3701. คนสมิง (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
คนสมิง (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)
ไพฑูรย์มีสีหน้าเศร้าหมองเมื่อเอ่ยถึงการหลบหนีที่มิอาจติดต่อกับโลกภายนอกได้ปืนคู่กายมีกระสุนเพียบพร้อมกระสุนสำรองแต่เงินหมดต้องรอจังหวะเหมาะจึงจะติดต่อกับสามสหายเพื่อให้จะส่งเงินมาให้เป็นทุนหลบหนี
ต้องเอาน้ำในลำห้วยลูบท้องกินข้าวตากที่หุงในกระบอกไม้ไผ่ต้องขุดมันนกมากินแทนข้าวพริกป่นเกลือเหลือน้อยเต็มที พอพริกป่นกับเกลือหมดก็กินแต่หัวมันเปล่าๆ ใบหมากเม่าที่เป็นยอดอ่อนตอนเช้าที่มีน้ำค้างเกาะคือยอดอาหารประทังชีวิต รสมันขมนิดๆ
ใบหมากเม่าเป็นอาหารของพระธุดงค์ในยามที่หาสถานที่สัปปายะไม่ได้กินอิ่มแล้วชุ่มคอดีนักมะขามป้อมกับพุทราป่าก็เป็นอาหารประทังชีวิตได้
ในยามซัดเซพเนจรไปในป่าได้พบหมู่บ้านชาวป่าก็พอได้กินข้าวและหากมีเงินก็นำออกมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้เจ้าของบ้านเพราะพวกเขากว่าจะได้ข้าวสาร 1 ถังต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปล่าสัตว์ป่าและหาของป่าเดินทางรอนแรมออกจากป่าไปขายในเมืองแล้วซื้อข้าวสารพริกแห้งและเกลือป่นกลับบ้าน
แต่ในยามที่ไม่มีเงินก็ยกสองมือขึ้นพนมแสดงความเคารพแก่เจ้าของบ้านแทนการให้เงินแน่นอนและหากได้มีโอกาสผ่านมาแล้วทุกอย่างพร้อมก็ไม่ลืมที่จะมอบเงินให้กับเจ้าของบ้านแทนคุณข้าวเม็ดเกลือก้อนที่เคยให้ทานต่อชีวิต
บางครั้งไพฑูรย์บอกว่าอดข้าวถึง 7 วันกว่าจะได้พบหมู่บ้านเพราะในป่านั้นยากจะหาหมู่บ้านได้ ด้วยในป่าไม่ค่อยมีใครไปอาศัยเป็นพื้นที่พักถาวรอันตรายในป่ามีมากโดยเฉพาะงู เช่น งูเห่าดง งูจงอาง หรืองูเหลือม
บรรดาพรานป่าทีชำนาญเวลาเข้าป่าทึบจะเดินถือมีดเดินป่าเอาไว้โดยใช้มือสองข้างกับด้านตั้งไว้ที่ตั้งใต้ลิ้นปี่หันคมมีดออกด้านนอกด้วยงูเหลือมมักจะเลื่อยขึ้นไปอยู่บนคบไม้พอคนเดินลอดไปไม่ได้ทันระวังตัวก็จะทิ้งตัวลงมาพันรัดลำตัวเหยื่อจนกระดูกกรอบ
เมื่องูเหลือมทิ้งตัวลงมารัดพรานป่าเขาก็จะขยับแขนขึ้นลงคมมีดอันลับไว้คมกริบจะเชือดลำตัวงูเหลือมจนขาดออกจากกันคลายวงรัดตายสนิทเนื้องูเหลือมคืออาหารวิเศษที่จะประทังชีวิตไปได้หลายมื้อ พรานอาบเป็นพรานในป่าแถบแม่สะเรียงที่สอนการต่อสู้ในป่าให้กับไพฑูรย์เมื่อไปอาศัยชายคาในยามสิ้นไร้ไม้ตอก
ให้หัดสังเกตแสงอาทิตย์สังเกตยอดไม้และโดยเฉพาะยอดไม้ว่าหากมันเอนไปทางไหนนั่นคือทิศตะวันออกเพราะในป่าทึบที่แสงอาทิตย์ส่องลงมาได้ไม่เต็มที่การหันไปยังทิศตะวันออกคือการรับแสงอาทิตย์มาสังเคราะห์สารอาหารของพืช
หากจะกินเห็ดในป่าพรานอาบสอนว่าให้สังเกตดูที่มีรอยสัตว์แทะแหว่งๆเพราะเป็นเห็ดไร้พิษแต่สำหรับเห็ดที่งดงามไร้ร่องรอยสัตว์แทะท่านว่านั่นเป็นเห็ดพิษเพราะสัตว์ป่ามันรู้ดีกว่าคนว่าอะไรกินได้อะไรกินไม่ได้ จากการใช้ปืนพกออโต้กับปืนลูกโม่มาเป็นการใช้ปืนแก๊ปโดยเทดินปืนลงไปก่อนกระทุ้งดินปืนให้แน่นก่อนจะใส่ลูกปืนโลหะลักษณะกลมๆเข้าไปเมื่อเวลาจะยิงให้ง้างนกมาข้างหลังเอาแก๊ปใส่ในที่ประทับบ่าเล็งแล้วกู่แล้วก็ ‘’ตูม’’
พรานอาบบอกว่าปืนโบราณต้องยิงสามจังหวะแต่ปืนปัจจุบันเอาแก๊ปมาไว้ที่ท้ายลูกกระสุนไม่ต้องให้นกสับลงไปบนแก๊ปให้เกิดประกายไฟไปจุดระเบิดดินปืนเหนี่ยวไกแล้วก็ตุ้มทันที
ไพฑูรย์บอกว่าที่แม่สะเรียงได้พบกับเรื่องประหลาดที่สุดในชีวิต
ไพฑูรย์เรียกว่าคนสมิงเรื่องมีอยู่ว่าเช้ามืดวันหนึ่งมีคนมาปลุกพรานอาบให้รีบตื่นไพฑูรย์เตรียมพร้อมคิดว่าตำรวจตามมาค่อยๆแผงตัวเข้าไปแอบฟังได้ความว่า’’พ่อเฒ่าอาบ’’เมื่อคืนไอ้หม่องอูออกไปยิงกระต่ายพร้อมกับเพื่อนพรานด้วยกันได้ยินเสียงปืนดัง’’ตุ้ม’’แล้วเสียงหม่องอูร้องโหยหวนคิดว่าปืนแตกใส่พากันรีบไปดูปรากฏว่าหม่องอูถูกเสือกัดตายมีรอยตีนเสือสับสนเมื่อตามไปประมาณ 2 เส้นกว่ารอยเสือก็หายมีรอยเท้ามนุษย์แทนที่
พรานอาบพยักหน้าโบกมือให้พวกพรานรุ่นลูกหลานกลับบ้านไปหลังอาหารเช้าพราบอาบเล่าไห้ไพรฑูรย์ฟังว่า ‘’เจ้าเป็นคนกรุงคงไม่เชื่อเรื่องคนสมิงกระมัง’’
แต่ข้าจะเล่าให้ฟังเป็นความรู้ เมื่อ 5 ปีก่อนข้าได้ทำพิธีขับไล่ไอ้พะสะองหมอผีกะเหรี่ยงที่พวกมันขับออกจากหมู่บ้านให้เตลิดออกไปพ้นจากหมู่บ้านป่าของพวกเรา
เจ้าหมอผีคนนี้หัวหน้าหมู่บ้านที่ชอบพอกับข้าได้เล่าให้ฟังว่ามันผิดคำครูของจึงเข้าตัว วิญญาณสมิงเข้าอยู่ในร่างมัน คืนพระจันทร์วันเพ็ญมันจะกลายร่างเป็นเสือโคร่งออกอาละวาดฆ่าคนเพื่อให้วิญญาณสมิงได้รับเลือดเหยื่อต่อชีวิต
‘’ข้าตามล่ามันจนไปจนมุมที่ถ้ำ มันกลายร่างเป็นคนตอนที่ข้าเห็นท่อนบนเป็นคนไปแล้วแต่ท่อนล่างยังไม่กลายเป็นคนแต่ถ้าข้ายิงก็หมดเรื่องไปแล้วแต่อาจารย์ของพะสะองเป็นศิษย์รุ่นพี่ของข้าที่เรียนวิชาจากอาจารย์ที่เป็นพม่าที่เมืองมะละแหม่งที่นั่นมีเสือสมิงชุกชุมศิษย์รุ่นพี่ของข้าเสียชีวิตไปแล้วก่อนตายขอฝากเจ้าพะสะองที่เป็นลูกแท้ๆและลูกศิษย์สืบทอดไว้กับข้าโดยขอร้องว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไว้ชีวิตเจ้าพะสะองจึงให้เจ้าพะสะองไปหาที่อยู่ใหม่ไม่คิดว่ามันจะย้อนรอยกลับมาอีกคราวนี้ข้าคงต้องผิดคำกับเพื่อนเพราะได้ทำตามที่ขอร้องไปแล้วครั้งหนึ่ง”
เมื่อคืนไอ้หม่องอูเป็นเหยื่อไอ้พะสะองมันคงอยากตายด้วยมือข้าเพราะก่อนโน้นมันนับถือค่าเหมือนพ่อของมันเอาล่ะรอวันพระจันทร์เต็มดวงคราวหน้าข้าจะออกตามล่าตัวมันเองชาวบ้านไม่มีใครกล้าตามข้าไปหรอกหรือเอ็งจะไปก็เตรียมตัวให้พร้อม
พรานอาบให้ฝังศพหม่องอูไว้ตรงที่มันถูกเสือคนกัดตายเพื่อจะรอให้เจ้าคนสมิงย้อนรอยกลับมาคุ้ยศพเพื่อสร้างอาถรรพ์ให้วิญญาณสมิงแก่กล้าเพราะทุกศพที่มันสังหารจะทำให้วิญญาณของคนตายไปรวมกับวิญญาณมัน
ไพฑูรย์อาสาเพราะเรื่องแบบนี้ชอบอยู่แล้ว
วันขึ้น 13 ค่ำพรานอาบเรียกไพฑูรย์ไปดูแกหลอมลูกปืนแก๊ป แกเอาเม็ดประคำตะกั่วที่แกบอกว่าเป็นของพระพม่าที่เมืองหงสาวดีธุดงค์มาที่นี่ แล้วมอบให้พรานอาบไว้โดยบอกว่าเม็ดประคำทำจากตะกั่วที่ลงอักขระหลอมจำนวน 108 เม็ดหากจำเป็นต้องล่าเสือสมิงหรือคนสมิงหรือแม้แต่โจรร้ายที่มีวิชาอาคมกล้าให้นำประคำออกมาผสมหลอมเป็นลูกปืนยิงใส่ไม่ว่าเสือสมิง คนสมิงหรือพวกมีคาถาอาคมอยู่ยงคงกระพันก็ต้านไม่ได้
วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำมาถึงแล้ววันแห่งการเผชิญหน้าระหว่างคนสมิงกับพราน อาบ พรานอาบทำห้างไว้บนคบไม้ สูงไม่เท่ากับห้างล่าเสือสมิงพรานอาบบอกว่าคนสมิงกระโดดได้ไม่สูงเหมือนเสือสมิง เที่ยงคืนล่วงแล้วเสียงน้ำค้างหยดลงต้องใบไม้เสียงดังเผาะ ๆ ทันใดพรานอาบก็บอกกับไพฑูรย์ว่าเตรียมพร้อมข้าได้ยินเสียงข้อเท้าเสือลั่นเวลามันเดิน
เห็นตัวมันอย่ายิงที่หัวเพราะคนสมิงเมื่อกลายเป็นร่างเสือจะเดินถอยหลังต้องยิงที่กดหางของมันนั่นคือด้านหัว เวลาผ่านไปจนประมาณตี 3 เห็นจะได้เสือลายพาดกลอนก็กระโดดออกจากที่ซ่อนข้ามหลุมฝังศพหม่องอู
ไพฑูรย์บอกว่าหลุมศพแยกออกจากกันร่างของหม่องอูผุดขึ้นจากดินขึ้นอืดตาถลนกลิ่นเน่าหึ่งไพฑูรย์เห็นแล้วตกตะลึงพรานอาบต้องเอามือตบกกหูแล้วกระซิบว่าเป็นมายาของมันเจ้าถึงกับเคลิ้มทุกอย่างมันลวงตาเอ้าดูใหม่ ไพฑูรย์บอกว่าพอได้สติก็มองเห็นแต่เสือโดนวนรอบหลุมเสียงพรานอาบบอกว่าแกจะยิงก่อนหากมันไม่ลงให้ไพฑูรย์ยิงซ้ำได้อย่ายิงก่อนแกเป็นเด็ดขาด
พรานอาบประทับปืนพึมพำคาถาของแกแล้วง้างนกวางแก๊ปกระดิกไกปืน ‘’ตุ้ม!’’
กระสุนเข้าบั้นท้ายเหนือกกหางที่ไพฑูรย์ว่าสั่นประสาทที่สุดคือแทนที่จะได้ยินเสียงเสือร้องกลับได้ยินเสียงคนร้องโหยหวน เสียงพรานอาบเตือนว่ายิงซ้ำแต่ไพฑูรย์ถูกมายาครอบงำ
ปืนในมือจึงถูกพรานอาบดึงเอาไปประทับยิงซ้ำแต่คนสมิงชิงกระโดดหนีไปก่อนพรานอาบตบกกหูไพฑูรย์อีกครั้งก่อนบอกว่าถ้าเจ้ายิงซ้ำมันก็จอดแล้วแต่เจ้าถูกมายาของมันข้าจะยิงซ้ำมันก็กระโดดหนีไปพรุ่งนี้เช้าค่อยตามรอยเลือดไป
พรานอาบลงจากห้างพาไพฑูรย์เดินตามรอยเลือดไปจนเวลาประมาณ 10 โมง รอยเลือดนำพามาที่ภูเขาพราบอาบเดินนำขึ้นไปตามทางเดินที่พวกหาของป่าทำไว้จนถึงหน้าถ้ำจึงพากันเข้าไปดู จากแสงสว่างที่ลอดลงมาจากเพดานถ้ำที่เป็นรูโหว่ร่างของพะสะองนอนคว่ำเลือดไหลอาบมีรอยกระสุนเข้าที่ศีรษะด้านขวามาทะลุออกที่ท้ายทอย ด้านหลังรอยสักเสือพร้อมกับอักขระปรากฏอยู่บนแผ่นหลังของพะสะองไพฑูรย์บอกว่าที่ทำให้รู้สึกขนหัวลุกก็คือ
เมื่อพรานอาบพลิกศพของพะสะองขึ้นมานัยต์ตาของพะสะองไม่ใช่ดวงตาคนแต่เป็นดวงตาเสือชัดเจน
ไพฑูรย์เอามือปิดเปลือกตาของพะสะองแต่มันกลับลืมโพลงขึ้นอีก พรานอาบต้องเป็นคนปิดตาพร้อมร่ายคาถานั่นแหละจึงปิดสนิท พรานอาบกับไพฑูรย์ช่วยกันหาฟืนมาทำพิธีฌาปนกิจศพของพะสะอง ไพรฑูรย์บอกว่ากลิ่นคล้ายขนเสือไหม้ลอยขึ้นมาก่อนจะเป็นกลิ่นศพสดถูกเผาจนในที่สุดพะสะองก็เหลือแต่ขี้เถ้า
พรานอาบพาไพฑูรย์กลับลงมาก่อนจะเดินทางกลับหมู่บ้าน พรานอาบบอกว่าคนสมิงรายนี้เป็นรายสุดท้ายเพราะไม่มีใครสืบสันดานเพราะพะสะองไม่มีเมียหากมีเมียแล้วมีลูกผู้ชายก็จะสืบสายเลือดคนสมิงต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
ขอขอบคุณคลิปจาก : สองยาม