3752. อิทธิฤทธิ์ว่านดอกบานเย็นขาว (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อิทธิฤทธิ์ว่านดอกบานเย็นขาว

มีผู้อ่านหลายท่านเขียนชื่อยาวเป็นหางว่าวมาถึงข้าพเจ้าเพื่อขอสิ่งของเครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันตัว โดยพวกท่านบอกว่ากำลังจะเดินทางไปต่อสู้กับอริราชในไม่ช้านี้ หัวหน้านำในจดหมายมี พ.ต.สาโรช เก่งระดมยิง ร.ต.เสกสรร สุทธิวงศ์ ส.อ.เพี้ยน คงคารัตน์ ส.อ.ประสงค์ ชัยนาม พลทหารหิรัญ แสงอาทิตย์ พลทหารบุญเกิด มงคลสิน ล้วนแต่เป็นทหารของชาติ

อยากจะรู้ถึงอิทธิฤทธิ์ของว่านดอกบานเย็นขาว โดยท่านที่กล่าวนามมาได้เห็นทหารอยู่ในกรมเดียวกันกับท่านใช้อยู่ประจำ ท่านไปถามก็ไม่ได้รับความรู้เพราะเขาหวงวิชา

ข้าพเจ้าผู้เขียนพลอยดีใจที่ช่วยที่พวกท่านต้องการเครื่องรางของขลัง ผู้เขียนประสบมาพอจะบอกให้วิธีเเนะนำแก่ผู้อ่านได้ แต่ข้าพเจ้าผู้เขียนไม่อาจนำเรื่องอิทธิฤทธิ์ลงไปปะปนกับเรื่องบันทึกอาชญากรหมายเลข 1 ได้ เพราะในนิตยาสารภัยต้องการลงเอาแต่เนื้อเรื่องรวบรัดให้ผู้อ่านรู้เรื่องเร็วขึ้นจะมัวไปลงในเรื่องอิทธิฤทธิ์ของเครื่องรางของขลังนั้นไม่ได้ ขอให้ท่านติดตามนิตยสารมหัศจรรย์เป็นการสบายกับผู้เขียนและสะดวกกับผู้อ่าน

หัวดอกบานเย็นนั้นเป็นดอกไม้ที่มีฤทธิ์ที่หัว ดังจะเห็นได้จากมีชื่อคำของพวกผัก ผัก 1ผักตวาดหมาได้กับผักกระเฉด ผักที่2 คัดท้ายเรือมาได้กับผักกูด ผัก1มีอำนาจได้กับผักตบ ผัก1คนกลัวได้กับผักเสี้ยนผี ผัก1คนกลัวดอกได้กับผักเบี้ย ผักที่มีอิทธิฤทธิ์คงเนื้อคงหนังได้กับดอกบานเย็นขาว

ลักษณะของดอกบานเย็นขาวมีจีบ 5 จีบ ทั้งมีเม็ดออกมาอยู่กลางดอก ถ้าเม็ดสีดำมันเลื่อมดอกไม้เหี่ยวเม็ดที่ดอกตกลงมาที่ใต้ต้นนั้นละครับว่านดอกบานเย็นขาว แก่ใช้ได้แล้วดอกบานเย็นมี 7 สีมีตั้งแต่สีวันอาทิตย์ถึงวันเสาร์ที่ใช้ได้เป็นเครื่องคงกระพันชาตรีมีสีเดียวคือสีขาวลักษณะขึ้นต้นเดียวรูปลักษณ์ใบคล้ายใบโพธิ์แต่เดี๋ยวยาวกว่าและเล็กกว่า ลักษณะดอกเหมือนดอกปีบ เมื่อต้นดอกบานเย็นแก่ให้ใบเหี่ยวเฉายืนต้น ให้ท่านขุดเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินแล้วได้หัวมาแล้วเก็บรักษาไว้

เมื่อเวลาจะเขาจะบวชพระระหว่างที่พระยังเป็นนาคอยู่ให้ท่านนำมาใส่บาตรที่พระใหม่กำลังอุปสมบทใส่แล้วให้ท่านติดตามดูจนมีคนสะพายเข้าโบสถ์มีอุปฌาจารย์คู่สวดซ้ายขวาทำพิธีบวชนาคองค์พระเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านเอาหัวว่านนั้นออกมาเก็บไว้เวลาท่านจะกินให้เสกดังนี้

”ขออธิฐานดอกไม้บุปผชาติที่ทรงศีล จุติธรนัง ปะระมังจุติ เกิดมาคุ้มครองข้าพเจ้า คงเนื้อคงหนังคงกระดูก คะเตสิ คะเตสิ คะเตสิ กัณหะ เนหะ อิกะวิติ โหติสัมวะโภ”

แล้วท่านก็กินเท่าเมล็ดถั่วเขียว แล้วท่านก็จะได้รับอิทธิ์ฤทธิ์จากว่านดอกบานเย็น ขอให้ท่านผู้อ่านทำตามข้าพเจ้าบอกแล้วจะเกิดผลเอนก อนันต์ แต่ขอให้ท่านรู้ว่าท่านจะอยู่ยงคงกระพันชั่วเบาท่านจงระวัง หัวขวานใหญ่แม้ว่าจะคงกระพันชาตรี หากถูกหัวขวานที่หัวย่อมทำให้เจ็บปวดมีอาการถึงกับสลบและบางทีถึงกับตาย

ท่านสลบเข้าแล้วเขาต้องการฆ่าท่านเขาก็จะเอาท่านไปทิ้งน้ำ ก่อนอื่นจะต่อสู้กับศัตรูต้องระวังศัตรูว่าจะมีอาวุธอะไร

อาวุธของนักเลงมีมีดพกพกทุกชนิดมีเหล็กขูดชาร์ป ขวานพกเล็ก พวกนี้เป็นอาวุธประจำตัวของนักเลงส่วนอาวุธปืนที่นักเลงพกถ้าท่านพบพวกนี้ไม่ต้องกลัวให้ท่านเข้าประชิดตัวระหว่างการต่อสู้ศัตรู ศัตรูจะยิงท่านได้เพียงนิดเดียวถ้ากระสุนปืนถูกฆ่าท่านจะรู้สึกเสียวปลาบเจ็บเหมือนไฟจี้ ถ้าถูกที่สำคัญท่านถึงกับสลบ

ถ้าไม่ถูกที่สำคัญรีบเร่งเข้าประชิดตัวแทงด้วยอาวุธมีด ศัตรูจะถึงซึ่งความพ่ายแพ้ถึงอย่างไรเราก็ได้เปรียบ แม้ว่าจะยิงออกถูกก็ไม่เป็นอันตรายนอกจากท่านจะเผลอทำให้พวกศัตรูที่อยู่เบื้องหลังเอาขวานหรือไม้คมแฝกชนิดแข็งแกร่งรอบทำร้ายจามไปที่หัวกบาลท่านก็จะได้รับความลำบากดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

ปฐมเหตุของเรื่องมีอยู่ว่าลุงเมฆ จอนแก้ว แกเป็นคนขี้เหล้าบ้านแกอยู่ตำบลท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ผู้ใหญ่บ้านชื่อผู้ใหญ่กิม หอมทอง ในตำบลนั้นรู้กันทั้งตำบลว่าลุงเมฆเมาเหล้าแกจะต้องด่าอาละวาด ตั้งแต่หัวบ้านถึงท้ายบ้าน แกมีม้าอยู่ตัวหนึ่งชื่อเจ้านิล เมาเหล้าแล้วก็ขึ้นมาวิ่งเหยาะย่างค่อยๆเดินระหว่างที่ม้าเดินมาแกก็จะด่าว่า ไอ้คนตำบลท่าเสาที่อยู่ตำบลนี้ทุกคนใครเป็นนักเลงก็มาสู้กับกู

พออีกวันหนึ่งไปเจอสิบโทชิต ปานกุลเป็นทหารอยู่กรมทหารราชบุรีแอบอยู่บนต้นไม้ พอมาลุงเมฆผ่านมาสิบโทชิตก็ตีลุงเมฆตกม้า ม้าวิ่งไปบ้าน ลูกชาย 2 คนเมื่อไม่เห็นพ่อก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าพ่อของตัวก็ต้องถูกทำร้าย พ่อเคยถูกลอบทำร้ายเสมอ เพราะลุงเมฆพ่อของตัวมีนิสัยที่แก้ไม่ได้

เมื่อตามรอยม้ามาลูกชายก็ตะโกนด่าว่าใครทำอะไรพ่อกูไปตลอดทาง

ท่านผู้อ่านคิดดูว่าใครจะไปออกรับ แกก็ด่าชาวบ้านจนหลับไป

ลุงเมฆแกมีลูกชาย 2 คน คนพี่ชื่อเจ้าหมอกและอีกคนชื่อเจ้าพยัพ มีน้องสาวคนหนึ่งชื่อสายฝนไปศึกษาอยู่โรงเรียนสตรีกรุงเทพฯเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนก็ได้รู้จักชอบพอกับข้าพเจ้า

หลังจากโรงเรียนปิดเทอมแล้วนางสาวสายฝนได้กลับบ้านแล้วให้ที่อยู่แก่ข้าพเจ้าไว้ข้าพเจ้าจึงได้ติดตามมาพักอยู่บ้านเพื่อน และได้มาทราบกิตติศัพท์ของความเป็นอันธพาลของพ่อสายฝนและทราบว่าลุงเมฆเป็นคนอยู่ยงคงกระพันชาตรี

ข้าพเจ้าจึงจัดการให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอทางฝ่ายลุงเมฆต้องการพบข้าพเจ้าข้าพเจ้าจึงมาหา

”ลุงเมฆถามข้าพเจ้าว่าอยู่ถึงกรุงเทพฯ มาหาเมียจังหวัดราชบุรีก็คงไม่มีอะไร แต่งงานแล้วคงเอาลูกสาวของกูไปขายเข้าซอง”

ข้าพเจ้าก็บอกว่าขอให้ลุงพิจารณาดูว่าคนอย่างผมนี้หรอเอาลูกสาวลุงไปขาย

แกก็บอกว่ามีอะไรที่จะคุ้มครองป้องกันลูกสาวกูข้าพเจ้าก็นึกคิดว่าเรื่องนี้พูดเป็นคำปริศนาข้าพเจ้าจึงถามเป็นคำชัดว่าหมายถึงอะไร

ลุงเมฆก็บอกมีฤทธิ์อยู่ยงคงกระพันชาตรีโดยมีอาจารย์คุ้มครองหัวกบาลมึงหรือไม่ เชื่อว่าเป็นลูกผู้ชายก็ต้องมีคุณพระเป็นเครื่องป้องกันตัว

ลุงเมฆก็บอกข้าพเจ้าว่ามีนายทหารและนักเลงหลายคนที่มาขอสายฝนลูกของแก แกก็ถามเหมือนอย่างที่ถามข้าพเจ้าแต่ปรากฏว่าได้ลองวิชากันแล้ว บางคนก็ถูกแต่ฟันขาขาด บางคนก็ถูกแกแทง บางคนก็ถึงตาย แต่ไม่มีโทษเพราะมีสัญญา
ข้อตกลงผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน

ระหว่างที่ข้าพเจ้ากับลุงเมฆสนทนากันอยู่นี้สายฝน ซึ่งเป็นคนรักข้าพเจ้าได้ยิน และแอบฟังอยู่อย่างเงียบๆ ลุงเมฆได้ถามข้าพเจ้าอีกว่า

มึงเคยเข้ารบเพื่อป้องกันประเทศชาติบ้างไหมข้าพเจ้าตอบว่าเคยมึงอยู่กรุงเทพฯ เคยต่อสู้กับพวกศัตรูหรือพวกที่เป็นนักเลงบ้างหรือไม่

ข้าพเจ้าก็บอกว่าเคย ที่มึงมาขอลูกสาวกูนี้ กูรู้ว่ามึงรักลูกสาวกูแต่ก่อนที่จะยกลูกสาวให้มึง กูจะขอลองต่อสู้วัดความรู้ของมึงว่าจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีหรือไม่ ถ้ากูเป็นฝ่ายแพ้สิ่งที่มึงประสงค์ก็จะสำเร็จเรียบร้อย

ข้าพเจ้ามานึกในใจว่า คนที่เกิดมาในแผ่นดินนี้ มีแปลกๆเท่าที่รู้ไม่พูดจาในทำนองนี้ นี่เป็นการประมาทหน้าข้าพเจ้าและมิหนำซ้ำยังคุยอวดเก่งว่าเคยแทงเคยฟันเขามาหลายคนแล้วตั้งสามสี่คน ยังไม่เคยได้ใครเป็นลูกเขยแก้วลูกเขยขวัญเลย ก็เพราะแกเชื่อว่าแกหนังเหนียว

ตั้งแต่เกิดมาชั้นปู่ ชั้นพ่อ ชั้นตัวแกแมลงวันไม่เคยได้กินเลือดหรือเกาะแผลตอมแผลเลย

ลุงเมฆถามข้าพเจ้าอีกว่ามึงมีพระอาจารย์ชื่ออะไรข้าพเจ้าบอกว่าหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์ แกชะงักแล้วพูดกับข้าพเจ้าว่ามีอะไรที่ได้มาจากหลวงพ่อเดิม

หลวงพ่อเดิมมีชื่อเสียงโด่งดังถ้ามึงเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมจริงกูก็ดีใจที่ได้ต่อสู้กับมึงเพราะกูต้องการอยากจะได้คนมีวิชามาเป็นลูกเขยแต่ก็มีที่เจ้าหนุ่มหลายคนเดินทางไปกรุงเทพไปหาเครื่องรางของขลังมา ต่อสู้กับกูเเต่ก็ไม่เห็นชนะได้มีแต่ได้แพ้เลือดอาบโชก

ข้าพเจ้าตอบว่าถ้าเป็นความประสงค์ของลุงต้องการ จะต่อสู้กับผม ผมยินดีที่จะเป็นไม้ มีด ปืน ขอเพียงลุงบอกมา

ลุงเมฆบอกว่า ”บร๊ะ” เด็ดดวงนี่น่ากลัวจะมีของดีจริง แล้วลุงเมฆก็บอกว่าเราจะต่อสู้กันด้วยดาบแกมีดาบเจ็ดสีเป็นของครั้งปูทวดเป็นดาบที่เคยออกศึก ฆ่าคนนับมานับไม่ถ้วน ดาบของแกนั้นแมลงวันเพียงเกาะก็หิว

ข้าพเจ้ายกมือไหว้แล้วก็ถามว่าลุงจะประลองฝีมือกับผมเมื่อไหร่ แกก็บอกว่าวันนี้ลมตกพระอาทิตย์ตกดินแล้วให้มึงเตรียมตัวมากับข้า แล้วข้าพเจ้ากับเพื่อนก็กลับไปบ้านพัก 6.30 น. สายฝนวิ่งกะเร่อกะร่ามาบอกข้าพเจ้าว่า คุณพี่วรรณวิน อย่าไปยุ่งกับพ่อเลยพ่อของสายฝนไม่มีความเมตตา ถ้าคุณวรรณวินพลาดจะถูกทำร้ายอาจจะถึงตายก็ได้

ข้าพเจ้าตอบสายฝนว่าพี่รักสายฝนและรักคำพูด เมื่อได้พูดกับพ่อของสายฝนไว้แล้ว จะล้มเลิกความคิดเดิมนั้น คุณพ่อของสายฝนหมิ่นประมาทในเชิงชายของพี่ไว้

พี่จะไปสู้กับพ่อของสายฝนอย่างไรได้ เพราะพ่อมีของดี ท่านกินว่านเวลาเมาก็ฟันตัวเองทุกวัน คุณพี่มีอะไรบ้างที่จะป้องกันตัวเห็นคุณพี่พูดกับพ่อว่าคุณพี่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเดิม

ข้าพเจ้าบอกว่าสายฝนไม่ต้องเป็นห่วง สายฝนก็กลับไปบอกพ่ออ้อนวอนพ่อไม่ให้ต่อสู้กับข้าพเจ้า พ่อเขาบอกว่าคนที่จะมาเป็นเขยของกู คนนั้นจะต้องเก่งกว่ากู กูเลือกผัวให้มึงหวังดีกับมึงว่ามึงมีผัวถูกคนอื่น ข่มเหงรังแก โดยศัตรูมีอาวุธปืนและมีด ถ้าผัวมึงไม่มีเครื่องรางของขลัง ผัวของมึงก็ไม่มีน้ำยาอะไรจะมาคุ้มครองมึงได้

ถ้าผัวของมึงมีวิชามีเครื่องรางของขลังได้ชื่อว่าหนังเหนียวเหมือนกู ใครวะอีสายฝนเขาจะมารังเเกมึง ถ้ามันไม่ดีจริงก็เชื่อแน่ว่ามันคงไม่คิด ต่อสู้กับกูใครว่ากูว่ากูบ้าก็บ้าเพื่ออนาคตหวังดีกับมึง!!

ในวันนัดต่อสู้กันข้าพเจ้ามีผู้ติดตามมา 4-5 คน ฝ่ายลุงเมฆมีลูกชายและเพื่อนบ้านรุ่นเดียวกันกับลุงเมฆอีกหลายคนมารวมตัวกันอยู่ที่สนามวัดพระธาตุ เป็นลานสนามที่จะต่อสู้กัน ถึงเวลาเตรียมพร้อมลุงเมฆอายุตอนนั้นราว 44 ข้าพเจ้าอายุ 25 แต่รูปร่างลุงเมฆเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่แล้ว ข้าพเจ้าก็ให้ผู้ใหญ่กิมซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมาเป็นประธานในการต่อสู้ และข้าพเจ้าได้เขียนหนังสือมีข้อความว่าข้าพเจ้าผู้มีนามข้างท้าย สมัครใจวิวาทที่ต่อสู้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถ้าพลาดถึงแก่ชีวิตจะไม่เอาโทษต่อกันแล้วข้าพเจ้าก็เซ็นซื่อ ลุงเมฆเซ็นชื่อ

ลุงเมฆพูดกับข้าพเจ้าว่าลุงต่อสู้มาหลายคนแล้วไม่เคยเห็นใครต้องเขียนหนังสือ ข้าพเจ้าบอกว่าข้าพเจ้าจะต่อสู้กับใครชอบทำหลักฐานเป็นการป้องกันประตูคุกประตูตาราง เสร็จแล้วข้าพเจ้าจุดธูปเทียนบวงสรวงหันหน้ามาทางทิศที่หลวงพ่อเดิมอาจารย์ข้าพเจ้าอยู่มือจับเหรียญควักมีดหมอหลวงพ่อออกจากฝักแล้วระลึกถึงท่าน

ทางฝ่ายลุงเมฆถือมีดดาบยาวและทั้งด้านทั้งตัวยาวประมาณ 1 เมตร ลุงเมฆเอาดินทาหน้าข้าพเจ้ารู้โดยทันทีว่าลุงเมฆมีดีทางว่านเพราะว่านทุกชนิดนั้นมีพระแม่ธรณีเป็นผู้บันดาลอิทธิฤทธิ์ข้าพเจ้าก็มานึกในใจว่าการต่อสู้ครั้งนี้ เป็นความประสงค์ของลุงเมฆเชื่อว่าหนังเหนียวถึงเวลาต่อสู้ ลุงเมฆ กระโดดฟันข้าพเจ้าด้วยดาบ ข้าพเจ้าก็หลบหนีตามเชิงของเพลงดาบ ข้าพเจ้าเป็นฝ่ายหลบหลีกให้พ้นคมดาบของลุงเมฆ แกฟันเท่าไหร่ก็ไม่ถูกข้าพเจ้า
ลุงเมฆก็เริ่มชักโมโหแต่ก็เริ่มบุกทะลวงฟันเข้าประชิดตัว ฟันถูกข้าพเจ้าที่ไหล่ซ้าย โดยข้าพเจ้าปล่อยให้ดาบถูกไหล่ซ้าย พอปลายดาบถูกที่ไหล่ซ้ายเปิดโอกาสช่องว่าง

ข้าพเจ้าจะแทงอกก็ตาย จึงแทงด้วยมีดหลวงพ่อเดิมถูกที่โคนขาชักมีดออกมาลุงเมฆก็หงายล้มตึงมีดดาบหลุดมือไปคนละทางสองทาง ได้ยินเสียงเจ้าหมอกลูกชาย ตะโกนเชียร์

พ่อเอาเลย ลุกขึ้นมาอีก แต่พ่อไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ผลของการต่อสู้เป็นอันว่าลุงเมฆเป็นฝ่ายแพ้ข้าพเจ้า ไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลประมาณ 1 เดือนกว่า อาการ ก็ได้หายเป็นปกติและข้าพเจ้าได้จัดตั้งพิธีแต่งงานกับสายฝน ดังที่ลุงเมฆได้สัญญาไว้ลุงเมฆก็ถามถึงพระเวทเครื่องรางของขลังข้าพเจ้าก็บอกให้ และก็ได้รับการบอกเล่าจากลุงเมฆว่าตัวแกอยู่ยงคงกระพันด้วยกินว่านดอกดอกบานเย็นขาว ประวัติที่มาของว่านดอกบานเย็นขาวอวสานเพียงแค่นี้ (ตอนหน้าแอดมินจะเล่าถึงอภินิหารญาณ 16 เเล้วไปติดตามขุนโจร 5 นัด ลูกศิษย์หลวงพ่อเต๋คงทองกันครับ)

สำหรับตอนนี้ขอมอบพระคาถาเสก◎ว่านดอกบานเย็นขาวกิน◎

ขออธิฐานดอกไม้บุปผชาติที่ทรงศีล จุติธรนัง ปะระมังจุติ เกิดมาคุ้มครองข้าพเจ้า คงเนื้อคงหนังคงกระดูก คะเตสิ คะเตสิ คะเตสิ กัณหะ เนหะ อิกะวิติ โหติสัมวะโภ

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณคลิปดีๆจาก : สองยาม

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: