3729. อภินิหารตะกรุดโทนเล่นเเร่เเปรธาตุ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

อภินิหารตะกรุดโทนเล่นเเร่เเปรธาตุ

นายเช้า บุญบุราณ เป็นชายหนุ่มที่ทำมาหากินด้วยการเกษตร ไร่ที่ตกทอดมาจากพ่อเเม่ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมพอสมควร ชาวไร่แบบนายเช้าแทนที่จะผูกสมัครรักใคร่กับชาวไร่ด้วยกัน กลับไปรักใคร่กับนางสาวงามตาลูกสาวกำนันหวาด ที่เป็นกำนันอิทธิพลของท่าตะโก

ตัวสาวงามตาเองก็พอใจในตัวของหนุ่มเช้าเช่นกัน แต่กำนันหวาด พ่อของงามตาไม่เห็นด้วยกำนันหวาดต้องการให้ลูกสาวได้แต่งงานอยู่กินกับเศรษฐีด้วยกัน หรือไม่ก็ข้าราชการระดับนายอำเภอหนุ่มๆ จึงพยายามกีดกันเต็มที่ แต่เมื่อเห็นว่าหนุ่มเช้ากับสาวงามตาสนิทสนมจนไม่อาจแยกกันได้แล้ว กำนันหวาดจึงใช้แผนร้ายเข้าขัดขวาง

หนุ่มเช้าแม้จะอยู่ท่าตะโกแต่ด้วยความที่พ่อของตัวเองรกรากเดิมเป็นชาวหนองโพแต่มาแต่งงานกับแม่ซึ่งเป็นชาวท่าตะโก จึงมาหักร้างถางป่าทำเป็นไร่จนตกทอดมาถึงตัวหนุ่มเช้าก่อนพ่อถึงแก่กรรมได้สั้งไว้ว่า

”เช้าเอ๊ย แม้พ่อแม่ตายไปแล้ว เจ้าก็จงทำหน้าที่แทนพ่อ วันทำบุญสรงน้ำหลวงพ่อวัดหนองโพที่นั้นจะจัดงาน ให้เจ้านำข้าวสาร อาหารแห้ง พืชไร่ พริก กะปิ หอม กระเทียม ไปเข้าโรงครัวเเล้วสรงน้ำหลวงพ่อเดิมด้วย อย่าให้ขาด เพราะหลวงพ่อมีบุญคุณกับพวกเรามาก ปู่ย่าตายายของพวกเราก็นับถือท่าน”

เช้ายังจำได้ถึงครั้งเมื่อพ่อพาไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเดิมที่วัดหนองโพได้ดี หลวงพ่อเป่าแล้วเอาดินสอดำมาลงกระหม่อมให้ พ่อเอ่ยปากขอของดีจากหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อท่านให้บอกวัน เดือน ปีเกิด จากนั้นท่านก็นั้งหลับตาอยู่ครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจ ก่อนจะบอกกับพ่อว่า

”เจ้าคนนี้ซะตาซีวิตเรียกซะตากลับ มันเป็นลิขิตที่ไม่อาจฝืนได้ ถึงอย่างไรก็ตาม หลวงพ่อจะลงตะกรุดพิเศษให้ เป็นตะกรุดโทนที่ทำจากโลหะที่หลวงพ่อได้มาจากการเล่นแร่เเปรธาตุงานวัดปีหน้าค่อยมาเอา หลวงพ่อจะปลุกเสกให้หนึ่งพรรษา”
เมื่อไปรับตะกรุดจากหลวงพ่อเดิม ท่านผูกปลายก่อนจะคล้องคอให้ หลวงพ่อบอกกับเช้าว่า
”ตะกรุดมหารูดเล่นแร่เเปรธาตุนี้ เป็นตะกรุดที่สร้างยาก หลวงพ่อให้เจ้าไว้เพื่อติดตัวป้องกันตัวเอง ขอจงรับสัจจะกับหลวงพ่อได้หรือไม่”

”ได้ขอรับหลวงพ่อ ผมรับได้และจะรักษาไว้จนซีวิตหาไม่”
หลวงพ่อเดิมให้ศีล 5 เมื่อรับศีลเเล้วจึงให้รับสัจจะที่หลวงพ่อกำหนด คือห้ามประพฤติผิดศีลข้อ3 ว่าด้วยกาเมสุมิจฉาจารตลอดซีวิต สุราเมรยะตลอดซีวิต และห้ามรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าหนุ่มเช้าก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมหลวงพ่อไม่ให้รับปากเรื่องปาณาติบาตแต่ไม่กล้าถาม เมื่อหนุ่มเช้ารับสัจจะกับหลวงพ่อเดิมแล้ว หลวงพ่อก็คล้องตะกรุดไว้ที่คอ

หลวงพ่อบอกว่าไปไหนมาไหนเอาตะกรุดไว้ด้านหน้า จะเข้าหานายให้รูดไปไว้ด้านขวา จะหาสีกาให้รูดไปไว้ด้านซ้าย ถ้าจะหลบลี้ภัยให้รูดไปไว้ข้างหลัง เวลาคาดให้ระลึกถึงพระรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูอุปัชฌาย์ และตัวหลวงพ่อ เวลาคาดให้เจริญภาวนาว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ภะพุสะปุโลสุวิสังอะ มะอะอุ นะโมพุทธธายะ
เมื่อจะผูกเชือกให้ภาวนาว่าอิมังกายะ พันธะนัง อธิษฐานมิ

เมื่อหนุ่มสาวรักกัน หนุ่มเช้าก็ให้นางนิ่ม มารดา กับนายโฉม กำนันหมู่ 8ไปเจรจากับกำนันหวาดเพื่อสู่ของามตา แต่กำนันหวาดปฏิเสธ ”แม่นิ่ม อย่าหาว่าฉันดูถูกเลยนะ ไอ้ที่ทำกินของแม่นิ่มนะ เทียบกันกับที่ดินที่ฉันมีอยู่ มันเพียงกระผีก อีกอย่างหนึ่งลูกสาวของฉันน่ะ มันต้องออกเรือนไปกับคนที่เหมาะสม ฉันไม่ให้ต้องมาตากแดดตัวดำทำไร่ทำนาอยู่หรอกแม่นิ่ม”

”แต่เด็กมันรักกันนะพ่อกำนัน คลุมถุงชนน่ะเดี๋ยวนี้เขาไม่ทำกันแล้ว”

”แม่นิ่มนี่พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร จะกลับไปดีๆหรือจะให้ฉันไล่ลงเรือนไปล่ะ”

”กำนันหวาด อย่างน้อยก็ขอให้เห็นกับฉัน กำนันโฉมบ้านหมู่ 8บ้าง ไอ้เรื่องนักล่ำนักเลงเรื่องอิทธิพลน่ะ ฉันก็ไม่เป็นรองพ่อกำนันหรอก ฉันลาละ ลาขาดเลย จะไม่มาเหยียบที่นี่อีก หากมีเวลาว่างก็ไปที่หมู่ 8ไปถองเหล้ากันสักเทสองเทนะ”

”ไอ้โฉมมึงว่ากูไม่กล้าไปหมู่8หรือ วันหนึ่งมึงกับกูต้องพบกันแน่”
ครั้งสุดท้ายที่งามตาพบกับหนุ่มเช้า งามตาขอให้พาหนี แต่หนุ่มเช้าปธิเสธโดยบอกความจริงว่า
”พี่รับปากหลวงพ่อเดิมไว้ว่าจะถือศีลข้อกาเมฯ ตลอดซีวิต หากพี่พางามตาหนี พี่ก็ทำลายสัจจะที่ให้กับหลวงพ่อ”

งามตาผู้น่าสงสารจึงหนีออกจากบ้านไปอยู่กับผู้เป็นแม่ที่บวชอยู่ในสำนักหลวงพ่อทองวัดเขากบจังหวัดนครสวรรค์ โกนหัวบวชชี แต่กำนันหวาดก็ตามไปเอาตัวกลับมาจนได้ งามตาก็หนีออกไปอีกคราวนี้แม่ชีพาออกจากสำนักเขากบหายไปไหนไม่รู้

กำนันหวาดออกตามจนทั่วจังหวัดนครสวรรค์แต่ก็ไม่พบ เพราะแม่ชีพางามตาไปบวชชีอยู่ด้วยกันที่วัดเขาหน่อ ที่ติดกับชายเเดนพม่า และบารมีหลวงพ่อวัดเขาหน่อเป็นที่คร้ามเกรงของคนทั่วไปอีกด้วย

กำนันหวาดพาสมัครพรรคพวกบุกมาที่ไร่ของหนุ่มเช้า ตอนนั้นหนุ่มเช้าไปงานวัดหนองโพอยู่พบแต่นางนิ่มแม่ของหนุ่มเช้า เมื่อสอบถามไม่ได้เรื่องจึงลุเเก่โทสะ กำนันหวาดจึงซ้อมนางนิ่ม แต่กำนันโฉมพาลูกบ้านมาช่วยกำนันหวาดก็ไม่กลัว เกิดการยิงต่อสู้กันดังสนั้นหวั่นไหว กำนันหวาดแหกวงล้อมหนีออกไปได้นางนิ่มถูกนำส่งโรงพยาบาล ออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นานก็ถึงเเก่ความตายเพราะบอบช้ำมาก

หลังจากหนุ่มเช้าจัดงานศพแม่นิ่มแล้ว ก็ให้ญาติข้างพ่อมาทำไร่แทน ส่วนตัวเองคว้าปืนของพ่อหายหน้าไปจากบ้านหมู่ 8 หนุ่มเช้ามากราบเท้าหลวงพ่อเดิม เมื่อกราบลาหลวงพ่อไปตามทาง แต่ยังไม่ได้เอ่ยอะไรหลวงพ่อเดิมก็ว่า

”ตอนให้รับสัจจะเมื่อวันมอบตะกรุด เจ้าสงสัยว่าทำไมไม่ให้รับสัจจะเรื่องปาณาติบาต หลวงพ่อจะบอกให้ มนุษย์เรานั้นมีเวรกรรม มีการจองเวรจองกรรม เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร หากเจ้าไม่จองเวร เวรระงับ ถ้าเจ้าจองเวร มันจะจองกันต่อไปไม่สิ้นสุด”
”หากผมรับปากหลวงพ่อว่าจะไม่จองเวร แล้วมันยังไม่เลิกจองเวรผมเล่า หลวงพ่อจะให้ผมทำอย่างไร”

”มันนอกเหนือสัจจะ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ พึงจะกล่าวถึง ก็สุดแต่เวรกรรมเถิด”

”ผมให้สัจจะว่าผมจะไม่จองเวรกับกำนันหวาดได้ แต่วันใดที่มันคิดฆ่าผม ผมต้องละเมิดสัจจะแล้วหนุ่มเช้าก็นมัสการลาหลวงพ่อเดิม มุ่งหน้ากลับไปทำไร่เหมือนเดิม ส่วนกำนันหวาดแค้นหนุ่มเช้าไม่หาย เพราะคิดว่าหนุ่มเช้าเป็นต้นเหตุให้งานตาหนีออกจากบ้าน เเละเชื่อว่าหนุ่มเช้าเอางามตาไปซ้อนไว้ที่อื่นเป็นเเน่”

สบโอกาสเหมาะกำนันหวาดก็ให้ลูกน้องไปจับตัวหนุ่มเช้ามารีดเค้นเอาความจริงในเขตไร่ของตนเอง
”เป็นอันว่ามึงไม่ยอมรับว่ามึงพาลูกสาวกูไป เอาละ เมื่อกูต้องเสียลูกสาวไป กูก็ต้องเอาซีวิตมึงแทน พวกมึงเอามันไปฆ่า”

หนุ่มเช้าถูกตีกระทืบแล้วจ่อยิงกลางดึกในไร่ของกำนัน มือเพรฌฆาตคิดว่าตายจึงเดินทางกลับไปตามพรรคพวกที่บ้านกำนันหวาดเพื่อจะเอาศพไปฝังให้หมดเรื่อง แต่ชะตาของหนุ่มเช้ายังไม่ถึงฆาต พวกที่จะมาฝังมัวแต่กินเหล้าเพลิน หนุ่มเช้ารู้สึกตัวกระเสือกกระสนออกจากไร่กำนันหวาดหนีไปซ่อนตัวอยู่กับญาติข้างพ่อที่หนองโพ แต่ไม่กล้าไปหาหลวงพ่อเดิม

ไพฑูรย์ได้รู้จักกับเสือเช้าในชุมโจรเสือสอน เจ้าพ่อพยุหคีรี ถูกชะตากันจึงคบหาเป็นเพื่อนจึงรู้ว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันยิ่งสนิทสนม เสือเช้าเล่าประวัติให้ฟังต่อว่า

เมื่อรักษาตัวหายดีเเล้ว จึงหาทางฆ่ากำนันหวาด โดยติดตามข่าวอยู่เป็นประจำ จนที่สุดดาวประจำตัวของกำนันหวาดก็ตกจากฟ้า ญาติของกำนันหวาดบ้านหมู่ 10 จัดงานบวชลูกชายโทน กำนันหวาดต้องเดินทางไปร่วมงานบวช หนุ่มเช้าจึงไปดักซุ่มคอยที จนงานฉลองพระบวชใหม่สิ้นสุด กำนันหวาดเดินทางกลับพร้อมลูกน้องคนสนิทที่นำหนุ่มเช้าไปยิงทิ้ง

หนุ่มเช้าแอบซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้ลูกซองลูก 9 ถล่มเข้าใส่รถกำนันหวาด โดยไม่ให้มีโอกาสได้ต่อสู้ กำนันหวาดยังไม่ตายสนิท หนุ่มเช้าเข้าไปประชิด กำนันหวาดยกมือขอซีวิต แต่หนุ่มเช้ากล่าวว่า
”แม่ฉันก็เคยขอซีวิตกำนัน แต่กำนันไม่ให้ ฉันก็ถูกกำนันซ้อมแล้วเอาไปยิงทิ้ง กำนันไม่เคยสำนึกบาปบุญ ถ้าวันนั้นฉันไม่มีตะกรุดหลวงพ่อเดิมติดตัว คงตายไปแล้ว ตอนนี้กำนันมาขอซีวิตฉันไม่ให้กำนันหรอก เอาไว้แก้แค้นฉันชาติหน้าก็แล้วกัน”

หนุ่มเช้ายิงแสกหน้ากำนันหวาดนัดเดียวจอด จากนั้นก็ถูกทางการล่าตัวต้องหนีเข้าไปพึ่งเสือสอนเจ้าพ่อพยุหคีรี ไพฑูรย์เคยขอดูตะกรุดโทนเล่นแร่เเปรธาตุ และเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า

”ขนาดยาวประมาณ 5นิ้ว ทำด้วยโลหะที่รีดแล้ว จะเป็นทองแดงก็ไม่ใช่ ฝาบาตรก็ไม่เชิง มีเชือกถักลงรักปิดทองมาด้วย แต่เสือเช้าใช้ติดตัวจนรักกล่อนออกไปบ้างแล้ว”

เสือเช้าเล่าว่า ปะทะตำรวจคราใด เวลาถอยจะรูดตะกรุดไปไว้ด้านหลัง ลูกปืนที่ตำรวจยิงมา จะตกที่พื้นดินเหมือนมีเกราะมากั้น ไม่เคยเข้าถูกตัวแม้นัดเดียว

ดวลจะจะ ลูกปืนตำรวจมาตกข้างหน้าไม่มาถึงตัว แม้แต่ปืนพระรามหกที่เป็นปืนผ่านพิธีปลุกเสกคัดตัดอาคมเลยเข้ามาก็เเค่ทำให้จุก ลูกปืนไม่อาจทะลุไปด้านในได้ คราใดที่ถูกยิงจุกก็จะถอยหนี เพราะปืนพระรามหกเป็นปืนที่ทางการใช้ปราบเสือร้าย เป็นปืนที่ได้รับพระราชทานมาจากพระเจ้าแผ่นดินให้ปราบคนพาล

ตอนที่ไพฑูรย์ติดคุกอยู่นั้น เสือเช้ายังคงอาละวาดอยู่กับเสือสอน หลายปีต่อมามีนักโทษเด็ดขาดถูกส่งมาจากนครสวรรค์มาที่บางขวาง ไพฑูรย์ถามถึงเสือเช้า นักโทษรายนั้นจึงเล่าให้ฟังว่า
”พี่เช้าตายเเล้ว ตายด้วยปืนพระรามหกของตำรวจ เพราะกระสุนนัดหนึ่งตัดสายตะกรุดที่คาดเอวขาด นัดที่สองเข้าที่หัวพอดี ที่น่าแปลกใจก็คือตะกรุด ดอกนั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆตรงที่เสือเช้านอนตายเป็นดินเรียบๆ ตำรวจกับชาวบ้านช่วยกันหาแต่ก็ไม่เจอ ทุกคนเชื่อว่าตะกรุดกลับไปหาหลวงพ่อเดิมที่วัด จริงหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่เสือเช้าตายจริง”

ไพฑูรย์บอกว่าคนเราพ้นตายไปไม่ได้หรอก ดาวประจำตัวหล่นลงจากฝากฟ้าเมื่อใดก็ต้องมีอันเป็นไป เสือเช้าไม่เคยคิดผิดคำสาบานกับหลวงพ่อเดิม แต่เขาถึงที่ตายเองจึงต้องมีอันเป็นไป เครื่องรางของขลังป้องกันได้ทุกอย่าง ยกเว้นความตาย เพราะเป็นเรื่องชะตาลิขิต

ในตอนนี้ขอมอบพระคาถาที่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ใช้สวดทำน้ำมนต์ สวดเพื่ออวยพรให้ผู้คนเกิดลาภผลพูนทวี แม้ในเหรียญรุ่นทรงน้ำปี 2482 ก็ปรากฏอยู่ ท่านเรียกว่า”พระคาถาประสิทธิ”

◎คาถาประสิทธิ◎
องการ พินธุนาทัง อุปปันนัง พรัหมมา (ออกเสียงว่าพรัมมา)
สหัมปตินามัง อาทิกัปเป สุอาคะโต ปัญจปทุมังทิสวา นะโมพุทธายะ สิทธิกิจจัง สิทธิกัมมัง สิทธิการิยะ ตะถาคะตัง สิทธิลาโภ ชะโยนิจจัง สิทธิเตโชนิรันตะรัง สัพพะกัมมังประสิทธิเม

จะค้าขาย จะทำงานใดให้สวดคาถานี้ก่อนจะลงมือ ท่านว่าจะทไให้เกิดลาภผลพูนทวีดีนักแลเสกทำน้ำมนต์ประพรมสินค้าที่ระลึกถึงหลวงพ่อเดิมจะขายดี

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

error: ถ้าจะก๊อปกรุณาให้เครดิตท่านเจ้าของบทความ
%d bloggers like this: