินหลังงุ้มเอวคดกลับขึ้นพักผ่อนดังเดิม ราว ๒ ทุ่มครึ่ง เจ๊เพ็ญกับม้วย “ไก่” ๒ เซียนพนันหญิงคนสวยรุ่นพี่อันเก๊าตี๋ดึงตัวมาช่วยงานบ่อนได้มาเยี่ยมถึงห้องพร้อมข้าวต้มกุ้งร้อนๆ ควันกรุ่นหอมฉุยเตะปากจนท้องรวน

“อาการดีขึ้นและนะ เปี๊ยก” เจ๊เพ็ญ วัย ๒๕ ปี สาวผมแดงทักถาม

“ครับ…ขอบคุณพี่ ๒ คนมากครับ”

“ไม่เป็นไร เปี๊ยก” ม้วย “ไก่” สาวสวยเซียนโป๊กเกอร์และสารพัดไพ่ว่าและเสริม “เมื่อครู่นี้เก๊าตี๋โทร. มานัดประชุมพวกๆ เปี๊ยกที่นี่ด่วน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ผมฉุกใจแวบก่อนตอบ “พี่ก็รู้ว่าผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาลตอนบ่ายนี้เอง”

“ถ้าหยั้งงั้น เดี๋ยวคงจะมากันหรอก เปี๊ยกกินข้าวเสียนะ กำลังร้อนๆ พวกพี่ขอตัวก่อนละ”

“ขอบคุณครับ” ผมส่งแขก

ลับร่าง ๒ สาว ผมนั่งชดข้าวต้มกุ้งบำรุงกระเพาะท่ามกลางความว้าวุ่นทางความคิดกับสิ่งที่เก๊าตี๋ก่อขึ้นด้วยอารมณ์เดือดพล่านจนอาหารหมดรส และอิ่มโดยปริยาย

๒๑.๓๐ น. มิตรสหายอันมี แดง ไบเล่ย์ สุมาอี้ ดำ เอสโซ เก๊าตี๋ ปุ๊ ระเบิดขวด พล ตรอกทวาย เริง สวนมะลิ และผม พร้อม ๒ นายทุนใหญ่ รองฯคมกับผู้ใหญ่เต๊ก มาพบกันพร้อมหน้าจึงใช้ห้องโถงชั้นบนเป็นที่ปรึกษาความกลางบรรยากาศทางสีหน้าแต่ละคนเครียดขรึม ผู้อาวุโสสุด ได้แก่ ท่านรองฯ คมกล่าวนำต่อหน้าทุกคน

“ผมได้รับคำปรึกษาจากผู้ใหญ่เต๊กว่าจะมีการสับเปลี่ยนหน้าที่กัน โดยให้อี้ซึ่งจัดเจนกับงานบาร์งานค็อกเทลเลานจ์ไปเป็นผู้ควบคุมการทำงานและให้เริงกับพลเป็นผู้ช่วย ทว่าเรายังไม่ทันลงความเห็นกันก็เกิดข่าวไม่สู้ดีเพราะมีหลายคนไม่เห็นด้วย ผมจึงตกลงนัดพบเป็นการด่วน เพื่อขอฟังความเห็นจากทุกฝ่าย บัดนี้ทุกคนมาพร้อมหน้ากันแล้ว ผมขอทราบความเห็นด้วยครับว่า อี้ไม่เหมาะสมอย่างไร”

สิ้นคำแดงชี้แจงสุ้มเสียงปกติ ไม่ยาวความนัก “ที่ผมไม่เห็นด้วยไม่ใช่เหตุไม่เหมาะสมกับงานนะครับ ผมมองในด้านความเป็นธรรมครับ อันนี้ทุกคนคงรู้ได้แก่ใจ ใครทำงานอย่างไรทุ่มเทแค่ไหนกับงานนั้น ผมจึงขอให้คิดกันยาวๆ เพราะมันหมายถึง “น้ำใจ” คนทำงานโดยเฉพาะกับพวกผมซึ่งเป็นเพื่อนกัน”

จบถ้อยแถลง ภายในห้องเงียบกริบไปอึดใจรองฯ คมเบนสายตามาทางผม

“เปี๊ยกล่ะ รู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม”

“ครับ เพิ่งทราบตอนนี้”

“แล้วมีความเห็นอย่างไร” มังกรเมืองใต้ถามทันที

“ผมมีทั้งความเห็น และทั้งข้อแก้ไขครับ ซึ่งทั้งหมดจะตกลงได้หรือไม่อยู่ที่ผู้ใหญ่คนเดียว”

“บอกมาเลย”

“ผู้ใหญ่พอทราบใช่ไหมครับว่าอี้มีความซำซองจัดเจนเรื่องบาร์” ผมย้อน

“ครับ…ผมรู้ว่าเขามีประสบการณ์มาก”

ผมตวัดตาไปมอง ๒ พี่น้องม้าเก็งเอ๋าวับเดียวจึงหันไปชี้แจง

“ความเห็นของผมเหมือนกับที่แดงบอกครับ ส่วนเรื่องแก้ไขให้อี้ได้ทำงานโชว์ฝีมือนั้น “บลูมูน” นี่ควรให้อี้เป็นที่ปรึกษาและเพื่อให้อี้กับเก๊าตี๋ไม่เสียเพื่อนเพราะเรื่องนี้ อี้ควรเป็นผู้จัดการ “สโนไวท์อะโกโก้” ของผู้ใหญ่เสียเองทุกอย่างก็จบ…นี่เป็นความเห็นของผมคนเดียวนะครับ กรุณาขอความเห็นจากทุกคนด้วยครับ”

ผมทิ้งคำไว้แค่นั้น พร้อมลอบ “เรดาร์” สีหน้าอิริยาบถมังกรอาวุโส กลับไม่ปรากฏสิ่งผิดปกติ ทั้งยังหันไปถามดำกับปุ๊ขอความเห็น ดาวระเบิดกลับเปิดคำทำลายบรรยากาศให้เขม็งตึงจนขาดไม่ถึง

“เรื่องนี้เก๊าตี๋ไม่น่าหวือหวาหนุนอี้”

“ปุ๊…เรานะที่เอานายมา” เก๊าตี๋ขวางพร้อมทวงคุณ

“อ้าว เราแสดงความเห็นนะเพื่อน” ปุ๊โต้

ผู้ใหญ่เต๊กตัดบทผาง “เอาละ ตกลงเป็นอันว่าอี้ต้องไปช่วยงานผมที่สโนไวท์ก็แล้วกัน ลืมไป เห็นอันไหนดีเห็นควรปรับปรุงคุณบอกผมเลย” สิ้นเสียงผู้ใหญ่เต๊ก เก๊าตี๋ลุกพรวดเดินลงบันไดโดยไม่ล่ำลาใครทั้งสิ้น ทุกคนหันขวับไปทางอี้ เขากล่าวระคมยิ้ม
“ตกลงผมจะร่วมงานบาร์กับผู้ใหญ่และต้องขออภัยท่านรองฯ ด้วยที่น้องชายผมแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว เพื่อนๆ ทุกคนด้วยนะเรื่องขอให้จบอย่างที่เปี๊ยกบอก…ผมขอตัวครับ”

“เก๊าตี๋จากไปบ่งอารมณ์ฉุนจัด สุมาอี้จากไปเหมือนไฟที่ห่มด้วยหิมะ”

ดังกล่าว ห้องโถงที่ประชุมที่ยังมีคนอยู่ ๘ ชีวิตจึงมีความรู้สึกไม่ผิดกับนั่งอยู่หน้าเมรุยามดึกในวัดร้าง สักครู่ ๒ นายทุนลาจากพร้อมดำกับปุ๊ เหลือเรา ๔ คนนั่งยังที่เดิม โดยไม่กล่าวกระไรดุจเดิม ผมทนนั่งอึดอัดโดยไม่พูดกันสักคำไม่ไหวเอ่ยปากขอบุหรี่พลจุดสูบ มือขวาลูบไล้รอยแผลกระสุนปืนศัตรู ปันใจให้สู่สภาวะปกติ อีกครู่หนึ่งจึงกล่าวลอยๆ

“พวกเรากำลัง “รบ” กะใครกันแน่”

ไม่มีคำตอบจากดาวดังหน้าไหนถึงคนที่เราจะรบด้วย นอกจากค่อยๆทยอยกันทิ้งผมให้นั่งคลำแผลปืนถามฟ้าว่า เรื่องราวนี้ฟ้าลิขิตหรือผลประโยชน์บนเส้นทางมาเฟียกำหนดกันแน่ว่ะ”

สุริยัน ศักดิ์ไธสง
แอพเกจิ แอพรวมเรื่องราวประสบการณ์จริง เกี่ยวกับ พุทธคุณ ไสยศาสตร์ วิชาอาคม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: